Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 417
Message ID: 63
#63, RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย
Posted by POPO on 03-Aug-16 at 09:08 PM
In response to message #0
63
พี่โด่งจะไปไหนเหรอฮะ" เราถามเมื่อพี่แกขับรถผ่านสนามหลวง
"จะพาไปไหว้พระ" บ่ายแก่แล้ว รถขับไปเรื่อยๆ วันเสาร์ถนนโล่งเกือบห้าโมงเย็น พี่โด่งก็พาเรามาถึงอยุธยา ไหว้พระอยู่หลายวัด แต่ที่ชอบมากที่สุดคือวัดชัยวัฒนาราม เราเดินไปรอบๆ บริเวณโบราณสถานแห่งนั้นในตอนใกล้จะมืด แสงแดดยามโพล้เพล้ทำให้ดูขลัง เหมือนมีความสงบวังเวงหากแต่เปี่ยมไปด้วยความอิ่มเอิบใจจนไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นตัวอักษรได้ ยิ่งเมื่อมาอ่านเรือนมยุราในพลอยแกมเพชร อีกหลายปีต่อมาทำให้เห็นภาพวันนั้นชัดเจนมากขึ้น คุณพระนายไปไกลจากนกยูงแล้ว เรายังวนเวียนอยู่ในเรือนมยุราของเราอยู่อย่างนี้ ไม่สามารถเปิดเงื่อนเวลาออกมาหาพระนายคนนี้ได้อีกเลย พี่โด่งเดินนำไปดูตามทุกซอกทุกมุมของประวัติศาสตร์
"พี่ยังไม่ได้บอกเอ๋เลยว่า พี่ไปเรียนเป็นมัคคุเทศน์มานะ" แกอธิบายประวัติศาสตร์อยุธยาได้เป็นฉากๆ ทำให้เราอินนึกว่าตัวเองเป็นนางในกำลังเดินห่มสไบเฉิดฉายอยู่ไปมา ณ บริเวณนั้นพร้อมองครักษ์หนุ่มรูปงาม อารักขาอยู่ใกล้ๆ
"พี่อาจจะลาออกจากงาน ไปเป็นไกด์พาฝรั่งเที่ยวสักวัน"
"แล้วมันมั่นคงเหรอพี่" เราถามพี่โด่ง
"อยู่ธนาคารมั่นคงก็จริง แต่ชีวิตไม่มีสีสัน ยิ่งอยู่ธุรการอย่างพี่มันก็ทำไปเรื่อยๆ ไม่โตหรอก พวกรุ่นพี่ในออฟฟิศก็แก่ๆทั้งนั้น พี่อยากใช้ชีวิตอิสระมากกว่า งานที่ทำก็ไม่ใช่ว่าชอบนัก กินเงินเดือนไปวันๆ สิ้นปีก็พอจะยิ้มออกตอนรับโบนัสเท่านั้นแหละ แต่ต้องหาอะไรทำเท่านั้น ไม่งั้นต้องขอเงินแม่ใช้นะสิ" พี่โด่งใช้เงินเก่งพอตัวเพราะแค่ที่พาเราไปโน่นมานี่ก็จ่ายไปเยอะเหมือนกัน เงินเดือนพนักงานธนาคารคงไม่มากพอที่จะใช้จ่ายได้อย่างนี้ ถ้าไม่มีแบ็คที่ดีจากครอบครัว รถที่ใช้แม่ก็ซื้อให้
"แล้วเอ๋ เรียนจบอยากทำอะไรหล่ะ" ยังไม่ได้เรียนเลยก็ถามอนาคตแล้ว อนาคตที่วาดไว้มันเขวตั้งแต่เอ็นท์ไม่ติดแล้ว
"คงขายของที่บ้านมั๊ง เรียนให้จบแล้วไปช่วยพ่อแม่ขายของ" ตอนนั้นสมองตื้อยังมองไม่เห็นอนาคตของตัวเอง และยังแปลกใจว่ามายืนอยู่ที่ปัจจุบันได้อย่างไร เมื่อมองกลับไปดูมีหลายอย่างเกิดขึ้นกับชีวิตสิบกว่าปีกับการทำงานหนัก กับการทิ้งความฝันหลายๆอย่าง ทุกวันนี้ที่เป็นอยู่มันก็คุ้มค่าพอตัว
"พี่โด่งจะออกจากงานจริงเหรอ"
"ฮื่อ ไม่นานหรอก พี่ทำงานมาสามปีแล้ว ตั้งแต่เรียนจบทำงานก็มีคนฝากให้ เขาจ้างไปเตะบอลมากกว่า ไม่ค่อยได้ทำอย่างอื่น บางทีเสาร์อาทิตย์ก็ไปช่วยเพื่อนที่เขาเป็นไกด์ นะ พาทัวร์จีนเที่ยววัดพระแก้ว เที่ยววัง เที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวก ถึงมีเงินพิเศษมาใช้ไง"
"แล้วพี่เลิกเตะบอลล์แล้วเหรอ"
"มันเป็นฤดูนะ ปีนี้ตกรอบก็เลยเหนื่อยน้อยหน่อย"
"เอ๋ เรียนภาษาอังกฤษเยอะๆนะ" พี่โด่งบอก"บ้านเราเดี๋ยวนี้ใช้ภาษาเยอะ" พี่โด่งแนะนำเหมือนเป็นพี่ชายที่แสนดี
"ขับรถกลับถึงอพาร์ทเม้นท์เกือบสามทุ่ม ปาร์ตี้ที่ห้องพี่พงษ์แผดเสียงดังลั่น อพาร์ทเม้นท์เงียบไปเยอะเพราะคนเริ่มกลับบ้านต่างจังหวัดกันเยอะแล้ว เราชะโงกหน้าไปมองในห้องพี่พงษ์ ผีอย่างเรานั่งกันอยู่หลายคน ในนั้นก็มีหนุ่มๆที่อยู่ในอพาร์ทเม้นท์เดียวกัน ล้อมวงเหล้ากันอยู่ พี่พงษ์กระวีกระวาดเดินออกมา
"โด่ง เอ๋ กินเหล้ากัน ฉลองปีใหม่ล่วงหน้าหน่อยเร้ว" มือถือแก้วเหล้าออกมาชวนด้วย "พี่โด่ง ชนกันหน่อย" เสียงหนุ่มร่วมอพาร์ทเม้นท์ตะโกนออกมา "มาเอ๋ เข้ามานั่งก่อน" พี่พงษ์ลากแขนเราเข้าไปข้างใน "วี๊ดวิ๊ว" เด็กหนุ่มผิวปากใส่เรา พี่โด่งกับเรานั่งอยุ่คนละฝั่ง พี่พงษ๋กระแซะตัวเข้าใกล้ๆพี่โด่ง ตอนนี้พี่โด่งถูกขนาบข้างด้วยสองสาวรุ่นใหญ่
"นี่น้องเอ๋" พี่พงษ์ แนะนำให้เรารู้จักทุกคน และแนะนำพี่โด่งกับเพื่อนสาว "และนี่โด่งแฟนชั้น"
"แฟนหล่อนะยะ" เพื่อนสาวกรี๊ดกร๊าด
"อ้าวแล้วผมหล่ะพี่พงษ์" หนุ่มที่นั่งข้างๆเราแย้ง
"อุ๊ย มาเรียกอะไรพงษ์ น่าเกลียด เรียกพัชนีสิคะ" พี่พงษ์ถ้าจะเมามากจนเปลี่ยนชื่อ พี่โด่งนั่งขำหากแต่ก็จิบเหล้าไปเรื่อยๆ เพื่อนพี่พงษ์ก็อยู่ในวัยทำงานเป็นพวกหัวโปกเหมือนเรา เพียงแต่จริตจะก้านเยอะเรากับพี่เพลินยังสู้ไม่ได้เลย กับกระเทยเมืองหลวงนี่ดูแล้วต้องฝึกอีกเยอะ พี่เพลินกินไปก็โอบเอวพี่โด่งไป
"คิดได้ยังไงชื่อพัชนี เนี่ย" หนุ่มคนเดิมยังถามต่อ
"ก็พัดอีชนีทั้งหลายออกจากผู้ชายนะสิ"
"ชะนี คืออะไรพี่" ศัพท์ใหม่ไม่เคยได้ยิน
"ชะนี ก็คือผู้หญิงไง" เพื่อนพี่พงษ์ที่นั่งติดกับเราบอก
"แล้วทำไมถึงเรียกชะนี" เราก็ยังสงสัยอีก
"ก็เวลามันร้องไง ผัวผัวผัว อีพวกนี้มันร้องหาผัวตลอด ก็เลยเรียกมันชะนี" เหรอ เราเองก็ไม่เคยได้ยินชะนีร้องแต่ก็พอเข้าใจ
"โด่งขายกสิคะ" เพื่อนพี่พงษ์ที่นั่งติดกับพี่โด่งอีกข้างชนแก้วแล้วกระดกเฮือก มือแกวางที่ต้นขาพี่โด่งแล้วลูบเบาๆ พี่โด่งก็เป็นใจยกถาม
"อีนี่" พี่พัชนีปัดมือเพื่อนออกจากขาพี่โด่ง "อย่ามาปาดหน้าเค๊กนะ" โอยพูดอะไรกันนี่ ฟังไม่รู้เรื่อง หนุ่มข้างๆยังเป็นวัยรุ่นถัดไปอีกสองสามคนก็รุ่นเดียวกัน "ชนครับ น้องเอ๋" เราชนแก้วแล้วยก "หมดเลยนะ" สบายอยู่แล้ว เราชอบกินเร่งในตอนแรกให้หัวเชื้อติด แล้วค่อยผ่อนทีหลังเพราะถ้าหากจิบๆแล้วมันจะเมาเร็ว พี่โด่งยังคงสนุกสนานกับคุณพัชนีอย่างลืมตัว พี่ที่นั่งติดกับเรายื่นแก้วไปชนกับพี่โด่ง แล้วท้ากันให้หมดแก้ว ของกล้วยๆสำหรับพี่โด่งอยู่แล้ว "เก่งค่า เก่ง นี่น้องเอ๋ กินซะมั่งยุงไข่แล้ว"
"เอ๋ยังเด็กกินได้ไม่เยอะหรอก" พี่โด่งมองหน้าแล้วยกแก้วเหล้ามองหน้าเรา "เด็กอะไรมีผัวแล้วนี่" เราหน้าชาที่พี่พงษ์พูดมากลางวงเหล้า
"อ้าวงั้นผมก็อกหักสิ" หนุ่มข้างๆหันมามองหน้าตอนที่เรายกแก้วเหล้าประชดพี่โด่ง
"มีผัวก็มีชู้ได้ ปีนต้นงิ้วสนุกดี"เราพูดเหมือนให้พี่โด่งฟังเพราะรู้สึกหึงสองนางที่นั่งขนาบข้างมากพี่โด่งก็ไม่ยักสนใจนอกจากพูดตอบกลับมาว่า
"โดนผัวเตะแล้วทิ้งจะรู้สึก"
"อุ๊ยซาดิสม์จัง ชอบจังเลย"พี่พงษ์แนบหน้าทีไหล่ เพลงลูกทุ่งจากเครื่องเสียงคงเป็นเพลงที่พี่พงษ์ชอบ
"ชาตินี้ที่รักเราคงรักกันไม่ได้......" พี่พงษ์ลุกขึ้นทำมิวสิคประกอบ...ฉันรักเธอยิ่งกว่าใครๆ เธอจะรู้หรือไม่ว่าใจฉันมั่นเสมอ...พร้อมเอามือมาจับที่หน้าพี่โด่งให้หันไปมอง.....เพราะเธอมีคู่อยู่แล้วเธออย่ามารัก แม้หากชาติหน้ามีรักขอเป็นคนรักคนแรกของเธอ.......เพลงจบก็นั่งคลอเคลีย หนุ่มในวงเริ่มเมาขึ้นเพื่อนพี่พงษ์ที่นั่งข้างเราลุกไปห้องน้ำแล้วมาแทรกนั่งติดกับเขาแทนเราลูบแขนลูบขาผู้ชาย บางทีก็เอามือล้วงเข้าไปในกางเกง "อย่าพี่เดี๋ยวมันลุก" เขาแกล้งตีมือเบาๆ หากแต่ก็ปล่อยให้ล้วงอยู่อย่างนั้น เริ่มนัวเนียกันแล้วผู้ชายห้า กระเทยสาม ไม่รวมเรากับพี่โด่ง พัชนี หันไปหยอกหนุ่มที่นั่งข้างเหมือนเพื่อน เหลืออีกนางที่ยังคุยกับพี่โด่งอยู่ เรามองหน้าพี่โด่งเพราะอยากกลับห้องแล้ว พี่โด่งลุกไปเข้าห้องน้ำนางนั้นก็ทำท่าจะเดินเข้าไปด้วยแต่แกปิดประตูทัน เจ้าหล่อนก็มานั่งที่เดิมกระฟัดกระเฟียด ...
"ไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้ต้องเดินทางไกล" พี่โด่งขอตัวแล้วเดินไปเปิดประตู พี่พงษ์ก็ทำมิวสิคอีก ..สี่ในสี่ห้องหัวใจฉันให้คุณหมด หมดไม่มีเหลืออยู่..ทำหน้าตาหวานซึ้งพี่โด่งเอาแกะมือแกออกจากการเกาะกุมแล้วเดินออกไปเปิดประตูห้อง เราก็ลุกตาม เพื่อนพี่พงษ์มองค้อนตามพี่โด่ง
"เอ๋ ไปนะพี่ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนฮะ" คนที่อยากเป็นชู้โบกมือให้ "ยินดีครับน้องเอ๋" เหตูการณืจากนั้นคงจะนัวเนียกันชุลมุนแน่ เพราะบางคนนอนหงายที่เตียงพี่พงษ์แล้ว เราปิดประ๖ห้องพี่พงษ์เบาๆ แล้วผลักประตูเข้าห้องปิดเบาๆ พี่โด่งไม่เปิดไฟ เราคลำหาสวิตช์ไฟ แล้วก็มีมือมาอุดปากในความมืด ยกตัวเราลอยขึ้นมาเดินฝ่าความมืดแล้วดยนลงเตียง ถอดเสือผ้าเราออกอย่างเร็ว "พี่โด่งเล่นอะไร"
"เอ๋พี่เงี่ยน" พี่โด่งแทงผิดแทงถูกอยู่นาน ลมหายใจหอบแรงมากกว่าจะเอาเข้าไปได้ แกกดเราเร็วๆนานมาก กัดที่ต้นขอมือที่บีบนมเราแรงจนแทบจะหลุดติดมือ จูบปากก็ขบไปที่หน้า เราไม่เจ็บเหมือนเมื่อก่อนแต่กลับรู้สึกมันคล้อยตาม เราก็ตีก้นแกแรงๆตอบ ขบปากพี่โด่งกลับเหมือนกัน ท่อนล่างพี่โด่งยังทำงานต่อเนื่องลูกสูบฟาดที่แก้มก้นจนร้อน เหงื่อเหนียวๆบริเวณไข่ทำให้อบอุ่นมาก
"อา อา" พี่โด่งพอใจที่เรารุนแรงกับแกตอบ แกจับเราลุกขึ้นแล้วตัวแกก็เอนลงที่ที่นอนแทน เรานั่งบดสะโพกกระแทกกระทั้นตามอารมณ์ของแก พี่โด่งสวนมาแรงๆเหมือนกัน มือทั้งสองทั้งสองของเราบีบแน่นที่บ่าทั้งสองข้างแรงจนเหมือนเล็บจะจิกลงบนเนื้อแก พี่โด่งตีทีต้นขาเราพร้อมบิดไปด้วยเมาจนตัวชาไม่รู้สึกเจ้บ นั่งโยกจนเหนื่อยก็โน้มตัวลงให้พี่โด่งแทนสวนขึ้นมาเอง เราดุดที่ต้นคอของพี่โด่งแรงจนแกหดคอหนี ทำนบมันทะลักเข้ามาในรูแล้วจนไหลย้อยเปรอะหน้าขาพี่โด่งเปียกแฉะกันทั้งคู่ถอนตัวออก แล้วลากกันเข้าห้องน้ำ อาบน้ำด้วยกัน เรายืนจูบกันแรงๆใต้ฝักบัวอยู่นานเหมือนไม่รู้สึกอิ่มในรสรัก เวลาเมานี่ร่วมรักได้อย่างถึงรสชาดมากที่สุดเลย ...เราทั้งคู่นอนแก้ผ้ากอดกันแน่นใต้ผ้าห่มอย่างมีความสุขเหลือคณานับ.................