Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 485
Message ID: 18
#18, RE: เรื่องสั้นแนวลึกลับ อีโรติก อินดี้ (เยอะไปมั้ย) ครับบบ
Posted by อิ๊ก on 20-Oct-12 at 10:29 PM
In response to message #17
หมอกขาวยังคงลอยอบอวลอยู่ในอากาศ ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้ใส่ใจมันเท่าไรนัก แต่ขณะที่นั่งอยู่นิ่งๆ อย่างนี้ผมเห็นว่ามันมีลักษณะที่ดูประหลาด ผมไม่รู้หรอกว่าหมอกจะเป็นอย่างนี้ทุกที่ ทุกเวลาหรือไม่ แต่หมอกขาวที่ล้อมรอบพวกเราอยู่ในเวลานี้หากมองให้ดีจะเห็นว่ามันมีริ้วลายคล้ายๆ รอยยับบนผืนผ้า หมอกเคลื่อนตัวไปรอบๆ เหมือนใครถือผ้าสีขาวแล้ววิ่งวนรอบพวกเรา บางครั้งก็วนไปทางซ้าย บางครั้งก็ย้ายไปวนทางขวา บางทีก็กระจุกตัวหนาแน่นอยู่นอกวงของพวกเรา คอยสังเกตการณ์อยู่ใกล้ๆ บางทีก็เข้ามาปะทะ วิ่งผ่ากลางวง และในบางขณะผมเห็นเหมือนมีใบหน้าของคนปะปนอยู่ในสายหมอกนั้นที่หันมาปรายตามองผมเมื่อเคลื่อนผ่านไป
.
ผู้หมู่คมสันลุกขึ้นยืนแล้วบอกว่า
.
“เราเดินทางกันต่อเถอะ พรุ่งนี้ผมจะปรึกษากับผู้กองเพื่อจัดชุดออกตามหาพวกเราทุกคน” ต้าเงยหน้ามองผู้พูด สีหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ เขาลุกขึ้นเดินเข้าไปหาผู้หมู่ใกล้ๆ ก่อนเอ่ยกับเขาด้วยเสียงแผ่วเบา แต่ผมนั่งอยู่ไม่ได้ไกลและในป่าเวลานั้นก็ไม่มีเสียงใดๆ อีก แม้แต่เสียงลม ผมจึงได้ยินสิ่งที่ต้าพูดชัดเจน
.
“พี่รู้ใช่มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น” พี่คมมองหน้าต้า หัวคิ้วขมวดเป็นปม
.
“ผมก็รู้เท่าๆ กับพวกคุณนั่นแหละ... ไปเถอะ... ไปกันได้แล้ว” พี่คมหันหลังทำท่าจะเดิน แต่ต้าคว้าแขนเขาเอาไว้ พี่คมหันมาจ้องต้าเขม็ง ก่อนเอ่ยเสียงเข้ม
.
“ระวังตัวหน่อยนะ พลทหาร” น้ำเสียงและท่าทางเอาจริงของพี่คมทำให้ต้าคลายมือที่เกาะกุมอยู่ออกโดยอัตโนมัติ และได้แค่เดินกลับไปหยิบสัมภาระของตนเอง พวกเราที่เหลือทำตามโดยไม่มีใครปริปากอะไร ยกเว้นแก้วที่ชะโงกหน้าเข้ามากระซิบข้างหูผม
.
“มึงรู้ใช่มั้ยว่าถ้าเจอผีกองกอย มึงต้องแกล้งตาย”
.
“...”


    พี่คมเดินนำหน้าเหมือนเคย และในขณะที่ออกเดินมาได้ไม่ไกลนักผมก็มองเห็นใบหน้าในสายหมอกขาวนั้นปรายหางตามองผมอย่างเอือมระอา ก่อนจะแสยะปากด้วยความดูแคลนและค้อนหน้าหนีไป จู่ๆ หมอกก็จางลงไปรวดเร็วเสียอย่างนั้นและพาเอาไฟนีออนสว่างไสวไปด้วย พวกเราหยุดฝีเท้าลงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายเพราะสายตาไม่ชินกับความมืดมิดโดยรอบเสียแล้ว
.
พี่คมที่อยู่หน้าแถวอยู่ห่างจากผมที่เดินรั้งท้ายออกไปค่อนข้างไกล ด้วยดวงตาที่พร่าเลือน ผมมองเห็นไม่ถนัดนักว่าสิ่งที่อยู่ข้างหน้าพี่คมคืออะไร ในความมืด ผมเห็นร่างเล็กๆ ที่ดูเหมือนหญิงสาว หรือไม่ก็คนแก่หง่อมชรายืนประจันหน้าพี่คมอยู่ อากาศโดยรอบหยุดเคลื่อนไหว เมื่อพวกเราหยุดฝีเท้า เสียงในป่าก็เงียบลงโดยสนิท ไม่มีการเคลื่อนไหว แม้แต่ชายหมอกสีขาวที่เคลื่อนคล้อยจากไปก็ยังหยุดชะงักอยู่ตรงจุดที่ไกลๆ ที่ขอบสายตา
.
ความที่หมู่ของเราเดินเรียงกันเป็นแถวตอนลึก ในเวลานี้ผมจึงสามารถเห็นร่างนั้นเฉพาะในส่วนที่พ้นจากการกำบังของร่างกายพี่คมและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างหน้าผมเท่านั้น ผมพยายามจะเอี้ยวตัวเพื่อให้มองเห็นชัดเจนขึ้นแต่กลับขยับตัวไม่ได้ ผมเพิ่งรู้ตัวเดี๋ยวนี้เองว่า ไม่ว่าจะเป็นเท้า ขา แขน หรือหัวของผมก็ถูกสต๊าฟให้หยุดนิ่งไว้ ผมไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้เลย
.
และในภวังค์อันแสนอึดอัดนั้น ร่างนั้นก็เปล่งเสียงหัวเราะขึ้น
.
“ฮิๆๆ”
.
เสียงนี้คล้ายๆ กับเสียงที่ผมได้ยินเมื่อสักชั่วโมงหนึ่งที่แล้ว แต่ก็ไม่ใคร่แน่ใจนัก ผมเห็นมันยกแขนขึ้นเหมือนจะชี้มาที่พี่คม หรือจะผายมือเชื้อเชิญ ผมก็ไม่ทราบ
.
ร่างนั้นหันหลังกลับและออกเดินไป พี่คมสาวเท้าก้าวตามร่างนั้นไปอย่างเชื่องช้า
.
ผมไม่เห็นสีหน้าของต้า แต่เขาได้แต่เพียงยืนนิ่งเฉยๆ... ทุกคนได้แต่ยืนนิ่งเฉยๆ... คงเป็นเพราะไม่มีใครสามารถขยับตัวได้ละมัง พวกเรายืนนิ่งดูพี่คมเดินตามร่างนั้นลึกเข้าไปในป่า ฝ่าม่านหมอกขาวที่กระจุกตัวอยู่ไกลๆ และด้วยความที่ไม่สามารถขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้เหมือนคนเป็นอัมพาต ในเวลานี้ผมจึงรู้สึกอึดอัดและทรมาน แต่ละก้าวของพี่คมช่างเชื่องช้าชั่วกัปชั่วกัลป์ ก้าวซ้ายที ขวาที พาตัวเองเคลื่อนเข้าหาความมืดมิดเบื้องหน้าอย่างช้าๆ แต่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ผมสงสัยว่าพี่คมจะรู้สึกกลัวบ้างหรือเปล่า