Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 475
Message ID: 1
#1, RE: Hatyai Story: 9
Posted by เจ้าบอสน้อย on 29-Aug-12 at 05:22 PM
In response to message #0
เสียงเพลงในรถเล่นไปไม่ทันครึ่งเพลง เจ้ามดมันได้จอดรถ ตอนแรกผมเข้าใจว่าถึงบ้านแล้วจึงลืมตาขึ้น
บ้านอยู่ไหน เจ้ามดถามผม ผมอดอมยิ้มไม่ได้ในความตลกของเราสองคน
ยิ้มอะไร เจ้ามด ทำเสียงกวน
ป่าว ผมอมยิ้มต่อ
ยิ้มอารายยยยยย
ไม่ได้ยิ้ม คราวนี้ผมหัวเราะออกมา จนเจ้ามด มันใช้สองมือกระชากคอเสื้อผมทำทีเป็นหาเรื่อง
อ่ะๆๆๆ ผมหัวเราะออกมาดังกว่าเดิม
อืมได้ๆๆ ไม่ยอมบอกใช่ม่ะ
ฟอดดดดดดดดดด เจ้ามดหอมแก้มผมโดยไม่ทันตั้งตัว
เง้ยยยยยย ผมทำหน้าแปลกใจให้กับความกล้าของมัน
เราสองคนนั่งสบตากันครู่ใหญ่โดยไม่พูดอะไร แต่มือเราทั้งสองคนต่างลูบไล้บนหน้าท้องที่แข็งแกร่งของกันและกัน แต่ก่อนที่อะไรๆ จะเลยเถิดไป บนถนนที่คับคั่งไปด้วยรถ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
ของมดเอง เจ้ามดบอกผม
เจ้ามดคุยกับปลายด้วยด้วยท่าทีเป็นกังวลเหมือนกลัวผมจะเข้าใจผิด ซึ่งตอนนั้นผมก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วเหมือนกัน เพราะผมแอบได้ยินปลายสายคุยในน้ำเสียงคล้ายๆเป็นแฟนกัน
เดี๋ยวไปส่งที่คลินิกใกล้ๆ สนามกีฬาก็ได้มด ผมบอก โดยพยายามรักษาอาการให้ดูนิ่งที่สุด เจ้ามดวางสายโทรศัพท์พลางหันมาถามผมว่า
บอส มีแฟนยัง
ผมนั่งถูมือ ไม่พูดอะไร จนรถจอดที่หน้าบ้าน
เราทักทายลากันแล้วผมก็เดินเข้าบ้านไป เมื่อขึ้นถึงบนห้องผมเห็นรถเจ้ามด ยังคงจอดอยู่หน้าบ้านผม ตอนแรกก็คิดว่ามันคงธุระอะไรในรถต่อ เดี๋ยวคงไปเอง ผมเลยเข้าไปอาบน้ำ หลังจากอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน ก็อดที่ชะเง้อออกมมาดูรถเจ้ามดไม่ได้ คราวนี้รถมันหายไปแล้วครับ คืนนั้นผมคิดแต่เรื่องเจ้ามด ว่าจะเอากับมันยังไงดีนะ จะจีบต่อ หรือจะหยุดไว้แค่เพื่อน แล้วเจ้ามดมันหอมแก้มเรา หมายความว่าไง แล้วคนที่โทรมานั้นคือใคร ผมคิดวนไปเวียนมาจนหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ สัปดาห์ต่อมาผมกับเจ้ามดก็ไม่ได้ไปมาหาสู่กันหรอกครับ ได้แต่คุยโทรศัพท์กัน ซึ่งบางครั้งที่โทรไปเจ้ามดก็ไม่รับสาย ผมจึงแอบตัดใจว่า คงเป็นไปไม่ได้ คงจบแค่นี้ สัปดาห์ต่อมาจากนั้น เราสองคนก็ไม่ได้โทรคุยกันอีกเลย ผมเองก็เริ่มชินๆเฉยๆ ทำแต่งานอย่างเดียว ไม่ได้คิดอะไร
แต่จนแล้วจนรอด เย็นวันหนึ่งเจ้ามดมันโทรมาหาผม เล่นเอาผมมือไม้สั่น มันบอกว่าอยากเจอผม อยากปรึกษาเรื่องส่วนตัวหน่อย เจ้ากรรมจริงๆ ครับวันนั้นผมต้องอยู่เวรไม่สามารถไปหามันได้ เจ้ามดเองก็รับรู้ด้วยเสียงที่เศร้าสร้อย จากนั้นเจ้ามดก็ไม่โทรมาหาผมอีก ตัวผมเองก็ไม่กล้าโทรไปหามันเพราะกลัวแฟนมันรับสาย เอ้ออออออ
ท่ามกลางความกลัวๆกล้าๆ ที่จะเริ่มกับคนใหม่ ซึ่งเป็นคนเจ้าคารมและมีรอยยิ้มที่เย้ายวนอย่างเจ้ามดนั้น เจ้ากรรมนายเวรผมก็ตามทันอีกครั้ง เมื่อไอ้วิวหวนคืนมาอีกครั้ง คืนนั้นผมเข้านอนแล้วประมาณสี่ทุ่มไอ้วิวโทรมาหาผมบอกอยากคุยด้วยให้ออกมาเจอที่หอมันหน่อย ผมก็บ่ายเบี่ยงไม่อยากไปเจอมัน ด้วยเพราะเพิ่งทำใจได้ แต่ไอ้วิวก็ยังไม่เลิกความตั้งใจยังคงส่งข้อความมาหาในเชิงขอร้อง ตอนแรกผมอยากเอาหลักฐานนี้ให้น้องแตงดู แต่คิดไปคิดมา มันมีแต่เสียกับเสีย เลยเลิกคิดซะ แล้วขับรถออกไปหาไอ้วิว
ที่ห้องไอ้วิว ผมได้กลิ่นอโรมา น่าจะเป็นกลิ่นกล้วยไม้ แสงไฟที่โต๊ะเครื่องแป้งเปิดสว่างนวลตาเพียงดวงเดียว ไอ้วิว เดินนำหน้าผมเข้าไปในห้อง ผมมองจากข้างหลัง ผมเห็นผมมัน คอมัน แผ่นหลังในเสื้อกล้าม ต้นขาและขาอันขาวเนียนและแข็งแรงของมัน อดใจสั่นไม่ได้ เหมือนมีอะไรชื้นๆที่ดวงตา แต่ผมรีบปาดมันออกทันทีแล้วกลืนความรู้สึกนั้นลงไป
มีอะไรหรือเปล่า วิว ผมแกล้งทำเสียงให้มันรับรู้ว่าผมง่วงนอน
พรุ่งนี้ไปทำงานกี่โมง ไอ้วิวถามพลาง จัดข้าวของบนโซฟาให้ผมนั่ง
ไปอยู่เวรตอนสี่โมงเย็นอ่ะ
นายอ่ะ วิว
ว่าง พรุ่งนี้
อืมๆ ผมพยักหน้า
…………………เราเงียบไปสักพัก ไอ้วิวเดินไปรูดม่านหน้าต่าง แล้วหันมาบอกผมว่า คืนนี้นอนที่นี่นะ
ผมได้ยินมันพูดใจสั่นขึ้นมาอย่างจะทะลุออกมาทางอก ผมอยากจะห้ามใจตัวเองว่า ไม่ควรรับปากมัน เพราะมันมีคู่หมั้นแล้ว เราไม่ควรที่จะมาสานสัมพันธ์บ้าบอนี่อีก แต่นั้นก็สายไปเมื่อไอ้วิว เดินมานั่งคุกเข่าบนโซฟาใกล้ๆตัวผม พลางบรรจงจับแก้มผมสองข้างให้นิ่งๆ แล้วก็ใช้ริมฝีฝากมันเน้นลงบนริมฝีปากผม ผมไม่ตอบสนองมัน ผมพยายามบ่ายหน้าหนี แต่มันก็ฝืนแรงไว้ แล้วจัดการเลียริมฝีปากผม แล้วลามเลียลงมาที่คางผม มือพลางลูบไหล่ผม อาจู๋เจ้ากรรมผมเองดันตุงไปชนหน้าขาไอ้วิว ซึ่งไอ้วิวเองก็รับรู้ได้โดยปริยายว่าผมพร้อมแล้ว
บนที่นอนอันอ่อนนุ่ม ร่างกายเราสองคนต่างกระแทกกันอย่างจัง ก้นนิ่มๆของไอ้วิวกระแทกหน้าขาผมเป็นจังหวะ ความรู้สึกว่าฟิตและดูดมาก มันแทบให้ผมตัวลอยและร้องครางออกมาอย่างเกินห้ามใจ แต่ก่อนที่ผมจะถึงฝั่ง ไอ้วิวก็พยายามดึงอาจู๋ผมออก แล้วจัดการเสียบทางหลังผมกลับ
โอ้ย เจ็บนะวิว ผมร้อง
นา นิดเดียว
ไอ้วิวเอาคืนผมอย่างอดอยากมานาน ขณะที่ผมรอคอยให้ไอ้วิวเสร็จแล้วกะเอาคืนนั้น ความเสียวเกินทนมันทำให้ผมต้องเสียน้ำออกมาเปื้อนหน้าท้องผม แล้วไม่นานผมสัมผัสได้ถึงของเหลวอุ่นๆ ที่เปียกเลอะอยู่ในร่างกายผม เรานอนกอดกันครู่หนึ่ง หลังจากที่ราคะอารมณ์ได้หมดไป ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเริ่มคืนมา ผมรู้สึกแย่มาก ไม่น่าปล่อยกายปล่อยใจเลย ไอ้วิวเองหลังจากล้างตัวแล้วก็นั่งหน้ากระจกไม่ลุกไปไหน บรรยากาศในห้องอึมครึมอีกครั้ง ผมไม่ชอบแบบนี้เลยจึงยอมเดินฝ่าความอดสูนี้ ออกจากห้องไอ้วิว ในหัวตอนนั้นคิดแต่อยากกลับบ้านอย่างเดียว เมื่อลงมาถึงที่จอดรถ ผมได้ยินเสียงไอ้วิวเรียกเบาๆ แต่ผมก็แสร้งไม่ได้ยิน แล้วก็ขับรถออกไป
เสียงข้อความจากมือถือดังขึ้น ผมเปิดออกดู
“ ความรักกับหน้าที่มันต่างกัน ถ้าเข้าใจตรงนี้เราสองคนก็คงไปได้สวย “
ชิ ผมคิด หน้าที่บ้าอะไร หน้าที่ที่มึงมาทำให้กูเสียคนดิ ผมคิดขึ้นมาแล้วนึกอยากร้องไห้ออกมาให้กับความโง่ของตัวเอง เมื่อนึกทบทวนตั้งแต่ที่ไอ้วิว เข้ามา หลายครั้งที่เลิกกันแล้วคืนดีกัน จนครั้งนี้อีก ผมคิดว่าการตัดสินใจของผมครั้งนี้จะเป็นการตัดสินใจครั้งสุดท้ายว่า
ผมจะไม่มีวันรักไอ้วิวอีกต่อไป
หลายวันผ่านไป ทั้งไอ้วิว และเจ้ามด ไม่ได้ติดต่อผมเลย ใจหนึ่งก็คิดถึงแต่อีกใจก็เข็ดขยาดในความรัก อย่ามีมันเลยถ้ามันมีแล้วทุกข์ใจ แนวคิดอันนี้ผมอ่านเจอจากหนังสืออิงธรรมะเล่มหนึ่ง ซึ่งเขียนไว้ว่า คู่รักใดที่รักแล้วรู้สึกว่าร้อนรน หรือเรียกง่ายๆว่า รู้สึกสุขแบบทุกข์ๆ คู่นั้นแหละคือคู่กรรม ข้อความนี้เมื่อผมได้อ่าน มันช่างซึบซับเข้าไปในจิตส่วนลึกเสียจริงๆ ผมจึงได้แนวคิดอย่างหนึ่งว่า ต่อไปนี้ ผมคงต้อง ปรับวิธีการรัก โดย อย่าไปหวังอะไรกับมันมาก มันมาอย่างไรก็เล่นไปตามนั้น ไม่หลอกใคร และไม่ให้ใครหลอก ปลงงงงงงง
เย็นวันหยุด วันหนึ่งหลังจากที่ผมออกจากห้องอาบน้ำที่สระว่ายน้ำผมมีโอกาสได้คุยกับเด็ก ม ปลายคนหนึ่ง น้องเขาชื่อหน่อง น่ารักดี ครับ ตัวขาวๆ แน่นๆ สูงเกือบๆเท่าๆผม ตอนแรกน้องเขาก็มองผมอยู่หลายวันแล้วแต่ผมไม่ได้สนใจอะไร จนวันนี้ผมนึกอยากสนุกขึ้นมา จึงเป็นฝ่ายเดินไปเป็นฝ่ายรุกเอง ตอนแรกน้องเขาก็เขิลนะครับตามประสาเด็ก ถามอะไรไม่ยอมตอบได้แต่พยักหน้า จนผมคิดว่าคงอดแล้วมั้ง จนคำถามหนึ่งที่น้องเขาต้องตอบคือ เรียนอยู่ที่ไหน ผมถาม แต่เมื่อน้องเขาตอบ ผมต้องหมดอารมณ์เลยครับ เพราะฟังจากเสียงสาวมาก สาวจนผมรับไม่ได้ ผมเดาได้เลยว่าเด็กนี่คือเซเลอมูนที่แปลงร่างมาเป็นผู้ชาย อิๆๆ ผมเลยปล่อยน้องเขาไป ไปแอบแมนมาใหม่นะครับแล้วค่อยเจอกัน
ขณะที่ผมขับรถออกจากสระว่ายน้ำ เจ้ามดก็โทรมาหาผม ในรอบเกือบเดือนที่หายไป
ว่าง ว่าไง มด
งั้นมาเจอเราที่ร้านกาแฟหน่อยดิ
ได้ๆ อีกสิบนาทีถึงนะ ผมบอกมันแล้ววางสาย
ที่ร้านกาแฟนั้น มีแต่คนวัยทำงานมานั่ง บ้างก็มาเป็นกลุ่ม บางก็มาเป็นคู่ ผมเดินๆมองหาหนุ่มหน้าขาว หัวสกินเฮด มองไปซ้ายที ขวาที ไม่นาก็เจอ
มานานยัง ผมตบไหล่มัน เชิงบอกให้รู้ว่า กูมาในรูปแบบเพื่อนนะโว้ย
สักพักๆ มันตอบ
ไง หายหัวไปเลย ผมถาม
เจ้ามดมันเล่าให้ผมฟังว่า ที่มันหายไปนั้น มันไปงานแต่งแฟนเก่ามันที่แต่งงานที่กรุงเทพ เรื่องราวความรักของเจ้ามดที่มันเจอมานั้นคล้ายกับเรื่องที่เกิดกับผมมาก อาจต่างกันที่คนที่มาแย่งแฟนมันนั้น ไม่ได้เป็นคู่เกย์มัน แต่เป็นเพื่อนสมัยเรียนที่ กรุงเทพ ทีนี้เมื่อผมได้ฟังเรื่องเจ้ามดทั้งหมด ผมเลยรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาลึกๆ อาจเพราะไม่ใช่เราคนเดียวแล้วที่เจอเรื่องแบบนี้ และที่สำคัญตอนนี้เจ้ามดมันโสด ครับ
เมื่อเจ้ามดเล่าจบผมอยากจะแชร์เรื่องชีวิตส่วนตัวกับมันบ้าง แต่คิดอีกที อย่าเลยดีกว่า เดี๋ยวเจ้ามดจะระหองระแหงใจ แทนที่จะได้เป็นแฟนกัน อาจอดก็ได้ คิดได้ดังนี้แล้วผมเลย อุบไว้ก่อน เรานั่งคุยกัน จนเกือบห้าทุ่มจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน
หลังจากนั้น เจ้ามดก็โทรมาหาผมทุกวัน จนพักหลังผมเริ่มชินที่จะเอามือถืออกมาดูเมื่อมันไม่โทรมา ตามเวลาที่เคยโทร เมื่อโทรไปมันก็รับสาย ทุกครั้ง บางครั้งก็ให้เหตุผลว่าตอนนั้นรับลูกค้าอยู่ ผมก็เข้าใจมัน วัยทำงานนั้น อาจมีเรื่องอื่นที่ด่วนกว่าเรื่องส่วนตัวเสมอ ใครที่มีแฟนในวัยทำงานก็อาจเข้าใจดีนะครับ
เราสองคนสนิทกันมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ความผูกพันกับเจ้ามดมันแนบแน่นและลึกซึ้งเสียเหลือเกิน เราคบกันมาจนรู้ใจกันเกือบทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องกินที่เจ้ามดชอบอาหารญี่ปุ่น เรื่องเจ้ามดแพ้ยา amoxy เจ้ามดชอบนอนกรนและละเมอบ่อยๆ แต่เราสองคนก็ไม่เคยที่จะมีเซ็กส์กันสักครั้ง ไม่รู้ทำไม ถามว่าในใจผมคิดมั๊ยก็คิดนะครับ อยากจะชวนมัน แต่ใจหนึ่งก็ไม่กล้า ไม่รู้เพราะอะไร เหมือนกัน หรืออาจเพราะผมไม่รู้ว่าเจ้ามดมันชอบแบบไหนมั้ง หรือเราโตเลยจุดนั้นมาแล้ว ไม่รู้สิ
ช่วงสิ้นปี ผมหยุดยาวที่บ้านผมตั้งใจจะไปเที่ยวภาคเหนือกัน แต่แล้ว ก็ต้องยกเลิกแผนเพราะ พ่อกับแม่ต้องไปร่วมงานแต่งของญาติที่ชุมพร ผมขี้เกียจนั่งรถไปด้วยจึงขออยู่เฝ้าบ้าน ในค่ำคืนของวันใกล้สิ้นปี ที่หาดใหญ่อากาศจะค่อนข้างโปร่งเย็นสบาย แสงไฟที่ประดับประดาในเมืองก็ดูแล้วละลานตาดีครับ ผมเลยชวนเจ้ามดไปเดินชมงานโคมไฟนานาชาติ ที่สวนสาธารณะเมืองหาดใหญ่ โคมไฟที่จัดไปนั้นมีหลากหลายมากเลยครับ ทั้งรูปสัตว์ ดอกไม้ ผลไม้ เราเดินกันทั่ว แล้วจึงหยุดนั่งคุยกันใกล้ๆ โคมไฟรูปสิงโต
เหนื่อยแล้วสิ หัวล้าน ผมล้อเจ้ามด
เจ้ามดหันมามองผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
มันเหนื่อยๆ ผมพูดเสียงเนื่อยๆ พลางยิ้มเย้ย
อึดเฟ้ย เจ้ามด ทุบหน้าอก
จิงอ่ะ
จิงดิ เจ้ามดตอบทันที
งั้นเดินต่อ ผมบอก
เดี๋ยว เมื่อยขา เจ้ามดพูดพลางบีบนวดน่องอันแข็งแกร่งของมัน
อ่ะๆๆๆ ผมหัวเราะเสียงดัง
เจ้ามดตบกะโหลกผมแล้วลุกเดินนำหน้าไปที่รถ ผมวิ่งตามมันไป พลางทำสีหน้าล้อเลียนมัน ผู้คนที่เพิ่งมาเดินสวนเราเข้าไปในงาน เสียงเพลงดังแข่งกับเสียงจอแจของคนที่มาเดินในงาน ดูแล้วรื่นรมย์ดี ในรถเจ้ามดมองหน้าผม ผมสบตามันเป็นเชิงคำถาม
ไม่มีอะไร เจ้ามดตอบ แล้วมันก็ออกรถ
ไปไหน ผมถามมัน
ไปลีลารีสอร์ท
ที่อำเภอเทพา เนี๊ยะนะ
อืม เจ้ามดพยักหน้ารับ
จะบ้าหรอ นี่มันสองทุ่มแล้วนะ
ก็นั้นไงเลยพาไป
กินข้าวก่อน ถ้าจะไป ผมตามใจมัน
ซื้อที่เซเว่น แล้วเอาไปกินที่โน้น
ในเซเว่นเจ้ามดหยิบทั้งโค้ก เบียร์ ขนม ข้าวอีซี่โก และที่ผมอดแปลกใจคือถุงยาง ผมมองหน้ามันด้วยความสงสัยแต่ใจในก็แอบรู้ว่าซื้อทำไม แต่อารมณ์อยากให้มันเขิล เลยแกล้งถามมัน แต่กลับได้หน้าตากวนส้นตีนกลับมาแทน
เออ ๆๆๆ มันกวนตีนๆ ผมพูดทำเสียงแบบนักเลง พลางเดินตามมันออกมาก
ที่ลีลารีสอร์ท อากาศดีมาก เสียงคลื่นทะเล ซัดมาหาฝั่งเบาๆ เราเลือกห้องที่ใกล้ทะเลที่สุด เพื่อนอนฟังเสียงคลื่นกัน รีสอร์ทข้างๆเรามีกลุ่มคนมาพักกันเกือบยี่สิบคน จึงไม่ค่อยเหงาเท่าไหร่ เราสองคนถอดเสื้อออกแล้วเดินลงไปเล่นน้ำทะเลกัน เจ้ามดเดินลงไปในทะเล ใช้อกมันโต้กับคลื่นที่ซัดมาอย่างจัง จนมันหงายหลัง ผมยืนที่ฝั่ง หัวเราะมันจนท้องแข็ง เจ้ามดขึ้นมาที่ฝั่งเพื่อจะมาบีบคอแก้แค้นผม แต่ก่อนที่เราจะฟัดกันไปมา ในตอนนั้น ก็มีเด็กน้อยสองคนลงมาเล่นน้ำด้วย เราเลยหยุดพฤติกรรมที่ เด็กๆอาจดูเป็นเยี่ยงอย่างไม่ได้ อิๆๆ เดี๋ยวเด็กจะงง
เอ้ย คันๆๆๆ เจ้ามด เกาตัวจนแดง หลังเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำ ผมนอนดูทีวีอยู่ก็บอกมันว่ารู้ว่าแพ้ง่ายแล้ว ยังจะลงทะเลอีก
กินเบียร์ม่ะ จะได้หาย ผมยื่นให้มัน พลันเห็นเจ้ามดเอาผ้าเช็ดตัวสีร่องตูดมัน ผมเห็นแผ่นหลังที่ขาวเนียน มีรอยผื่นคันบางจุด แก้มก้นขาวเนียน ที่มีรอยเกาเป็นนิ้วๆ ไรขนที่ร่องก้นถูกสีกับผ้าขนหนูไปมา