Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 504
Message ID: 89
#89, RE: เรื่องเล่าคาวน้ำกาม
Posted by romanrome on 07-Jan-13 at 11:46 PM
In response to message #86
ปิดเทอมใหญ่รอบนี้ ผมไม่ได้ลงเรียนซัมเมอร์อีกเช่นเคย เพราะขี้เกียจ และสาขาวิชาที่ผมเรียนนั้น ถึงแม้จะลงเรียนซัมเมอร์ทุกปีก็ตาม แต่ก็ต้องจบ 4 ปีอยู่ดี เพราะหลักสูตรบังคับว่า "ต้องจบ 4 ปีเท่านั้น" ไม่อนุญาตให้จบก่อน( 3 ปีครึ่ง) เหมือนกับสาขาวิชาอื่นๆ หรือคณะอื่นๆ แต่จะสามารถจบหลัง 4 ปีก็ได้ (ถ้าใจปราถนา ซึ่งคงไม่มีใครอยากเรียนเกิน 4 ปีอยู่แล้ว)

จริงๆแล้วเหตุผลหลักของคนปากแข็งอย่างผมก็คือ อยากจะพาหัวใจดวงน้อยๆของตัวเอง ที่โดนย่ำยีจนบอบช้ำจากฝีมือของคนใจร้ายที่ชื่อ "ป้อง" ไปพักผ่อนตากอากาศ เปิดหูเปิดตา ดูโลกกว้างเพื่อเสริมสร้างวิสัยทัศน์และมุมมองใหม่ๆให้กับตัวเอง (พูดออกทะเลไปโน่นเลยตรู) พูดง่ายๆตามประสาชาวบ้านก็คือ "หลบไปหาที่พักใจ" (จนป่านนี้แล้ว ตรูยังไม่ลืมผู้ชายคนนี้อีกหรือ?) ทำไมถึงช่างลืมยากลืมเย็นแบบนี้!!!!!!!!

ผมทำอะไรตอนปิดเทอมใหญ่รอบนี้? คำตอบคือ ผมจะไปทัศนศึกษาที่ประเทศอินเดีย กับอาจารย์ท่านหนึ่งในภาควิชาภาษาปัจจุบันตะวันออก (โดยอาจารย์มีศักดิ์เป็นญาติของผม) นอกจากอาจารย์จะมีงานประจำ คือ สอนหนังสือในมหาลัยแล้ว อาจารย์ยังรับงานพิเศษเป็นไกด์และคนจัดคณะทัวร์ไปเที่ยวอินเดีย ตอนปิดเทอมอีกด้วย


.............................................................


ณ สนามบินดอนเมือง (พ.ศ. 2539) เวลา 7 โมงเช้า

ผมกับบอลถือกระเป๋าทางพร้อมกับสะพายเป้มายืนรอคณะทัวร์ในจุดนัดหมาย มองไปมองมายังไม่เห็นมีใครมาเลย แน่ละ... เราทั้งสองมาก่อนเวลาที่กำหนดตั้ง 3 ชั่วโมงกว่า

ไม่ใช่บ้าเห่ออะไรหรอกครับ (เดี๋ยวกลัวคนอ่านจะคิดว่า มาเมืองนอกครั้งแรกถึงกับตื่นเต้นถึงเพียงนี้เชียวหรือ?) ที่มาก่อนเพราะต้องเผื่อเวลา บ้านของบอลอยู่ตั้งบางนา (ผมมาค้างที่บ้านของบอลก่อนล่วงหน้า 2 คืน คงไม่ต้องบรรยายให้ทราบนะครับว่า นอนห้องไหนในบ้านของบอล? และทำอะไรกันบ้าง? เพราะคำตอบเป็นอย่างที่คุณผู้อ่านคิดเอาไว้แน่นอน XXXกันทั้งคืนครับ เสียอย่างเดียวคือ "บอลล่มปากอ่าว" แต่ก็เงี่ยนบ่อยเหมือนกันนะ)

การเดินทางจากบางนามายังสนามบินดอนเมืองไกลมากโขอยู่


ผมลืมบอกไปว่า ในการเดินทางครั้งนี้ ผมได้ชวนบอลไปเที่ยวด้วย ซึ่งบอลก็สนใจและอยากไปเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ประกอบกับโดนลูกตื้อของผม เลยทำให้ตอบตกลงทันที (เพราะรู้มาว่า ทริปอินเดีย คนที่ไปส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีอายุทั้งนั้น หาวัยรุ่นหล่อๆน่ารักๆ ยากมากกกกกก ขืนไปคนเดียวมีหวังหำหดแน่ๆ)

"นายเฝ้ากระเป๋าอยู่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวเรามา" ผมถอดเป้ออกจากหลังและวางกระเป๋าเดินทางใบเล็กๆลงที่พื้น

"จะไปไหน? ทำไมต้องให้เรายืนรอตรงนี้ด้วย?" บอลถามด้วยความสงสัย

"ปวดเยี่ยว จะไปด้วยไหมละ? ดีเหมือนกัน จะได้ช่วยรูดซิปงัดเจี๊ยวเราออกมาที่โถ ยิ่งขี้เกียจอยู่ด้วย พอเสร็จแล้ว จะได้ช่วยอมให้เรา เพื่อเป็นการทำความสะอาดไปในตัว" ผมทำหน้าทะเล้นใส่บอล

"แหวะ... สกปรก ซกมกจริงๆ ยังมาทำหน้าตายแบบนี้ใส่เราอีก จะไปดื่มน้ำปัสสาวะที่ไหนก็ไป แต่อย่าไปนานและห้ามเถลไถลเด็ดขาด" บอลค้อนใส่ผม

"ครับผม" ผมยิ้มรับคำ

................................................................


ขณะที่ผมกำลังยืนยิงกระต่ายอย่างมีความสุข ทันใดนั้นมีหนุ่มน้อยคนหนึ่งอายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับผม หรือไม่งั้นก็มากกว่าผมไม่กี่ปี (สังเกตุจากทรงผมที่ก้ำๆกึ่งๆดูไม่ออกว่าจะเป็นเด็กมัธยมก็ไม่ใช่ เด็กมหาลัยก็ไม่เชิง) หนุ่มน้อยคนดีหน้าตาจัดได้ว่าหล่อโฮกมากๆ (ขอยืมศัพท์สมัยใหม่มาใช้หน่อยนะ เพราะบรรยายได้โดนตรงจุดจริงๆ) หล่อแบบไทยแท้ สูงยาวเข่าดี โดยเฉพาะส่วนสูงน่าจะประมาณ 185 เซนติเมตร (สูงๆแบบนี้ ลำกล้องคงจะยาวใช่น้อย) ผิวสองสีเนียนสวย ดูสะอาดสะอ้าน

ผมมองดูความหล่อของหนุ่มน้อยคนนั้นอย่างลืมตัว จนได้สติกลับคืนมา ผมจึงแกล้งทำเนียนยืนยิงกระต่ายต่อ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายสงสัย หนุ่มน้อยคนนั้นจ้องมองผมด้วยสายตาที่ไม่ยินดียินร้ายอะไร จากนั้นก็เดินมายืนที่โถข้างๆผม (ทั้งๆที่ในห้องน้ำมีโถว่างอยู่ตั้งหลายมุม)

ผมรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกับกำลังผจญภัยอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่าง ผมค่อยๆชำเลืองตามองต่ำมาที่หนุ่มน้อยคนนั้น

แจ๊คพ็อตแตกจริงๆครับ!!!!! หนุ่มน้อยคนนั้น ค่อยๆยืนห่างโถออกทีละนิดๆ พร้อมกับค่อยๆถอกหนังบริเวณลำกระดอ ผมมองดูแล้วทำให้กระจู๋ของผมแข็งขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ

เวลานี้ผมแน่ใจ 100% แล้วว่า หนุ่มน้อยคนนี้เล่นด้วยจริงๆ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมเลยโชว์แท่งตอปิโดที่แข็งปึ๋งของผมให้ดูบ้าง ผมค่อยๆรูดมันอย่างช้า พร้อมกับถอกหนังหุ้มที่บริเวณหัวกระดอ

หนุ่มน้อยคนนั้นเอื้อมมือมาจับแท่งตอปิโดของผม และค่อยๆชักเข้าๆออกๆ

ส่วนตัวของผมเองนั้น ก็รีบเอามือมาจับพิสูจน์ความยาวของมังกรฝ่ายตรงข้าม (เพื่อไม่ให้ขาดทุน) ซึ่งลำตัวของมังกรยาวสวยได้รูป หัวมังกรสีชมพูเปิดออกมาทักทายโลกภายนอก ส่วนขนาดนั้นไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปนัก

เราทั้งสองต่างก็สัมผัสอวัยวะเพศของกันและกันอย่างตื่นตาตื่นใจ

เอี๊ยด... !!!!!!!! เสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้น

เราทั้งสองต่างก็รีบปล่อยมือออกจากอวัยวะเพศที่แข็งโด่ของกันและกันอย่างอัตโนมัติ พร้อมกับทำท่ายืนฉี่อย่างปรกติ

คนที่เปิดประตูห้องน้ำเข้ามานั้น เป็นผู้ชายวัยกลางคน 3 คน พวกเขาเดินเข้ามายืนฉี่ที่โถอีกมุมหนึ่ง 4 วินาทีถัดมา ก็มีฝรั่งผู้ชาย 2 คนเข้ามา โดยคนหนึ่งจูงมือเด็กผู้ชายราวๆ 3-4 ขวบ เข้ามาด้วย ฝรั่งที่ไม่ได้มากับเด็ก เดินมายืนฉี่ข้างๆกลุ่มผู้ชายวัยกลางคน ส่วนฝรั่งที่มากับเด็ก ยืนแปรงฟันอยู่ตรงอ่างล้างหน้า

สวรรค์ล่มเลยตรู!!!!!!! ผมรีบเดินออกจากห้องน้ำอย่างเซ็งๆ เพราะโอกาสไม่เอื้ออำนวย และที่สำคัญ ลืมไปว่า บอลยืนรออยู่!!!!!!!! ผมเลยรีบวิ่งสู้ฟัดไปหาบอลทันที

"ทำไมฉี่นานจัง? หรือว่าไปเดินเถลไถลที่ไหนมา?" บอลถามขึ้นมา

"ไม่ได้ไปเดินเหลวไหลที่ไหนหรอก เผอิญฉี่เสร็จแล้วปวดอึอย่างกระทันหัน เลยต่ออีกรอบ" ผมป้อนสตอใส่ปากบอล

"มิน่าละ ถึงว่า... ได้กลิ่นอะไรตุๆแถวนี้ ที่แท้ก็จากนายนี่เอง ล้างมือสะอาดแล้วใช่ไหม?" บอลทำหน้าทำตาพร้อมกับใช้มือทำท่าพัดไปมาที่จมูกของตน

" ล้างสะอาดแล้ว จะดมดูไหมว่าหอมแค่ไหน?" ผมทำเนียนโดยการยื่นมือไปที่จมูกของบอล (รอดตัวไปตรู นึกว่าจะสตอไม่ขึ้นซะแล้ว)

.................................................................


เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง อาจารย์ที่เป็นหัวหน้าทัวร์ก็มาถึง หลังจากนั้นบรรดาพวกลูกทัวร์ก็เริ่มทยอยมากัน อาจารย์จะแนะนำให้ลูกทัวร์ทุกคนรู้จักกันและกัน เห็นอาจารย์บอกว่าลูกทัวร์ทั้งหมดในทริปนี้รวมทั้งตัวอาจารย์ด้วย มีด้วยกัน 12 คน ทั้งลูกทัวร์ที่มาโดยตรงจากเชียงใหม่ และลูกทัวร์จากกรุงเทพ ที่ส่งต่อมาจากบริษัททัวร์ในกรุงเทพ

ทันใดนั้น มีลูกทัวร์กลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาหาอาจารย์ ลูกทัวร์กลุ่มที่ว่านี้เป็นครอบครัวมีทั้งหมด 5 คน พ่อ แม่ ยาย(หรือย่า ไม่แน่ใจ) ลูกชาย และลูกสาว

เมื่อผมได้เห็นหน้าลูกชายของครอบครัวนี้ ผมรู้สึกตกใจปนช็อคนิดๆ เพราะ ลูกชายของครอบครัวนี้เป็นคนๆเดียวกับหนุ่มน้อยคนที่เล่นว่าวกับผมในห้องน้ำ เมื่อครู่ที่ผ่านมา

แรกๆที่เจอหน้ากัน ผมและหนุ่มน้อยคนดังกล่าว ต่างก็รู้สึกตกใจและงงๆ จนทำสีหน้าไม่ถูกที่ได้มาเจอกันอีกรอบ แถมยังบังเอิญร่วมคณะทัวร์เดียวกันด้วย !!!!!!

เมื่อถึงสนามบินนานาชาติเมืองกัลกัตต้า(ปัจจุบันนี้ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "โกลกาต้า") และผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองแล้ว หัวหน้าทัวร์ก็เช็คจำนวนลูกทัวร์ ตลอดจนความเรียบร้อยต่างๆภายในคณะ พร้อมทั้งเดินนำไปยังประตูทางออกผู้โดยสารขาเข้า

http://upic.me/show/42587849>


รถบัสได้จอดรอพวกเราอยู่ตรงถนนฝั่งตรงข้ามหน้าอาคารผู้โดยสารขาเข้า
ผมนั่งคู่กับบอล(ซึ่งขอเหมาผูกขาดกับการนั่งที่นั่งติดกับหน้าต่างตลอดทริป) ขณะที่กำลังรอให้ลูกทัวร์ขึ้นรถครบทุกคน หนุ่มน้อยคนนั้นพร้อมน้องสาวก็เดินเข้ามานั่งตรงเบาะฝั่งตรงข้ามกับผม

น้องสาวของเขานั่งติดกับหน้าต่าง ส่วนตัวเขานั่งอยู่ตำแหน่งตรงข้ามกับผมพอดิบพอดี (ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือว่าจงใจกันแน่?)

ระหว่างทางที่รถวิ่งเข้าไปในเมืองโกลก้าต้า บอลก็เข้าฌาณอีกตามเคย (ถ้านั่งรถโดยสารระยะทางไกลเกิน 10 กิโล บอลมักจะหลับเสมอ)

"มาเที่ยวกับเพื่อนหรือครับ? หรือว่ามากับครอบครัวด้วย?" หนุ่มน้อยคนนั้นพูดทักทายผม

"มากับเพื่อนครับ และญาติผู้ใหญ่อีก 1 คน อาจารย์นิตยาที่เป็นหัวหน้าทัวร์ ท่านเป็นน้าของผม" ผมทักทายตอบด้วยอาการเขินๆ

"ผมชื่อภีม( ภี-มะ) หรือเรียกชื่อเล่นว่า ภีม(ภีม) ได้นะครับ สะดวกแบบไหนก็เรียกแบบนั้น นายชื่ออะไร?" หนุ่มน้อยคนนั้นแนะนำตัวเอง

"กันต์ ชื่อนายเพราะและเก๋ไม่เหมือนใครดีนะ ส่วนคนที่กำลังนั่งทำสมาธิอยู่ชื่อบอล" ผมแนะนำตัวเองพร้อมทั้งหันหน้าไปหาบอล (แอบกัดเจ้าบอลทีเผลอ)

"กันต์ช่างเข้าใจแกล้งเพื่อน" ภีมแอบขำอย่างเบาๆ

"ลืมแนะนำไป นี่น้องสาวเราชื่อพริ้มเพรา" ภีมแนะนำเด็กผู้หญิงวัยรุ่นที่กำลังฟังเพลงจากหูฟังของเครื่องเล่นซีดี เด็กผู้หญิงคนนี้อายุไม่น่าเกิน 15 ปี เธอรีบถอดเอาหูฟังออกจากหูทันที

"พี่ชื่อกันต์"

"สวัสดีคะพี่กันต์" พริ้มเพรา ยกมือไหว้ทักทายตามมารยาท หลังจากนั้นก็ใส่หูฟังเพื่อฟังเพลงต่อทันที

"กันต์เรียนอยู่ชั้นไหน? อายุเท่าไหร่? จะได้เรียกถูก" ภีมเอ่ยถามผม

“เราจะย่างเข้า 18 อีก 2 เดือน ตอนนี้เรียนอยู่มหาลัยจะขึ้นปี3 นายละ?" ผมตอบอย่างตรงไปตรงมา

"โอ้โห.. กันต์เรียนเร็วจัง สงสัยสอบเทียบมาแน่นอน เก่งมาก เราอายุ 18 เหมือนกัน เราเพิ่งสอบเอ็นทรานซ์เสร็จ ตอนนี้กำลังรอฟังผลสอบอยู่ ทางบ้านไม่อยากให้เราเครียดมาก เลยมาเที่ยวอินเดียกันทั้งบ้าน" ภีมเล่าเรื่องของตัวเองให้ผมฟังอย่างคร่าวๆ

"ภีมอยากเรียนคณะไหน? เลือกมหาลัยไหนบ้าง?" ผมถามแบบมีลุ้นนิดๆ (เผื่อภีมเลือกอาจเลือกมหาลัยของผม)


"อยากเรียนคณะบัญชีมากที่สุด รองมาก็บริหารธุรกิจ และเศรษฐศาสตร์ ส่วนมหาลัยนั้น เราเลือกแต่มหาลัยชั้นนำในกรุงเทพทั้งหมด ถ้าเกิดเอ็นฯไม่ติด คงต้องไปเรียนเอกชน" ภีมตอบแบบไม่แน่ใจในอนาคตทางการศึกษาของตัวเอง


"คนนี้เขาเรียนอยู่คณะบริหารฯ" ผมชี้มือมาที่บอล

"อะไรๆ แอบนินทาเราอยู่หรือ? นึกว่าเราหลับละซิ" บอลลืมตาขึ้น พร้อมท่าทางสะลึมสะลือ