Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 417
Message ID: 134
#134, RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย
Posted by popo on 21-Mar-19 at 04:59 PM
In response to message #0
250 …..
เราหลับไปทั้งอย่างนั้นหลังจากที่ได้รับความอบอุ่นแผ่ซ่านจากโม เขาเองก็เหนื่อยหอบ อารมณ์ของโมนับวันยิ่งรุนแรง เขาเผลอกัดเราตอนที่เขาจะเสร็จจนเราสะดุ้ง
“เจ็บมั๊ย” โมลืมตัว
“เจ็บ” เขาค่อยๆถอนตัวออกช้าๆ เอาขาก่ายที่ก้นเราต่างคนต่างหลับไหล
“หน้าระรื่นเลยนะ” ต่อค้อน “ถ้าไม่ได้ชั้นไม่มีทางที่หล่อนจะได้โมกลับมาหรอก แล้วปล่อยให้เขากลับห้องทำไม”
“ให้เขาทำงานทำการบ้างสิ”
“ประสาท เพิ่งจะดีกันทำไม ไม่หาเวลาอยู่ด้วยกันนานกว่านี้”
“ยังไม่ดีกันหรอก”
“แล้วทำไมเงียบ”
“เอากัน”
“อีกแล้ว เนี่ยทำไมชอบเอากันจังเลยพวกหล่อนเนี่ย ระวังเถอะโมมันจะซีด”
“ไม่ขนาดนั้นหรอก”
“ชั้นกับวี ยังไม่เห็นจะขนาดนั้นเลย เดี๋ยวสักวัน โมมันก็เบื่อหล่อน”
“จะเบื่อเรื่องอะไร”
“ก็ไม่มีกิจกรรมอย่างอื่น เช้าค่ำ ร่ำกามา”
“ดีออก” ต่อย่นจมูก “สรุปว่าจะเอายังไงต่อไป คุยกันดีๆรึยัง”
“ยัง ไม่ได้คุยอะไรหรอก คุยได้ไม่เท่าไหร่ โมก็อารมณ์เสีย”
“ก็ทำตัวเองทั้งนั้น แล้วเรื่องของไอ้อั้นหล่ะ หล่อนจะจัดการยังไง”
“จะให้ทำไง ไปแจ้งความประจานตัวเองเหรอ”
“อ้าว อย่างน้อยเอาไว้ขู่มัน”
“ได้แค่ขู่ ใบแจ้งความก็แค่บันทึกประจำวัน เราเองก็ไม่มีหลักฐานอะไรมากไปกว่ากระดาษแผ่นเดียว หล่อนเห็นตอนเขาเอาไปเหรอ หรือว่าหล่อนสามารถพิสูจน์ได้ว่าชั้นมีของเหล่านั้นจริงๆ” ต่อถอนหายใจ
“งั้นก็คงแล้วแต่กรรมเวรของใครของมันก็แล้วกัน มันทำกับเราไว้ยังไงก็คงได้อย่างนั้น”
“ทั้งหมดก็ สี่บาท” เราทบทวน “สองหมื่นห้า ถ้าขายตอนนี้ แพงเหมือนกันนะค่าตัวของอั้น”
“ก็แพงนะสิชั้นถึงอยากให้หล่อนเอาเรื่อง”
“ถ้านึกว่าออฟเด็ก”
“หล่อนได้กะมันกี่ทีเชียว”
“ไม่ได้นับ ไม่งั้นชั้นจะติดมันเหรอ ยิ่งวันก่อนที่มันจะหายไปคืนนั้นก็ทั้งคืน ก่อนไปอีก”
“มิน่า ผู้ชายเขากะเทหล่ะสิ แต่ว่านะ ถ้าหล่อนอยู่ห้องมันอาจจะไม่หายก็ได้”ต่อพึมพำ
“ถ้ามันหาโอกาสจะขโมย ยังไงก็ต้องหายอยู่ดี”
“เวรกรรมจริงๆ กระเทยเนี่ย เมื่อไหร่น๊า พวกผู้ชายหิวเงินมันจะหมดไปซักที”
“เมื่อหล่อนเลิกดูดค-ยนะสิ” ต่อตอบ
“อ้าว ทีโมกะวียังไม่ต้องเสียเงินเลย”
“ใครว่า”ต่อชะงักแล้วเงียบไป
“มีอะไรเหรอต่อ”
“มันก็มีบ้างหล่ะ เอ๋ ขึ้นชื่อว่าผู้ชายบางครั้งก็เถลไถล ใช้เงินเกินตัว”
“งั้นก็เหมือนกันหมด”
“ผู้หญิงมันก็คงจ่ายเหมือนพวกเราละนะ”ต่อปลอบใจตัวเอง เราเห็นด้วยกับคำพูดของต่อ แล้วไม่เก็บเอามาคิดอีก ในเมื่อมันหายไปหมดแล้วเลยตั้งใจว่าจะไม่เก็บสมบัติอะไรไว้ในห้องอีก เก็บเป็นเงินฝากธนาคารไว้คงจะดีกว่า
หลังจากวันนั้นโมก็เงียบไปพักใหญ่ เราคิดว่าควรจะให้เวลาเขาอย่างที่เขาบอกก่อนไปเลยไม่ได้ตามเรื่อง ไม่ได้คิดว่าหมูในอวยแต่ทำอย่างที่เขาบอกทุกอย่าง เรื่องของความรักเราเองก็อยู่ในขั้นที่ต้องทบทวนเช่นกัน เขากลับมาหาเราอีกครั้งในวันหยุดถัดมา ต่างคนต่างไม่มีอะไรจะพูดกันนอกจากเงียบ เรารู้ว่าวันนั้นเรายังไม่ได้ยั้งคิดถึงเรื่องของความคิดเท่าไรนัก มีเพียงความเสียดายเท่านั้นที่ทำให้เราง้องอนให้โมสงสาร เหมือนว่าโมคงจะพอเข้าใจ การมาหาเราในวันนี้ โมมาแบบเปลี่ยนไป เขาพาเราไปกินข้าวเย็น
“โม เราทำเองได้” โมตักกับใส่จาน “อายคน” เราหันไปมองด้านข้าง
“ใครจะมอง ประสาท”
“กินเสร็จแล้วจะพาไปไหนต่อหล่ะ” เราถามเขา
“จะไปไหนหล่ะ ไปดูหนังมั๊ย” โมรวบช้อน
“อยากกลับห้อง”
“อีกแล้ว”
“ไม่ใช่อย่างนั้น โมเนี่ย ชอบคิดว่าเราคิดแต่เรื่องเดียวสิท่า”
“ก็หรือไม่จริง” เขายักคิ้วแบบกวนๆ “แต่วันนี้ไม่สะดวกนะ” โมบอก
“ไม่สะดวก ก็ไม่สะดวกสิ มาหาก็ดีถมไปแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ฮื่อ” โมยิ้ม “พูดง่ายๆแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย” เราเดินตามหลังเขาไปที่รถ นั่งเรียบร้อย
“งั้นก็แวะส่งเราก่อนแล้วกัน แล้วโมจะไปธุระที่ไหนก็ตามใจ” โมบิดกุญแจแล้วหันมามองหน้าเรา
“งอนรึเปล่า”
“ไม่ได้งอน” เรายิ้ม “ถ้างอนก็คงไม่พูดด้วยแล้ว”
“แต่บางทีก็กวนประสาทนี่” เราทุบที่ต้นขาเขา “แต่ว่าไปแล้วโมก็หายไปนานนะ ตั้งเป็นอาทิตย์”
“งานมันยุ่ง”
“เราก็ยุ่งเหมือนกัน”
”แล้วไม่กลัวว่าเราจะไม่มาหาอีกเหรอ”
“เรื่องของโม” เราตอบ
“ยังไง”
“ก็อยู่ที่โมตัดสินใจ ถ้าไม่อยากมาเราจะไปว่าอะไรได้หล่ะ เรื่องแบบนี้ เราคุยกันแล้ว” เราพูดชัดทุกถ้อยคำ
“ดีที่คิดได้” เขาออกรถขับไปเรื่อยๆ
“ว่าแต่โมเถอะ ทำไมพูดอะไรแปลกๆ เรื่องมาไม่มามีอะไรรึเปล่า”
“เปล่า”
“ไม่เชื่อหรอก มีอะไรก็บอกมาตรงๆเถอะ เรารับได้นะ” เราบอกไปด้วยความรู้สึกที่ใจหายอยู่บ้าง
“เราเบื่อกรุงเทพ อยากกลับไปทำงานที่ไซต์เหมือนเดิม รู้สึกมันอิสระดี”
“แล้วจะกลับไปเมื่อไหร่” ว่าแล้วเชียว “เพิ่งขอกลับมาเองนี่”
“เดี๋ยวแลกกับคนอื่นได้” เราหันไปมองหน้าเขา
“แล้วเราหล่ะ” เราไม่มองหน้าโมตอนที่ถามเขาประโยคนี้
“ไม่รู้เหมือนกัน ว่าจะเอาไง”
“ถ้าโมสบายใจ ตอนอยู่ที่โน่น เราก็ไม่มีปัญหาหรอกนะ”
“พูดเหมือนน้อยใจเลย”
“เรื่องจริง อะไรที่โมมีความสุข เราก็ควรจะดีใจด้วย”
“เอ๋ไม่คิดจะไปทำงานที่อื่นบ้างเหรอ”
“เราเบื่อต่างจังหวัดแล้ว”
“หากินลำบากสิท่า”
“เรื่องอะไร”
“ก็ทุกเรื่อง” เขายังคงย้ำเรื่องของเราเช่นเคย
“ตอนนี้หากินง่ายแต่เจ้าของเขาจะย้ายหนีแล้วนี่”
“ไม่ไปไหนหรอกน่า พูดแค่นี้ก็ทำเป็นคิดมาก”
“ก็เชื่อนี่”
“ไปห้องเรานะวันนี้” โมบอกแล้วเลี้ยวไปอีกทางตามที่พูด
ถึงห้องโม เราต้องช่วยเขาเก็บกวาดทำความสะอาดเป็นการใหญ่ ไม่รู้ทำงานหรือเปิดร้านกินเหล้ากันแน่
“เพื่อนมาหาเยอะ”
“แล้ววันนี้จะมาอีกรึเปล่า”
“ไม่แน่”
“งั้นเรากลับนะ จะได้สังสรรค์ เดี๋ยวความแตก”
“เรื่องอะไร”
“เราก็ไม่อยากให้เพื่อนโมเอาโมไปล้อนะสิ” โมดีดที่หน้าผากเรา
“มันจะล้อได้ไง ก็บอกว่าเป็นเพื่อน”
“แค่เพื่อนเหรอ”
เราจูบปากเขา โมกัดที่ปลายลิ้นเราเบาๆ แต่ก็รู้สึกเจ็บพอดู จนเราต้องทุบที่หลัง
“เล่นเจ็บๆอีกแล้ว”
“ชอบไม่ใช่เหรอ”
“ผิดคนแล้วมั๊ง” เสียงเคาะประตูทำเอาเราต้องแยกจากกันทันที
“พี่โม พร้อมยัง” เพื่อนเขาโผล่หน้าผ่านประตูเข้ามา
“ลูกน้องเรานะเอ๋”
“มากันกี่คนว่ะ”
“ห้าคน วันนี้มีคนพิเศษมาด้วยนะ”
“ใครวะ”
“น้องแป๋วไง”
“เฮ้ย ชวนมาทำไมวะ”
“ก็น้องเขาอยากมานี่พี่ ไม่เป็นไรหรอก พี่ชายมันมาด้วย”
“แต่มันเป็นผู้หญิง มัน”ยังไม่ทันที่โมจะพูดจบ คนที่ถูกพูดถึงก็มาสมทบพร้อมผู้ชายอีกสาม น้องแป๋วที่ว่าเป็นอินทีเรียที่บริษัท เป็นน้องของเจ้าของที่เป็นเพื่อนโม สาวน้อยผมสั้นรูปร่างบางทะมัดทะแมงดูเท่ หน้าตาก็สดใสเหมือนชื่อ เราลอบมองทุกคนแล้วรู้สึกได้ว่าเหมือนเราเป็นส่วนเกิน หลังจากที่แนะนำกันหมดทุกคนแล้ว ต่างคนก็ต่างจิบเรื่องที่เขาคุยกันเราฟังไม่รู้เรื่อง คนละสังคม คนละแนวคิด เราได้แต่นั่งฟังไม่แสดงความคิดเห็น ทำได้อย่างดีที่สุดคือยิ้ม น้องแป๋วของทุกคนป็อบปูล่า ผู้ชายดูเอ็นดูกันทั้งนั้น เป็นครั้งแรกที่เรานั่งอยู่ในกลุ่มผู้ชายแล้วกลายเป็นเพศเดียวกัน ต่างคนต่างแย่งกันเอาใจ ไม่เว้นแม้แต่โม เขามองเราทุกครั้งที่จะคุยกับแป๋ว ส่วนแม่แป๋วเองคงจะดูออกเพราะเพื่อนอีแอบที่มาด้วย คงเห็นเงาของผีออกมาจากตัวเราแน่นอน แป๋วยิ้มให้และชวนเราคุย เพื่อนอีแอบของแป๋ว มองเราด้วยสายตาที่รู้ทัน เรารู้สึกชื่นชมมาดเท่ๆของแป๋วไม่ใช่น้อย พลางลอบมองโมเวลาที่เขาคุยกับแป๋ว ความสนิทสนมนั้นมันสะกิดใจของเราพอดู
กว่าที่ทุกคนจะกลับก็ดึก โมเดินลงไปส่งทุกคนข้างล่าง ส่วนเรานั้นก็เก็บกวาดห้องอยู่คนเดียว นานพอดูกว่าที่โมจะขึ้นมาข้างบน เราไม่รู้สึกสนิทใจกับเพื่อนของโมสักคน แม้ว่าจะได้พูดคุยกันหลายเรื่องแต่ว่าเหมือนมีเส้นแบ่งของสังคมกั้นไว้อยู่ เมื่อมานึกเปรียบเทียบดูแล้ว แป๋วดูเหมือนทอมบอยที่หน้าสวย แต่จริงๆแล้วหล่อนเป็นผู้หญิงลุยคนนึงที่ทำงานร่วมกับผู้ชาย ใครจะเชื่อว่าหน้าหวานๆนั้นยกเหล้าเทเข้าปากแต่ละทีทำเอาเรากลัว
“แป๋วท่าจะชอบโมนะ” เราเปิดประเด็นเมื่อโมกลับมาที่ห้อง
“หึงเหรอ”
“ไม่หรอก แค่ดูผ่านๆหน่ะ หรือโมก็ชอบเขาเหมือนกัน”
“นานมาแล้ว”
“เหรอ” เราหันไปมองเขา
“ไม่ยักรู้”
“เอ๋จะรู้อะไร้ แค่เรื่องของเอ๋ยังไม่รู้เลย จะมีเวลามาสนใจเรื่องคนอื่นเรอะ”
“พาล” เรายุติการสนทนาแล้วชำระร่างกาย เราเองก็ควรจะกลับเช่นกัน แต่ความสงสัยนั้นเกาะกินในหัว ตลอดเวลาที่เราชำระร่างกาย น้ำเย็นๆมันช่วยทำให้ปลอดโปร่งไปได้บ้าง แต่ว่าความสงสัยนั้นยังคงมีอยู่เยอะแยะ โมคงชอบผู้หญิงที่มีบุคลิกคล้ายผู้ชายมั๊ง เรายักไหล่ มันช่วยไม่ได้เลยนี่ ในเมื่อของจริงมันมาล่อตาล่อใจเขาขนาดนี้
“อีแป๋วเหรอ” ต่อพูดถึงด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่ค่อยชอบใจนักที่ได้ยินชื่อนี้
“รู้จักด้วยเหรอ”
“ทำไมจะไม่รู้ สาวมั่นสาวเก่ง ในกลุ่มนั้นมีใครที่ยังไม่ได้นอนกะมันมั่ง”
“ต่อพูดเกินไปรึเปล่า”
“ชั้นนะรู้หมดแหล่ะ พอเหล้าเข้าปากมันก็เก่งกว่าที่คิดซะอีก”
“เกินไป”
“ชั้นเองยังตกใจเลย ที่เห็นมันฟัดกะโมหน้าห้องน้ำตอนที่ไปเที่ยวกับพวกนี้”
“แล้วหล่อนทำไง”
“ชั้นก็เลยสืบ หล่อนคงจำได้ตอนที่ชั้นหายไปบ่อยๆ ก็ไปเฝ้าวีนั่นแหล่ะ มันแท็คทีมกะอีกระเทยเก็กชงเพื่อนมัน หนอยรู้จักชั้นน้อยไป”
“ต่อ อย่าใส่อารมณ์มาก”
“นึกถึงหน้าสวยๆของมันทีไรนะ หงุดหงิดทุกที”
“จะหงุดหงิดไปทำไม”
“หายากนะเอ๋ สวยและใจกว้างแบบนี้”
“ไปว่าเขา”
“ชั้นหล่ะห่วงไอ้โมแทนหล่อน เพราะมันติดกันเป็นตังเมอยู่พักนึง แต่ว่ามันยังทำงานด้วยกันอยู่ วัวเคยขาม้าเคยขี่ ชั้นว่าตอนโมมันเงียบๆไปก็คงจะไม่ว่างเพราะนังแป๋วนะแหล่ะ”
“ก็ดี”
“ก็ดี ชั้นไม่ยอมนะที่หล่อนจะไปยอมแพ้มัน”
“แล้วเรื่องอะไรที่ชั้นจะต้องไปแข่ง” เราย้อนกลับ
“อย่างน้อยโมก็เป็นของหล่อน”
“คิดไปเองนะสิ”
“อ้าวแล้วที่มันคลั่งเพราะหล่อนมั่วกะไอ้อั้นหล่ะ”
“ตอนนั้นเขาก็คงจะพลาดจากนังแป๋วอะไรของหล่อนด้วยมั๊ง พอมาเจอชั้นที่คล้ายๆกันก็เลยยิ่งโกรธ”
“เหรอ” ต่อค้อน “ถึงหล่อนจะไม่สู้แต่ชั้นก็ไม่ยอมรามือกะมันแน่ แค้นนี้ต้องชำระ”
“ทำไม”
“ก็อีแป๋วนะสิ มันฟาดวีไปแล้ว มิหนำซ้ำอีแอบนั่นก็ได้ส่วนบุญไปด้วย”
“แล้วหล่อนเฝ้ากันยังไง”
“ไม่รู้”
“หรือว่าหล่อนมัวตะมอยผู้ชายคนอื่นจนลืมผัวรึเปล่า”
“ใครจะไปคิดว่า วีมันจะแตกแถว”
“แหม นานๆได้กินอะไรใหม่ๆที ปล่อยเขาไปเถอะ”
“ถ้าเป็นอีแป๋วชั้นไม่ว่าหรอก เพราะใครไม่ได้กินก็โง่ แต่อีแอบนั่น ชั้นต้องกระชากหน้ากากมันออกมาให้ได้”
“เขาทำอะไรผัวหล่อน”
“ไม่รู้มันไปเที่ยวต่างจังหวัดเป็นอาทิตย์ ทำตัวเป็นธุระปะปังให้ทุกอย่าง มันวางแผนไปตอนที่ชั้นสอบ วีก็ปฎิเสธไม่ได้ พอชั้นถามว่าอยู่กันยังไง”
“วี ก็บอกว่า อยู่รวมกัน แล้ววีดันอยู่ห้องเดียวกะมันอีก หล่อนก็น่าจะรู้นะ อะไรมันจะเกิดขึ้น”
“อคตินะสิ มันผ่านไปแล้ว แล้วหล่อนจะทำยังไง”
“ชั้นรู้ว่าตอนนี้อีแป๋วมันกำลังตะล่อมโมให้อีเพื่อนมันอยู่”
“ใครบอก”
“รู้ก็แล้วกัน อีนั่นมันเล็งไอ้โมมานานแล้ว”
“นี่ต่อ แป๋วเขาเป็นอย่างที่หล่อนพูด หรือหล่อนวีนเขาจนใส่ความเขากันแน่”
“ไว้หล่อนดูเองก็แล้วกัน ตอนแรกชั้นก็คิดเหมือนหล่อน แต่พอชั้นได้รู้จักมันมากขึ้นมากขึ้น ฉันก็ได้แต่เสียดายความสวย เสียดายศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง มันไม่ได้ชอบใครเป็นจริงเป็นจังสักคน แถมยังใจกว้างส่งต่อให้เพื่อนด้วย นับถือจริงๆ”
“โอ๊ย ฟังหล่อนแล้วปวดหัว อย่าไปยุ่งกะเขาเลย ของตัวเองก็ไม่ได้ไปไหนนี่ ไหนบอกว่าไม่หึงไง” เราถามต่อกลับ
“ไม่หึง แต่ไม่อยากให้ใครมายุ่ง ของใครใครก็หวงนี่หว่า”
“ชั้นจะยืมมือหล่อนจัดการอีแอบนั่นเอง เอ๋หล่อนคอยดูเถอะ”
เราได้แต่ส่ายหน้า เราไม่ยักกะมองออกตอนที่พวกนั้นมาแต่เรามารู้ทีหลังว่าตัวตั้งตัวตีก็คือคนที่ต่อพูดถึง แล้วจะให้เราทำไงดีหล่ะ จะให้เราตามโมตลอดเวลาเหมือนต่อไปเฝ้าวีงั้นเหรอ
“โม” โมพลิกตัวมาหา
“เมื่อไหร่โมจะชวนเราไปอยู่ด้วยซักที” โมทำหน้าแปลกใจ
“เป็นอะไร”
“ก็โมไม่ค่อยมาหา จะไปหาโมก็ไปกับเพื่อนตลอด”
”ไม่ไว้ใจ”
“ไม่ใช่ แค่รู้สึกว่าเราห่างๆกันยังไงไม่รู้”
“อย่ามาทำเป็นแม่เหมือนต่อมันไปคุมไอ้วี มันเลย เรารู้ทันหรอกน่า”
เราไม่พูดต่อ “หรือเอ๋สงสัย เหมือนต่ออีกคน”
“เรื่องของโมแล้วกัน เราไม่ยุ่งด้วยแล้ว” เขามาหาที่ห้อง วันนี้เราอยากลองเชิงแต่เขาไม่เล่นด้วย เรารู้สึกหน้าม้านไปเลย นังต่อนะนังต่อ มาเป่าหูอยู่ได้ทุกวัน แล้วนี่ชั้นขาดสติไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เรื่มจากเฉย พอได้ยินบ่อยเข้าบ่อยเข้ามันก็เขวได้เหมือนกันนะ คนเรา