Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 521
#0, สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 15-Jan-13 at 10:10 PM
สวัสดีครับผู้อ่านทุกคน พบกับผลงานเรื่องใหม่ของผมได้เลยครับ
........................................................................

ผลงานเรื่องที่ 7 ของผู้เขียน "ฟุตบอลสื่อรัก " ทั้ง 3 ภาค และ "ร.ด.หฤโหด" ทั้ง 3 ภาค
.........................................................................

"สิ้นแสงดาว" เป็นรวมบทกลอนที่ผมแต่งตั้งแต่ยังศึกษาด้านภาษาและวรรณคดีอังกฤษในระดับมหาวิทยาลัยเมื่อปี 2544 และยังคงแต่งต่อมาจนถึงปัจจุบันแม้ว่าจะเว้นช่วงไปบ้าง บทกลอนเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงอารมณ์และความรู้สึกที่หลากหลายของผู้ที่เป็นเกย์ ทั้งสุข เศร้า เหงา สิ้นหวัง หดหู่ ฯลฯ อยากให้ทุกคนได้อ่านบทกลอนของผมกันเยอะๆครับ

ตามธรรมเนียมของการแต่งกลอน จะต้องเริ่มด้วยการแต่งบทกลอนรำลึกถึงพระคุณของครูบาอาจารย์ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้เกี่ยวกับกลอนให้กับผมก่อนครับ จากนั้นจึงเริ่มกลอนของผม
..........................................................................

เลิศล้ำคำกวี

คำกวี.....

คล้ายดวงเดือนลอยเลื่อนบนผืนฟ้า
คล้ายดาราส่องระยับรับเดือนฉาย
คล้ายวาโยพัดอ่อนต้องผิวกาย
คล้ายแสงเลื่อมพรรณรายบนฟ้าไกล

เหมือนเก็จแก้ววับแววบนผืนหล้า
เหมือนธาราไหลรื่นชื่นใจหลาย
เหมือนดวงมาลย์หอมฟุ้งจรุงกาย
เหมือนแสงทองพราวพรายมาโลมดิน

คำกวีร้อยเรียงเป็นเรื่องราว
ดุจเก็บแก้วแพรวพราวจากฟากฟ้า
บริสุทธิ์ผ่องแผ้วเหลือคณา
ล้ำเลอค่านำมาร้อยเป็นกานท์กลอน

ช่างเลิศล้ำสูงยิ่งกว่าสิ่งใด
เหนือกว่าพรหมเทพไทในภูมิสาม
ทั่วพิภพฟ้าสวรรค์และบาดาล
ต่างยกย่องกราบกรานคำกวี

ลูกขอน้อมเศียรเกล้ากราบเบื้องบาท
ขอประกาศคารวะคำครูสอน
บุรพคณาจารย์แห่งกาพย์กลอน
ให้ประสิทธิ์ประสาทพรแก่ลูกยา

จะร้อยเรียงพจน์ใดจงไพเราะ
ฟังเสนาะระรื่นหูมิรู้หาย
ขอบูชาคุณท่านตราบชีพวาย
เพื่อมั่นหมายพบกันบน “ชั้นกวี”


31 ตุลาคม 2545



#1, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 15-Jan-13 at 10:16 PM
In response to message #0
บทที่ 1 โลกของเกย์

เมื่อก่อนตอนฉันเยาว์วัย
เคยฝันเคยใฝ่หลายสิ่ง
อยากรักผู้ชายผู้หญิง
อยากมีรักจริงกับใคร

ตอนนี้ฉันโตเป็นหนุ่ม
ความลับมันสุมในอก
ไม่อาจที่จะหยิบยก
ต้องเก็บและปกปิดไว้

จิตใจฝันใฝ่เพศชาย
มั่นหมายอยากมีเคียงคู่
เริ่มรักเริ่มชอบกันอยู่
โดยฉันไม่รู้ความจริง

เสียตัวมั่วชายมากมาย
ไม่อายเห็นเป็นเรื่องสนุก
ทำไปจนถึงที่สุด
ก็หยุดตรงชายคนหนึ่ง

เข้ามาสนใจรักใคร่
ยามเศร้าปลอบใจไมห่าง
ยามสุขเสพสมยาวนาน
ได้อย่างต้องการแล้วไป

ฉันนั้นเรียนรักจากเขา
เอาตัวของเราเข้าแลก
เสียตัวด้วยความใจแตก
แต่เขากลับแยกจากไป

ก้าวเดินบนทางโลกีย์
ทางเดินสายนี้สกปรก
น้ำกามมากมายไหลรด
เสร็จกันแล้วหมดเยื่อใย

เกย์นั้นหาความจริงใจ
หากันไม่ได้เลยหนา
ผ่านแล้วผ่านเลยทุกครา
ไม่มีคุณค่าอะไร

ผู้ชายของฉันหายไป
ไม่เหลือความห่วงใยฉัน
ไม่เหลือแม้ความสัมพันธ์
ฉันมันแค่เด็กรายทาง

เขาคงไปหาคนใหม่
แล้วคงรักใคร่กันมาก
สุขสมสมใจตีจาก
เขาฝากความช้ำไว้ให้

ฉันต้องตรอมตรมทนทุกข์
คิดถึงคราวสุขกับเขา
คิดถึงวันคืนเก่าเก่า
รักเราเป็นได้แค่ฝัน

ยังคงอดทนเฝ้ารอ
เขาอาจติดต่อมาหา
เขาคงไม่ลืมสัญญา
ที่ว่าจะรักจนตาย

เวลายังเดินเรื่อยไป
หัวใจฉันยังโหยหา
คอยเขาคนนั้นกลับมา
เยียวยารักษาแผลใจ

ต้องรอกี่วันกี่เดือน
เวลายิ่งเคลื่อนผันผ่าน
หรือรอจนฉันวายปราณ
ฉันจึงได้พบพาน “ความเห็นใจ”


มิถุนายน 2544


#2, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by ตงฟาง ครับ on 17-Jan-13 at 03:33 PM
In response to message #1
ขอบคุณครับ

#3, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by ดีดีที on 17-Jan-13 at 11:18 PM
In response to message #2
ชอบจัง ^^

#4, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 19-Jan-13 at 07:14 AM
In response to message #0
บทกลอนบางบทของผมจะมีลักษณะพิเศษ คือ เหมือนยังไม่จบกระแสความแต่ที่จริงจบแล้ว บทกลอนประเภทนี้ผมตั้งใจให้ผู้อ่านได้คิดต่อเองโดยเสรี เช่นบทนี้

บทที่ 2 นิยามรัก

รักคืออะไรใครตอบได้
ถึงทำให้ในจิตใจฉันว้าวุ่น
บางคนบอกรักเหมือนไฟอันอบอุ่น
หรือเหมือนพรมนุ่มละมุนให้สัมผัส
หลายหลายคนให้นิยามเรื่องความรัก
ตามที่ตนประจักษ์รับรู้ได้
แต่ตัวฉันนั้นก็รู้อยู่แก่ใจ
ว่ารักนั้นเปรียบเหมือน “ไฟ” ไหม้แหลกลาญ

มิถุนายน 2544


#5, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 21-Jan-13 at 07:58 PM
In response to message #0
บทที่ 3 รักวิปริต

ฉันเคยมีความรัก เริ่มรู้จักเมื่อไม่นาน
ตั้งแต่เริ่มแตกพาน เหมือนตำนานความระทม
เมื่อแรกเริ่มคบกัน ต่างสัมพันธ์และสุขสม
ไม่เคยต้องช้ำตรม รักไม่ขมไม่ปวดใจ
เลือกรักกับชายหนุ่ม ดั่งไฟสุมในอกฉัน
ยามสุขแสนผูกพัน ยามทุกข์นั้นแสนกล้ำกลืน
คบกันไปไม่นาน เขาเริ่มห่างไปจากฉัน
ไม่มาห่วงใยกัน รักของฉันก็หลุดลอย
วันคืนที่พ้นผ่าน แม้ไม่นานก็หวั่นไหว
ที่รักเมื่อจากไป ยังฝันใฝ่ยังคำนึง
ความรักอย่างฉันคิด อาจวิปริตผิดมนุษย์มนา
ฉันคงต้องจากลา เพื่อรักษาเยียวยาใจ


มิถุนายน 2544


#6, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 24-Jan-13 at 06:21 PM
In response to message #0
ขอบคุณที่ติดตามครับ
.......................................

บทที่ 4 ฝันสลาย

เขาเหมือนเป็นเทพบุตรสุดวิเศษ
เขาเปรียบดั่งเพชรน้ำเอกอันมีค่า
เขาเพียบพร้อมในทุกสิ่งทั้งกายา
ทำให้ฉันต้องมนตราในบัดดล
เขากอดรัดมัดใจไว้กับอก
พร่ำพรอดคำที่หยิบยกมาเสกสรร
ล้วนหลากคำเสนาะหูและน่าฟัง
จะรักฉันรักล้นรักหมดใจ
ฉันยอมพลีมอบกายให้กับเขา
เขานั้นเล่าก็เสพสมอารมณ์หมาย
จนบรรลุความต้องการที่มากมาย
แสนเหนื่อยกายแต่เพราะรักจึงยอมทน
ฉันนั้นมีความสุขมากเหลือแสน
พ่อยอดชายมาดแมนนี้ของฉัน
ถ้าเขาเป็นคู่แล้วไม่แคล้วกัน
คนนี้คงเป็นคู่ฉันไม่ผิดตัว
พลันสะดุ้งตื่นขึ้นจากความฝัน
อนิจจังเป็นฝันไปหรือนี่
ความสุขสมที่ผ่านมาทุกสิ่งนี้
คงไม่มีโอกาสเกิดเป็นเรื่องจริง
อยากจะให้ความฝันได้แปรเปลี่ยน
เป็นความจริงแวะเวียนมาหาบ้าง
อย่าให้ฉันต้องนอนฝันอย่างอ้างว้าง
ฝันสลายทุกวันวารน่าเศร้าใจ


23 ตุลาคม 2544


#7, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 27-Jan-13 at 08:37 PM
In response to message #0
บทที่ 5 ฟ้าไม่ปรานี

ชีวิตของคนเราช่างแปลกนัก
เพิ่งได้เห็นเพิ่งประจักษ์ในสิ่งนี้
ชายคู่หญิงหญิงคู่ชายช่างแสนดี
กฎเกณฑ์นี้ฟ้าสร้างมาหรืออย่างไร
ถ้าฟ้าสร้างหญิงชายให้เคียงคู่
ฟ้าสร้างมาให้สมสู่เป็นคู่สอง
แล้วทำไมสร้างบางชายให้หมายปอง
สร้างให้ลองรสสวาทพวกเดียวกัน
อนิจจาเกิดมาอาภัพนัก
ที่ต้องมาหลงรักเพศของพ่อ
สุดแสนเจ็บปวดใจลำบากท้อ
จำต้องฝืนทนเดินต่อตามบุญกรรม
อยากจะร้องอ้อนวอนกับฟากฟ้า
ไฉนเลยสร้างข้าผิดวิถี
ให้ชอบชายเหมือนกันเศร้าสิ้นดี
ฟ้าเอ๋ยฟ้าไม่ปรานีกับข้าเลย


23 ตุลาคม 2544



#8, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 01-Feb-13 at 07:10 PM
In response to message #0
ไม่มีใครอ่านเลยเหรอครับ
.......................................

บทที่ 6 น้ำตาเลือด

ฉันยังจำเรื่องราวแต่คราวก่อน
ทุกบทตอนยังชัดเจนไม่แปรผัน
คนรักฉันกลายเป็นอื่นเสียโดยพลัน
หยาดหนึ่งนั้นหยดน้ำตาเริ่มไหลริน
จากวันแรกที่น้ำตาต้องไหลหยด
ฉันเริ่มรดความรักกับชายอื่น
เกิดเรื่องราวเหมือนคราวก่อนทุกวันคืน
เสียน้ำตาให้คนอื่นไปมากมาย
ชายทุกคนผ่านเข้ามาในชีวิต
ล้วนเป็นไปตามลิขิตแห่งตัณหา
ฉันต้องทนขื่นขมหลั่งน้ำตา
เฝ้ามองหาใครสักคนที่รักจริง
โอ้น้ำตาเจ้าเอ๋ยเริ่มแห้งเหือด
เจ้ากลับกลายเป็นเลือดรินไหลหลั่ง
ต่อจากนี้ชีวิตคงเป็นความฝัน
แม้โลหิตยังถูกกลั่นเป็นน้ำตา
ภาพความฝันช่างชัดเจนและงดงาม
ฉันได้พบหนุ่มรูปงามที่ใฝ่ฝัน
เราต่างตกเป็นของกันและกัน
เขาเอื้อนเอ่ยน้ำคำพร่ำเจรจา
คำว่ารักเปี่ยมล้นแผ่ซาบซ่าน
เป็นคำหวานคำสุดท้ายที่ให้ฉัน
น้ำตาเลือดหยดสุดท้ายหลั่งไหลพลัน
ปลื้มปีติตื้นตันแล้วสิ้นใจ


กลอนต้นฉบับ แต่ง 23 ตุลาคม 2544
แก้ไขใหม่ 25 ตุลาคม 2554


#9, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 06-Feb-13 at 09:14 PM
In response to message #0
บทที่ 7 โลกของเกย์ ภาค 2

"โลกของเกย์ ภาค 2" มีเนื้อหาต่อจาก “โลกของเกย์” ที่ผมเคยแต่งไว้แล้วครับ
......................................

โลกของเกย์ ภาค 2

เวลาผ่านไปหลายเดือน
ความรักเริ่มเลือนเริ่มหาย
ฉันอยู่โดดเดี่ยวเดียวดาย
เริ่มคลายความเศร้าโศกตรม

เข้าใจเรื่องราวทุกอย่าง
จากเคยบอบบางช้ำชอก
เกย์ที่เคยถูกเขาหลอก
ไม่มีใครหลอกอีกได้

นี่คือโลกของความจริง
รักแท้รักจริงไม่เกิด
ผ่านแล้วไม่ต้องลำเลิก
หาคนอื่นเถิดคนดี

ฉันเห็นว่าความคิดนี้
เห็นแก่ตัวสิ้นดีเหลือหลาย
ถ้าทำอย่างนี้จนตาย
มันเป็นผู้ชายไม่ดี

ฉันคิดว่าควรมีแฟน
ไว้เป็นตัวแทนของฉัน
รักแล้วไม่นอกใจกัน
มีความสัมพันธ์คนเดียว

คุณรู้ไหมฉันคิดผิด
ไม่มีใครคิดแบบนี้
ยิ่งผ่านเยอะเยอะยิ่งดี
มันคือศักดิ์ศรีชาวเกย์

เกย์ต้องผ่านชายให้มาก
ช่วยสนองความอยากตัณหา
ความรักไม่ต้องนำมา
เนื้อหนังมังสาสิดี

เกย์จึงไม่เคยรักจริง
ชอบฟันแล้วทิ้งกันมาก
แต่ก็ไม่เคยลำบาก
เพราะไม่คิดมากทั้งคู่

ต่างคนต่างหาคนใหม่
แยกจากกันไปง่ายง่าย
ดูเถิดมันช่างวุ่นวาย
มีแฟนมากมายเสียจริง

ฉันเองก็ทำแบบนี้
ผ่านชายมากมีผ่านหมด
ถึงแม้มันแสนมันส์หยด
แต่เหมือนโกหกตัวเอง

สุดท้ายเมื่อฉันแก่เฒ่า
ใครเล่าจะมาห่วงฉัน
ใครจะมาห่วงใยกัน
แน่นอนตัวฉันห่วงเอง

เกย์เมื่อกลายเป็นคนแก่
หมดค่าลงแน่ดังหมาย
เรี่ยวแรงกำลังในกาย
สูญสิ้นมลายหายไป

ได้แต่นอนรอวันตาย
คิดแล้วใจหายแสนเศร้า
เกย์มากมายในวันเก่าเก่า
ไม่สนใจเราอีกแล้ว

ชีวิตฉันมีแต่ทุกข์
ไม่เคยมีสุขกับเขา
จะหาคนที่รักเรา
ยิ่งหายิ่งเหงาจับใจ

ในเมื่อไม่มีใครรัก
ฉันก็ต้องไม่รู้จักเรื่องนี้
เรื่องรักฉันต้องไม่มี
ฉันต้องไม่มีหัวใจ

ฉันต้องก้าวเดินตามทาง
บนถนนน้ำกามสายนี้
ตามรอยพวกเกย์รุ่นพี่
ไม่มีโอกาสเปลี่ยนได้

ผู้คนรังเกียจตัวฉัน
เป็นเกย์นี้มันสิ่งผิด
ไม่มีใครเลยจะคิด
สิ่งนี้เป็นลิขิตจากสวรรค์

ฉันไม่ได้อยากเป็นเกย์
จิตใจหันเหแบบนี้
เสียใจอยู่ทุกนาที
ที่ไม่มีผู้สืบทอดสกุล

สุดท้ายฉันขอบางสิ่ง
ชาติหน้ามีจริงดังหมาย
ฉันขอเกิดเป็นผู้ชาย
เป็นชายสมชายเสียที

รักชอบผู้หญิงได้บ้าง
ไม่ต้องอ้างว้างเหมือนเก่า
อย่าให้ฉันมีแต่เงา
เป็นเพื่อนแก้เหงาคนเดียว


27 ตุลาคม 2544


#10, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 11-Feb-13 at 10:03 PM
In response to message #0
บทที่ 8 คำมั่นสัญญา

ฉันเคยมีความรักที่แสนหวาน
ดังสวรรค์บันดาลและฟ้าส่ง
ให้มาพานพบรักในบัดดล
ดวงกมลอุ่นรักประทับใจ
เป็นความรักครั้งแรกในชีวิต
เป็นความผิดที่ตัวฉันก่อกำเนิด
หลงคิดว่ารักนั้นช่างเลอเลิศ
จึงทุ่มใจอันประเสริฐให้หมดสิ้น
ถือคำมั่นสัญญากับฟ้าดิน
จะรักกันจนสิ้นอายุขัย
ช่างเป็นคำที่ปวดร้าวเหนือคำใด
เมื่อได้รู้ไม่มีใครเขารักจริง
เกย์ทุกคนผ่านแล้วก็ผ่านเลย
เรื่องหัวใจไม่เคยให้คนอื่น
ฉันปวดร้าวในใจสุดกล้ำกลืน
ต้องทนฝืนแม้ต้องขื่นต้องขมใจ
หวนคิดถึงคำมั่นสัญญาเขา
ที่ว่าจะรักเราดั่งใจหมาย
ไม่มีวันเกิดขึ้นได้แม้ชีพวาย
มิเคยคลายความหนาวเหน็บเจ็บโศกทรวง
คำสัญญามากมายที่เอื้อนเอ่ย
ทุกถ้อยคำไม่จริงเลยแสนผิดหวัง
จดจำไว้เป็นบทเรียนไม่จีรัง
อย่าได้หวังคนจริงใจมันไม่มี


กลอนต้นฉบับ แต่ง 5 พฤศจิกายน 2544
แก้ไขใหม่ 14 ตุลาคม 2554



#11, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 16-Feb-13 at 10:07 PM
In response to message #0
บทที่ 9 คนไร้ค่า จากสายตา ของชายเกย์

ชีวิตฉันเกิดมาบนโลกนี้
สิ่งที่เห็นก็มีเพียงร่างหนึ่ง
หนึ่งร่างกายหนึ่งดวงใจอันชุ่มชื่น
ที่ได้เคยให้คนอื่นแล้วช้ำใจ
ฉันได้ทุ่มเทใจให้กับเขา
แต่เขากลับมองเราเป็นอย่างอื่น
เป็นดอกไม้ชมเล่นเพียงข้ามคืน
หมดความใคร่เขาก็ยื่นมันทิ้งไป
โอ้ชีวิตร่างนี้บอบช้ำนัก
โดนขว้างทิ้งฉุดรั้งกระชากเถือ
จากมือชายมากมายผ่านเป็นเบือ
จนไม่เหลือคุณค่าความเป็นคน
เป็นแค่เพียงตุ๊กตาไว้ดึงเล่น
เป็นแค่เพียงเศษเดนไว้กินของ
เป็นแค่เพียงคนไร้ค่าไว้รับรอง
เป็นแค่เพียงผู้สนองตัณหาชาย


กลอนต้นฉบับ แต่ง 13 พฤศจิกายน 2544
แก้ไขใหม่ 15 พฤศจิกายน 2554



#12, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 24-Feb-13 at 06:21 PM
In response to message #0
บทที่ 10 คนไร้ค่า จากสายตา ของชายแท้

ชีวิตฉันมันก็เป็นคนไร้ค่า
ถูกมองด้วยสายตาที่เหยียดหยาม
ถึงชายเกย์จะรักชอบเพียงชั่วยาม
แต่ก็ไม่เคยประณามตัวฉันเลย
นั่นเป็นเพราะเราต่างเป็นเกย์เหมือนกัน
หัวอกเธอหัวอกฉันเข้าใจอยู่
อย่างน้อยน้อยก็ไม่คิดเป็นศัตรู
เราต่างคนต่างรับรู้เป็นมิตรกัน
ผิดกับในความคิดของชายแท้
เกย์นั้นเป็นสิ่งแย่สุดวิปริต
ชายชอบชายเสียชาติเกิดไร้ความคิด
เป็นสิ่งผิดสุดโรคจิตแสนต่ำทราม
เหล่าชายแท้ชอบดูหมิ่นเหยียดหยามฉัน
มีความสุขรังเกียจมันสมเพชหลาย
“ชายเหนือชาย””เศษชาย”ช่างน่าอาย
หมู่ผู้หญิงมีมากมายไม่สนใจ
ทำไมหนอชายแท้จึงเกลียดฉัน
คนดีเลวเขาวัดกันที่ตรงไหน
ฉันเป็นเกย์ฉันจึงเลวหรืออย่างไร
ทำไมไม่วัดกันจากการกระทำ
“เกย์”ก็เป็นคนเหมือนกันอย่ารังเกียจ
อย่าได้เหยียดอย่าได้หยามให้ใจสลาย
อย่าซ้ำเติมคนที่เกิดไม่สมชาย
อย่าใจร้ายกับผู้ชายอย่างฉันเลย
__________________________________

ชายเหนือชาย = เกย์คิง (ฝ่ายรุก)
เศษชาย = เกย์ควีน (ฝ่ายรับ)
__________________________________

28 พฤศจิกายน 2544


#13, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 05-Mar-13 at 05:17 PM
In response to message #0
"จิตวิญญาณการเป็นเกย์" เป็นบทกลอนที่ใช้วิธีสมมุติให้เกย์แต่ละคนมี "จิตวิญญาณ" ของตนเอง และจิตวิญญาณนั้นกำลังจะบอกบางสิ่งบางอย่างกับเขา ผ่านกลอนบทนี้ครับ
..........................................................

บทที่ 11 จิตวิญญาณการเป็นเกย์

เหล่าผู้คนมากมายเป็นชายแท้
เฝ้าคอยแต่ตั้งคำถามเรื่องตัวฉัน
เกิดเป็นเกย์มันมีค่าแค่ไหนกัน
หรือในใจมันแปรผันผิดเพี้ยนไป
เขาดูถูกดูหมิ่นว่าทุเรศ
เขาบอกว่าข้าวิเศษกว่าสิ่งไหน
ข้าชายจริงหญิงแท้ดีเพียงใด
ไอ้พวกเกย์ช่างจัญไรช่างน่าอาย
เกย์ทั้งหลายจงฟังคำของฉัน
ทั้งเกย์คิง ควีนนั้นทุกหมู่เหล่า
ทั้งเด็กน้อยหนุ่มใหญ่คนแก่เฒ่า
จงฟังเราเพื่อตัวเจ้าจะเข้าใจ
เราเป็นจิตวิญญาณของชาวเกย์
ซึ่งทำให้เจ้าหักเหเปลี่ยนนิสัย
เราสถิตภายในใจทุกคนไป
และจะไม่มีใครเข้าใจเรา
นอกเสียจากตัวเจ้าเจ้าเข้าใจ
จิตวิญญาณลุ่มลึกในใจของเจ้า
รักชอบชายแล้วรู้สึกชอบไม่เบา
สิ่งนี้เป็นเรื่องที่เจ้าต้องรับมัน
อย่าเสียใจที่เจ้าเป็นอย่างนี้
เราเข้าใจเจ้าดีอย่าหวั่นไหว
จิตวิญญาณตัวเจ้าเป็นอย่างไร
จงเต็มใจยอมรับปรับปรุงมัน
เจ้าจะต้องเดินต่อไปอย่างเข้มแข็ง
อย่าเสียแรงเสียน้ำตาให้ใครเขา
พวกชายแท้หรือใครจะว่าเอา
จงอดทนจงสู้เขาอย่าล้มลง
คนที่เป็นเกย์นั้นมีมากหลาย
คนบางคนลำบากกายแต่ยังสู้
เกิดเป็นเกย์ต้องสู้ตายต้องรับรู้
ว่าถ้าแพ้เราจะอยู่ได้อย่างไร
เราผู้เป็นจิตวิญญาณการเป็นเกย์
ที่ซึมซาบในใจเกย์ทุกหมู่เหล่า
ขอสัญญาว่าจะรักจะบรรเทา
เป็นเพื่อนเจ้าก้าวต่อไปอย่าได้กลัว


4 มีนาคม 2545


#14, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 14-Mar-13 at 06:36 PM
In response to message #0
"สิ้นแสงดาว" เป็นบทกลอนที่เด่นทางด้านวรรณศิลป์มากที่สุดบทหนึ่ง และเป็นบทกลอนที่ผมชอบมากที่สุด จึงนำมาเป็นชื่อเรื่องของรวมบทกลอนชุดนี้ครับ
...............................................

บทที่ 12 สิ้นแสงดาว

ดาวดวงน้อยลอยเด่นบนฟากฟ้า
แจ่มนภาทอแสงแรงเฉิดฉาย
เหมือนตัวฉันในวันก่อนเป็นเด็กชาย
ยังเยาว์วัยแสนสบายไร้ราคี
ครั้นเติบใหญ่จากเด็กชายกลายเป็นหนุ่ม
ดั่งดอกไม้หอมจรุงฟุ้งเกสร
หมู่ภมรภุมราบินมาดอม
หมายจะลองรสเกสรความเป็นชาย
แล้วตัวฉันก็จำยอมเสียให้เขา
ด้วยมัวเมาในกิเลสกามตัณหา
ลิ้มรสสวาทหลายหลากฉ่ำอุรา
ดาวจึงเริ่มเจิดจ้าเย้ยฟ้าดิน
วันเวลาเนิ่นนานไหลพ้นผ่าน
ดุจลำธารสายธาราที่หลั่งไหล
จากหนุ่มน้อยเป็นผู้ใหญ่ในทันใด
ต้องไขว่คว้าหาน้องชายมาแนบอิง
ถึงตอนนี้ฉันกลายเป็นฝ่ายที่หา
กลับไปเป็นภุมราหาเกสร
ใช้เด็กชายมาช่วยคลายกำหนัดนอง
ได้เสร็จสมอารมณ์ปองแล้วเลิกรา
ชายกับชายได้แล้วต้องแยกกัน
ฉันไม่อยากจะทำอยากจะฝืน
แต่ความรักชายกับชายไม่ยั่งยืน
ต้องพยายามกล้ำกลืนฝืนความจริง
ครั้นตัวฉันถึงวันชราภาพ
หมดโอกาสไขว่คว้าหาภาพฝัน
ใครต่อใครที่พ้นผ่านล้วนลืมกัน
ดาวดวงนี้นับวันจะโรยรา
หวนนึกถึงวันชื่นคืนเก่าเก่า
มีสองเรากอดตระกองเฝ้านอนฝัน
หมู่ผู้ชายหนุ่มแก่เป็นร้อยพัน
ทุกคนนั้นผ่านเข้ามาแล้วผ่านไป
สุดท้ายแล้วก็เหลือแค่ตัวฉัน
อยู่โดดเดี่ยวตามลำพังไร้ความหมาย
ไม่มีลูกและเมียนอนเคียงกาย
ได้แต่นอนรอความตายเปลี่ยวเอกา
เกย์ทุกคนล้วนต้องมีทางชีวิต
ที่ลิขิตเป็นแบบนี้กันทั้งสิ้น
สิ้นเรี่ยวแรงสิ้นกำลังสิ้นทุกสิ่ง
น้ำตาหลั่งไหลรินอย่างเสียใจ
อยากจะขออธิษฐานกับฟากฟ้า
ถ้าชาติหน้ามีจริงดั่งมั่นหมาย
ลูกขอเกิดเป็น "ผู้ชาย" ที่ "สมชาย"
ขอชีวิตอย่าเลวร้ายแบบนี้เลย
ในชาตินี้ลูกใช้กรรมหมดสิ้นแล้ว
เกิดเป็น "เกย์" ไม่แคล้วต้องรับบาป
ถูกรังเกียจเหยียดว่าเป็นคนเสียชาติ
ใช้ชีวิตเหมือนโดนสาปตายทั้งเป็น
ดาวดวงน้อยคล้อยต่ำลงเหหัก
ถึงมุมอับหยุดนิ่งแล้วดับแสง
สิ้นแสงดาวสิ้นชีวิตหมดสิ้นแรง
น้ำตาไหลเหือดแห้งแล้วสิ้นใจ
อนิจจานี่แหละหนาชีวิตเศร้า !
เกิดเป็นเกย์ต้องทนเหงาต้องโดดเดี่ยว
แม้ยามตายยังขาดคนมาแลเหลียว
จบชีวิตเพียงคนเดียวน่าเศร้าใจ

18 มีนาคม 2545



#15, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 24-Mar-13 at 05:56 PM
In response to message #0
2 บทแรกของ "ครึ่งใจ" เป็นกลอนที่มีผู้อื่นแต่งไว้นานแล้ว ผมได้นำมาแต่งต่ออีก 6 บท และใช้ชื่อกลอนว่า "ครึ่งใจ" ตามเนื้อหาของผู้ที่แต่งไว้ก่อนหน้านี้เพื่อเป็นเกียรติ ขอบคุณผู้ที่แต่ง 2 บทแรกไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
.........................................................

บทที่ 13 ครึ่งใจ

"หากรักใครขอให้รักเพียงแค่ครึ่ง
อีกครึ่งหนึ่งของหัวใจเก็บไว้ฝัน
หากวันใดถูกสลัดขาดสัมพันธ์
จงเอาใจครึ่งนั้นมาทดแทน"
เก็บความรักความผูกพันที่พ้นผ่าน
ประสบการณ์อันยาวนานที่เชือดเฉือน
รอบรักร้าวที่บาดลึกคอยย้ำเตือน
จะต้องให้ความเป็นเพื่อนกับทุกคน
ชายชอบชายอย่าได้หวังจะครอบครอง
เป็นเจ้าของเฉกเช่นชายชอบหญิง
พอเบื่อหน่ายหลีกเร้นหนีความจริง
ความสัมพันธ์สูญสิ้นในทันใด
ขอจงจำใส่ใจไว้ให้คิด
อย่ายึดติดกับผู้ใดให้ใจหมอง
มีเพียงเพื่อนก้าวเดินไปตามครรลอง
สู่แสงทองวันข้างหน้าอย่างมั่นใจ


18 มีนาคม 2545


#16, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by ธาดาพินิจอักษร on 24-Mar-13 at 09:55 PM
In response to message #15
@เมื่อ ค่ำคืนฉันนั่งอ่าน กานท์กลอน
ฟ้า พร่างด้วยศศิธร ส่องหล้า
สิ้น แสงสุรีย์สาด บนฟื้น โลกเฮย
ดาว เด่นผกายฟ้า แจ่มหล้า นวลลออฯ


สิ้นแสงดาวอย่าสิ้นหวังในเรื่องรัก
อย่าสิ้นศักดิ์สิ้นศรีในความหวัง
แม้สิ้นชายอย่าสิ้นลมระทมพลัน
กานท์กลอนนั้นที่เขียนมาข้าชื่นชม

สิ้นแสงดาวพราวพรับลับจากฟ้า
อย่าลืมว่ายังคงมีสุรีย์ส่อง
ดั่งคนเราดีชั่วต่างครรลอง
ต้องหัดมองดีดีอย่ารีบเลย

สิ้นแสงดาวอย่าเพิ่งสิ้นความจริงใจ
ถ้าอยากได้ต้องมอบให้เขาก่อนหนา
แล้วจะได้สิ่งนั้นกลับคืนมา
จงเชื่อมั่นในศรัทธาของตัวเอง

สิ้นแสงดาวยังคงมีแสงจันธร
ที่ยังส่องทางสว่างให้กับฉัน
เมื่อดวงดาวลาลับดับชีวัน
ยังคงมีแสงจันทร์ส่องอำไพ

สิ้นแสงดาวกลอนเพราะเสนาะจิต
ข้าขอตามอ่านติดในการเขียน
ขอให้ท่านเจ้าอุตส่าห์และพากเพียร
ให้งานเขียนมีออกมาอย่างมากมาย

ขอจบบทคิดเห็น เป็นกานท์กลอนเขียน ถ้าหากไม่เทียร ไพเราะเสนาะหู ข้าขออภัย ด้วยความไม่รู้
เป็นนักกลอนผู้ เพิ่งเริ่มเขียนใหม่ ขออวยพรท่าน หนุ่ม น.ศ.ไป ด้วยความจริงใจ จักขอตามไป อ่านในงานเขียน ขอสุขสวัสดี จงมีดั่งเทียน และกานท์กลอนเขียน จงมาต่อพลัน ฯ

๒๔ มีนาคม ๒๕๕๖


#17, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 27-Mar-13 at 00:42 AM
In response to message #0
ขอบคุณมากครับที่ติดตามอ่านงานเขียนกลอนของผม ติดตามอ่านไปจนจบทุกบทเลยนะครับ
...........................................................

บทที่ 14 เพชรร้าว

ในชีวิตเกิดมาอย่างสูงศักดิ์
เป็นดั่งเพชรที่ประดับไว้เหนือเกล้า
บารมีล้นเหลืองามเพริศพราว
เพชรน้ำหนึ่งสุกสกาววาวแสงเรือง
ในชีวิตเกิดมาอย่างเพียบพร้อม
แต่จำต้องเล่นละครตีสองหน้า
แกล้งว่าฉันเป็นชายแท้สมราคา
เพื่อไม่ให้เสียค่าความเป็นคน
โอ้ชีวิตคิดไปช่างแสนเศร้า
คนอย่างเราจะปิดได้นานแค่ไหน
ถ้าความจริงเปิดเผยขึ้นเมื่อไร
คงจะเจ็บปวดร้าวใจไม่มีเลือน
สักวันหนึ่งพวกเขาก็ต้องรู้
เพราะความลับหามีอยู่ในโลกไม่
เสียดายเพชรเม็ดนี้ต้องร้าวไป
อีกไม่นานคงแตกหายกลายเป็นดิน

ความสวยงามย่อมหมดสิ้นไปพร้อมกัน

18 มีนาคม 2545


#18, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 29-Mar-13 at 02:59 PM
In response to message #0
บทที่ 15 ใคร ?

เมื่อฉันเหงาใครเล่าช่วยคลายเหงา
เมื่อฉันเศร้าใครเล่าปลอบโยนฉัน
เมื่อฉันเจ็บใครเล่าห่วงใยกัน
เมื่อฉันแพ้ใครช่วยฉันให้พ้นไป
ยามฉันทุกข์ใครทำให้ฉันเป็นสุข
ยามฉันล้มใครช่วยฉุดขึ้นยืนใหม่
ยามว้าเหว่ใครปลอบขวัญประโลมใจ
ยามเดียวดายใครช่วยให้ฉันครื้นเครง
"ใคร" คนนั้นเป็นเหมือนเพื่อนที่รักฉัน
เขาช่วยเสริมกำลังยามฉันล้า
ฉันโศกศัลย์เขาช่วยปลอบเช็ดน้ำตา
คอยดูแลให้แก้วตาหลับฝันดี
ฉันเหลียวมองภาพสะท้อนในกระจก
เขาคนนั้นปรากฏต่อหน้าฉัน
คนที่ช่วยคอยห่วงฉันอยู่ทุกวัน
"ใคร" คนนั้นคือตัว "ฉัน" ห่วงตัวเอง!

19 มีนาคม 2545


#19, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 03-Apr-13 at 09:26 PM
In response to message #0
บทที่ 16 อย่าหลอกตัวเองเลย

อย่าหลอกตัวเองเลยเจ้าหนุ่มน้อย
เจ้าอย่าคอยคู่รักที่เฝ้าฝัน
ภาพลวงตาที่สรรสร้างอยู่ทุกวัน
ว่าสักวันสองเรานั้นจะได้เคียง
ในความจริงชายหญิงมีคู่แท้
ร้อยดวงใจเปลี่ยนแปรเกิดลูกได้
เปรียบโซ่ทองคล้องหทัยสุขใจกาย
แต่ตัวชายเกย์นั้นเกิดอะไร
ความรักเราแท้แล้วคือความใคร่
ต่างลุ่มหลงรูปกายหมายลองของ
พอเสร็จกิจก้าวเดินตามทางจร
ทิ้งให้เราต้องนอนอ่อนจิตใจ
เกย์อย่างเจ้าสุดท้ายต้องโดดเดี่ยว
จะเหลือเพียงคนเดียวน่าใจหาย
อย่าค้นหาอีกเลยลำบากตาย
อีกไม่นานก็กลับกลายเป็นเศษดิน


23 มีนาคม 2545


#20, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 11-Apr-13 at 02:08 PM
In response to message #0
“ถนนสู่ดวงดาว” เป็นบทกลอนที่มีเนื้อหามองโลกอย่างมีความสุข เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังและกำลังใจ ซึ่งหาได้ยากในบทกลอนของผมครับ
.......................................................

บทที่ 17 ถนนสู่ดวงดาว

จุดมุ่งหมายสูงสุดในชีวิต
แต่ละคนต่างลิขิตตามที่ฝัน
หลายหนทางล้วนเลือกเดินแตกต่างกัน
ตามแต่ใจเรานั้นจะนำพา
แม้ว่าฉันจะเลือกเดินบนทางนี้
ไม่ราบรื่นไม่สู้ดีเหมือนใครเขา
เหงื่อหยดไหลน้ำตาหลั่งช่างแสนเศร้า
อาจดูเหมือนว่าพวกเราไร้หนทาง
อย่ายอมแพ้จงก้าวเดินไปข้างหน้า
โชคชะตาหรือว่าฟ้าจะแกล้งฉัน
ฉันจะแปรเปลี่ยนให้เป็นพลัง
เร่งสานฝันวันสดใสไม่เคยกลัว
ถึงปลายทางฉันเก็บดาวที่ล้ำค่า
ความสำเร็จได้มายากเหลือแสน
ฉันทำได้น่าภูมิใจมีเรี่ยวแรง
ไม่มีใครมาดูแคลนอีกต่อไป
ผู้คนต่างชื่นชมและยินดี
เพราะวันนี้มันเป็นเหมือนวันของฉัน
ให้โลกได้รับรู้ไว้โดยพลัน
ฝันของความสำเร็จนั้นอยู่ไม่ไกล

23 มีนาคม 2545



#21, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by palm on 11-Apr-13 at 02:42 PM
In response to message #20
ผมอ่านครับ อ่านมาตลอด ขอโทดด้วยที่ไม่เคยคอมเม้น ผมเองก็ชอบแต่งกลอนเหมือนกัน อ่านแล้วรู้สึกว่าโดนมาก เนื้อหาตรงกับชีวิตเกย์จริงๆ อ่านทุกบทจนน้ำตาแทบไหลเลย เลือกใช้คำได้ดีมากนะครับ ขอชมจากใจ ปลื้มมากจริงๆครับ ไม่รู้จะหาคนที่แต่งบทกลอนดีๆแบบนี้ได้จากที่ไหนอีกแล้ว

#22, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by tapee on 12-Apr-13 at 12:37 PM
In response to message #20
ขอบคุณครับ

#23, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 13-Apr-13 at 07:34 AM
In response to message #0
ขอบคุณ คุณ palm และคุณ tapee ที่ติดตามอ่านงานของผมครับ ยังมีบทกลอนให้อ่านหลายบทครับ
.........................................

บทที่ 18 ขอสักวัน

จะมีไหมสักวันที่ฉันเป็นสุข
ไม่มีทุกข์ยิ้มได้ดังใจหมาย
จะมีไหมวันที่ฉันไม่ร้องไห้
ให้กับความโชคร้ายของฉันเอง
ถือกำเนิดเกิดมาอย่างผิดเพศ
คนเขาเห็นเป็นเศษไร้คุณค่า
ถูกรังเกียจเหยียบอยู่ใต้บาทา
ไม่อาจจะสู้หน้ากับใครใคร
ขอได้ไหมให้หัวใจฉันหายเหงา
ขอสักคนมาบรรเทาความขื่นขม
ฉันอ่อนล้าจนสุดแสนจะทานทน
ขอแค่ใครสักคนช่วยปลอบโยน
ในวันนี้ฉันก็ยังต้องเหน็บหนาว
ยังร้องไห้น้ำตาพราวอย่างขื่นขม
คงต้องช้ำไปจนกว่าจะหมดลม
ขอแค่เพื่อนสักคนยังไม่มี

27 มีนาคม 2545


#24, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 19-Apr-13 at 08:07 PM
In response to message #0
บทที่ 19 แม้มิได้

แม้มิได้หน้าตางามเหมือนหลายคน
จงพอใจในตัวตนที่เป็นอยู่
แม้มิได้ปราดเปรื่องเรืองเลิศหรู
ขอแค่เพียงมีความรู้ประดับกาย
แม้มิได้ร่ำรวยบนกองทอง
ลองหันกลับไปมองคนอื่นบ้าง
แล้วจะเห็นว่าตัวเรายังเหลือทาง
ไม่ยากไร้ไม่อ้างว้างยังมีกิน
แม้มิได้มีครอบครัวที่อบอุ่น
มีแค่นี้ก็พออุ่นได้แล้วหนา
แม้มิได้มีคู่ใจเคียงกายา
มีแค่เพื่อนก็ล้ำค่าเกินสิ่งใด
แม้มิได้มีคนมาคอยรัก
ก็ยังดีกว่าอกหักเป็นไหนไหน
แม้มิได้เป็นผู้ชายสมดังใจ
จงภูมิใจที่ได้เกิดเป็นเพศชาย
แม้มิได้สมหวังในชีวิต
สักวันฟ้าคงลิขิตตามที่หา
แม้จะเป็นเกย์คนหนึ่งซึ่งไร้ค่า
ก็ดีใจที่เกิดมาได้เป็นคน

20 พฤษภาคม 2545


#25, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by palm on 19-Apr-13 at 11:12 PM
In response to message #24
โอ๊ยย ชอบมาก การใช้คำสัมผัสนอกในเจ๋งมากเลยครับ คุณหนุ่มน.ศ. เรียนอักษรรึเปล่าครับ มีความสามารถมากจริงๆน่าจะมีใครทำรวมเล่มออกขายไปซะัเลย


#26, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 20-Apr-13 at 07:12 AM
In response to message #0
ดีใจที่ชอบครับ ผมจบอักษรเอกอังกฤษครับ แต่ภาษาไทยก็เป็นวิชาโปรดมากวิชาหนึ่งเหมือนกัน และสมัยเรียน ชอบแต่งกลอนมาก ในอนาคตก็อาจมีการรวมเล่มกลอนครับ เพียงแต่ต้องหาโอกาสเหมาะๆและต้องเขียนให้มากกว่านี้ เพราะกลอนที่ผมเขียนไปแล้ว ยังถือว่าน้อยครับ และเป็นกลอนที่เขียนตั้งแต่ยังหนุ่ม สมัยนี้นานๆ ถึงจะได้เขียนซักบทเพราะมีภาระงานเยอะมาก ไม่ค่อยมีเวลาเขียนเพิ่มครับ ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดครับ พบกับกลอนบทต่อไปต้นสัปดาห์หน้านะครับ

#27, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by palm on 21-Apr-13 at 03:55 PM
In response to message #26

ความรักเราแท้แล้วคือความใคร่
ต่างลุ่มหลงรูปกายหมายลองของ
พอเสร็จกิจก้าวเดินตามทางจร
ทิ้งให้เราต้องนอนอ่อนจิตใจ


ท่อนนี้ จากบทที่16 เป้นท่อนที่ผมชอบที่สุดเลยครับ อะไรจะแต่งได้กินใจทุกคำพูดมากขนาดนี้ อยากรู้จังว่าคุณหนุ่มน.ศ.อายุเท่าไหร่ ประทับใจมากจริงๆ จะขอสมัครเป้นแฟนคลับ หมายเลข1 อิอิ แต่งต่อไปอีกเยอะๆนะครับ


#28, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 23-Apr-13 at 06:15 PM
In response to message #0
ผมอายุ 30 ปีแล้วครับ ยินดีมากเลยที่คุณจะเป็นแฟนคลับผม และผมจะหาเวลาแต่งกลอนต่อไปให้ได้เยอะๆนะครับ แล้วจะได้รวบรวมเอามาโพสต์ให้อ่านกันอีก
................................................

"คืนสุดท้าย" เป็นบทกลอนที่เด่นในเรื่องอารมณ์เศร้าโศกเสียใจอย่างรุนแรง อยากให้ทุกคนได้อ่านกลอนบทนี้ของผมกันครับ
...................................................

บทที่ 20 คืนสุดท้าย

ในคืนนี้เดือนหงายกระจ่างใส
ชวนให้ใจนึกฝันถึงความหลัง
ที่ความทุกข์ขื่นขมโหมประดัง
เข้าใส่ฉันจนยากแท้จะลืมเลือน
หยาดน้ำค้างร่วงหล่นบนพื้นหญ้า
เหมือนน้ำตาที่หลั่งไหลไม่เคยหยุด
ทุกคืนวันเดือนปีมีแต่ทุกข์
เมื่อไรฉันจะมีสุขหายทุกข์ใจ
หวีดหวิวแว่วเสียงลมพัดแผ่วผ่าน
ดั่งเสียงคร่ำครวญนานร้องหาแม่
ยามฉันเจ็บอยากมีคนช่วยดูแล
อยากมีแม่ปลอบโยนช่วยเช็ดน้ำตา
แสงจันทร์สาดแสงส่องบนเรือนร่าง
ที่เดียวดายอ้างว้างไร้ความหมาย
ร่างที่ไร้ซึ่งคุณค่าความเป็นชาย
เป็นแค่เพียง “เศษชาย” ไว้ย่ำยี
ทุกคำพูดหยาบหยามดังแว่วมา
อนิจจาน้ำตาจะพาลไหล
ยี่สิบปีที่ต้องทนระบมใจ
ต้องรับฟังและทำใจว่าใช้กรรม
คนอย่างเราใครใครก็รังเกียจ
ทุกคนเกลียดขยะแขยงแสลงใจเขา
เป็นสิ่งที่คนดีดีเขาไม่เอา
ช่างน่าเศร้าทรมานเกินทานทน
เหนื่อยพอแล้วหัวใจเริ่มเต้นอ่อน
พอเถอะนะฉันยอมรับตัวฉัน
เป็นส่วนเกินที่ใครใครไม่รักกัน
ถ้าฉันตายทุกคนนั้นคงดีใจ
แม่จ๋าแม่ลูกขอลาก่อนนะ
ลูกคงจะไปรอที่ปลายฟ้า
ถ้าสวรรค์เบื้องบนท่านเมตตา
เกิดชาติหน้าคงเกิดมาได้พบกัน
ขอลาก่อนกับละครเรื่องยิ่งใหญ่
ฉากคือโลกที่โหดร้ายกับตัวฉัน
ตัวละครตัวนี้คงถึงวัน
ต้องรูดม่านปิดฉากฝันชั่วกาลนาน


24 พฤษภาคม 2545


#29, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by presto on 23-Apr-13 at 11:25 PM
In response to message #28
คนอย่างเราใครใครก็รังเกียจ
ทุกคนเกลียดขยะแขยงแสลงใจเขา
เป็นสิ่งที่คนดีดีเขาไม่เอา
ช่างน่าเศร้าทรมานเกินทานทน

T T

เท่าที่อ่านมา สิ้นแสงดาว บท 12 ไพเราะที่สุดแล้วครับ

รับรองว่า จะติดตามอ่านต่อไป เรื่อยๆ


#30, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 29-Apr-13 at 05:49 PM
In response to message #0
ขอบคุณครับ คุณ presto
........................................

บทที่ 21 จุดเทียน 3 เล่ม

เล่มที่หนึ่งจุดไว้ตอนเป็นหนุ่ม
อนุสรณ์ที่ถูกรุมถูกข่มเหง
ถูกทำร้ายราวกับฉันเป็นของเดน
ด้วยมือชายเขาอิ่มเอมฉันตรอมตรม

เล่มที่สองจุดเมื่อเริ่มมีความรัก
จะสมัครรักกับชายตามใจฉัน
หารู้ไม่คนเป็นเกย์ไม่รักกัน
เขาหลบหนีหลังทำฉันเจ็บร้าวใจ

เล่มที่สามจุดตอนนี้ยามแก่เฒ่า
กี่เดือนปีที่คอยเฝ้าที่ตามหา
หารักแท้ที่แท้รักนั้นลวงตา
ไม่มีค่าไขว่คว้าหาก็ไม่เจอ

เทียนสามเล่มดับแสงลงแน่นิ่ง
อธิษฐานขอทุกสิ่งตามที่หวัง
ควันเทียนลอยล่องผ่านแล้วหายพลัน
ทำดวงใจที่เจ็บช้ำให้ดับไป


24 พฤษภาคม 2545


#31, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by ผู้อ่าน on 30-Apr-13 at 00:05 AM
In response to message #30
ติดตามอยู่นะคุณ จขกท

#32, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 01-May-13 at 07:05 PM
In response to message #0
ขอบคุณครับคุณผู้อ่าน
.........................................

"หนักแผ่นดิน" เป็นบทกลอนที่มีเนื้อหาหนักที่สุดเท่าที่ผมเคยแต่งมา เป็นการสะท้อนคำพูดของคนที่ดูถูกดูหมิ่นคนที่เป็นเกย์อย่างรุนแรง ผมนำมาร้อยเรียงเป็นกลอนบทนี้ครับ
............................................

บทที่ 22 หนักแผ่นดิน

“อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ
ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดไปกรีดหิน”
คำกลอนนี้ฉันคุ้นตาจนชาชิน
เพราะได้ยินได้ฟังมาแสนนาน
“เกิดเป็นชายกลับชอบชาย” น่าขายหน้า
“เดี๋ยวฟ้าผ่าคนระยำ” น่าบัดสี
“ทุเรศมากรับไม่ได้” ตัวกาลี
เห็นฉันเป็นคนไม่ดี “ทำตัวเลว”
“จะเกิดมาทำไมให้รกโลก”
“วิปริตสกปรก”น่าสงสาร
หลายคำพูดทำดวงใจให้ร้าวราน
“มึงอย่าอยู่บนนี้นานหนักแผ่นดิน!”
ไม่เป็นไรฉันไม่โกรธพวกเขาหรอก
เพราะไม่อาจจะโต้ตอบพวกเขาได้
ยังมีคำด่าว่าอีกมากมาย
แต่ฉันฝังไว้สุดใจไม่เอ่ยมัน
ขออาศัยบนโลกนี้อีกชั่วครู่
จะไม่อยู่ให้นานเกินรับไหว
สิ้นฉันแล้วแผ่นดินคงสูงขึ้นไป
เพราะไม่มีใครทำให้ “หนักแผ่นดิน”

25 พฤษภาคม 2545


#33, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 06-May-13 at 01:08 PM
In response to message #0
บทที่ 23 เพราะข้าเป็น "เกย์"

จะทำดีกับเขามากแค่ไหน
ไม่มีใครเห็นใจคนอย่างข้า
ก็ข้าเป็น "เกย์" แล้วหมดราคา
ไม่มีค่าในสายตาของสังคม
เหมือนฝันร้ายในใจเมื่อยามตื่น
ยินแต่เสียงสะอื้นน่าหวั่นไหว
เหมือนภาพหลอนหลอนใจข้าทุกคืนไป
เมื่อไรข้าจะตายไปให้หมดเวร


29 พฤษภาคม 2545


#34, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 09-May-13 at 06:02 PM
In response to message #0
บทที่ 24 อย่าร้องไห้อีกเลย

จะร้องไห้ไปใยให้เหนื่อยเปล่า
จะมัวเศร้าไปอีกนานสักแค่ไหน
จะตีโพยตีพายไปทำไม
ไม่มีใครเขาใส่ใจคนอย่างเรา
บอกหัวใจต้องเข้มแข็งให้สมชาย
น้ำตาไหลมันน่าอายเหมือนเป็นหญิง
สะกดกลั้นอย่าให้น้ำต้องไหลริน
เดี๋ยวคนอื่นจะดูหมิ่นว่าอ่อนแอ
ยิ้มสิยิ้มอย่าทำเศร้าให้มากมาย
ความทุกข์เราเดี๋ยวก็หายอย่าหวั่นไหว
สัญญาจะไม่ร้องไห้อีกต่อไป
แผลที่ใจเยียวยาได้ด้วยเวลา
แต่สุดท้ายน้ำตายังคงไหล
สุดห้ามใจมันเจ็บปวดรับไม่ไหว
ฝืนยิ้มสู้กับชีวิตอย่างอาลัย
น้ำตากลับหลั่งไหลมาพร้อมกัน

29 พฤษภาคม 2545


#35, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 14-May-13 at 06:06 PM
In response to message #0
บทที่ 25 ชีวิตเศร้า

วันนี้ฉันนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว
อีกครั้งที่ต้องเปล่าเปลี่ยวไร้ความหวัง
ถูกด่าว่าประณามเหยียดและเกลียดชัง
ถูกทำร้ายจนเจ็บช้ำระกำทรวง
กี่ครั้งแล้วที่ต้องเศร้าต้องเสียใจ
กี่ครั้งแล้วน้ำตาไหลมาซ้ำซ้ำ
กี่ครั้งแล้วที่ต้องทนยอมรับกรรม
กี่ครั้งแล้วที่ใจฉันมันร้าวราน
ทุกวันนี้ทางของฉันมันโดดเดี่ยว
ไม่มีใครจะแลเหลียวหรือสงสาร
ก้าวเดินไปแม้หัวใจทรมาน
น้ำตาร่วงตามทางสะท้านใจ
อยากจะนอนหลับฝันถึงวันสุข
เมื่อยามตื่นหมดทุกข์ใจสดใส
ให้ทุกคนยอมรับยอมเข้าใจ
แต่คงเป็นไปไม่ได้ฉันรู้ดี

18 สิงหาคม 2545


#36, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 20-May-13 at 06:23 PM
In response to message #0
บทที่ 26 แสงสว่างกลางความมืด

เหมือนฉันเดินอยู่กลางความมืดมิด
ไร้แสงส่องทางชีวิตวันข้างหน้า
ณ วันนี้เหมือนอยู่เดียวเปลี่ยวเอกา
จึงแหงนหน้ามองฟ้าน้ำตาริน
ยลแสงทองที่ส่องสาดจากเวหา
ทั่วอาณาสว่างจ้าน่าฉงน
ขับความมืดออกจากใจมืดมน
เหลือไว้แต่ตัวตนของคนจริง
บนเส้นทางชีวิตเราลิขิต
บางครั้งเหมือนมืดมิดและสิ้นหวัง
ขอเพียงมีแสงสว่างเป็นพลัง
จะยากเข็ญสักกี่ครั้งไม่หวั่นใจ

12 กันยายน 2545


#37, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 27-May-13 at 06:28 PM
In response to message #0
บทที่ 27 หนาวใจ

หนาวน้ำค้างไม่นานก็เหือดหาย
หรือหนาวสายฝนพรำยามหวั่นไหว
หนาวสายลมที่มาห่มดวงฤทัย
ก็ไม่เท่าหนาวใจเมื่อขาดเธอ


12 กันยายน 2545


#38, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 02-Jun-13 at 06:32 PM
In response to message #0
บทที่ 28 ไม่มีวันนั้นอีกแล้ว

วันที่ถูกทำร้ายจนบอบช้ำ
วันที่ถูกเหยียบย่ำหมดคุณค่า
วันที่ถูกเหยียดหยามด้วยวาจา
วันที่ถูกฉุดคร่าจนยับเยิน
วันที่ถูกทอดทิ้งให้อ้างว้าง
วันที่ถูกคนใจทรามลวงหลอกได้
วันที่ถูกข่มเหงแทบเจียนตาย
วันที่ฉันนั่งร้องไห้มาแรมปี
จะไม่มีวันนั้น...อีกแล้ว
จะล้างใจให้ผ่องแผ้วและสดใส
จะลืมเลือนรอยอดีตที่ช้ำใจ
จะเริ่มต้นชีวิตใหม่กันเสียที
ให้ฉันเป็นคนหนึ่งซึ่งมีค่า
ให้ฉันก้าวไปข้างหน้าอย่างมีหวัง
ให้แสงดาวเป็นเหมือนเพื่อนคอยชี้นำ
ให้แสงจันทร์เป็นคู่ฉันตลอดไป...

12 ตุลาคม 2545


#39, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 09-Jun-13 at 05:49 PM
In response to message #0
บทที่ 29 ลมเจ้าเอ๋ย

ลมเจ้าเอ๋ย...
ไยเจ้าจึงละเลยพัดผ่านข้า
หรือเพราะข้าโง่เขลาเบาปัญญา
อาภัพรักไร้ค่าเยี่ยงเศษเดน
ดาริกากะพริบถี่เหมือนเช่นเคย
ปานจะเย้ยเยาะข้าน่าอดสู
เย้ยดวงใจชอกช้ำหรือโฉมตรู
ฤาเจ้าอยากล่วงรู้ความในใจ
สรรพางค์ข้าช้ำชอกร่างบอบยับ
ถูกทำร้ายจนดับซึ่งราศี
ดวงหทัยแหลกยับดั่งธุลี
ธรณินเตรียมขยี้จนแหลกลาญ
อนิจจา! ไยโลกนี้โหดร้ายนัก
มิเหลือแล้วที่พักให้แก่ข้า
อยากปลิดชีพเสียให้สิ้นวายชีวา
ปิดชีวิตคนไร้ค่าไปเสียที


กลอนต้นฉบับ แต่ง 31 มีนาคม 2546
แก้ไขใหม่ 14 ตุลาคม 2554


#40, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 17-Jun-13 at 06:17 PM
In response to message #0
บทที่ 30 หลับตาเถิด...คนดี

หลับตาเถิดนะ คนดี
วันนี้เหนื่อยแล้ว พักผ่อน
ถึงเวลาต้องหลับ ต้องนอน
ค่อยผ่อนความล้า ลงเตียง
ลืมเรื่องทุกข์ใจ วันนี้
ลืมเรื่องชีวี ที่ผ่านมา
คิดถึงเรื่องสุข วันวาร
เมื่อครั้งเยาว์วาน เด็กน้อย
พรุ่งนี้ตื่นจะได้ สดใส
หมดทุกข์จากใจ ทุกเรื่อง
ยิ้มรับวันใหม่ ไม่ฝืน
สดชื่นให้สม กับวัย
เอนกายลงหลับ พักผ่อน
ข่มตาหลับนอน จนได้
คิดถึงเรื่องสุข เคลิ้มไป
ให้เจ้าหลับใหล ตลอดกาล...
............. .................
............. .................


14 กันยายน 2545


#41, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 23-Jun-13 at 05:33 PM
In response to message #0
บทที่ 31 น้ำตาหยด

น้ำตาหยดหนึ่งรินไหล
จากใจร่ำไห้อีกครั้ง
ยามเด็กยามฉันดื้อรั้น
ขัดใจไม่ฟังเสียงใคร
น้ำตาหยดเดียวกันนี้
ไหลปรี่สองแก้มของฉัน
โตเป็นหนุ่มน้อยเร็วพลัน
เมื่อถูกกระทำล่วงเกิน
น้ำตาหยดสามไหลมา
เมื่อถูกดุด่าเหยียดหยาม
ฉันถูกรังเกียจประณาม
ว่าฉันต่ำทรามเกินไป
น้ำตาหยดสี่ยิ่งไหล
เมื่อถูกผลักไสไล่ส่ง
ทุบตีกลั่นแกล้งจากคน
พวกเหยียดเกลียดคนเป็นเกย์
น้ำตาหยดห้าสุดช้ำ
ระกำเมื่อเขาห่างหาย
คนรักจากไปห่างกาย
กี่คนก็หายจากกัน
น้ำตาหยดนี้สุดท้าย
ไม่วายเสียใจที่ฉัน
เกิดมาเป็นเกย์สุดช้ำ
ก้มหน้าใช้กรรมจนตาย

4 พฤษภาคม 2546


#42, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 30-Jun-13 at 05:34 PM
In response to message #0
"แสงดาว...หนาวอารมณ์" เป็นบทกลอนที่มีการใช้พรรณาโวหาร บุคลาธิษฐาน และภาษากวีหลายแห่ง จึงทำให้มีความไพเราะและมีความหมายที่ลึกซึ้งครับ หากสงสัยคำใดสามารถดูความหมายได้ในพจนานุกรมนะครับ
...............................................

บทที่ 32 แสงดาว....หนาวอารมณ์

ฉันนั่งมองจันทราที่กลางหาว
มองหมู่ดาวน้อยใหญ่ในเวหน
เห็นม่านทองเบิกฟ้าน่าภิรมย์
ทั่วนภาเกลื่อนกล่นด้วยดารา
แสงสาดส่องเป็นประกายพราวพรายพร่าง
ช่างเย็นเยียบแลอ้างว้างทั้งกายฉัน
ไร้คู่เรียงเคียงข้างอย่างทุกวัน
น้ำตาพลันไหลหลั่งดังสายชล
ยามแสงดาวเยื้องกรายจากเวหา
ดวงอุราแทบสลายกลายเป็นผง
มิอาจทนความหนาวในอารมณ์
ยินเสียงใจพร่ำบ่นคิดถึงเธอ


23 เมษายน 2546


#43, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by ไม่สวยแต่หมาไม่เห่า on 04-Jul-13 at 02:12 AM
In response to message #42
เริ่ดอ่ะ แต่งเก่งมากๆ เอาไปเลย 10 10 10!!!!!!!!!!

#44, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 07-Jul-13 at 06:46 PM
In response to message #0
ดีใจมากครับที่ชอบงานเขียนของผม ใกล้จะจบแล้วครับ
.....................................................

"บุษบง" เป็นบทกลอนที่ใช้ภาษากวีและชื่อดอกไม้เป็นจำนวนมากเพื่อให้มีความไพเราะ และสื่อความหมายได้ลึกซึ้งครับ
..................................................

บทที่ 33 บุษบง

บุษบงหอมหวานงามผุดผาด
ขึ้นดารดาษเต็มลานบานสดใส
ทั้งราตรีพุดตะแคงแซมวิไล
ชมนาดคลอเคลียไซ้แก้วช่องาม
ศศลักษณ์หยอกล้อป้อพุดซ้อน
สายลมอ่อนโรยกลิ่นประทิ่นไหว
รสสุคนธ์แย้มกลีบอวดเรไร
น้ำฟ้าร่วงรินไหลสู่พบู
หมู่ดวงมาลย์มาลีผลิดอกอ่อน
ทิฆัมพรแอร่มงามวามดวงแข
ดาริกาพราวพรายมิวายแล
ชมความงามจริงแท้บุษบง
สารภีชูช่อลออเด่น
วาตะเย็นพัดต้องนมแมวไหว
หิ่งห้อยน้อยเปล่งแสงแซมพงไพร
มะลิวัลย์เอนกายอวดสิตางศุ์
ฉันเดินชมหมู่ผกาสราญจิต
เคียงคู่คิดมิตรรักแสนสุขสันต์
เขาเอียงเอนกายาสบตาพลัน
พจมานอันหวานล้ำมิจำเป็น
บรรจงจูบแผ่วเบาที่แก้มซ้าย
แสนเอียงอายยิ้มรื่นชื่นใจแสน
กุสุมาลย์แย้มยิ้มทั่วถิ่นแดน
แสงโสมแจ่มส่องหล้าพร่าพราวพราย

15 ตุลาคม 2554


#45, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 15-Jul-13 at 05:59 PM
In response to message #0
"ถนนน้ำกาม" เป็นบทกลอนบทสุดท้ายของรวมบทกลอนชุดนี้แล้วครับ
..............................................

บทที่ 34 ถนนน้ำกาม

บนเส้นทางยาวไกลในชีวิต
ต้องโทษฟ้าที่ลิขิตให้หักเห
แม้มุ่งหน้าพายัพอาคเนย์
ล้วนประดังประเดด้วยน้ำกาม
บนถนนสายนี้มิราบรื่น
ทุกวันคืนขับเคลื่อนด้วยตัณหา
ชโลมด้วยน้ำทิพย์จากกายา
ต่างตักตวงคุณค่าจนอิ่มเอม
กี่ร้อยคนที่พ้นผ่านแล้วจากหาย
กี่หมื่นคนที่ประปรายตามถนน
กี่แสนคนผูกสมัครยังเวียนวน
กี่ล้านคนก้าวเดินบนถนนน้ำกาม
แม้ไม่อยากก้าวเดินไปข้างหน้า
โชคชะตาต่างนำพาให้เดินต่อ
สุดมรรคาร่างแตกดับอย่ารีรอ
คนใหม่ใหม่เดินกันต่ออย่างเปรมปรีดิ์

3 กุมภาพันธ์ 2555
............................................
( ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบนะครับ ถ้ามีผลงานเรื่องใหม่ๆ ผมจะนำมาโพสต์อีก สวัสดีครับ)


#46, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. Fan on 03-Aug-13 at 05:36 PM
In response to message #45
คุณหนุ่ม น.ศ. มี อีเมล์ หรือ เฟสบุ๊ค ที่ใช้นามแฝงไหมครับ

#47, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 11-Aug-13 at 07:44 PM
In response to message #0
Face ชื่อ Phillip Green ครับ

#48, RE: สิ้นแสงดาว
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 11-Aug-13 at 07:49 PM
In response to message #0
แอดชื่อ Phillips Green หรือเมล์ chupra12@hotmail.com