Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 417
Message ID: 108
#108, RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย
Posted by โปโป on 12-Mar-17 at 05:59 PM
In response to message #0
231.....
เอื้ออาทรฉันที คนจะมีรักใยกางกั้น จะทำฉันใดเมื่อใจรักกันสองเรา.......................
แอบรักผัวชาวบ้านเขามันส์ดี
ทีน่าบีบเสียงในร้านคาราโอเกะอย่างโหยหวน มันร้องจบไม่ได้รับเสียงปรบมือจากเราหรอก
“นึกยังไงถึงร้องเพลงนี้”
“ก็ร้องให้หล่อนฟังไง”
“เข้าใจผิดอะไรรึเปล่า ชั้นไม่ได้คิดอะไรกับพี่วริตเขาอย่างที่พวกหล่อนคิดสักนิด”
“ถ้าไม่ได้คิดก็ถือว่าเป็นการเตือนสติ”
“เก็บไว้เตือนสติตัวเองเถอะ” เราหัวเสียพอดูที่เรื่องนี้มาเป็นประเด็นเกาะแกะในใจเราในหมู่เพื่อนบ่อยๆ ชีวิตของเราตอนนี้มีแค่โมเท่านั้นแหล่ะ เราปิดกั้นตัวเองจากความคิดถึงคนอื่นๆแล้วหยุดมองที่เขา ด้วยความอดทนว่าสักวันนึง เขาจะเดินเข้ามาอยู่ในใจของเราเหมือนกับคนอื่นๆ แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้วเมื่อเราหันมาหาโม โมกลับห่างออกไปอีกก้าวทุกครั้ง จากที่เคยต้องเจอกันทุกวันหยุดกลายเป็นเราต้องตามทุกวันหยุดแทน โมมักจะมีเหตุผลง่ายๆว่าติดงาน
“ไง ผัวไม่มาเหรอวันนี้” ต่อถือแก้วกาแฟมานั่งด้วย
“ไม่มา ไม่รู้ไปไหน ไม่เห็นโทรบอก” เรายกกาแฟมาจิบตามต่อบ้าง
“มาเป็นชุด ฮิ ฮิ กรรมตามสนอง จะได้รู้จักหัวอกคนอื่นมั่ง เวลาเขามานั่งรอหล่อนหน่ะ น่าสงสารจะตาย”
“เมาแล้วหาที่นอนไม่ได้มากกว่านะสิ”
“ไม่รู้จักสำนึกอีก” ต่อทำหน้ากวนบาทาที่สุด
“ต่อ หยุดพูดเถอะ หล่อนไม่พอใจอีกเหรอ ที่ชั้นพยายามอย่างดีที่สุดแล้วนะ ชั้นไม่โทรไปอาละวาดก็ดีเท่าไหร่แล้ว”
“นั่นแหล่ะ ที่ควรจะทำ”
“ไม่เอาหรอก เสียเวลา เปลืองค่าโทรศัพท์”
“เป็นงั้นไป งั้นก็รอไป”ต่อตอบแบบน่าสงสัยไม่น้อย
“หล่อนรู้ใช่มั๊ย ว่าเขาไปไหน”
“ไม่รู้” ต่อลอยหน้าลอยตา
“น่ารำคาญ”เราหงุดหงิดกับท่าทีของต่อ

โมโทรมาหาเราตอนเย็น เขาบอกสั้นๆว่า
“อาทิตย์นี้ไม่ได้ไปหานะ”
“ทำไมเหรอ”
“ไม่ว่าง มีงานด่วนต้องทำ” เราชะโงกหน้าออกไปนอกห้อง วีนอนดูทีวีพร้อมหัวเราะไปกับรายการตลก วีมันยังหยุดนี่
“งานอะไร ให้ช่วยทำมั๊ย”
“ไม่เป็นไร”
“แล้วโมอยู่ไหนหล่ะตอนนี้ อาทิตย์ก่อนก็ไม่ว่าง อาทิตย์ที่แล้วก็ไม่มา อาทิตย์นี้ก็ไม่มาอีก หรือว่า”
“แค่นี้นะเอ๋” เขาวางหูไปแล้ว แค่นี้นะ อะไรกัน เราเริ่มวิตกจริตทันที หรือว่าโมมีคนอื่นซะแล้ว เราหงุดหงิดทั้งวันทนไม่ไหว ต้องโทรหาเขาที่ห้องแต่ไม่มีคนรับสาย ส่งข้อความไปที่เพจก็ไม่โทรกลับ เริ่มกระสับกระส่ายสิทีนี้ จะเอายังไงกันแน่นายโม
“วีรู้มั๊ย ว่าโมไปไหน” วีออกจากบริษัทพี่ภูมาทำงานกับโมได้ไม่นาน
“ไม่มีอะไรด่วนนี่ มันคงมีธุระมั๊ง ทำไมเหรอเอ๋”
“เราสงสัย ว่าทำไมเขาไม่อยากมาห้องเรา นี่สามอาทิตย์แล้วนะ”
“แค่ไม่กี่วัน”ต่อพูดขึ้นมา
“ก็นัดกันไว้แล้วนี่ ถ้าไม่มาก็น่าจะบอกกันเนิ่นๆ ไม่ใช่ให้เรามานั่งรอแล้วค่อยโทรมาปฏิเสธ”
“ใครบอกให้หล่อนรอ จะทำอะไรก็ไปทำ อย่าซีเรียสนักเลย” ต่อหันมามองเราอย่างเอือมๆ
“ไอ้โมก็ยังงี้แหล่ะ มันชอบเหลิงพอมันได้อย่างใจมัน”
“เหมือนกันนั่นแหล่ะ สมกันดีออก”ต่อไม่เข้าข้างเราสักนิด
“ต่อไปว่าเอ๋ทำไมหล่ะ”
“ไม่ได้ว่า นิสัยคล้ายๆกันดีนะคู่นี้ ไม่ค่อยแคร์คนที่อยู่ใกล้ๆหรอก”
เราขี้เกียจฟังก็เลยกลับห้องตัวเอง ตัดสินใจโทรหาโมกลางดึก
“มีอะไรเอ๋” เสียงราบเรียบปกติ
“เราไปหาที่ห้องนะ”
“จะมาทำมั๊ย อยู่กับเพื่อนโน่น”
“ทำไมหล่ะ”ลืมไปว่าเราบ่ายเบี่ยงให้โมมาหาตอนที่หยีอกหักเพราะเราต้องไปโน่นมานี่กับหยีทุกวันหยุด
“ตอนนี้ไม่มีปัญหาแล้ว เพื่อนมันดีขึ้นแล้ว”
“เราก็ไม่มีปัญหา ไม่อยากเจอก็ไม่ไปหาแล้วไง”
“โม บ้ารึเปล่า นี่จะแก้แค้นเราเหรอ”
“ไม่ใช่”
”ไม่รู้หล่ะ ถ้าโมไม่มาเราจะไปบุกที่ห้องโมแทน จะได้รู้ว่าอยู่กับใคร”
“เอ๋มาเราจะได้ออกไปที่อื่น ไม่อยากเห็นหน้าหว่ะ”
“โม แน่ใจนะที่พูดแบบนี้” เราไม่เคยโดนใครหยามแบบนี้มาก่อน
“แน่ใจ”
”ก็ได้ ถ้าไม่อยากมาหาเราอีก ก็ไม่เป็นไร แค่นี้นะ” เราฉุนขาด มันอะไรกัน เรากดโทรศัพท์หาคนอื่นทันที แต่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ไม่มีคนรับ หยีไปเที่ยวต่างจังหวัดกับทีน่า ห้องต่อก็ปิดประตูนอนกันแล้ว เรางุ่นง่านเหมือนหนูติดจั่น อาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปข้างนอกคนเดียว จุดหมายปลายทางไม่รู้ เราไปหยุดอยู่ที่หน้าร้านกินเหล้าใกล้ๆกับที่ทำงาน พวกที่ทำงานตั้งวงกันอยู่แล้ว กลุ่มพี่วริต และ กลุ่มของกุ้ง กุ้งหันมาเจอเรารีบปรี่เข้ามาหา
“มาได้ไงนี่”
“เบื่อ ก็เลยออกมาเที่ยว ดีจัง คิดว่าต้องนั่งคนเดียวซะแล้ว”
“มานั่งด้วยกัน เดี๋ยวพวกนังแมนก็มา นี่รู้จักกันหมดรึยังเอ๋ พวกนี้เพื่อนเราทั้งนั้น ทำงานโรงแรมอื่น”
เราทักทายทุกคนแล้วหย่อนก้นนั่งลงข้างๆกุ้ง
“พี่วริตก็มากับพวกลูกน้องแก” กุ้งชี้ไปที่โต๊ะของพี่วริต
“ไม่ไปรวมโต๊ะกันหล่ะ”
“ไม่ได้หรอก พวกนั้นคุยแต่เรื่องบอลล์เรื่องหม้อ”
“อ้าว พี่วริตยังบ้าหม้ออยู่เหรอ”
“ใช่ย่อยที่ไหนหล่ะ รักเมีย แต่ฟาดไม่เว้นเหมือนกัน”
“เหรอ ไม่เป็นคุณพ่อที่แสนดีหรอกเหรอ”
“อู๊ย จะเอาอะไรกะพวกผู้ชาย คลำไม่มีหางก็เอาหมดแหล่ะ” กุ้งสาธยาย
“ไง เอ๋ นึกไงออกมา” พี่วริตถือแก้วมาชนด้วย
“พี่หล่ะ ออกจากคอกได้ไง”
“ก็มีบ้าง สังสรรค์กับน้องๆ” เรายกแก้วเหล้าสาดเข้าไปในลำคอ กลืนลงไปอย่างเยือกเย็น
“เบียร์ มานั่งนี่” กุ้งตะโกนเรียกเบียร์ ที่เดินนำหน้าแจ็ค
“เอ๋ มาด้วยเหรอ ไม่เคยเห็น กินเหล้าเป็นเหรอวะ”เบียร์ทัก
“เป็นสิ” เราค้อน พี่วริตเดินกลับไปที่โต๊ะแล้ว ไม่นานโต๊ะนั้นก็เช็ค แล้วส่งเสียงดังถึงสถานที่ที่จะไปต่อ
“ว่าแล้ว” กุ้งบอก “พวกนี้เขาก็อย่างนี้แหล่ะ เมาทีไรก็หาที่ลง เห็นอีพวกชะนีที่นั่งด้วยมั๊ย”
“เห็น”
“ไม่รู้มันโทรไปเรียกจากที่ไหน” เรานับจำนวนชะนีตามที่กุ้งบอก ครบทุกคน แม้แต่วริตก็มีหนีบออกไปด้วย แล้วเมียกับลูกที่บ้านหล่ะ
“เขาไม่กลัวเหรอ สงสารเมียที่นอนรออยู่ที่บ้านนะ”
“มีลูกแล้วก็ต้องอดทนนะ”กุ้งตอบแทน นึกหมดศรัทธาชายผู้รักครอบครัวที่เรารู้จักวันไปเอ้าท์ติ้ง เหมือนเป็นคนละคน ทีอีพวกนี้พี่แกกลับไม่กลัว สุดท้ายผู้ชายก็มองว่าพวกอย่างเร็วเป็นตัวแพร่เชื้ออยู่ดี
“อย่าไปสนใจเขาเลย” กุ้งหันมาคุยกับเราต่อ เบียร์กับแจ็ค คุยกับเพื่อนต่างโรงแรม พวกเขาเรียนการโรงแรมมาด้วยกัน นานๆก็นัดเจอ นัดกินเหล้า มีเราเท่านั้นที่เป็นคนนอก หลุดเข้ามาแจม เสือโหยเริ่มออกลายในใจเราเรื่อยๆ เรามองหน้านายเบียร์ไปกินเหล้าไป เบียร์ก็มองตอบ แต่เราไม่รู้ความหมาย นั่งห่างกันพอสมควร พอจังหวะเพลงเปลี่ยน ความร่านของเรากับกุ้งก็แตกกระเจิง เต้นกันกระจายไม่สนอะไรจนร้านเลิก
“ไปต่อไหนดีวะ กำลังมันส์เลย”
“ไปห้องกูมั๊ย” แจ๊คเสนอไอเดีย
“ดีๆ ไม่ไกล ซื้อเหล้าแล้วไปต่อกัน”
“เรากลับก่อนนะ” เราขอตัว ไม่ไหว จะไปนั่งอัดในห้องแคบๆ “ไว้วันหลังนะ”กุ้งงอนเรารีบดันพวกมันเข้าไปในรถ เบียร์และอีกสองคนไม่ได้ไปด้วยเพราะต้องทำงานเช้าต่อ
“เบียร์อยู่แถวไหนหล่ะ” เขาส่งเพื่อนร่วมรุ่นขึ้นรถแล้วก็ยืนรอแท็กซี่ข้างๆเรา เขาบอกที่อยู่
“ทางผ่านนี่” เราบอก “อยู่กะเมียรึเปล่า”
“โสดทั้งแท่ง”
“ยังหลงเหลืออีกเหรอนี่”
“ทำไมเหรอ” เรามองหน้าเบียร์ เรารู้ว่าความหื่นกระหายมันออกมาจากแววตาของเราแล้ว “เอ๋มีปัญหาอะไรรึเปล่า ตั้งแต่กลับจากเอ้าท์ติ้ง พวกกลุ่มของเราสังสรรค์กันบ่อยแต่เอ๋ไม่เห็นออกมาซักครั้ง”
“เรามีธุระต้องทำหลายอย่าง” ได้ยินมาบ้างแหล่ะว่ากลุ่มนั้นต่อยอดกลายเป็นเพื่อนกันมากกว่าเดิม แต่เราไม่เคยที่จะออกมาแม้แต่ครั้งเดียวอย่างที่เบียร์พูด
“เราคงมีปัญหาการเข้ากลุ่มมั๊ง” รถแท็กซี่ขาดระยะไปนานพอดู เบียร์เลยอออกเดินไปเรื่อยๆ เพื่อให้มันถึงด้านหน้าของโรงแรมแทน
“แล้วพรุ่งนี้เข้างานเช้าเลยเหรอ”
“เปล่าหรอก แค่โกหกพวกมันเฉยๆ เราขี้เกียจไปต่อ แต่ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรที่มันมีน้ำหนัก”
“งั้นแจ็คก็รู้ว่า เบียร์โกหกสิ”
“เราบอกมันตั้งแต่ก่อนมาแล้ว พวกมันชอบไหลกันต่อทุกที” พวกเราไปยืนอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามของโรงแรม
“เราเมา เบียร์ไม่เมาเหรอ”
“แค่มึนๆ คนที่มีปัญหาจะกินเหล้าแล้วเมาเร็ว กว่าคนที่ไม่มีปัญหา กลับเองไหวรึเปล่า”
“ก็ไม่ค่อยไหวเท่าไหร่หรอก” เราแกล้งพูด “พูดเล่นหน่ะ ของแค่นี้สบายมาก”
เราทั้งคู่นั่งด้วยกันที่ตอนหลัง อธิบายทางให้แท็กซี่แล้วก็หลับ โดยมีเบียร์นั่งมองทางไปเรื่อยๆ เราเริ่มอ่อนแอในใจเสียแล้ว เรารู้สึกกับการกระทำของโมว่าเหมือนหยามน้ำหน้า
ห้องของเบียร์จะถึงก่อนเรา เราตื่นเมื่อเขาสะกิด
“เรายังไม่อยากกลับห้องตอนนี้”
“แล้วเอ๋จะไปไหน”
“ให้เราไปห้องเบียร์ได้มั๊ย” เขาทำเหมือนคิดอยู่สักพัก “แค่วันนี้อยากมีเพื่อนคุย แต่ไม่เป็นไรหรอกหัวหน้าถ้าไม่สะดวก” เรียกเหมือนตอนอยู่ในกลุ่ม
“ได้ถ้าไม่คิดอะไรก็ไม่มีปัญหา” เราเลยได้ไปเยี่ยมชมห้องชายโสดอีกครั้ง เขาอยู่คนเดียว แค่เดินไปอีกไม่กี่ซอยก็ถึงห้องของเราแล้ว
“ห้องเราไม่ค่อยมีอะไรหรอกนะ มีแต่เหล้ากะเบียร์ เบียร์เปิดห้องแล้วจัดแจงเก็บของให้เข้ามุมให้เรียบร้อยเพื่อจะได้นั่งคุยกันง่ายๆ
“มีอะไรก็ว่ามา ถ้าพอจะเป็นเพื่อนรับฟังได้” เขานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพร้อมกับเบียร์กระป๋อง
“ไม่มีอะไรหรอก แค่ผีมันเข้าสิง พอเมาก็อยากได้ผู้ชาย” พูดเพราะเมาแท้ๆเลย
“น่ากลัวหว่ะ แล้วคิดจะกินเราเหรอ”
“ก็แค่คิด” เรานอนหงายลงที่พื้นหลับตา
“ขอกันง่ายๆเลยนะ”
“พูดตรงๆง่ายๆนี่แหล่ะ ถ้าไม่ได้ก็ดีกว่าแอบทำแล้วโดนจับได้ทีหลัง”
“เราไม่ใช่พวกขี้เมาแล้วนอนแผ่ ใครจะทำอะไรก็ได้ อย่างพวกที่เอ๋รู้จักนะ”
“เราไม่ได้คิดแบบนั้นซะหน่อย ก็แค่หาเรื่องคุยให้มันดูระทึกใจก็เท่านั้น” เบียร์ค่อยๆจิบแล้วยิ้ม
“อันตราย พวกบัญชีนี่เงียบๆเฉพาะข้างนอกเท่านั้นสินะ รักษาภาพพจน์น่าดู แต่ดูไม่ได้ตอนเมา”
“อย่าเหมารวมสิ เป็นแค่เรา จะเหมือนพวก แบงค์ได้ไง” แบงค์คือชื่อย่อของbanquet “เมาได้ตลอดเลยมีเวลาปลดปล่อยอารมณ์กันได้บ่อยๆ”
“หนุ่มๆก็งี้แหล่ะ เอ๋ยังไม่เห็นเล่าเลยว่ามีเรื่องอะไร”
“ไม่มีจริงๆ แค่หิวอยากกินผู้ชาย งั้นเรากลับแล้วกันไม่กวนหัวหน้าแล้ว นอนหลับฝันดีนะ” เรารีบดันตัวให้ลุกขึ้น“ไว้วันหลังถ้าจะไปไหนก็ชวนมั่งนะ หัวหน้า” เบียร์เดินตามขึ้นมาส่ง
“หัวหน้าขออะไรอย่างได้มั๊ย” เขายืนทำหน้าสงสัย เราหอมแก้มเขาไปทีนึง
“ยังไม่ได้ขอบคุณ ที่ช่วยเหลือและดูแลเป็นอย่างดีตอนเอ้าท์ติ้ง มือก็ป่ายไปที่เป้ากางเกงของเขาด้วย
“น่ารักดีนะ ไปแล้ว” เบียร์ยืนงงกับเราพอสมควร
“ประสาท แล้วมาทำไมเนี่ย”
“มาแค่เพื่อผ่อนคลาย”
“จะกลับไหวเหรอ ค้างก่อนก็ได้นี่” ประตูยังไม่ได้เปิด
“กลัวอดใจไม่ไหว”
“แล้วจะทนไปทำไมหล่ะ” คนเมาสองคนมองหน้ากันนิ่งและนาน............................