Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 485
Message ID: 26
#26, RE: เรื่องสั้นแนวลึกลับ อีโรติก อินดี้ (เยอะไปมั้ย) ครับบบ
Posted by อิ๊ก on 21-Oct-12 at 01:06 PM
In response to message #25
นั่นคือครั้งแรกของเราสามคนเมื่อสองเดือนกว่าๆ มาแล้วก่อนจะมีครั้งต่อๆ มา แต่ราวหนึ่งเดือนที่แล้วพลอยถูกองฮูงห้ามไม่ให้มาหาผมอีก ผมจึงมีอะไรกับเสือเพียงแค่สองคน น่าแปลกที่ผมไม่ได้ร้อนใจนักเพราะระหว่างแฝดสองคนนี้ ผมรู้สึกรักแฝดน้องมากกว่าเสียแล้ว และเราสองคนก็กลายเป็นแฟนกันจริงจังโดยที่คนอื่นไม่รู้... อาจจะยกเว้นพลอยเพียงคนเดียว ผมแค่รู้สึกว่า อย่างน้อยผมเองก็ยังโชคดีที่องฮูงไม่ได้ห้ามให้เสือน้อยมาเจอผมด้วย ไม่อย่างนั้นผมคงจะเลิกเป็นทหารไปแล้ว

เสือถอดรองเท้าและถุงเท้าให้ผม จากนั้นถอดเสื้อและกางเกงของผมออกด้วย ผมจึงนั่งเนื้อตัวเปล่าเปลือยต่อหน้าเขา ทันทีที่อวัยวะของผมสัมผัสกับอากาศเย็น มันกลับแข็งตัวอวบใหญ่ขึ้นครึ่งๆ กลางๆ เสือถอดกางเกงผมออกจากข้อเท้าและยกมันขึ้นพาดไว้บนตั่ง

ในจังหวะนั้น กระเป๋าสตางค์ของผมก็หล่นออกจากกางเกง ดอกกุหลาบขาวที่เสือให้ผมไว้กระเด็นหลุดออกมาข้างนอก เมื่อเสือก้มลงไปเห็น เขากลับกระโดดถอยหนี หน้าตาบิดเบี้ยวด้วยความเกลียดชัง ในเวลานั้นเองที่ผมเพิ่งตระหนักอย่างแท้จริงเป็นครั้งแรกว่า ผมเข้ามาอยู่ในถ้ำอับทึบ ชื้นเย็น...ตั่งเตียงสี่เหลี่ยมที่ผมนั่งอยู่ก็เป็นเพียงปุ่มหินธรรมดาๆ...

ที่เบื้องหน้าผม เสือที่หน้าตาบิดเบี้ยวกำลังยืนด้วยขาขวาเพียงข้างเดียว...

ในวินาทีนั้นผมก็ตระหนักได้ด้วยตัวเองอย่างกระจ่างชัด...


ผีกองกอยหน้าตาเป็นอย่างนี้นี่เอง...

ผมหยิบกุหลาบขาวขึ้นและค่อยๆ ยื่นให้เด็กชายเบื้องหน้าอย่างระแวดระวัง เขากระเถิบตัวหนีทำหน้าตาบูดเบี้ยว อวัยวะส่วนกลางลำตัวของเด็กชายวัยรุ่นที่แกว่งไกวเมื่อครู่หดหายไปจนกลายเป็นร่องผ่าด้านหน้าของผู้หญิง... ขาข้างซ้ายที่ยกขึ้นค่อยๆ กลืนไปกับขาข้างขวาจนเหลือเพียงแค่ข้างเดียว เท้าเล็กๆ ของขาข้างเดียวนั้นมีนิ้วเท้าเพียงนิ้วเดียว ผิวขาวเหลืองอมชมพูเลือดฝาดกลายเป็นผิวขาวซีด ผมเผ้ายาวพะรุงพะรังและหน้าตาอัปลักษณ์ เสียงที่เปล่งออกมาจากลำคอแหลมเล็ก แต่ยังคงพยายามจะทำให้ผมเชื่อว่ามันคือเสือ

“ไม่เอา... อ้าก๋อ ทิ้งไป”

หากผมไม่เคยได้ยินมาก่อนว่า ผีกองกอยมีแรงมหาศาลและชอบหักคอมนุษย์กินผมก็คงจะขำออก ผมเหลือบมองประตูถ้ำที่อยู่ห่างออกไปทางด้านขวา จากนั้นโยนกุหลาบขาวใส่ผีกองกอยที่กรีดร้องโวยวายและกระโดดหลบพัลวัน ผมได้ยินเสียงล้มตึงแต่ไม่ได้หันไปดูเพราะตอนนี้ผมกำลังวิ่งสู่ทางออกสุดชีวิต

ผมวิ่งเตลิดเปิดเปิงไปในป่าไม่รู้เหนือรู้ใต้ เนื้อตัวเปล่าเปลือย ใจเต้นระรัวตึกตักขณะที่จนปัญญาด้วยไม่รู้ทิศรู้ทาง และไม่รู้ว่าจะวิ่งไปที่ใด ได้แต่วิ่งหนีเรื่อยไปท่ามกลางความมืดมิด ด้านหลังของผมมีเสียง ตุบ... ตุบ... ไล่ตามมา ผมไม่เสียเวลาหันไปดูก็สามารถนึกภาพผีอัปลักษณ์ที่กระโดดเกงกอยด้วยขาอันทรงพลังตามผมมาได้อย่างชัดเจน

“อ้าก๋อ... หยุด... อ้าก๋อ... หยุด” เสียงเล็กแหลมนั่นยังแสร้งว่าตัวเองคือคนรักของผม “ถ้าอ้าก๋อไม่หยุด เหยียวจะหักคอกินนะ” เสียงนั้นตะโกนไล่หลังมาไกลๆ จนกระทั่งผมสะดุดล้มจนกลิ้งคะมำ

ผมพยายามจะลุกขึ้นให้เร็วที่สุด แต่เมื่อหันกลับไปทางด้านหลังผมก็เห็นรำไรว่าสิ่งที่ผมสะดุดเมื่อครู่นี้คือร่างของคนในชุดทหาร แต่ร่างนั้นไม่มีหัว ผมตกใจและหันหน้าหนี พยายามจะลุกขึ้นอีกครั้ง แต่มือก็ยันเข้ากับศีรษะมนุษย์ที่กลิ้งโค่โล่อยู่ เมื่อผมก้มลงไปดูก็สบกับตาไร้แววของนายน์ที่เบิกโพลงอยู่ ดวงตาคู่นั้นจ้องมองไปบนท้องฟ้า

สองขาของผมอ่อนแรง สั่นเทาจนยืนไม่ได้ ในขณะที่เสียงตุบ ตุบ นั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ผมรู้สึกเวทนานายน์ และยังเวทนาตนเองที่คงจะมีสภาพเหมือนเพื่อนในไม่ช้า... จู่ๆ เสียงของแก้วก็แว่วเข้ามาในหัวผม

มึงรู้ใช่มั้ยว่าถ้าเจอผีกองกอย มึงต้องแกล้งตาย 

ขณะที่พุ่มไม้ที่ปลายสายตาของผมสั่นไหว ผมก็ล้มตัวลงนอนคว่ำแน่นิ่งไปกับพื้นดินชื้นแฉะนั้น