#81, RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย
Posted by POPO on 03-Aug-16 at 09:39 PM
In response to message #0
81..... หน้าที่การงานดีขึ้นตามลำดับ เราถูกย้ายไปทำฟร้อนท์แคชเชียร์ของโรงแรมคงเป็นเพราะภาษาที่ดีขึ้นเป็นลำดับได้อยู่รอบเช้าต้องเข้างานตั้งแต่หกโมง การเรียนเอยูเอก็ต้องหยุดไปเพราะไม่มีแรงที่จะเรียนต่อ เนื่องจากต้องตื่นแต่เช้าทุกวัน ทำงานเสร็จก็ล้าแล้ว แขกทัวร์จีนเยอะมาก พี่ศักดิ์ทะเลาะกับอาตัวเองในครัวถึงขั้นลงไม้ลงมือแกลาออกไปแล้ว เราไม่รู้เรื่องอะไรเลย หายไปโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าไปทำงานที่ไหนต่อ รู้สึกใจหายเหมือนพี่ชายหายไปจากบ้าน พยายามตามหาก็ไม่ได้คำตอบรู้เพียงแค่ว่าพ่อแกที่เป็นกุ๊กเปิดร้านเบเกอรี่ให้ก็เท่านั้นไม่มีโอกาสที่จะร่ำลากันเลย โรงแรมมีทัวร์จีนมาลงเยอะมาก ร้อยเปอร์เซ็นต์ทุกวันเพราะค่าห้องถูก เหมือนเรื่องบังเอิญในสิ่งที่ไม่อยากให้มันเป็น พี่โด่งพาแขกกรุ๊ปที่รีโลเคทจากโรงแรมที่มีคอนแทคด้วยมาพักที่โรงแรมเรา เราเจอแกตอนทำเช็คเอ้าท์กรุ๊ป ไกด์รูปหล่อยื่นหน้ามาเล่นเอา รีเซฟชั่นหมู่เฮาถึงกับกรี๊ด เรากำลังโพสท์บิลล์อยู่ได้ยินเสียงคุ้นๆก็เงยหน้าขึ้นมามอง เช็คเอ้าท์ ด้วยครับ เสียงวางกุญแจที่เคาน์เตอร์ใกล้ๆกับที่เรายืนมันคุ้นหู เราชะงักรู้สึกเหมือนเหงื่อออกที่มือ พี่อีกแคชเชียร์อีกคนไปกินข้าวเหลือเราที่เคาน์เตอร์คนเดียว พี่โด่งเดินมาเกาะที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์แล้วยิ้มทัก ไงเอ๋ ทำงานที่นี่เหรอ เราไม่อยากเห็นหน้าพี่โด่ง แม้เหตุการณ์จะผ่านไปนานแล้วแต่มันยังเจ็บปวดเสมอที่คิดถึง ฮะ พี่สบายดีม๊ย ถามโดยไม่มองหน้าทำทีเป็นสนใจกับบิลล์ของกรุ๊ปทัวร์อยู่ สบายดี แล้วเอ๋หล่ะไม่เห็นโทรไปหาพี่เลย โตขึ้นเยอะนี่ กี่เดือนแล้วที่ไม่เจอกัน เราเงยหน้ามองแก พี่โด่งหลบให้ลูกทัวร์เดินเข้ามาจ่ายเงินที่เรา กว่าจะหมดทุกห้องก็ใช้เวลาพอดู สบายดีฮะ เรียนเป็นไงบ้าง ก็เก็บได้ทุกวิชา เทอมสองก็หนักหน่อย เพราะไม่ได้ไปเรียนเลย พี่โด่งมาทำไกด์เต็มตัวแล้วเหรอ ใช่ ตอนนี้เป็นฟรีแลนซ์ รับงานไปเรื่อยๆ พี่แต่งงานรึยัง เราถามเบาๆดีที่เคาน์เตอร์ข้างๆไม่สนใจ ไปเรื่อยๆ วันนี้เลิกงานกี่โมง แล้วหยุดวันไหน พี่โด่งถามเรา บ่ายสาม หยุดพรุ่งนี้ เราตอบสั้นๆไม่ต่อปากต่อคำเหมือนก่อนเพราะคิดว่าแกคงถามไปงั้นๆ เดี๋ยวพี่ส่งแขกขึ้นเครื่องแล้ว พี่มารับนะ ไปหาที่คุยกันสักหน่อย ว่าไง เหมือนใจจะขาดมากกว่าเดิมเราก็สั่งใจตัวเองไม่ได้ในที่สุดได้แต่พยักหน้า บ่ายสามครึ่งรอที่เบลล์นะ พี่จะขับรถมารับ ไปหล่ะ แกโบกมือแล้วเดินตามแขกคนสุดท้ายเข้าลิฟต์ไป คุยอะไรกันตัว รีเซฟชั่นยื่นหน้ามาถามทำให้เราตื่นจากพะวัง รู้จักกันเหรอ หล่อดีนะไกด์คนนี้ รู้จัก พี่เขาเคยอยู่อพาร์ทเมนท์เดียวกัน โลกมันกลมนะ เราแต่งเรื่องไปเรื่อยเปื่อย อยู่หน้ารามเหรอ เพื่อนสาวเหมือนจะจับโกหก ฮื่อ เราแค่พยักหน้าแล้วก้มลงไปเคลียร์บิลล์ต่อ ไม่อยากจะคุยไม่อยากจะเล่าให้ใครฟังรู้สึกตัวเองไม่ทันโลก เป็นกระเทยโบราณคร่ำครึกับความหวังลมๆแล้งๆ เพราะเทียบกับเพื่อนๆพวกนี้แล้วชีวิตเราไม่มีสีสันเอาซะเลย อุ๊ กับ ต่อ รีเซฟชั่นชอบไปเที่ยวแถวสีลม นั่งร้านเทเลโฟนจีบผู้ชาย ตอนเช้าก็จะมาเม้าท์แตกให้เราอิจฉาเล่นอยู่เรื่อย พวกหล่อนเรียนจบมหาลัยกันแล้วอายุมากกว่าเราสามปีแต่ไม่ยอมให้เราเรียกพี่ เราไม่ค่อยอยากไปกับพี่โด่งนัก แต่พอเลิกงานเปลี่ยนยูนิฟอร์มเสร็จก็มายืนรอที่หน้าโรงแรมตามนัด พี่โด่งขับรถเก๋งคันใหม่เอี่ยมมาจอดเทียบ เราเปิดประตูแล้วรีบเข้ามานั่งในรถคู่คนขับ เป็นไง ยังโกรธพี่อยู่รึเปล่า พี่โด่งยิงคำถามทันที ที่รถเคลื่อน เอ๋ ไม่ได้โกรธพี่ แต่เอ๋รู้ตัวว่าพี่โด่งคงจะเจอคนที่ถูกใจแล้ว คิดแค่ว่าตัดใจดีกว่า พยายามเรียบเรียงคำพูดช้าๆ ถ้าไม่โกรธ ทำไมไม่ติดต่อหล่ะ พี่เคยไปหาเราที่ชั้นบน เขาก็ไม่รู้จักเอ๋สักคน นี่มันบังเอิญที่ได้มาเจอกัน ไม่งั้นก็คงไม่เจอกันเลยสิท่า อยากจะโทรหา แต่กลัวจะเสียใจ เวลาหลายเดือนที่ผ่านมาก็ค่อยๆดีขึ้นมาก พี่โด่งไม่รู้หรอกว่าเอ๋เจ็บปวดแค่ไหน ที่เวลาอยู่ลำพังแล้วคิดถึงพี่ขึ้นมา สุดท้ายทำนบก็พังจนได้ ใครห้ามไม่ให้โทร คิดไปเองทั้งนั้น พี่บอกแล้วไงเรื่องพี่กับหลินมันไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แค่สนุก แล้วเรื่องของเรา ก็แค่สนุกเหรอพี่ เราหันหน้าไปทั้งๆที่ตายังแดงอยู่ เอ๋เริ่มพูดไม่รู้เรื่องอีกแล้วนะครับ พี่โด่งถอนหายใจ อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับเรื่องโน้นเรื่องนี้ เรื่องของเราก็คือเรื่องของเราสองคนเท่านั้นเข้าใจรึเปล่า ไม่เข้าใจหรอก พี่โด่งใจร้าย เรายังไม่ลดละ ใครใจร้ายกว่ากัน อยู่ๆก็หายหัว ไม่ติดต่อทั้งๆที่ก็รู้ว่าพี่อยู่ที่ไหน พี่โด่งเลี้ยวรถเข้าโรงแรมอีกที่นึงพี่ได้ห้องคอมพรุ่งนี้มีส่งแขกแต่เช้า เลยนอนที่นี่ จอดรถแล้วเดินนำเราขึ้นลิฟต์ เราเดินตามเขามาทำไมนี่ พี่โด่งเปิดห้องแล้วดึงตัวเราไปนั่งที่เตียง คิดถึงมากเลย แกหอมแก้มเราเบาๆพี่โด่งเอนตัวทับเราบนเตียง นอนกับพี่นะวันนี้ พรุ่งนี้จะพาไปเที่ยวพี่โด่งประกบปากลงมา รสชาดที่ถวิลหาอยู่ตลอดเวลายังเหมือนเดิม เราปล่อยอารมณ์ไปตามอย่างที่ใจต้องการ มันอิ่มเอมที่สุด เราตัดใจจากพี่โด่งไม่ได้เลยแม้ในขณะนั้นจะมีคำถามอยู่ในหัวตลอดเวลาว่าพี่โด่งเป็นอะไรกันแน่แต่ร่างกายก็ตอบสนองแกอย่างไม่อาจหยุดยั้งได้ จนค่ำก็อาบน้ำลงไปกินข้าวที่ห้องอาหารข้างล่าง พี่โด่งเหมือนไกด์ใหญ่ทุกคนทักทายเป็นอย่างดี นั่งเงียบๆกินข้าวกัน ร่าเริงหน่อยสิ ไม่ดีใจเหรอที่ได้เจอกันอีก ดีใจ จนพูดไม่ออก เราเพิ่งจะยิ้มออกมาได้ พี่โด่งยักคิ้วยั่ว พรุ่งนี้จะพาไปเที่ยวแอร์พอร์ท แล้วไปรื้อฟื้นความหลังกัน แกพูดยิ้มๆ จะพาไปไหนหล่ะ เดี๋ยวก็รู้เอง รับรองต้องชอบกินข้าวกันเสร็จพี่โด่งก็พาไปหาซื้อเสื้อผ้ามาไว้เปลี่ยนพรุ่งนี้ หมดเงินไปเยอะเหมือนกัน เราจะจ่ายเองแกก็บอกไม่ต้อง พี่จะซื้อให้น้องไม่ได้เหรอ ไม่ได้ดูแลกันนานแล้วนะ แม่พี่ถามถึงเอ๋บ่อยๆ ไม่รู้ว่าติดใจอะไรนักหนา เจอกันแค่ครั้งเดียวเอง ชาติก่อนคงเป็นลูกสะใภ้มั๊ง เราตอบติดตลก ชาตินี้ก็ใช่นี่นา แกตบก้นเราทีนึง แต่ว่าหยิบเพศมาผิดเพราะกลัวเกิดไม่ทันพี่นะสิ พี่โด่งหัวเราะเสียงใส เออต้องแบบนี้สิ ต่อปากต่อคำอย่างนี้ค่อยเป็นเอ๋คนเดิมหน่อย ไม่งั้นพี่เหงาแย่ไม่มีคนคอยแหย่ มีแต่พี่แหล่ะ ที่แหย่ เอ๋ไม่เคยแหย่พี่สักหน่อย ทะลึ่ง แกตบหัวเบาๆ ก่อนเดินออกจากร้าน อยู่ใกล้ๆแล้วมีความสุขดีนะเราเนี่ย อย่าหน้างอบ่อยนัก เดี๋ยวคนง้อจะเหนื่อย นะเอ๋อย่าคิดมากร่าเริงเข้าไว้ ใช่สินะเรื่องแค่นี้เองจะคิดอะไรนักหนา เราลืมคำพูดของพี่เพลินไปได้ไง อยู่คนเดียวคิดไปเองคนเดียว โลกยังกว้างนักอายุก็แค่นี้ จะมัวซึมเศร้าอยู่ทำไม ในเมื่อวันนี้ลมได้พัดพาความรักกลับมาให้ความชุ่มชื่นหัวใจอีกครั้งแล้วนี่....................
|