Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 464
Message ID: 2
#2, RE: Hatyai Story: นักรักหน้าหยก 6
Posted by เจ้าบอสน้อย on 16-Aug-12 at 09:36 PM
In response to message #1
ก่อนที่จะตื่นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น ผมได้ฝันถึงเรื่องหนึ่งว่า ผมเป็นราชาเมืองหนึ่งที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวอุทยานแห่งหนึ่ง ในมือผมถือดวงแก้วดวงงามไปด้วย สวนแห่งนี้มันสวยงามมากครับ ผมเพลินไปกับธรรมชาติที่นั้นแล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อพญามัจจุราชจากใต้ภิภพแทรกแผ่นดินขึ้นมาแล้วกราบผมลง หนึ่งครั้ง แล้วชิงดวงแก้วผมลงไปใต้ดิน ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา หยาดน้ำตายังคงติดอยู่ที่หางตาผม ผมนั่งทบทวนเรื่องราวที่ผมฝันและหยาดน้ำตา ผมทึ่งมากที่แค่ความฝันมันทำให้ผมถึงกับร้องไห้โดยไม่รู้ตัว แต่ก็ไม่ได้นำพา เพราะนั้นมันแค่ความฝัน ผมนึก
แล้วช่วงเวลาที่เป็นปกติวิสัยก็ดำเนินต่อไปตามที่ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ขึ้นลง เราเรียนกันหนักเหมือนเช่นเดิม ไอ้วิวมันดูโทรมลงไปมากเลยครับ มันนอนดึกกว่าผมเสียอีก และตื่นเร็วกว่าผมซะด้วย บางวันมันก็นอนหอใน ปล่อยให้ผมนอนหอนอกคนเดียว แต่ก็ไม่ได้โกรธมันหรอกครับเพราะเข้าใจมันว่ามันเรียนหนัก
เย็นวันอังคาร ผมมีโอกาสได้ไปว่ายน้ำอีกครั้ง คราวนี้มีคนสนใจผมมากกว่าเก่าเสียอีกครับ หลังจากที่ได้โชว์ผลงานไว้คืนก่อน สายตาสอดส่องมาที่ผม บ้างแอบมอง บ้างมองกันตรง ๆ จนผมรู้สึกเสียความมั่นใจ ไปเลย แต่ผมก็คิดเสียว่าเรามาว่ายน้ำนี่นา ไม่ได้มาสนใจสายตาใคร ผมว่ายน้ำเสร็จ ก็ไปล้างตัวในห้องน้ำต่อ ตอนเข้าไปก็ไม่เห็นมีใครอยู่ในห้องน้ำ ผมเลย ได้ห้องน้ำนั้นมาครองอิๆๆ แต่พอผมออกมาจากห้องน้ำผมก็แปลกใจเมื่อมีผู้ชายรูปร่างหน้าตาดูภูมิฐานมายืนคอยที่หน้าห้องน้ำ ผมยิ้มให้เค้าครั้งหนึ่งแล้วเดินเลียบ ๆ เคียง ๆ ออกไป แต่เค้ากลับจับมือผมไว้ แล้วถามว่าน้องบอสหรือเปล่าครับ ผมพยักหน้า ทำหน้าเอ๋อๆ พี่แกคงได้ใจอ่ะครับที่ผมเอ๋อ ๆ ใส่ เลยเข้าประเด็นเลยครับว่า อืม พี่อยากรู้จักน้องอ่ะครับ แบบรู้จักกันระยะยาวอ่ะ อืมน้องเรียนคณะอะไรอ่ะครับ ก่อนที่ผมจะตอบ พี่แกก็เสนอว่า ขาดเหลืออะไรในเรื่องเรียนนั้นพี่ช่วยได้นะครับ พี่เป็นบุคลากรของมหาลัยนี่เอง ผมเลยตอบพี่แกไปตามตรงว่า ออ ผมเรียนคณะทันตแพทยศาสตร์ครับ ดูเหมือนพี่แกจะเก็ตนะครับ เพราะพี่แกพูดกับตัวเองว่า งั้นก็คงไม่มีปัญหาเรื่องทุนเรียนสินะ ผมดึงมือกลับเบา ๆ แล้วพยักหน้าให้หนึ่งครั้งแล้วเดินจากมา ทิ้งให้พี่แกยืนเคียงคู่กับความแก่แต่เพียงคนเดียว อิๆๆๆ
เย็นวันนั้นผมต้องกินข้าวกับเจ้าจอมและเพื่อน ๆ มันอีกมื้อเมื่อไอ้วิว มันโทรมาบอกว่ามันติดรายงานเคสพรุ่งนี้ เลยอยากขอเวลาอ่านหนังสือคืนนี้ ผมได้แต่โอเค อย่างเดียวไม่แย้งอะไรมันเสร็จจากมื้อเย็นเราก็กลับหอกัน เจ้าจอมมันให้ผมสอนการบ้านให้ตามเคย ส่วนเพื่อนมันก็เช่นกัน ออ ลืมบอก เพื่อนๆเจ้าจอมชื่อ น้อง ฟ๋ง กับน้อง ตั้ง ก็น่ารักทั้งสองคนครับ ตางี้หยีเหมือนจะปิดอยู่ตลอดเวลา ด้วยน้องเค้าเป็นคนหน้าตี๋ ดู ๆไปก็น่ารักดีครับ สองคนนี้หน้าตาคล้าย ๆ กันด้วยสิ
หลังจากสอนการบ้านเด็ก ๆ เสร็จ ผมก็จัดการอ่านหนังสือจนจบ แล้วก็เข้านอนต่อ แต่โทรศัพท์มันก็ดังขึ้นและโชว์เบอร์พี่เกด ผู้หญิงที่อ้างว่าผมทำเธอท้อง และผมพาไปทำแท้งครั้งก่อน แต่ผมไม่รับปล่อยให้มันดังไป ผมไม่สน
สิ่งที่ทำให้คนเราแตกต่างกันนั้นใช่อื่นใดไม่ เพราะสิ่งนั้นคือโอกาสนั้นเอง โอกาสเป็นอะไรที่ไม่สามารถเกิดขึ้นกับใครได้ง่าย ๆ หรือยากจนเกินไป โอกาสสามารถเกิดขึ้นได้เดี๋ยวนี้และจากไปได้เดี๋ยวนี้เช่นกัน บางคนไม่มีโอกาสที่จะลืมตาดูโลก (ดังเช่นลูกผมกับพี่เกด) หรือบางคนไม่เคยมีโอกาสที่นั่งล้อมวงกินอาหารราคาถูก ๆ ร่วมกับครอบครัวที่แสนอบอุ่น และอีกมากมายที่โอกาสจะวิ่งไปหา ดังเช่นวันนี้ที่ผมได้รู้จักกับโอกาสอีกครั้ง เมื่อผมไปเรียนที่คณะตามปกติ
ที่คณะสาว ๆ ทั้งรุ่นน้องรุ่นพี่ยังคงไม่เลิกแซวผมเรื่องการแสดงเมื่อคืนก่อน ผมงี้แอบภูมิใจมากเลยครับ ยิ้มได้ทั้งวัน วันนี้ผมมีโอกาสได้รู้จักกับน้องคนหนึ่งเธอเรียนอยู่ปี3 คณะพยาบาลครับ เธอมาจัดฟันที่โรงพยาบาลทันตกรรมที่คณะผม เธอน่ารักมากเลยครับ ผิวขาวใบหน้าเรียวยาว ตากลมโตอย่างอินเทรนด์ในตอนนี้ แต่สิ่งที่ผมประทับใจมากกว่ารูปลักษณ์คือน้ำเสียงเธอครับ ทุกทีที่ผมได้ยินเธอพูด ผมรู้สึกถึงครั้งที่ผมยังเล็ก ครั้งที่แม่เคยเปิดวิทยุให้ฟัง ใช่ครับเสียงเธอเหมือนดีเจเสียงใสที่ผมชอบในวัยเด็ก ผมเลยหลงเธอทันทีที่แรกเจอ เธอชื่อน้อง อารียาครับ แต่เธอให้ผมเรียกว่า แตง ตอนแรกที่ผมเห็นเธอนั้น เธอก็เหมือนคนไข้คนอื่นๆครับ คือต้องนั่งคอยคิวที่ยาวเหยียด ผมเองตอนนั้นหอบข้าวของพะรุงพะรัง ออกมาจากห้องแล็ป และจะต้องแวะมาหาข้อมูลที่ คลินิกฟัน ขณะที่กึ่งวิ่งกึ่งเดินมานั้น น้องแตงเธอกลับทำให้ผมหยุดอากัปกิริยาเร่งรีบนั้นกลายมาเป็นมนุษย์หิน ผมจ้องและตั้งใจมองหน้าเธออย่างไม่อายเธอเลยครับ เธอเองก็มองหน้าผมเช่นกันแต่แค่มองแล้วก็ผ่านไป แต่ผมเลือกที่จะไม่ผ่านไปเช่นเธอครับ มันเหมือนอะไรมาดลใจผมที่ทำให้ผมตัดสินใจในตอนนั้นว่าต้องหาเรื่องคุยกับผู้หญิงคนนี้ให้ได้ (อาจเพราะเธอบุคลิกคล้าย ๆ เคสด้วยมั้ง) ผมเลยแสร้งเดินผ่านเธอแล้ว ทำเป็นว่าทักผู้ป่วยผิดคน ในตอนแรกเธอก็งง ๆ ครับ ผมก็ยังคงทำตามแผนเดิมคือ คุยจ้อไปเรื่อย ๆ จนเธอเองต้องพูดว่า ผิดคนแล้วล่ะค่ะ (เข้าทางผมครับ) ผมเลยรีบแสร้งขอโทษและสอบถามข้อมูลเธอใหม่ ว่าชื่ออะไร ไม่ใช่คนนั้นจริงหรอหรือว่าอำผมเล่น ตามแบบของคนเจ้าชู้ โชคดีที่เธอมีท่าทางเป็นมิตรครับ ผมเลยใช้เวลาทั้งหมดของเย็นวันนั้นในการนั่งคุยกับเธอ ผมรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วมากครับ ขณะที่นั่งคุยนั้น ผู้หญิงคุ้นตาคนหนึ่งก็เดินมาหาผม แล้วทักขึ้นว่า ระวังนะน้องของที่เห็นมันอาจใช้ไม่ได้ก็ได้
น้องแตงทำหน้างง ๆ ไม่แพ้กับผม แต่หลังจากงงสักครู่ ผมก็เริ่มนึกออกว่านั้นคือพี่เกดนี่หว่า ไงมาที่นี่ได้ว่ะ (ผมนึก) ผมมาทราบตอนหลังว่าเธอมีนัดทำฟันนั้นเอง คืนวานที่โทรมาก็อาจจะสอบถามอะไรจากผมแน่ ๆ ตอนนั้นยอมรับว่าหวั่นใจไม่น้อยที่เจอหน้าพี่เกด
น้องแตงถามผมว่านั้นใคร ผมปฏิเสธว่าไม่รู้จักครับ(หรือเพื่อนๆจะยอมรับว่านั้นเมียเก่าผมเองครับ หวังว่าผมไม่เลวเกินไปนะครับ) แล้วผมก็ชวนคุยเรื่องอื่นต่อจนถึงคิวน้องเค้าเข้าไปทำฟัน ก่อนกลับผมได้เบอร์เธอกลับมาด้วย แต่เธอก็ทิ้งสิ่งที่แทงใจผมจี๊ดเลยครับ นั้นคือ หนูคิดว่าพี่เป็นเกย์ตลอดเลยนะค่ะ แม้แต่คืนนั้นที่พี่แสดงตอนงานน้องใหม่อ่ะค่ะ แต่พอได้คุยกับพี่ แตงเปลี่ยนความคิดแล้วค่ะ น้องแตงพูดจบ ก็ยิ้มละมัยให้ผมก่อนลุกขึ้นไป
หลายๆวันเข้าที่เราติดต่อกันนั้นความสัมพันธ์ของผมกับน้องแตงมันเบ่งบานงดงามตามวันและคืน ไม่รู้สิครับผมรู้สึกวางใจผู้หญิงคนนี้มากๆครับ มันรู้สึกผูกพันมาก เราคบกันลับๆ โดยการโทรคุยกันเป็นส่วนใหญ่ เพราะผมเองก็ไม่ว่างเจอ เธอเองก็ฝึกงานบนหอผู้ป่วย กลับมาก็งานล้นตัวเหมือนกัน
ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับน้องแตงดีวันดีคืนแต่มันช่างสวนทางระหว่างผมกับไอ้วิวที่มีแต่จะเจอกันน้อยลงอีกครั้งทั้งๆที่อยู่หอเดียวกัน
เย็นวันศุกร์ผมมีโอกาสได้เจอน้องแตงอีกครั้ง คราวนี้เธอร้องไห้ ตางี้แดงมาก เธอโทรมาหาผมว่าว่างมั๊ย เธอไม่สบายใจมีเรื่องอยากคุยด้วย ผมก็พอมีเวลาครับ ผมเลยไปรับเธอหน้าหอพักพยาบาล เมื่อเห็นเธอร้องไห้ผมงี้ใจไม่ดีเลยครับ นึกไปต่างๆนาๆ ผมรีบเปิดประตูรถให้เธอขึ้นมาและยื่นทิชชู่ให้เธอก่อนขับรถออกไปนั่งที่สวนสาธารณะ ระหว่างทางผมไม่กล้าถามอะไรมากเพราะเธอยังคงร้องไห้อยู่
ที่สวนสาธารณะ เธอเล่าให้ฟังว่า แฟนเธอบอกเลิกกับเธอในวันนี้ โดยที่ไม่บอกว่าเรื่องอะไร ผมนึกขึ้นมาทันทีว่า ผู้ชายคนนั้นมันช่างโง่เสียจริง น้องแตงน่ารักอย่างงี้ยังทิ้งกันลง ผมปลอบเธอสักพักจนเธอดูดีขึ้น ก็เลยพาเธอไปหาอะไรทานต่อ กลับมาก็ค่ำแล้ว ที่ห้องไอ้วิวยังไม่กลับมา แต่มันส่งข้อความมาว่า คืนนี้ขอนอนหอใน เดี๋ยวค่อยกลับหอพรุ่งนี้ ออทิชชู่ในรถใช้หมดหรือยัง เดี๋ยวค่อยซื้อไปเติมให้นะ
เมื่อผมได้เห็นข้อความนั้นแล้ว ผมพอจะนึกออกเลยว่า ไอ้วิวต้องเห็นแน่ๆเรื่องเมื่อตอนเย็น เพราะหอพักพยาบาลจะอยู่หน้าหอพักนักศึกษาแพทย์ ผมก็ลืมนึกไปว่านั้นมันถิ่นไอ้วิว คืนนั้นผมนอนไม่หลับครับมันสับสน โดยที่ไม่อยากทะเลาะกับไอ้วิวและอยากได้น้องแตงมาครอบครองต่อจากไอ้ผู้ชายหน้าโง่คนนั้น เที่ยงคืนกว่าๆ น้องแตงโทรมาหาผมอีกครั้ง เธอร้องไห้เหมือนเดิม ผมเลยปลอบไปตามระเบียบ และรับฟังเธอ เกือบตี 3 ครับกว่าจะได้นอน
ตอนเช้าไอ้วิวกลับมายังคงเห็นผมนอนอยู่บนตียง มันก็ไม่ได้สนใจอะไรผมหรอกครับ ปล่อยให้ผมนอนต่อโดยไม่ปลุก 7โมงเช้านาฬิกาปลุก ผมตื่นขึ้นมาก็พบไอ้วิวนั่งเขียนอะไรอยู่ที่โต๊ะมัน ผมเลยเดินเข้าไปกอดมันทางหลัง ไอ้วิวสะดุ้งโหยง แต่ยังคงไม่สนใจผม ทำเหมือนไม่มีอะไร ผมรู้ว่ามันงอนครับ ผมเลยไม่อยากพูดมาก เลยหอมแก้มมันทีนึง แล้วเดินไปล้างหน้าแปรงฟันอาบน้ำ เสร็จธุระส่วนตัว ไอ้วิวยังคงนั่งที่โ ต๊ะ แต่คราวนี้มันนั่งมองออกไปข้างนอกเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร ผมเห็นแล้วดูมันเศร้าๆอ่ะครับ สงสารมันจับใจ ผมจึงต้องเป็นคนเริ่มที่จะถามมันก่อนว่า
เป็นอะไรเนี้ยะ นั่งทำหน้ายังกะตูดลิง
มันไม่พูดครับ ได้แต่มองตาผม ทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้เจือปนด้วยความแค้นเล็กๆ
ผมเลยจับมือมันขึ้นมาจับที่แก้มผมและถูไปมา ไอ้วิวจึงยอมพูด
เราเคยคุยกันแล้วไม่ใช่หรอ เรื่องนี้อ่ะ
ผมทำหน้าเด๋อๆกลบเกลื่อน
นายนี้ไม่เคยรักษาสัญญาเลยอ่ะ มันขึ้นเสียง คงจะยั๊วะที่ผมทำหน้ากวน
คิดมากนา พูดจบผมลูบหัวมันเบาๆ
แต่มันไม่เคลิ้มครับ มันโต้กลับ ไม่ให้คิดมากได้ไง ก็นายเล่นนอกใจทุกครั้งที่เราห่างกัน เหนื่อยนะโว้ยที่ต้องมาติดตามว่านายจะนอกใจเราเมื่อไหร่อีก
ผมพยักหน้าหยึกๆ เพราะไม่อยากทะเลาะกันตั้งแต่เช้า