Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 473
Message ID: 2
#2, RE: Hatyai Story: นักรักหน้าหยก 8
Posted by เจ้าบอสน้อย on 27-Aug-12 at 09:32 PM
In response to message #1
เย็นวันนึงหลังจากเลิกเรียน ผมลงจาก รพ.ทันตกรรมเพื่อเดินไปที่ห้องทำงานของพ่อ ผมดันเจอไอ้วิวเข้าพอดี ซึ่งตอนนั้นมันกำลังเดินพูดคุยกะน้องแตงอย่างออกรส ความร้อนจากภายในหัวใจผมมันออกมาแผดเผาใบหน้าผมจนแดงอย่างเห็นได้ชัด ผมได้แต่เดินก้มหน้าเมื่อเห็นทั้ง 2 คนเดินสวนทางผมไป และเก็บซ่อนเร้นความรู้สึกไว้ แต่ขณะที่ผมเดินก้มหน้าและเร่งฝีเท้านั้น ก็มีมือนึงมาคว้ามือผมไว้ ผมนึกทันทีว่านี้คงเป็นมือไอ้วิว ในช่วงเวลา 2วินาทีนั้นหัวใจผมพองโตอยากสุดขีด ผมรีบหันไปมองเจ้าของมือทันที
บอสมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าลูก แม่ผมพูดพลางกุมมือผมแน่นขึ้น
ไม่นี้ครับแม่ ผมหลบสายตาแม่พร้อมกับกลบเกลื่อนความผิดหวังไม่ให้แม่เห็น
แม่ว่าบอสมีอะไรจะบอกแม่นะ แม่โอบเอวผม
เออ แม่มาได้ไงเนี้ย ผมเปลี่ยนเรื่อง
อืม.......... แม่ถอนหายใจ อย่างจับพิรุธผมติดที่ผมไม่ยอมตอบคำถาม
เอาเป็นว่าถ้ามีอะไรไม่สบายใจก็เล่าให้แม่ฟังบ้างนะลูก แม่ผมพูดพลางมองลึกลงไปในหัวใจผมอย่างที่เคยทำเมื่อต้องการจะเค้นความจริงจากผม
แม่ยังไม่บอกผมเลยว่าแม่มาได้ไง ผมพยายามทำตัวให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด
อืม ก็พ่อโทรหาแม่ให้ไปหาที่ทำงานจ๊ะ แล้วบอสเรียนเสร็จแล้วหรอลูก
ครับ ผมก็จะไปที่พ่อเหมือนกัน
ขณะเดินไปหาพ่อนั้นผมเองอดสังสัยไม่ได้ว่าทำไมพ่อต้องโทรตามผมและแม่ไปที่ทำงานด้วยนะ หรือว่าพ่อรู้เรื่องที่ผมคบกับเจ้าอ้นอีกแล้ว หรือว่าพ่อและแม่สงสัยเรื่องผมกับไอ้วิวที่พักหลังนี้เราห่างๆกัน ผมเดินพลางนึกคำแก้ตัวต่างๆพลางจนบางครั้งไม่ได้ยินแม่ที่พยายามชวนผมคุยตลอด เมื่อมาถึงที่ห้องทำงานของพ่อ เลขาหน้าห้องก็บอกว่าพ่อผมเข้าประชุมกับคณบดี ยังไม่ออกมา ให้ผมและแม่นั่งรอในห้องทำงานพ่อก่อน หลังจากที่น้ำเปล่า 2 แก้วถูกวางลง แม่ผมก็เริ่มไต่ถามเรื่องการเรียนและชีวิตส่วนตัวผมอีกครั้ง แต่เมื่อฟังๆไปเหมือนแม่อยากจะทราบเรื่องผมกับไอ้วิวมากกว่า คำถามของแม่นั้นเริ่มทำให้ผมอึดอัดมากขึ้นจนผมรู้สึกรำคาญ แต่ก่อนที่อะไรจะน่าเบื่อไปมากกว่านั้น พ่อก็เข้ามาพอดี
อ่ะ หมอ พร้อมยัง ลุงชีพและป้าละม้ายคงคอยนานแล้วหล่ะ
ไปไหนอ่ะครับพ่อ ผมงง
เอ้าก็วันนี้ลุงชีพเขาโทรมาชวนพ่อไปนั่งร้านอาหารทะเลที่สงขลา เห็นบอกว่าจะเลี้ยงกันสักมื้อ
เอ้าหรอ ละม้ายไม่เห็นพูดอะไรเลยนี่ ยัยนี่ แม่ผมพูดทำหน้าเหมือนตัวร้ายในละคร
เราสามคนพ่อแม่ลูกนั่งรถไปสงขลา ระหว่างทางพ่อและแม่ต่างก็สอบถามเรื่องเรียนและเรื่องจะเปิดคลินิกอีกที่นึงให้ผมเมื่อเรียนจบ โดยพ่อให้เหตุผลว่ารายได้ดีกว่ามาอยู่โรงพยาบาล อีกอย่างสามารถเลี้ยงตัวเองและลูกเมียในอนาคตได้อย่าสบาย แต่ผมก็แย้งไปว่าผมอยากเรียนต่ออีก แต่ดูๆเหมือนท่านทั้งสองจะจับความคิดผมได้ แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา ผมเองก็มีคนตอบในใจอยู่เหมือนในเรื่องที่อยากเรียนต่อเพราะช่วงเวลานั้นจะช่วยยืดเวลาเรื่องการแต่งงานของผมออกไปได้ เมื่อจะว่ากันไปแล้วช่วงหลังๆนี้ทั้งญาติฝ่ายพ่อและแม่มักถามผมว่ามีแฟนหรือยัง จะแต่งงานเมื่อไหร่ ผมเองและพ่อแม่ก็ไม่สามารถตอบคำถามญาติได้เนื่องจากผมเองเพิ่งถูกเพื่อนหรือว่าแฟนผมเองแย่งแฟนไป เอ้อ ชีวิตผม
ที่ร้านอาหารเกาะยอ จังหวัดสงขลา มีลุงชีพ ป้าละม้าย ไอ้วิว นั่งรออยู่แล้ว ทันทีที่ผมเห็นครอบครัวไอ้วิวผมรู้สึกไม่อยากเข้าไปสู้หน้ายังไงไม่รู้
โห้ บอส ผอมลงนะลูก เรียนหนักไปหรือเปล่า ป้าละม้ายเดินเข้ามากอดผมอย่างเคย
อืม ลุงว่าบอสผอมลงนะ จากครั้งก่อนที่เจอ
ครับลุง ผมยิ้มให้ครอบครัวไอ้วิว
วิวเองก็ดูเหนื่อยๆไปนะ พ่อผมลูบหัวไอ้วิว
ก็ราวน์ดึกทุกวันเลยครับ
อืม ชีวิตหมอนะลูกเนอะ พ่อผมทำทีติดตลก
ครอบครัวเราทั้งสองนั่งกินอาหารทะเลกันและคุยกันสัพเพเหระ บ้างหัวเราะบ้างเครียดตามเรื่องราวที่หยิบมาคุยกัน แต่ส่วนใหญ่ก็หลีกไม่พ้นเรื่องการเมืองและเรื่องโรงพยาบาล ลมทะเลพัดเอาไอเย็นๆจากทะเลขึ้นมาสัมผัสตัวและเส้นผมทำให้รู้สึกเย็นสบายแต่ก็เหนอะหนะ แต่นั้นก็ไม่น่าเหนื่อยหน่ายเท่ากับเรื่องสนทนาที่ป้าละม้ายยกขึ้นมาเป็นประเด็นพร้อมกับลำไยเชื่อมที่ถูกยกมาเป็นเมนูสุดท้าย ซึ่งเรื่องนั้นก็คือเรื่องผมกับไอ้วิวที่พักหลังนั้นดูห่างเหินกันไป ซึ่งผู้ใหญ่เองนั้นคาดหวังให้เราทั้ง 2 นั้นกลับมาสนิทสนมกันเหมือนเดิม ไม่ใช่ว่าต่างคนต่างอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ใช่มาใช้ชีวิตด้วยกันตลอดเหมือนที่เป็นมา ซึ่งมันก็เกินคำว่าเพื่อน ถึงตอนนี้ผมเองก็ไม่เข้าใจแล้วจะเอายังไงกันแน่ แต่ก่อนที่ผมจะพูดแทรกขึ้นมานั้น แม่ผมก็อธิบายเสียยาวยืดโดยมีผู้ใหญ่คนอื่นพยักหน้าเห็นด้วย ซึ่งจับใจความได้ว่าเพื่อนกันต้องดูแลกัน ใส่ใจกัน พูดคุยกันในทุกๆเรื่อง ครอบครัวเราทั้ง 2 ก็สนิทสนมกันมานาน ผู้ใหญ่ทั้ง2 ก็อยากให้ลูกๆรักกันเหมือนพี่น้อง ผมกับไอ้วิวนั่งก้มหน้าเขี่ยลำไยในถ้วยไปมา รอเวลาที่ผู้ใหญ่บอกว่ากลับบ้านกันเถอะ แต่กว่าคำนั้นจะออกมานั้น คำถามจากพ่อผมก็โพลงออกมาก่อน
บอส โกรธวิวหรอลูก คำถามนี้มันตรงเกินไป ผมเองเป็นผู้ถูกถามรู้สึกรับไม่ได้
ผมเลิกคิ้วขึ้นพร้อมส่ายหน้า
อ่ะ ส่ายหน้า ก็แปลว่าไม่ พ่อผมพูดยังคงไว้ลายคนอารมณ์ดีไว้เช่นเดิม
แล้ววิวล่ะลูก
ไอ้วิวตอบพ่อผมเบา ไม่นี่ครับ
อืมเป็นอันว่าทั้ง2 คนยังคงเป็นเพื่อนกัน ไม่ได้ไม่สบายใจจากเรื่องที่ผ่านมานะ
ครับ เราทั้ง 2 ตอบพร้อมกัน
จากการเปิดใจกันทั้ง 2ครอบครัวในตอนเย็นนั้นมันทำให้ผมรู้สึกว่าโล่งอกเป็นอย่างมาก โดยไม่ทราบสาเหตุ ตอนนี้ดูเหมือนผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายจะออกมาแสดงความรับผิดชอบกับสัมพันธภาพของผมกับไอ้วิวที่เปลี่ยนไป โดยการนัดกันไปนั่งทานข้าวเย็นกัน ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่ทำให้ผมกับไอ้วิวได้มีโอกาสกลับมาพูดคุยกันอีกครั้ง อาจไม่ใช่ทันทีหลังมื้ออาหารวันนั้นแต่ก็เป็นโอกาสให้กับวันถัดไปที่โอกาสมันพร้อม
หลายวันต่อมาหลังจากที่ผมเคลียร์งานต่างๆเสร็จสิ้น ทั้งส่ง case studyต่างๆที่ได้รับมอบหมาย ผมเองจึงมีเวลาให้กับตัวเองและเข้าเรียนในบางหน่วย ซึ่งถือว่าเบากว่าปี 5 มาก ทำให้ผมมีเวลาพักผ่อนและทำอะไรที่ต้องการได้ เย็นวันเสาร์ขณะที่ผมเดินดูของในห้างนั้นผมบังเอิญพบไอ้วิวเดินกับน้องแตง ทั้ง 2 คนดูรักกันดี ภาพบาดตานั้นมันทำให้ผมไม่สามารถเดินต่อไปได้ความรู้สึกเหงามันประดังเข้ามาหาผมรอบตัว ความหวั่นไหว ไม่มั่นใจก็จู่โจมผม จนผมต้องรีบกลับบ้าน เมื่อมาถึงบ้าน ไอ้ลำดวนแมวเก่าแก่ของบ้านก็เข้ามาเคลียคลอผมอย่างเคย ผมนึกอิจฉาแมวขึ้นมาทันที
อ่ะ ไอ้นี่ มึงไม่เหงามั้งหรอ ผมจับมันมาเขย่าๆ
อะไรอ่ะบอส แม่ผมเดินมาทันได้ยิน
เปล่าๆ ครับแม่
เอ้อ ลำดวนมานี่สิ แม่ผมเรียกไอ้ลำดวนไปเล่น
คืนนั้นผมนอนที่บ้านแต่ก็นอนไม่หลับ ผมจึงขับรถออกจากบ้านตอนเที่ยงคืนกลับมาที่หอพัก เกือบตีสามผมก็ยังไม่หลับ ผมเลยโทรหาเจ้าเกมเพื่อนเก่า แต่เบอร์มันก็โทรไม่ติด ในใจก็คิดถึงเจ้าอ้นอยากให้มันกลับมา ทันทีที่ผมนึก เจ้าอ้นก็โทรมาหาผม เมื่อได้คุยกับเจ้าอ้น ได้ยินคำหวานๆจากเจ้าอ้นมันก็ทำให้ผมใจชื่นขึ้นมาหน่อย แต่หลังจากที่วางสายผมก็นอนไม่หลับอยู่ดี ผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วตัดสินใจโทรหาไอ้วิวโดยให้เหตุผลกับตนเองว่าจะโทรคุยกับมันเรื่องเมื่อวันก่อนที่พ่อแม่พาไปทานข้าวที่ริมทะเล ทันทีที่โทรศัพท์ต่อสายได้ ก็มีเสียงรับสายทันที
ฮัลโหล สวัสดีค่ะ เสียงใสนี้ไม่ใช่ใคร เธอคือน้องแตงนี้เอง ผมรู้สึกใจสั่นมือสั่นแทบอยากจะวางสายทิ้ง
แตงหรอ ผมทำสียงเรียบๆ
ค่ะ พี่บอสมีอะไรหรือเปล่าอ่ะค่ะ พอดีพี่วิวอาบน้ำอยู่ค่ะ
อาบน้ำ ผมพูดเสียงดัง เพราะในใจคิดไปถึงไหนแล้ว ทำไมต้องอาบน้ำตอนตีสาม หากไม่ใช่เพิ่งเสร็จจากกามกิจ ความฟุ้งซ่านของผมทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนแผดเผา ทั้งหวงน้องแตง ทั้งหวงไอ้วิว
ไม่มีอะไรครับ แค่นี้นะครับ ผมวางสายทันทีโดยไม่รอฟังปลายสาย
จากที่คาดไว้ว่าหลังได้คุยแล้วจะนอนหลับ กลับทำให้ผมนอนไม่หลับจนเช้าเลย ความคิดผมวนเวียนแต่เรื่องน้องแตงและไอ้วิว แหม คิดแล้วมันคับข้องใจจริงๆ
แล้ววันต่อๆมาเกือบเดือนหนึ่งคงจะได้ที่ผมไปไหนมาไหนรอบๆมหาลัยผมก็เจอแต่ไอ้วิวและน้องแตงเคียงคู่กัน เห็นแล้วผมอดคิดถึงอดีตที่ผ่านมาไม่ได้ แต่นึกอีกทีผมก็มีเจ้าอ้นนี่นา ใช่แล้ว เจ้าอ้น แฟนใหม่ของผม คิดได้อย่างงี้ผมก็รู้สึกอบอุ่นใจได้อย่างประหลาด แต่ก็สุขอยู่ได้ไม่นานผมก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับความเหงาอีกเหมือนเดิมเพราะถึงแม้จะมีเจ้าอ้นแต่มันก็ไม่ได้มาอยู่ใกล้ตัวใกล้ใจในตอนที่ผมเหงานี่นา
โลกเรามีสัณฐานเป็นทรงเกือบกลม หมุนไปตามแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์ ทำให้ฤดูต่างๆผลัดเปลี่ยนเวียนวนกันทำหน้าที่ โชคชะตาคนก็เช่นกันย่อมเปลี่ยนไป ตอนนี้ก็เกือบ7เดือนแล้วที่ผมเรียนอยู่ปี 6 ซึ่งมันก็เกือบจบแล้วเต็มที่ งานค้างๆอื่นๆก็ไม่มี หากอะไรไม่ขัดข้อง หรือเกินเหตุการณ์เหนือคาดฝันใดๆ ลูกอาจารย์หมอคนนี้ก็จะจบได้เกียรตินิยมอันดับ 1 แสงสว่างเริ่มส่อเค้าให้ผมเริ่มมีหวังขึ้นมาบ้างในด้านการเรียน ส่วนด้านชีวิตส่วนตัวก็เริ่มส่อเค้าดีขึ้นตามลำดับเพราะแม่และพ่อผมตอนนี้ก็เลิกติดตามเรื่องส่วนตัวผม ซ้ำยังหาโอกาสให้ผมได้พูดคุย หรือไปไหนมาไหนกับครอบครัวมากขึ้น ความดุและเข้มงวดของแม่ลดลง กว่าก่อนมาก อาจเพราะแม่อยากให้ผมหัดตัดสินใจเองบ้างเพราะผมก็เรียนจะจบแล้ว ส่วนเรื่องที่ผมใฝ่ฝันว่าอยากพูดคุยกับไอ้วิวอีกครั้งโดยที่ไม่คิดติดใจเรื่องที่ผ่านมานั้น มันก็เป็นจริงตามที่ผมต้องการ
เช้าวันอาทิตย์ผมรีบตื่นแต่เช้าเพื่อไปว่ายน้ำเพื่อเพิ่มมัดกล้ามเนื้อให้ร่างกายตามที่ผมทำอยู่เป็นประจำ ขณะที่ผมว่ายน้ำไปมาโดยไม่หยุดนั้นก็มีผู้หญิงคนนึงซึ่งนั่งมองผมที่ริมสระตั้งแต่ผมมา แล้วจู่ๆเธอก็เดินเข้ามารอผมที่ฝั่งตรงข้ามที่ผมจะว่ายไป เมื่อไปถึงตรงนั้น เธอก็ชวนผมคุย แต่ผมแสดงท่าทีให้เธอเห็นว่าผมไม่อยากคุยกับเธอเท่าไหร่ เพราะผมต้องการมาว่ายน้ำมากกว่ามาหาผู้หญิง เสร็จจากว่ายน้ำขณะที่ผมกำลังจะขึ้นรถกลับ เธอคนนั้นก็ยังเดินตามผมมาที่รถ จนผมต้องยอมคุยกะเธอเพื่อตัดปัญหา แล้วสิ่งที่เธอต้องการก็คืออยากรู้จักผมว่าชื่ออะไร เรียนคณะอะไร มีแฟนหรือยังอย่างที่ผมคิดไว้ไม่มีผิด ผมเสียเวลากับเธอคนนี้เกือบ 10 นาที แต่ก็เป็นนาทีทองสำหรับผมเพราะ ขณะนั้นก็มีผู้ชายผิวขาวผ่องหุ่นบางคนนึงเดินมาทางผม ซึ่งผมเองก็จำได้ดีว่านั้นคือไอ้วิว
อ่ะ ที่รัก กลับเหอะ มีอะไรให้ทำอีกเยอะ ไอ้วิวพูดกึ่งเล่นกึ่งจริงกับผมโดยที่ไม่มองหน้าผู้หญิงคนนั้น
เอ้ย ผมอุทานออกมาด้วยความแปลกใจ และดีใจปะปนระคนกันไป กับเหตุการณ์แสนบังเอิญแห่งปี
นา อีกครั้งจะเป็นไร ไอ้วิวทำหน้ากวนๆ แบบหื่นๆให้ผมแล้วหันมองหน้าผู้หญิงคนนั้น
ผมขับรถออกมาสักพักโดยมีไอ้วิว นั่งรถมาด้วย เรา 2 คน ได้แต่หันมามองหน้ากันแต่ไม่ได้พูดอะไรกัน จนเกือบถึงหอผม ผมจึงหยุดรถ แล้วทำสีหน้าเคร่งขรึมว่า
จะให้ไปส่งที่ไหน ผมรักษาสีหน้าให้ธรรมดามากที่สุด แต่ในใจมันเต้นตึกตัก เหมือนจะหลุดออกมาจากทรวงอก
ก็ที่สระว่ายน้ำนั้นแหละ เพราะเราลืมรถไว้ที่นั้น พูดจบทั้งไอ้วิวและผมหันมามาสบตากัน แล้วเราทั้ง2 ก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน ผมหัวเราะจนน้ำตาไหล ซึ่งบางหยดของน้ำตาที่ไหลออกมานั้นมันเป็นน้ำตาแห่งความสุขใจ ส่วนไอ้วิวเองก็หัวเราะจนหน้าแดงระคนความเขิลอาย
ผู้หญิงคนนั้นคือ บิว สาวน้อยฮีททีเรียใช่ม่ะ ผมพูดพลางชี้ไปที่ไอ้วิว และหัวเราะต่อสักพัก เป็นอันว่าเช้าวันนั้นหลังจากที่ไอ้วิวช่วยผมให้พ้นเงื้อมมือของสาวโรคจิตที่ชอบดูผู้ชายว่ายน้ำนั้นมาได้ ผมก็พามันไปนั่งร้านติ่มซำเพื่อเป็นการขอบคุณมัน
นี่เราเจอครั้งแรกนะเนี้ยะ แต่ได้ยินกิตติศัพท์มานานแล้วล่ะ ผมพูดพลางอมยิ้มอย่างมีความสุข แต่ไม่ได้มีความสุขเพราะได้เหยียดหยามหญิงที่มีปัญหาทางจิตหรอกนะครับ แต่มันเป็นสุขกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าผมมากกว่า
อืม เราเจอกับตัวมาแล้ว ตอนนั้นเราจำได้ดี เธอให้เราพาไปส่งที่บ้าน เชื่อม่ะบอส เธอหลอกให้เราขับรถเวียนทั้งเมืองหาดใหญ่เลย จนเราคิดว่าไม่ไหวแล้วเราเลยพาเธอไปที่สถานีตำรวจ แล้วกลับมาเล่าให้เพื่อนที่คณะฟัง โดนแซวใหญ่เลย ผมนั่งมองมันพูด พลางสังเกตทำหน้าขณะที่มันพูดบุคลิกของมันยังคงเหมือนเด็กเล่าเรื่องยามไปเจอสิ่งมหัศจรรย์ใจอย่างเคย
มองอะไร ไอ้วิวหน้าแดงเมื่อรู้ว่าผมจ้องมัน พลางค้นหาสิ่งแปลกประหลาดที่ผมมองบนใบหน้าและตามตัว
เปล่า นี่ ผมไม่ยอมรับ
.................................................
เรา 2 คนเงียบไปสักพัก แล้วผมเห็นว่าบรรยากาศยามเช้าเช่นนี้มันดีเหลือเกินอีกทั้งได้มาอยู่กับคนที่ผมอยากเจอด้วยมากที่สุด มันช่างทำให้ผมรู้สึกคึกคักได้อย่างดี นิสัยนี้เลิกไม่ได้จริงๆเรา
บอสยังอยู่ที่เดิมป่ะ ไอ้วิวถามผม
อืม ไม่ย้ายไปไหนเลย
หรอ
มีเรียนม่ะล่ะวันนี้ หรือว่าไปราวน์คนไข้ ผมถามพลางทำตากรุ่มกริ่ม
วันนี้ว่าง ไอ้วิว กระพริบตาถี่
ไปห้องเราม่ะ ผมหยั่งเชิง
ไม่อ่ะ ถ้าไปแล้วอดคิดถึงเจ้าจอมไม่ได้
อืม ผมเองรู้สึกสะเทือนใจอีกครั้งเมื่อไอ้วิวพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา
เออ หน้ามหาลัยฝั่งโน้นมีพระมารับบิณฑบาต ไปตักบาตรให้เจ้าจอมมันม่ะ ความลามกจางหายไปจากใจผม จิตอันเป็นกุศลเข้ามาแทนที่
ดีเลย ไอ้วิวลุกขึ้นทันที
เช้าวันนั้นเรา 2 คนได้ตักบาตรร่วมกัน ผมแอบอธิษฐานในใจว่าขอให้ไอ้วิวและผมได้กลับมาเป็นเพื่อนที่สนิทกันเหมือนเดิมด้วยเถิด แต่ขณะอธิษฐานนั้นใบหน้าเจ้าอ้นก็คงลอยเข้ามาทักท้วงความเป็นเจ้าของ จนผลบุญที่ผมทำคงได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย หลังจากวันแห่งความบังเอิญนั้นผ่านเข้ามา ผมกล้าโทรหาไอ้วิวมากขึ้น แม้บางครั้งน้องแตงจะเป็นคนรับสายก็ตาม ผมก็ยังกล้าขอสายไอ้วิว ตัวไอ้วิวเองแม้จะเกรงใจน้องแตงแต่ก็ยังยินดีที่จะพูดคุยกับผมแม้จะเป็นคำที่แสนรื่นหูก็ตาม นานวันเข้าผมกับไอ้วิวก็กลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมในทุกสิ่งทุกอย่าง เราไปไหนมาไหนด้วยกัน อาจมีสิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือน้องแตงเอง แต่เมื่อดูๆไปน้องแตงก็ยอมรับเรา 2 คนได้ หรือเธอคงอาจคิดว่าเรา2คนที่ผ่านมาเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ