Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 504
Message ID: 44
#44, RE: เรื่องเล่าคาวน้ำกาม
Posted by romanrome on 21-Dec-12 at 10:50 PM
In response to message #42
ผมตื่นนอนในอ้อมแขนของป้อง มันช่างเป็นการตื่นนอนรับวันใหม่ที่แสนจะสดชื่นกระปรี่ประเปร่าอะไรเช่นนี้ ส่วนป้องยังคงมีความสุขกับการนอนต่อไป ผมจ้องมองดูใบหน้าที่หล่อเท่ห์+เซอร์ของป้อง พร้อมกับใช้นิ้วมือค่อยๆลูบบริเวณคิ้วที่ดกหนาทั้งสองข้าง ข้ามมายังสันจมูก

"ตื่นนานแล้วเหรอ?" ป้องมองดูผม

"ก่อนหน้านายไม่กี่นาทีเอง" ผมวางมือออกจากจมูกของป้อง

"เช้านี้นายไม่มีเรียน?" ป้องหันหน้าไปมองดูนาฬิกาปลุกบนหัวเตียง

"มีเรียน 2 ตัว แต่โดด เป็นวิชาเรียนรวมหลายๆคณะ ไม่จำเป็นต้องเข้าเรียน อาจารย์ไม่เคยเช็คชื่อ เพราะคนเรียนเยอะมากๆ แค่ขอยืมแล็กเชอร์เพื่อนมาจดทีหลังก็ได้ แล้วนายละ มีเรียนกี่โมง?" ผมถามกลับไป

"8 โมงเช้า นี่มันปาเข้าไปตั้งเกือบ 10 โมง เลยเวลาไปตั้งนานแล้ว ส่วนอีก 2 ตัวนั้น เรียนตอนเที่ยงกับบ่าย 3 โมง เราก็คงโดดเหมือนกัน ไม่มีอารมณ์เข้าเรียน รบกวนขอใช้โทรศัพท์หน่อยได้ไหม? จะโทรไปหาเพื่อนที่ห้อง ให้มันช่วยเซ็นชื่อให้ ไม่รู้ว่าตอนนี้มันยังอยู่ที่ห้องหรือเปล่า?"

"ตามสบาย ไม่ต้องเกรงใจ" ผมเอาแขนทั้งสองข้างสวมกอดที่ลำตัวของป้อง

ขณะที่ป้องกำลังคุยโทรศัพท์กับเพื่อนอยู่นั้น หูของผมก็บังเอิญไปได้ยินประโยคหนึ่งที่หลุดออกมาจากปากของป้อง

"ตอนนี้กูอยู่กับเด็กของกู เมื่อคืนหนักไปหน่อย ......... บลาๆๆๆๆๆๆๆๆ ....... "

เมื่อป้องคุยโทรศัพท์กับเพื่อนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมพูดขึ้นมาว่า....

"เมื่อกี้นี้เราแอบได้ยินนายบอกเพื่อนนาย ใครเป็นเด็กนายหรือ?" ผมแกล้งถามไปอย่างนั้น

"ตอนนี้เรานอนอยู่กับใครก็คนนั้นแหละ สงสัยนายคงไม่อยากเป็นเด็กเราเท่าไหร่ หรือว่าอยากเป็นเมียเรา? ถึงทางนิตนัยจะไม่ใช่ แต่ทางพฤตินัยนี่ ใช่เลยทุกประการ" ป้องทำหน้าตาทะเล้นใส่ผม

"เวลานายทำหน้าแบบนี้ นายดูน่ารักและดูเป็นผู้ชายที่อบอุ่นมาก มาดแนวเซอร์ๆของนายหายไปหมดเลย เห็นแล้วใจของเราแทบจะละลาย" ผมแอบเขินอยู่ในใจคนเดียว

"ไม่พูดไม่จา ทำเป็นเขินเชียวนะ ดูทำหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก" ป้องแซวผม จนผมอายม้วน หน้าแดงชนิดที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูก คิดไม่ถึงคนอย่างป้องจะขี้เล่นถึงขนาดนี้ ตอนแรกผมคิดว่าคนมาดขรึมเซอร์ๆอาร์ตๆติสๆอย่างป้องจะมีเพียงคาแรกเตอร์เดียวเท่านั้น

"บ้า.... พูดอะไรก็ไม่รู้" ผมผละแขนทั้งสองข้างออกจากลำตัวของป้อง พร้อมกับพลิกตัวนอนหันหลังให้ป้อง เหมือนคนที่มีอาการงอนนิดๆ (ก็มันเขินจนทำอะไรไม่ถูกนี่ครับ ก็ต้องถอยออกมาตั้งหลักกันบ้าง)

"ดูซิ พูดแค่นี้ถึงกับหันก้นให้เราทันทีนะ ช่างเป็นเมียที่ดีมาก นี่แหละคือหน้าที่สำคัญที่สุดของเมีย" ป้องใช้มือตีก้นผมอย่างเบาๆ

ผมยังคงนิ่งอยู่เฉยๆไม่พูดจาโต้ตอบอะไร (ก็มันทั้งเขินทั้งอายนี่ครับ จะให้ทำอย่างไร?)

"ยังงอนอีกเหรอ ช่วยทำหน้าที่เมียที่ดีหน่อยครับ ขอร้องละครับ ตอนนี้เราอยากจะทำหน้าที่ผัวที่ดีบ้าง" ป้องหันข้างมากอดผมพร้อมกับใช้ท่อนเอ็นตรงเป้ากางเกงที่กำลังพองตัวขึ้นมาอย่างทีละนิดๆ มาสีแนบที่ก้นของผม ส่วนแขนก็เลื้อยลอดเข้าไปภายในเสื้อของผม

มือของป้องนั้นทั้งลูบและเขี่ยตรงหัวนมของผม ป้องใช้ริมฝีปากจูบและไซร้ที่ซอกคอของผม เวลานี้ผมรู้สึกอ่อนปวกเปียกไปหมด

"ตั้ง 2 ยก แล้วยังไม่เต็มอิ่มอีกเหรอ? จะยกที่ 3 แล้วนะ" ผมพูดเล่นอย่างอารมณ์ดี

"เห็นหน้านายแล้ว ค_ยมันแข็ง ทำไงได้" ป้องพูดสวนกลับ พร้อมกับใช้มือถลกกางเกงของผมออกจนหมด

เราทั้งสองอยู่ในสภาพล่อนจ้อนด้วยกันทั้งคู่ ผมเลื่อนตัวลงมาที่ท่อนเอ็นที่แข็งตัวป้อง พร้อมกับใช้มือรูดขึ้นลงเป็นจังหวะ

ผมกำลังจะอ้าปากถวายบัวให้ป้อง แต่ก็ต้องหยุดการกระทำอย่างกระทันหัน.......

"ทำไมกลิ่นมันเหม็นเปรี้ยวแบบนี้ ล้างบ้างหรือเปล่านี่?" ผมพูดเล่นหยอกล้อฝ่ายตรงข้าม (เข้าใจมีอารมณ์ขันจริงๆนะตรู)

"เฮ้ย....!!! จะบ้าเหรอ? มุขของนายตลกฝืดโคตร เราพยายามหัวเราะแล้ว แต่มันไม่ขำจริงๆ ที่ค_ยเรามันเหม็นแบบนี้ ใครเป็นคนอมละ? ต้องเหม็นน้ำลายคนนั้นแน่ๆ อีกอย่างค_ยเราเข้าๆออกๆอยู่ในตูดของใครนะ?" ป้องเล่นมุขสวนกลับอย่างแสบๆคันๆ จนผมไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไร (กะจะกัดเขา แต่ดันโดนเขาตอกกลับมาจนหน้าแหกเลยตรู)

"เรามันน่ารังเกียจนี่" ผมทำเป็นแกล้งงอน

"โอ๋.... ขวัญเอ๊ย ขวัญมา ผมจะไม่จิกกัดอีกต่อไป ช่วยดูดค_ยให้ผมหน่อยนะครับ ขอร้องนะครับ" ป้องทำท่าอ้อน

"อืม... ก็ได้" ผมตอบรับอย่างหน้าตาเป็น

"เวลานายงอนแล้วน่ารักดี น่ารักมีเสน่ห์กว่าผู้หญิงเวลางอนซะอีก" ป้องใช้ริมฝีปากงับติ่งหูของผม

ผมก้มลงถวายบัวให้ป้องต่อ

"อู๊ย.... อู๊ย..... ตรงนั้นแหละ ดูดเข้าไป โคตรเสียวเลย" ป้องบอกให้ผมกระหน่ำดูดตรงบริเวณหัวกระดอที่เปิดบานเป็นดอกเห็ด

ผมดูดหัวกระดอของป้องได้ซักพัก ป้องก็ใช้มาลูบๆวนๆบริเวณก้นของผม ซึ่งพอจะเป็นสัญญาณบอกให้ผมรู้ว่า ป้องพร้อมที่จะเอากระดอยัดใส่รูดากของผมแล้ว

หลังจากทาเจลหล่อลื่นเรียบร้อย ป้องจัดการทำหน้าที่ของตนอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง นั่นก็คือ ค่อยๆเอาท่อนเอ็นยัดเข้าไปในรูดากของผมจนมิดลำ

ป้องกระเด้าเป็นจังหวะที่รับประสานแรงโยกส่ายไปมาของสะโพกผม เวลานี้ผมเสียวอย่างล้นพ้นจนเกินบรรยายจริงๆ นอกจากจะเสียวจากท่อนเอ็นของป้องที่กระเด้าเข้าๆออกๆรูดากของผมแล้ว ผมยังเสียวยกกำลังสองจากมือของป้องที่สาวว่าวให้ผมอย่างส่งรับจังหวะเสียวได้ลงตัว

"นายเย็ดโคตรเก่ง เราเสียวสุดๆ นี่ใกล้จะแตกแล้ว" ผมครางออกมา เพราะเริ่มเสียวและเกร็งบริเวณท้องน้อยมาก

"เราใกล้จะแตกเหมือนกัน" ป้องเริ่มซอยถี่รัวเร่งจังหวะมากขึ้น จนกระทั่งร้องเสียงหลงออกมา (ซึ่งแน่นอนว่า ป้องน้ำแตกเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งผมยังรู้สึกอุ่นๆเหนียวๆข้างในรูดาก)

แท่งตอปิโดของผมได้พ่นพิษเป็นน้ำสีขาวขุ่นหนืดๆออกมาจนหมดเกลี้ยง

รวมยอดแล้ว ผมโดนป้องถล่มประตูไป 3 ประตู ต่อ 0 (กลายเป็นเมียของป้องตามพฤตินัยอย่างไร้ข้อครหา)

หลังปฎิบัติกิจกามเสร็จสิ้นแล้ว ผมกับป้องเข้าไปอาบน้ำด้วยกัน จากนั้นก็แต่งตัวและออกไปกินอาหารเที่ยง ผมนั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์ของป้อง โดยป้องอาสาพาผมไปกินเย็นตาโฟร้านเจ้าประจำ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามร้านขายยาคณะเภสัชฯ
ร้านเย็นตาโฟเจ้านี้โด่งดังมากๆ เรียกได้ว่า คนเชียงใหม่ส่วนใหญ่รู้จักร้านเย็นตาโฟเจ้านี้เป็นอย่างดี

เมื่อเดินเข้าไปในร้าน ผมถึงกับตกใจและอึ้งกิมกี่...

"ตอนเช้าไม่ไปเรียน ที่แท้มีนัดนี่เอง" นพทักทายผม

"พูดเรื่องอะไร? ตื่นสายต่างหากถึงไม่ได้ไปเรียน" ผมพูดกับนพ โดยพยายามไม่สบตาหรือมองหน้าพี่ต่อซึ่งนั่งอยู่ด้วยกับนพ

"เกือบลืมไป นพ นี่... ป้อง คณะวิจิตรฯ ป้อง นี่... นพ อยู่สาขาวิชาเดียวกับเรา" ผมแนะนำให้นพกับป้องรู้จักกัน โดยที่ไม่สนใจที่จะแนะนำให้ป้องรู้จักกับพี่ต่อเลย

"อ้าว... นึกว่าใคร ที่แท้ก็ พี่ต่อ นั่นเอง ไม่ได้เจอกันโคตรนานนะพี่ ตั้งแต่เทอมก่อนโน่น" ป้องพูดทักทายกับพี่ต่ออย่างกับคนรู้จักกันมานาน

"รู้จักกันด้วยเหรอ?" ผมถามป้องอย่างงงๆเหมือนไก่ตาแตก (ทำไมเรื่องมันถึงได้เริ่มผูกปมขมวดแบบนี้ว่ะ มึนเลยตรู ถ้าเกิดว่าสองคนนี้รู้จักคุ้นเคยและสนิทกันมาก แล้วตรูจะทำอย่างไรดี งานนี้ตรูโดนแฉแน่ๆ)

"รู้จักกันตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว พี่ต่อเป็นพี่โรงเรียนของเราเอง เรามาจากโรงเรียนเดียวกัน" ป้องบอกผมถึงที่มาที่ไป คำตอบของป้องทำเอาผมแทบจะหงายหลังทันที

ทำไมตรูไม่รู้เลยว่า ทั้งสองคนนี้มาจากโรงเรียนเดียวกัน !!!!!! เพราะตรูไม่ได้ถามป้องนี่ว่า จบโรงเรียนอะไร !!!!!! รู้แค่ว่า ป้องเป็นคนกรุงเทพแค่นั้นเอง ช่างรอบคอบจริงๆเลยตรู ขอประชดตัวเองซักหน่อย

พี่ต่อส่งยิ้มให้ผม รอยยิ้มของพี่ต่อมันช่างเป็นรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมีชัยชนะเหนือคู่ต่อสู้จริงๆ

"คงไม่ว่านะ ถ้าฉันกับป้องจะขอตัวไปนั่งที่โต๊ะโน่น คือ ฉันรู้ว่าแกกับพี่เขาอยากใช้เวลาส่วนตัวกันสองต่อสอง" ผมหันหน้าไปพูดกับนพ

"น่าเกลียดมาก กลัวจะขัดคอฉันกับพี่ต่อ หรือกลัวว่า ฉันกับพี่ต่อ จะขัดคอแกกับป้อง? นั่งด้วยกันนี่แหละ จะได้คุยกันให้จุใจซักหน่อย มีเรื่องจะเม้าท์ให้ฟังตั้งหลายเรื่อง" นพพยายามดึงแขนผมให้นั่งลง

"นั่งด้วยกันนะป้อง พี่มีเรื่องจะคุยกับเอ็ง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ดูซูบๆไป ยังไงเอ็งอย่าหักโหมให้มาก เมื่อวันจันทร์พี่ก็เจอเอ็งกับกันต์นั่งอยู่ด้วยกันที่โรงอาหารคณะ ขอโทษด้วยที่ไม่ได้เข้าไปทักทาย เผอิญรีบไปเรียน" พี่ต่อมองหน้าผม สายตาของพี่ต่อเหมือนพยายามจะสื่อนัยอะไรบางอย่าง

"เสน่ห์แรงจริงๆนะ ไปหามาจากที่ไหนจ๊ะ หน้าตาหล่อเท่ห์สุดๆ มิน่าละ ได้น้ำดีนี่เอง หน้าตาแกถึงได้สดใสเปล่งปลั่งเช่นนี้" นพกระซิบกระซาบผม พร้อมกับเหล่ตามองไปที่ป้อง ส่วนป้องนั้นก็ทำหน้าเขินๆเกร็งๆนิดๆ จากนั้นจึงคุยกับพี่ต่อเรื่องสัพเพเหระต่างๆ

หลังจากอิ่มหนำสำราญจากการกินเย็นตาโฟเสร็จเรียบร้อย พวกเราทั้ง 4 คนได้แยกกันไปคนละทาง โดยพี่ต่อไปกับนพ ส่วนผมไปกับป้อง

ป้องขี่มอเตอร์ไซด์มาส่งผมที่หน้าคอนโด เมื่อจอดมอเตอร์ไซด์เรียบร้อยแล้ว ป้องพูดขึ้นมาว่า "ทำไมตอนอยู่ในร้านเย็นตาโฟ นายไม่คุยกับพี่ต่อเลย มีอะไรกันหรือเปล่า?" พอพูดจบ ป้องทำหน้าสงสัย

"ไม่มีอะไรมากหรอก เราแค่หมั่นใส้ ไม่ถูกชะตากับไอ้พี่ต่อ คนอะไรขี้เก๊ก หลงตัวเอง เราไม่กินเส้นกับเขามาตั้งแต่ตอนเราอยู่ปี 1 แล้ว" ผมสร้างประเด็นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ (สตอเบอร์รี่จริงๆเลยตรู)

"เรื่องเป็นแบบนี้นี่เอง นายไม่ต้องไปสนใจอะไรมากหรอก พี่เขามีบุคลิกภาพแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร ถ้าได้คุยได้รู้จักแล้ว พี่เขาเป็นคนดีคนหนึ่งเลยนะ" ป้องแสดงความคิดเห็น

ผมกับป้องเดินเข้าไปในตัวตึก ในขณะที่กำลังเดินเข้าประตูใหญ่นั้น......

"แต่งตัวซะหล่อ ออกไปไหนมา? วันนี้ไม่มีเรียนหรือ?" บอลยิ้มทักทายผม

"มีแต่โดด ขี้เกียจไปเรียน เราเพิ่งออกไปกินข้าวมา แล้วนายละ? กำลังจะออกไปเรียนเหรอ? ดูหน้าตาและทรงผมเหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ" ผมมองดูบอลในชุดนักศึกษาที่ใหม่เอี่ยมอ่องอรทัย

"ใช่ เราต้องรีบไปแล้วละ เดี๋ยวเข้าห้องเรียนสาย อาจารย์ยิ่งโหดๆอยู่ด้วย เอาไว้ค่อยคุยกันใหม่" พอพูดจบ บอลรีบวิ่งไปสตาร์ทมอเตอร์ไซด์ทันที

"ตามองตา สายตามาจ้องมองกันรู้สึกเสียวซ่านหัวใจ" ป้องร้องเพลงพร้อมกับทำหน้าทะเล้นใส่ผม

ผมแกล้งทำหน้าเบ้ให้กับฝ่ายตรงข้าม

"เสน่ห์แรงจริงๆ เมียเรา เอาไว้ค่อยคุยกันใหม่นะ ต้องรีบไปเรียน " ป้องยังคงตั้งหน้าตั้งตาแซวผมอย่างต่อเนื่อง

"บ้า.... สงสัยนายคงจะเมาเย็นตาโฟ ถึงได้ไร้สติขนาดนี้" ผมค้อนใส่ป้อง

"แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยนะ เด็กปีหนึ่งซะด้วย คิดแอบคบชู้ใช่ไหมนี่? ตอนคุยกันเห็นจ้องมองทำตาหวานใส่กันปานจะกลืนกิน" ป้องยังไม่เลิกแซวผม

"ถ้าเกิดเขาคิดแบบนั้นกับเราจริงๆขึ้นมาละก็ ป่านนี้นายคงไม่ได้มายืนกัดจิกเราหน้าสลอน และประกาศตัวเป็นผัวเราให้เอิกเกริกแบบนี้หรอก" ผมพูดประชดป้อง และทำหน้างอนใส่แต่พองาม

"ในที่สุดนายก็ยอมรับแล้วใช่ไหมว่า เราเป็นผัวนาย และนายก็เป็นเมียเรา" ป้องยิ้มเยาะผมอย่างสะใจ

"ทะลึ่ง เล่นอะไรก็ไม่รู้ เลิกเล่นได้แล้ว" ผมเหนียมอายจนพูดอะไรไม่ออก

ผมกำลังไขกุญแจลูกบิดเพื่อเปิดประตูห้อง ทันใดนั้นผมก็รู้สึกเคืองๆเหมือนมีอะไรนุ่มๆเบาๆมาโดนที่แก้ม พอเหลือบตาดู ถึงได้รู้ว่าถูกป้องขโมยหอมแก้มอย่างไม่รู้ตัว ผมรู้สึกสั่นสะท้านและเขินอายจนทำอะไรไม่ถูก

"ตกลงจะเข้าห้องไหม? หรือว่าจะยืนที่หน้าประตูอยู่อย่างนี้?" ป้องเอ่ยถามผม

เมื่อเข้าห้องปิดประตูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"กันต์... เราชอบนายนะ เราไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้มาก่อน เราอยากจะอยู่ใกล้นายตลอดเวลา" ป้องโอบกอดผม

ผมยืนตัวเกร็ง โดยที่ไม่พูดไม่จาอะไร เพราะรู้สึกตกใจและไม่รู้ว่าจะรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสถานการณ์ที่น่ายินดีปรีดาก็ตาม

"เฮ้ย.... ว่าไง.... นายเป็นอะไรหรือเปล่า ดูเงียบๆไม่พูดไม่จา" ป้องถามผมด้วยสีหน้าที่วิตกกังวล

"เราไม่เป็นอะไร ขอบใจมากนะ คือว่า รู้สึกตกใจนิดหน่อย แบบตกใจในทางที่ดี เราก็รู้สึกแบบเดียวกับที่นายรู้สึกกับเรา แต่..... " ผมบอกความรู้สึกของตัวเองกับป้อง

"แต่.. อะไร?" ป้องถามด้วยความอยากรู้

"เราบอกตามตรงนะ เรากับนายก็เพิ่งจะเจอกัน เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่เท่าไหร่ ยังไม่ถึงอาทิตย์ด้วยซ้ำ เรายังไม่รู้จักนิสัยและตัวตนที่แท้จริงของนายมากพอ และนายเองก็ยังไม่รู้จักนิสัยและตัวตนที่แท้จริงของเราด้วย บางทีเราอาจจะไม่ชอบนิสัยหรือตัวตนบางอย่างบางจุดของกันและกันก็ได้"

ป้องนั่งฟังผมอย่างตั้งใจ

ผมพูดต่อไปว่า "เอาอย่างนี้ไหม? ตอนนี้เรายังไม่ต้องคิดอะไรเลยเถิดไปไกลมากขนาดนั้น คบกันเอากันไปเรื่อยๆ สนุกกันไปตามเรื่องตามราวก่อน พอผ่านไปนานเข้า ถ้าทุกอย่างยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เราค่อยมาพูดกันใหม่ว่า จะเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์จากคู่ขา คู่นอน คู่เย็ด มาเป็น คู่รัก หรือไม่?"

"พูดเข้าท่าดีนะ เราเห็นด้วยกับความคิดของนาย ฉลาดสมกับเป็นเมียเราจริงๆ" ป้องพูดสนับสนุนปนติดตลกนิด

"อะ แฮ่มๆๆๆๆๆ" เราไอกระแอมนิดๆ

"ขอเสริมอีกนิดหนึ่ง ลืมไปว่า ตอนนี้ถ้าเกิด นายเป็นแฟนเราจริงๆ เราอาจจะยังไม่พร้อมรับมือต่อกลอน เพราะนายตัวอันตรายมากๆ" ป้องพูดแทรกขึ้นมา

"อันตรายอย่างไร? ไม่เข้าใจ?" ผมทำสีหน้างงๆ

"อันตรายตรงที่ นายเป็นคนหน้าตาดีมาก ใครเห็นใครก็ชอบและอยากได้นายกันทั้งนั้น เราไม่อยากวิตกกังวลคิดมากกลัวว่า จะมีคนมาจีบนายเยอะมาก มาแย่งนาย หรือนายจะเจอคนที่หล่อที่ดีมากกว่าเรา แล้วทิ้งเราไป" ป้องอธิบายเหตุผล

"อะไรจะคิดมากคิดลึกขนาดนั้น พ่อคุณ!!!!!! เราซะอีกที่จะต้องเป็นฝ่ายคิดมากกว่า หน้าตาอย่างนาย จัดได้ว่าหล่อเป็นที่ต้องการของตลาดสุดๆ ทั้งหล่อ ทั้งเท่ห์ ทั้งเซอร์ ที่สำคัญ แฟชั่นหนุ่มผมยาวกำลังมาแรงซะด้วย เรากลัวว่า จะมีคนมารุมจีบนายเยอะมากๆ แต่ละคนนอกจากจะหน้าตาดีแล้ว ยังมีคุณสมบัติอื่นๆที่ดีเพียบพร้อมกว่าเรามาก" ผมพูดโต้ตอบ

ป้องยิ้มพร้อมกับกอดผมไว้กับตัวอย่างแนบแน่ สำหรับผมแล้ว มันช่างเป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นและน่าประทับใจอะไรเช่นนี้ (ความรู้สึกแตกต่างจากอ้อมกอดที่เกิดจากอารมณ์ใคร่อย่างสิ้นเชิง)

"ให้มันได้อย่างนี้ซิจ๊ะ... เมียจ๋า.. ผัวคนนี้จะเย็ดให้เสียวรูตูดชนิดไม่ขาดตกบกพร่องทีเดียว" ป้องพูดจาเล่นลิ้นเพื่อสร้างบรรยากาศให้คึกคัก

ผมส่งยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี

"คืนวันเสาร์เรามาหานาย และมาค้างกับนายอีกได้ไหม?" ป้องถามผม

"ไม่บอกนายคงจะรู้คำตอบของเราแล้วนะ" ผมพูดอย่างเอียงอาย

ป้องสบตาผมพร้อมกับจูบลงบนหน้าผาก ตอนนี้ผมรู้สึกหนาวๆร้อนๆอย่างบอกไม่ถูก มันเป็นความรู้สึกพิเศษสุดๆ ไม่บอกก็คงจะรู้ว่า มันมีคุณค่าทางจิตใจมากแค่ไหน

"ดีเหมือนกัน วันอาทิตย์นี้เราจะได้ขับรถพานายไปเที่ยวตลาดทุ่งเกวียนและลำปางด้วย เรากะว่าจะไปเที่ยวตั้งหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสซักที" ผมพูดขึ้นมา

ป้องไม่พูดไม่จา ได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่อย่างนั้น

"ป้อง... มองออกไปตรงข้างนอกระเบียงซิ วิวสวยมาก" ผมชี้มือไปตรงระเบียง

ป้องหันหน้าไปตรงระเบียงอย่างรวดเร็ว ในจังหวะนี้ ผมเลยถือโอกาสขโมยจูบตรงที่แก้มของป้องไป 1 ฟอดใหญ่

ป้องหันกลับมามองผม ด้วยสีหน้าที่อายๆ รอยยิ้มบนใบหน้าของป้องมันทำให้โลกใบเล็กๆของผมสดใสขึ้นในบัดดล

......................................................................