Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 417
Message ID: 75
#75, RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย
Posted by POPO on 03-Aug-16 at 09:26 PM
In response to message #0
75
เจ็บก้นอยู่หลายวันก็เริ่มซ่าขึ้นมาอีก ฟีดัสไม่น่าปลุกวิญญาณเลย เช้าวันหยุดนึกยังไงไม่รู้เลยลองโทรหาพี่โด่งที่ตู้สาธารณะ รอไม่นานก็มีคนรับสาย
"ฮัลเหล พี่โด่งเหรอฮะ" เสียงพี่โด่งรับสายเหมือนงัวเงียเพิ่งตื่น "จำเอ๋ได้รึเปล่า" เราย้ำเพื่อปลุกแกอีกที
"เอ๋ เหรออยู่ไหนหล่ะเรา หายหัวไปเลยนะ" พี่โด่งต่อว่ามาตามสาย
"เอ๋อยู่กรุงเทพฯแล้วตอนนี้ทำงาน" เราบอกสถานที่
"แล้วไม่เรียนหนังสือเหรอ" แกถาม
"เดือนหน้ามหาลัยถึงเปิดรับสมัคร วันนี้พี่ว่างมั๊ย" เช้าวันเสาร์พี่โด่งน่าจะอยู่ห้องเรานึกในใจ
"ว่างตอนกลางคืน ทำไมหล่ะ"
"ไปหาได้มั๊ย" ไม่กล้าตอบตัวเองถ้าหากแกปฏิเสธจะทำยังไงดี
"กลางคืนค่อยมาแล้วกัน เดี๋ยวสายๆพี่จะพาแขกไปทัวร์วัด"
"พี่ไม่ว่างนี่ แล้วกี่โมงถึงจะกลับ"
"ก็ทัวร์วัดเสร็จบ่าย ก็พาไปกินข้าวต่อ ดึกโน่นแหละถึงจะกลับห้อง" ไม่รู้แกอยากให้ไปรึเปล่า
"งั้นเอ๋ ไม่ไปแล้วหล่ะ พี่ไม่สะดวก"
"อย่างอแง บอกให้มาก็มาสิ มารอห้องพี่พงษ์ก่อนพี่จะบอกเขาให้ มาถูกมั๊ย"
"ถูก พี่อยากให้ไปแน่นะ" เราย้ำ
"เดี๋ยวก็เปลี่ยนใจหรอก แล้วเจอกันตอนเย็น" พี่โด่งวางหูไปแล้ว เราเองก็สองจิตสองใจว่าจะไปดีไม่ไปดี แต่เอาไงเอากันวะ ออกจากร้านห้าโมงเย็นนั่งรถไปสนามหลวงแล้วไปต่อรถข้ามไปฝั่งธน ถึงหน้าอพาร์ทเมนท์ก็เกือบทุ่ม พี่พงษ์เปิดห้องรออย่างที่บอก
"ไงเอ๋ ตัดผมซะสั้นเชียว เป็นกระเทยหัวโปกไปแล้วแค่ดูอีกทีก็เหมือนทอมหว่ะ" พี่พงษ์ทักทายแกกำลังรีดชุดทำงานอยู่เรานั่งขวางที่หน้าประตูรอพี่โด่ง พี่พงษ์เก็บชุดที่รีดเสร็จ
"พี่สบายดีมั๊ย" เราถามเมือแกมานั่งข้างๆ
"เรื่อยๆ ไม่เห็นหน้ากันนานดูแปลกๆไปนะ แล้วนี่นึกยังไงถึงมาหาโด่งมัน พี่หล่ะนึกว่าเอ๋เลิกกับมันตั้งแต่ปีใหม่แล้ว"
พี่พงษ์ซัก
"แล้วพี่โด่งว่าไงหล่ะ" แกมองหน้าเราเหมือนไม่อยากจะพูด"พี่พูดมาเถอะ เอ๋กับพี่โด่งห่างกันนานแล้วที่มาก็เหราะคิดถึง"
"ก็เห็นมันคุยๆว่าทะเลาะกับเอ๋ ก่อนกลับวันนึงก็แค่นั้น แล้วโด่งไม่โทรหาเลยเหรอ"
"ครั้งเดียว ตอนเอ๋มาอยู่กรุงเทพฯ" พี่พงษ์มองหน้าเราเหมือนมีอะไรจะพูด
"พี่อยากจะพูดอะไรเหรอ" กระเทยเหมือนกันปิดกันไม่มิดหรอก
"พักนี้พี่ก็ไม่ค่อยได้กินเหล้าด้วยกันหรอก แทบไม่ได้คุยกันด้วยซ้ำอยู่ใกล้กันแค่นี้ วันเสาร์มันก็ออกไปทำทัวร์ วันอาทิตย์หยุดแต่ไม่ค่อยเจอหน้าไปโน่นมานี่ เอ๋คงรู้เรื่องแล้วสินะ"
"เอ๋รู้ตั้งแต่ปีใหม่แล้วพี่" แค่มองตาเท่านั้น
"นี่ก็ไม่รู้ว่า ยายไกด์นั่นจะมาค้างรึเปล่า ถ้าเขามาเอ๋จะทำยังไง บอกตรงๆพี่ไม่อยากให้เราเสียใจแต่คงต้องบอก เพราะเห็นหน้าแล้วสงสาร กระเทยด้วยกัน" เรามองหน้าพี่พงษ์เพื่อให้แกสบายใจ
"ไม่เป็นไรนี่พี่ ถ้าแฟนเขามาเอ๋ก็กลับ คงไม่ดึกนักหรอก ดีที่พี่บอก" ลึกๆแล้วก็ใจหายถ้าเป็นก่อนหน้านี้คงจะรู้สึกเจ็บมากกว่านี้ เรานั่งคุยกันอยู่นานเกือบสี่ทุ่มแล้วยังไม่มีวี่แวว
"เอ๋ว่าเอ๋กลับก่อนดีกว่านะ เดี๋ยวรถหมด" เราลาพี่พงษ์แล้วเดินลงมาข้างล่าง พี่โด่งกำลังจอดรถพอดี เรายืนมองแกจากตัวตึกแล้วยกมือไหว้ พี่โด่งหอบของพะรุงพะรัง พร้อมกันนั้นประตูรถอีกข้างก็มีผู้หญิงอีกคนเดินลงมา ดูแล้วคงอายุมากกว่า แต่ผิวขาวหุ่นอวบอัดสเป็คผู้ชายเลย ขาวอึ๋ม พี่โด่งมาถึงที่ทางขึ้นแล้วแนะนำเราให้รู้จักกัน
"พี่หลิน เพื่อนพี่" เรายกมือไหว้ หน้าหล่อนเฉี่ยวเหมือนพวกคนไต้หวัน แถมพูดไทยก็ไม่ค่อยชัด พี่หลินยิ้มให้แล้วแสร้งยิ้มทักทายและพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่พี่หลินจะขอตัวหิ้วของขึ้นข้างบน บอกได้คำเดียวว่าหัวใจแทบสลายเลยทีเดียว
"เอ๋รอแป็บนึงนะเดี๋ยวพี่ลงมา" พี่โด่งหิ้วของวิ่งตามพี่หลินขึ้นไปข้างบน
เขาโกหกเราทำไมว่าว่าง หรือว่าเราแส่มาเอง เราน่าจะกลับตั้งแต่พี่พงษ์เล่าให้ฟังแล้ว อยู่รอเพื่อเจอภาพบาดตาอย่างนี้ทำไม พี่โด่งวิ่งลงมาหาอีกครั้ง แกยิ้มแหยๆ
"เอ๋แวะมาเยี่ยม และกำลังจะกลับแล้ว เห็นว่ามันดึกเลยไม่อยากรอ"
"สบายดีมั๊ย ตัดผมซะจำไม่ได้เลย โทษทีวันนี้หลินเขาจะมาค้างด้วยพรุ่งนี้เขาจะกลับไต้หวัน พี่ก็เลย"
"ไม่เป็นไรฮะ ยังไงก็มาแล้วดีใจที่ได้เจอพี่โด่งอีก"
"เอาไว้วันหลังพี่จะไปหาที่ทำงานนะ มาเดี๋ยวพี่ไปส่ง" แกอาสา แต่เราไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะให้ใครมาอาทรอีกแล้ว
"เอ๋กลับเองได้ เดินไปปากซอยแค่นี้เอง พี่โด่งไม่ต้องลำบากหรอกฮะ" เรายกมือไหว้แกอีกครั้ง
"งั้นก็ตามใจ ไว้เจอกันวันหลังนะ" พี่โด่งตีหัวเบาๆก่อนจะเดินกลับไปข้างบน เราฝืนยิ้มให้แกอย่างร่าเริงเช่นเคยก่อนจะโบกมือลา
อาจจะเป็นทุกข์ อาจจะผิดหวังแต่ยังมีรอยยิ้มให้เธอเรื่อยไป ข้างในจะร้อนจะรนหมองหม่นทนทุกข์เพียงใด ยังอยากจะยิ้มให้เธออย่างนี้ ก็ไม่เคยคิดอยากให้เธอรู้ข้างในที่แท้มันเป็นอย่างไร เพราะความที่รักเหลือเกินไม่อยากถูกหมางเมินไปแค่เพียงเห็นก็ชื่นใจเกินพอ....
แม้ตอนพบกัน ฉันทำร่าเริงแต่รู้ไหมคิดอะไรอยู่ กลับมาล้มตัวลงนอนกอดหมอนน้ำตาพร่างพรู อยากเป็นเหมือนคนที่เธอจูงมือ

เราเดินไปเรื่อยๆ มองอะไรแทบไม่เห็นน้ำตามันรื้นขึ้นมา เดินไปจนไม่รู้ว่าตัวเองมายืนอยู่ที่สะพานพุทธตั้งแต่เมื่อไหร่ หยุดมองจ้องลงไปในแม่น้ำความดำมืดเบื้องล่างเหมือนเรียกร้องให้เราลงไป เราสะบัดหัวกับความคิดบ้าๆนั้นก่อนจะเดินต่อ เราต้องอยู่ต่อไปให้ได้ชีวิตเรายังมีความหวังถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังมองไม่เห็น แต่อย่างน้อยเรื่องของเรากับพี่โด่งเราก็มองเห็นทุกอย่างแล้ว น้ำตายังคงไหลไปพร้อมกับทุกย่างก้าวของเรา คำตอบทุกอย่างสำหรับพี่โด่งมันเฉลยออกมาแล้ว ความฝันเมื่อกลางวัน ........เราเพิ่งรู้ว่าเรารักพี่โด่งเหลือเกินก็วันนี้นี่เอง .........แล้วเราจะมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันอีกมั๊ยนะ