Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 501
Message ID: 144
#144, RE: นิยาย บทเรียนหนุ่มหล่อ พ่อรวย ควยใหญ่
Posted by มดแดง on 17-Mar-13 at 02:58 PM
In response to message #143
ความคิดของมันหยุดนิ่งลงในขณะที่มันจับเชือกกั้นสังเวียนแล้วกระโดดขึ้นไปอยู่บนเวทีด้วยท่วงท่าที่สง่างาม……………….ตามด้วยร่างของไอ้วัฒน์และไอ้เก่งลูกสมุนทั้งสองที่โหนตัวขึ้นเวทีตามมาติดๆ

ไอ้ชัยกวาดตาไปรอบๆ เวทีก่อนกำมือและชูขึ้นเหนือหัวอย่างลำพอง....เป็นการตอบรับเสียงโห่ร้องที่ดังขึ้นจากทุกทิศปานฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย............

มันรู้สึกถึงการเต้นรัวของหัวใจเมื่อมันเห็นเด็กหนุ่มที่มันเฝ้าใฝ่ฝันถึงตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา.....ยืนพิงเกาะเชือกเวทีอยู่ โดยมีเพียงกางเกงในสีขาวไฮคัทเปียกน้ำบางเบาห่อหุ้มสัดส่วนสำคัญอยู่เท่านั้น.............

ดวงหน้าของเด็กหนุ่มยังหล่อเหลาน่ามองอย่างไม่เสื่อมคลาย.....แต่สายตาคมกร้าวเคยที่มองตอบกลับมา...ในวันนี้...กลับดูอ่อนล้าและไร้ชีวิตชีวาจนน่าใจหาย.......หรืออาจเป็นเพราะเด็กหนุ่มปลงตกกับสิ่งที่เกิดขึ้นและไม่ดิ้นรนขัดขืนใดๆ แล้ว....อย่างน้อยอาจยอมรับว่า ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นลูกผู้ชายของมันได้จบหมดสิ้นแล้วตั้งแต่ค่ำคืนแห่งความฝันร้ายนั้น....ถ้าหากจะมีวันนี้อีก....ก็คงจะไม่แปลกอะไร

ในที่สุด สายตาของคนทั้งสองก็สบกันและหยุดนิ่งอยู่เนิ่นนาน.............ความรู้สึกของไอ้ริวจะเป็นอย่างไรไม่มีใครทราบแน่ ทว่าสำหรับไอ้ชัยแล้ว...ราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุนไปชั่วขณะ....เหลือเพียงมันกับเด็กหนุ่มเท่านั้นที่เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่มีลมหายใจบนสังเวียนชีวิตแห่งนี้

ใบหน้าหมดจดและเรือนกายที่เปลือยเปล่าเกือบหมดจดของเด็กหนุ่มที่กำลังเติบโตและก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ลอยเด่นอยู่เบื้องหน้า....ทำให้ไอ้ชัยถึงกับกลั้นหายใจเมื่อรู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผ่ซ่านลงไปยังต้นขาอย่างรวดเร็ว !

เป็นอย่างที่มันคิด.....เจ้าหนอนหัวแดงตาเดียวตัวอวบชูคอผงาดดันผ้าคลุมขึ้นมาจนดูโป่งพองอย่างเห็นได้ชัด
มันถอนหายใจเฮือก.....ดูเหมือนความอดกลั้นของมันจะสิ้นสุดลงเมื่อเห็นภาพปลุกเร้าอารมณ์เบื้องหน้า........เอาละวะ ! ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว....อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด !

มันตัดสินใจกระชากเสื้อคลุมตัวที่เป็นอาภรณ์ชิ้นเดียวบนตัวมันออกจากร่างที่เปลือยเปล่าราวทารกแรกเกิด ซึ่งเรียกเสียงฮืฮฮาได้ทั่วโรงยิมที่กว้างใหญ่

“พรึบ........ “

เพียงพริบตา.....ผ้าคลุมก็ลงไปกองอยู่แทบเท้ามันพร้อมๆ กับร่างกายกำยำบึกบึนก็เผยให้ทุกคนได้เห็นอย่างหมดจดหมดเปลือกราวกับจะแข่งขันกับศิริมงคล สิงห์วังชา นักมวยหนุ่มหน้าหยกที่ถ่าย นู๊ดลงหนังสือเกย์เมื่อหลายปีก่อนทีเดียว

มันยืนท้าวสะเอวอย่างมั่นใจในหุ่นหนาล่ำที่ผิวหนังชะโลมไปด้วยน้ำมันมวยเป็นมันเลื่อมดูงามสง่าราวกับรูปปั้นสลักวีรบุรุษกรีกโรมันในโลกยุคโบราณ

ส่วนไอ้วัฒน์และไอ้เก่งก็สะบัดผ้าคลุมออกจากตัวเช่นเดียวกัน......ตอนนี้ จึงมีร่างชีเปลือยทั้งสามคนยืนตระหง่านอยู่บนเวทีมวยท่ามกลางแสงสปอร์ตไลท์ที่สาดส่องลงมา

จนบัดนี้...ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบรับจากคนที่เป็นศูนย์รวมความสนใจของทุกคนบนเวที ซึ่งยังคงจ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้างหน้าด้วยดวงตาที่เฉยเมย

โดยไม่รอสัญญาณใดๆ จากลูกพี่....ไอ้เก่งเดินหน้าเข้าหาไอ้ริวทันทีอย่างลำพองใจระคนประมาท

การที่พยัคฆ์ร้ายดูเงียบสงบก็ไม่ได้หมายความว่า...จะไม่มีพิษสงและยอมศิโรราบต่อศัตรูคู่อริที่รายล้อมอยู่….และเป็นสิ่งที่ไอ้เก่งจะได้รับบทเรียนเป็นคนแรก

ไอ้เก่งตั้งท่าก่อนจะเสยหมัดแรกเข้าที่หน้าท้องไอ้ริวทันที !

แต่มันกลับเป็นฝ่ายแปลกใจ....เมื่อหมัดแรกที่พุ่งออกไปพบแต่ความว่างเปล่า......................

“ เฮ้ย..... อะไรวะ ! “

ก่อนที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร......มันก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ปลายคางก่อนจะสั่นสะท้านไปทั้งร่างด้วยน้ำหนักหมัดที่ทะลวงเข้ามาจากข้างล่าง..........

ภาพที่มันไม่ทันได้มอง (หรือมองไม่ทัน) ตอนที่พุ่งเข้ามาหาเป้าหมายคือ ไอ้ริวย่อตัวลงกับพื้นก่อนที่จะเสยหมัดขวาตรงอันทรงพลังเข้าที่คางของผู้บุกรุกอย่างแม่นยำชนิดจับวาง

สายไปเสียแล้วที่จะแก้ข้อผิดพลาดใดๆอีก......ไอ้เก่งรู้สึกได้ถึงกลิ่นขมคาวของเลือดสดๆ จากฟันลายซี่ที่หลุดจากเหงือกจากแรงกระแทกที่หนักหน่วง

ฝูงชนรายรอบส่งเสียงกรีดร้องอย่างสยดสยองเมื่อเห็นฟันบางซี่หลุดร่วงจากปากมันพร้อมๆกับเลือดข้นสีแดงเข้มไหลทะลักจากอุ้งปาก ร่างของมันเซถลาเหมือนนกปีกหัก......แค่บาดเจ็บหนัก แต่ยังไม่โดนเผด็จศึก

และไอ้ริวก็ไม่ปล่อยให้โอกาสทองพลาดไป.......มันลุกขึ้นด้วยความว่องไวแล้วสาวเท้าไปข้างหน้าเพื่อส่งหมัดตรงซ้ำเข้าที่ใบหน้าที่เปรอะเลือดอย่างจังๆ

“ พลั่ก.....”

ไม่มีเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดใดๆ หลุดรอดมาจากปากไอ้เก่ง ซึ่งบัดนี้ ยืนโงนเงนราวกับต้นไม้ใหญ่ต้องพายุก่อนที่จะหักโค่นลง...........................

ใบหน้าของมันบิดเบี้ยวเหยเกเหมือนตัวตลกถือลูกโป่งตามสวนสนุก.......ร่างมันสั่นกระตุกอย่างแรงครั้งสุดท้ายและล้มครืนนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นเวที................

เป็นครั้งแรกที่ไอ้ชัยมองเข้าไปในดวงตาแดงก่ำของเด็กหนุ่มแล้วตระหนักว่า ความรู้สึกของสุนัขจนตรอกเป็นอย่างไร……………และเป็นอีกครั้งที่ทั่วทั้งสนามตกอยู่ในความเงียบสงัดด้วยฝีมือมวยอันฉกาจฉกรรจ์ของไอ้ริว

หัวโจกกลุ่มพยัคฆ์คำรามถึงกับนิ่งอึ้งกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน......มันไม่เคยคิดเลยว่า ไอ้วัฒน์ ลูกน้องคนสนิทจะพบกับชะตากรรมที่น่าเวทนาขนาดนี้....แถมไม่ใช่จากฝีมือของยอดนักมวย ต่างถิ่น แต่กลับมาจากน้ำมือของนักมวยสมัครเล่นที่เพิ่งมาฝึกที่ค่ายไม่กี่เพลา

ช่างน่าทึ่งเสียเหลือเกิน....นี่ถ้าไม่ใช่พรสวรรค์แล้ว..ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไร........

มันนึกเสียดายที่มาเจอกับไอ้ริวในสภาพเช่นนี้ หากเป็นสถานการณ์ปกติแล้วละก้อ.....คนมีฝีมืออย่างไอ้ริวคงจะปลุกปั้นให้เป็นนักมวยดาวรุ่งคนใหม่ของค่ายได้ไม่ยาก....ดีไม่ดี....อาจเกินหน้ามันไปด้วยซ้ำ

มันหันรีหันขวางมองไปรอบๆ ก็พบว่า.....มีคนเข้ามาลากร่างกายอันบอบช้ำของไอ้เก่งลงไปจากเวที ส่วนไอ้วัฒน์ก็กำลังยืนหน้าซีดอยู่เพราะตัวมันมีฝีไม้ลายมือด้อยกว่าไอ้เก่งที่เพิ่งถูกไอ้ริวโค่นลงไปด้วยซ้ำ มันเหลือบตามองลูกพี่แบบขลาดๆ แต่ด้วยทิฐิมานะที่ยังหลงเหลืออยู่ทำให้มันยังคงยืนบักหลักเตรียมพร้อมที่จะสู้อยู่บนเวที

เห็นสภาพแบบนี้…..ไอ้ชัยถึงกับส่ายหน้ากับความใจเสาะของลูกน้องตัวเองแถมยังโง่พอที่จะแสดงออกมาให้คู่อริเห็นชัดๆ อีกด้วย

ถ้าเป็นอีหรอบนี้....ไม่ต้องสู้ก็พ่ายแพ้ด้านจิตวิทยาแบบยับเยินแล้ว

นี่....คงต้องเป็นตัวมันที่ลงมือเองแล้วสินะ เพราะหวังพึ่งใครไม่ได้เลยจริงๆ แต่ก็ดี...กูลุยเดี่ยวคนเดียว..กูก็ได้สิทธิในการครอบครองตัวเด็กหนุ่มคนเดียว.........ไม่ต้องไปแย่งหรือแบ่งบันกับใคร !
เพราะความคิดนี้ที่วูบเข้ามาในสมอง...ทำให้รอยยิ้มลึกลับปรากฏที่ริมฝีปากมัน

จริงอยู่ที่ว่าฝีมือและชั้นเชิงมวยของไอ้ริวจัดอยู่ในขั้นที่นับว่ายอดเยี่ยม โดยเฉพาะหากนับจากชั่วโมงบินที่ค่อนข้างสั้น......เด็กหนุ่มอาจล้มนักมวยตัวเก่งของค่ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ยังนับว่าห่างชั้นนักหากเทียบกับนักมวยที่มีเหรียญรางวัลและเข็มขัดเกียรติยศนับไม่ถ้วนประดับบารมีอย่างตัวมัน

มันรีรออยู่ชั่วครู่ก่อนสาวเท้าไปข้างหน้าในขณะที่ไอ้วัฒน์สาวเท้าไปข้างหลังคอยให้ลูกพี่บุกเป็นทัพหน้าไปก่อน....หากไอ้ริวพลาดเมื่อไร...มันค่อยเข้าไปซ้ำเติมอีกที !

เสร็จกูไปหนึ่งล่ะ....ไอ้ริวคิดในใจ....มันวางแผนว่าจะหลอกล่อให้คู่ต่อสู้เรียงหน้าเข้ามาทีละคน...น่าจะจัดการเผด็จศึกได้ง่ายกว่ารุมเข้ามาหลายๆ คนพร้อมกัน

เด็กหนุ่มร้อง หึหึ อยู่ในใจเมื่อเห็นท่าทีปอดแหกของนักมวยหนุ่มผอมแห้งที่แสดงผ่านออกมาทาง สีหน้าท่าทางอย่างชัดแจ้ง ส่วนไอ้ยักษ์บักหลั่นที่กำลังย่างสามขุมเข้ามานี่ ท่าทางจัดการยากอยู่ สักหน่อย แต่ก็ไม่น่าเหลือบ่ากว่าแรงนัก

แต่สิ่งหนึ่งที่เด็กหนุ่มลืมคิดไป คือ เหนือฟ้ายังมีฟ้า.........................

ตาของไอ้ริวจ้องเขม็งไปที่ผู้รุกรานรายใหม่ที่กำลังรุกประชิดเข้ามาเรื่อยๆ เส้นประสาททุกเส้นเขม็งเกลียวเพราะเริ่มรับรู้แล้วว่า นักมวยหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ธรรมดา !

ทั้งสองฝ่ายประสานสายตากันอย่างไม่ลดละ ต่างฝ่ายพยายามประเมินท่าทีกลยุทธ์และสรรพกำลังของกันและกัน

ในที่สุด ความอดทนของไอ้ริวก็ขาดผึง ! มันตัดสินใจเป็นฝ่ายเดินหน้าก่อนโดยเหวี่ยงหมัดเข้าหาอีกฝ่ายทันที !

ไอ้ชัยที่เต้นฟุตเวิร์กเตรียมพร้อมอยู่แล้วเบี่ยงตัวหลบฉากหมัดของเด็กหนุ่มด้วยความว่องไว ไอ้ริวก็ไม่รอช้าตามด้วยหมัดสองอย่างต่อเนื่อง

เสียงหมัดอันทรงพลังแหวกอากาศ “ หวืออออออออ.................................. “

และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่หมัดของไอ้ริวกินแต่ลม.........................

เด็กหนุ่มดึงหมัดกลับมาที่ตัวเพื่อดูท่าทีของคู่ต่อสู้ด้วยความระมัดระวังมากขึ้น

แต่น่าแปลกที่ไอ้ชัยยังคงเต้นฟุตเวิร์กรักษาระยะไปรอบๆ โดยยังไม่มีทีท่าที่จะรุกเข้าโจมตีหรือตอบโต้กลับแต่อย่างใด

อาจเป็นเพราะเหตุผลที่ว่า..ตั้งแต่มันรู้ว่าถูกจับให้เป็นคู่ชกของไอ้ริวแล้ว มันก็ตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่า ถ้าไม่จำเป็น....มันจะไม่ทำร้ายให้ไอ้ริวบาดเจ็บหรือบอบช้ำด้วยน้ำมือมันอย่างเด็ดขาด........ก็ดันหลงรักเค้าไปแล้วนี่นะ.......สุภาพบุรุษอย่างมันจะทำให้คนที่ตนรักบาดเจ็บได้ยังไง !

แต่ถึงตอนนี้......ไอ้ริวก็ยังไม่ได้เป็นคนรักที่อ่อนหวานในจินตนาการอันบรรเจิดของมันแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม หากมันพลาดพลั้งเสียที...มันนั่นแหละที่จะลงไปนอนจมกองเลือดด้วยน้ำมือ “ คนรัก ” แบบเดียวกับสมุนของมันเมื่อครู่นี้

ดูเหมือนมันจะตระหนักในความจริงข้อนี้ดี มันจึงไม่บุ่มบ่ามและพยายามหลอกล่อไอ้ริวให้สับสนมึนงงด้วยการเต้นฟุตเวิร์กสลับฟันปลากระชับวงล้อมไอ้ริวเข้าไปเรื่อยๆ เพื่อรอจังหวะที่เด็กหนุ่มพลาด..............................................

ไอ้ริวที่ยังคงยืนพิงเสาอยู่มองตามคู่ชกแบบไม่คลาดสายตาพลางส่งหมัดแย็บเป็นการลองเชิงเป็นระยะๆ แต่คู่ต่อสู้ก็ยังคงตีวงล้อมเข้ามาเรื่อยๆ อย่างไม่หวั่นเกรง

และถึงทีที่ไอ้ชัยจะเป็นฝ่ายเดินหน้ารุกบ้าง............................................

มันลองฮุกด้วยหมัดขวาอันทรงพลังไปที่ตัวไอ้ริวและตวัดหมัดกลับอย่างเร็ว แม้จะเป็นการชกหยอกๆ ไอ้ริวยังรู้สึกได้ถึงแรงลมที่เกิดจากพลังของการเหวี่ยงกำปั้นมาปะทะที่ผิวหนังจนเย็นวูบวาบ

ไอ้ริวใจหายวาบกับน้ำหนักหมัดของคู่ต่อสู้คนนี้.....นี่ถ้าโดนตรงๆ เต็มๆ ก็คงจะไม่มีอะไรเหลือ.....แต่ด้วยสายเลือดนักสู้และความหยิ่งทรนงในศักดิ์ศรีจึงทำให้คำว่ายอมแพ้ไม่มีในพจนานุกรมของลูกผู้ชายคนนี้

ด้วยความที่ใจจดใจจ่ออยู่แต่คู่ต่อกรที่ขยับเข้ามาประชิดทุกขณะ......ไอ้ริวจึงไม่ทันระวังลูกทีมที่เหลืออยู่คนสุดท้ายที่ถลันเข้ามากลางวงหมายจะช่วยลูกพี่มันเผด็จศึก.......................

ใบหน้าของไอ้ริวผงะหงายตามแรงชกที่พุ่งเข้ามาแฉลบปะทะ แม้จะไม่โดนจังๆ มันก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บชาที่โหนกแก้ม......................

ไอ้วัฒน์เห็นได้ทีจึงพุ่งตัวเข้ามาหมายจะซ้ำไอ้ริวที่เพลี่ยงพล้ำ แต่มันเข้ามาใกล้จนเกินควรและ ไม่ทันระวังการตอบโต้กลับของคู่ชกหนุ่มที่ศอกกลับอย่างแรงเข้าตรงใบหน้าของผู้บุกรุกที่ส่งเสียงโหยหวนด้วยความเจ็บปวด....................

ด้วยแรงกระแทกจากศอกของไอ้ริว....ทำให้ไอ้วัฒน์จำต้องถอยล่าออกไปพร้อมเอามือกุมนัยน์ตาซ้ายที่ปูดนูน.....ผู้คนในโรงยิมต่างอุทานด้วยความสยดสยองเมื่อเห็นเลือดสดๆ ไหลเยิ้มออกมาตามง่ามนิ้วที่สั่นเทา

ก่อนที่มันจะได้ตั้งตัว....หมัดลุ่นๆจากเด็กหนุ่มก็พุ่งเข้าใส่นัยน์ตาขวาที่ยังคงใช้การได้อย่างแม่นยำ !

“ พลั้ก................... “

“ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก.................................... “

เพียงเท่านี้.....โลกทั้งใบของไอ้วัฒน์ก็มืดสนิททันที ไม่มีใครสงสัยในความเจ็บปวดสุดบรรยายที่ไอ้วัฒน์เผชิญ.....ดังจะเห็นจากร่างที่นอนเกลือกกลิ้งทุรนทุรายอยู่บนพื้นเวที......

ทันทีที่ไอ้วัฒน์ถูกใส่เปลหามออกไป.......ก็เหลือเพียงคนเพียงคู่เดียวเท่านั้นที่ยืนเผชิญหน้ากันอยู่บนเวทีที่เปรอะไปด้วยเลือด

คงมีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่จะทรงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป.......................