Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 545
Message ID: 256
#256, RE: นิยายที่ยังไม่มีชื่อเรื่อง(กระทู้ 2 ครับ)
Posted by someone on 14-Jun-13 at 11:03 AM
In response to message #255
เย็นนั้นผมเลยลากไอ้เบสต์ พี่อิทและนักร้องอีกสองคนไปบ้านพี่กรด้วยครับ พอพี่กรได้ฟังเสียงไอ้เบสต์ก็ถึงกับเอ่ยปากชมมันว่าเสียงดี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งหาได้ไม่ง่ายนักสำหรับนักร้องสมัยนี้

“ไม่ว่าเราจะร้องเพลงอะไรหรือเพลงของใคร คนที่ได้ฟังก็จะรู้ทันทีว่าเราเป็นคนร้องเพลงนี้” พี่กรบอกทำเอาไอ้เบสต์ยิ้มอย่างภูมิใจ……เออ…..จริงด้วยสิ พี่กรพูดถูก

วันนั้นเราอัดเสียงไปได้หลายเพลงครับ เพราะพี่กรหาแบ็คกิ้งแทร็กมาให้รวมกับที่แกมีอยู่ที่ห้องอัด ผมเองยังได้อัดเพลงรักคุณยิ่งกว่าใครอีกรอบ ซึ่งแน่นอนว่า รอบนี้ผมร้องได้ดีกว่าครั้งก่อนๆ

“พรุ่งนี้เช้าจะเอาเท่าที่ได้ไปให้ยัยน้ำก่อน” พี่อิทบอก “ขอบคุณพี่กรมากๆเลยนะคับ คงต้องมารบกวนอีกนะคับพี่”

“ยินดีครับ เจ้าเอกมันน้องชายสุดรักพี่อยู่แล้ว” พี่กรบอกพลางโอบไหล่ผม……อบอุ่นดีจังครับพี่กร ผมรู้สึกดีจังเลยที่ได้มีพี่ชายแบบพี่

พี่อิทชวนพวกผมไปกินก๋วยเตี๋ยวหลังจากล่ำลาพี่กรกันแล้ว จริงๆพี่กรอยากจะไปส่งผมที่หอครับ แต่ผมบอกแกไปตามตรงว่าอยากไปทำความสนิทสนมกับชมรมดนตรีให้มากขึ้น ซึ่งพี่กรก็เข้าใจ

พวกเราเฮฮากันมากครับ กินก๋วยเตี๋ยวไปก็คุยกันอย่างสนุกสนาน ผมรู้สึกเลยครับว่าผมเริ่มสนิทกับทุกๆคนในชมรมดนตรีมากขึ้นกว่าเดิม ไอ้เบสต์เองพอมันหยุดการลวนลามผม มันก็ยิ่งทำให้ผมยอมรับมันมากขึ้น ในฐานะเพื่อน

กว่าเราจะแยกย้ายกันได้ก็ดึกพอสมควรครับ พี่อิทกลับไปทางเดียวกับนักร้องอีกสองคน ส่วนผมกลับทางเดียวกันกับไอ้เบสต์

“ไม่กลัวโดนปล้ำอีกเหรอเรา ฮ่าๆ” ไอ้เบสต์แซวผมขณะกำลังเดินไปที่ป้ายรถเมล์

“เอาดิ คราวนี้พี่จะโดนหนักกว่าเก่า” ผมตอบมันกลับไปขำๆ

“เออ……แต่พวกน้องๆแดนเซอร์ แม่งดูดโคตรเก่งเลยว่ะ วันหลังแกล้งทำเนียนๆแบบเดิมอีกก็ดี ให้พวกนั้นดูดให้อีกก็โอนะ ฮี่ๆ” ไอ้เบสต์ทำหน้าหื่น……อ้าว…..ติดใจซะแระไอ้นี่

“ไม่ต้องแกล้งพวกน้องๆเค้าก็เต็มใจอยู่แล้วพี่ ทั้งหล่อทั้งใหญ่ขนาดนี้” ผมบอกไปพลางมองหน้าไอ้เบสต์ “ต้องการเมื่อไหร่บอกนะ เดี๋ยวผมติดต่อให้ ฮ่าๆ”

เราเดินคุยกันอย่างสนุกไปตามถนน อีกไม่เท่าไหร่ก็จะถึงป้ายรถเมล์แล้วครับ แต่ตรงนั้นดันมีซอยที่พวกผมต้องเดินผ่านด้านหน้า ผมเห็นด้านในซอยมีด่านตำรวจตั้งอยู่ไม่ห่างจากต้นซอยมากนัก ผมเองก็ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียกดังขึ้น

“น้องนักเรียนสองคนนั้นน่ะ ทำไมเพิ่งกลับบ้านกัน ไหนมานี่หน่อยซิ”

ผมหันไปตามเสียงก็เจอตำรวจวัยกลางคนกวักมือเรียกอยู่ ผมเลยดึงแขนไอ้เบสต์เพื่อจะเดินเข้าไปหาตำรวจคนนั้น เพราะผมเองก็ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว แต่ไอ้เบสต์สิครับ กลับขืนเอาไว้ ผมเลยหันไปทางมัน แม่งยืนหน้าเจื่อนจนผิดสังเกตุ……เชี่ย….อย่าบอกนะว่ามึงมียาเสพติดอยู่กับตัว

แต่ยังไงเราก็ไม่มีทางเลือกแล้วครับ เพราะตำรวจคนนั้นเดินอาดๆ เข้ามาหาเราทั้งคู่เมื่อเห็นเราไม่เดินไปหา ไอ้เบสต์มีอาการพิรุธจนผมรู้สึกกลัว…..เวรแล้วสิ

“ว่าไง! ไปไหนกันมา ทำไมไม่กลับบ้านกัน นี่ก็ดึกแล้วนะ” เสียงตำรวจห้าวๆ ทำเอาไอ้เบสต์สะดุ้งเบาๆ เอามือบีบแขนผมจนแน่น ผมเลยต้องยิ้มสู้ไปก่อน

“เอ่อ…..ผมไปเรียนร้องเพลงกันมาคับพี่” ผมบอกไปตามตรงพลางชี้มือไปทางที่เดินมา “ผมเป็นนักร้องของโรงเรียน…..คับ”

“อ้าว……เรอะ” ตำรวจพูดพลางขมาดคิ้วมองไอ้เบสต์ ซึ่งมันก็ดูลุกลี้ลุกลนอย่างเห็นได้ชัด……โอย…..อย่านะโว้ย…..ไอ้เบสต์มึงอย่ามีอะไรผิดกฏหมายในตัวนะมึง

“แล้วเอ็งเป็นไรวะ ไอ้หน้าหล่อ” เสียงพี่ตำรวจทำเอาผมใจหายไปไหนก็ไม่รู้ครับ…….โธ่…..เวร……เสร็จแน่ๆไอ้เบสต์

“เอ็งเป็นนักร้องกับเค้าด้วยรึเปล่าวะ”……เฮ้อ…..ค่อยยังชั่ว แต่ไอ้เบสต์มันคงยังมึนอยู่มั้งครับ เสือกไม่ตอบพี่ตำรวจ ผมเลยต้องเอาศอกกระทุ้งมันไปเบาๆ

“อะ….เอ่อ….ปะ…เป็นคับพี่” ไอ้เบสต์ตอบไปด้วยเสียงตะกุกตะกัก

“เฮ้ย เป็นนักร้องได้ไง แค่พูดยังติดอ่างเลยวะ” พี่ตำรวจขมวดคิ้วมอง……..โอยย……ไม่ได้แล้ว กูต้องทำอะไรซักอย่าง

“……หยุดได้ไหม วันไหนก็ไม่ต้องมาหา……” ผมเปิดฉากร้องเพลง “คนใจอ่อน” ออกไปก่อนเลยครับ เพื่อแก้สถานการณ์ซึ่งไอ้เบสต์ก็รับมุข ร้องท่อนต่อไปออกมาพร้อมกับผม

“……..อย่าเอาสายตา อย่างนั้นมามองให้หวั่นไหว
เธอก็รู้ ว่าฉันมันใจไม่แข็งเท่าไหร่ หัวใจมันอ่อนให้เธอทุกที ……”

จากนั้นผมก็ปล่อยให้มันโชว์เดี่ยว ซึ่งมันก็คงเริ่มปรับอารมณ์ได้แล้ว เพราะมันร้องได้ลื่นไหลขึ้นเรื่อยๆ จนผมเองที่ได้ฟังมาตั้งหลายครั้ง ยังถึงกับเคลิ้มไปเหมือนกัน

ส่วนพี่ตำรวจก็ยืนฟังไปยิ้มไป ท่าทางคงเชื่อสนิทแล้วละครับว่ามันเป็นนักร้องจริงๆ จนไอ้เบสต์ร้องจบ แกถึงกับปรบมือให้

“สุดยอดว่ะไอ้น้อง” แกเดินเข้าไปตบไหล่ไอ้เบสต์ “ร้องดีกว่าในเทปอีกนะเนี่ย”

“ขอบคุณคับพี่” ไอ้เบสต์ยิ้มรีบยกมือไหว้

“ไปๆ รีบกลับบ้านซะพวกเอ็ง อยู่ข้างนอกดึกๆแบบนี้ มันอันตราย” พี่ตำรวจพูดขึ้นทำเอาผมโล่งอก จนต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ

“พี่มีอะไรจะเล่าให้ผมฟังมั้ย” ผมจ้องตาถามไอ้เบสต์ขณะนั่งรอรถเมล์ที่ป้าย

“เฮ้อ…..” ไอ้เบสต์หลบตาผมแล้วถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ “จะพูดไงดีล่ะ” ไอ้เบสต์พูดแล้วมองไปรอบๆ เพราะยังมีคนนั่งรอรถเมล์อยู่อีกหลายคน

“เอางี้ เดี๋ยวไปคุยกันที่ห้องผมก่อนแล้วกันพี่” ผมรู้ดีครับว่า ถ้าเป็นเรื่องยาเสพติดจริงๆ จะมาคุยกันแบบนี้คงไม่เหมาะ

ไอ้เบสต์มองหน้าผมแล้วพยักหน้าตอบรับแบบเครียดๆ ซึ่งผมเองก็พอจะเดาออกแล้วละครับว่า มันจะพูดเรื่องอะไรกับผม

ครับ แล้วสิ่งที่ผมคิดเอาไว้ก็เป็นจริง เพราะเมื่อมาถึงห้องผม ไอ้เบสต์ก็สารภาพกับผมว่ามันเคยเสพยาบ้าจริงๆ แต่เพิ่งเริ่มเสพได้ไม่กี่ครั้ง ยังไม่ถึงกับติดยา

“วันนี้พี่ไม่ได้มียาติดตัวหรอกนะ แต่พี่กลัวโดนตรวจฉี่ เพราะเล่นครั้งล่าสุดก็เมื่อสองวันก่อน พี่กลัวว่าจะตรวจเจอฉี่ม่วงว่ะ” ไอ้เบสต์บอกผมพลางก้มหน้า ท่าทางคงรู้สึกอาย

“ผมนึกเอาไว้แล้วเชียว ว่าต้องใช่” ผมพูดออกไปทำเอาไอ้เบสต์เบิกตากว้าง

“เฮ้อ……” ไอ้เบสต์ถอนหายใจยาวๆ สีหน้าเจื่อนลงอีกอย่างเห็นได้ชัด

“แล้วพี่ยังจะเล่นอีกมั้ย ผมว่า……พี่เลิกซะเถอะ ตอนนี้พี่ยังไม่ติด มันคงเลิกไม่ยาก” ผมอดเสือกไม่ได้ “สงสารแม่พี่เหอะนะ เค้าเป็นห่วงพี่มาก เมื่อเช้านี้ผมได้คุยด้วย เพราะแม่พี่โทรเข้ามาแต่พี่ยังหลับอยู่” ผมพูดพลางจับไหล่ไอ้เบสต์ทั้งสองข้างบีบเบาๆ

“แม่…..” ไอ้เบสต์พูดพลางน้ำตาเริ่มคลอเบ้า……มันเม้มปากแล้วหลับตาลงทำหน้าเครียด

“ใช่พี่ แม่พี่เค้าฝากผมเอาไว้ บอกอย่าพากันไปเสียคน พี่จะทำอะไร ก็นึกถึงแม่พี่ให้มากๆนะ” ผมพยายามพูดเตือนสติไอ้เบสต์ “ถ้าวันนี้พี่โดนตรวจฉี่ เรื่องมันจะบานปลายไปถึงไหนก็ไม่รู้ แล้วแม่พี่จะเสียใจแค่ไหน”

“ฮืมม…..พี่ก็คิดจะเลิกอยู่แล้วละว่ะ” ไอ้เบสต์บอก “พี่…..สงสารแม่เหมือนกัน…..ฮือๆ”

ถึงตอนนี้ไอ้เบสต์น้ำตาไหลออกมาแล้วครับ ผมเลยดึงมันเข้ามากอดเอาไว้ พลางลูบหลังปลอบมันไปเบาๆ เท่าที่ผมจะทำได้

“เลิกนะพี่ มันยังไม่สายหรอก” ผมแอบน้ำตาซึมออกมาเล็กๆ “สัญญากับผมนะ”

“ได้เอก พี่สัญญา” ไอ้เบสต์บอกเสียงฟืดฟาดแล้วกอดผมแน่น “เพื่อแม่”

“และเพื่ออนาคตของพี่ด้วย” ผมพูดต่อให้มันแล้วกอดตอบไปเช่นกัน

คืนนั้นผมเลยให้ไอ้เบสต์นอนค้างที่ห้องผมอีกหนึ่งคืน เพราะกลัวว่ามันจะไปเจอด่านตรวจฉี่อีก ตอนที่ผมอาบน้ำเสร็จออกมา ก็เห็นไอ้เบสต์ไปยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่ระเบียงหลังห้อง……ผมได้ยินประโยคสุดท้ายก่อนวางหูว่า

“……เบสต์รักแม่นะคับ”

ผมอดน้ำตารื้นออกมาไม้ได้ เพราะจะยังไงลูกทุกคนต้องรักแม่ตัวเองอยู่แล้ว เด็กในวัยรุ่นอย่างพวกผม อาจดื้อไปบ้าง เพราะเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเองแล้ว และก็เริ่มไม่ชอบให้แม่มาเซ้าซี้เรื่องส่วนตัว ซึ่งคงทำให้แม่เสียใจอยู่หลายครั้ง

แถมเรื่องของไอ้เบสต์มันยิ่งซับซ้อนกว่าคนอื่นๆ เพราะปัญหาพ่อเลี้ยงที่ไม่รักมัน ทำร้ายร่างกายมันอย่างที่ไอ้กันบอก มันเลยกลายเป็นเด็กมีปัญหาที่แม่คงต้องห่วงมากกว่าปรกติ…..ประโยคสุดท้ายที่ไอ้เบสต์บอกออกไป คงทำให้แม่ไอ้เบสต์มีกำลังใจมากขึ้น

“โทรหาแม่เหรอพี่” ผมเดินออกไปยืนข้างๆไอ้เบสต์แล้วเอ่ยถามขึ้น

“ฮื่อ….พี่จะไม่ทำให้แม่เสียใจอีกแล้วว่ะเอก” ไอ้เบสต์ตอบผมด้วยรอยยิ้ม “ขอบใจนะเอก ที่ช่วยพี่ไว้วันนี้ ถ้าไม่มีเรา……พี่แย่แน่เลยว่ะ”

ไอ้เบสต์สวมกอดผมแน่นอีกครั้ง ผมเองก็กอดมันกลับไปเหมือนกัน ผมไม่รู้ว่าไอ้เบสต์จะทำตามที่สัญญากับผมไว้ได้หรือเปล่า แต่อย่างน้อยผมก็ได้ช่วยเตือนสติให้มันได้คิดอะไรบ้าง……ขอให้มันเลิกได้อย่างที่มันบอกเถอะนะ……ผมแอบภาวนาอยู่ในใจ

………………………..

ขณะที่ผมกับไอ้เบสต์กำลังเดินเข้าโรงเรียนในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น เสียงเพลง “คนใจอ่อน” ก็กระหึ่มไปทั่วโรงเรียน…….โห…….พี่น้ำนี่โคตรเร็วเลยว่ะ ท่าทางคงเพิ่งได้ซีดีจากพี่อิทไปแน่ๆ

ไอ้เบสต์เดินยิ้มอย่างภูมิใจ เพราะมีนักเรียนคนอื่นๆที่จำมันได้ ก็พากันมองมาที่มันแล้วยิ้มให้ บางคนก็ยกนิ้วโป้งให้มันเหมือนจะชมว่ามันร้องเพราะ……ใช่ครับ เสียงร้องของมันเพราะจริงๆ ยิ่งผ่านการอัดเสียงจากห้องอัดแบบนี้ เสียงยิ่ง “เทพ” สุดๆ

“เราลองมาฟังเสียงของน้องเอกพัฒน์ ห้อง 5/1 กันบ้างนะคะ” เสียงพี่น้ำพูดตามสายหลังจากเพลงของไอ้เบสต์จบลง ทำเอาผมรู้สึกเขินจนร้อนไปทั้งหน้า……เฮ้ย! จะเปิดเพลงผมเหรอวะเนี่ย

“ต้องคอยติดตามชมกันให้ได้นะคะ ในวันนิทรรศการวัฒนธรรมไทย เพราะน้องเอกสุดหล่อจะมาร้องเพลงสดๆ ให้พวกเราฟังในเพลง……รักคุณยิ่งกว่าใคร….ค่า”

เสียงดนตรีอินโทรจากแผ่นซีดีกระหึ่มทั่วโรงเรียน ทำเอาผมเขินยิ่งกว่าเก่า เพราะทางที่เรากำลังเดินอยู่นั้น มีนักเรียนรอเข้าเรียนอยู่เยอะมาก ซึ่งทุกคนต่างพากันมองไอ้เบสต์อยู่ก่อนแล้วจากเพลงที่เพิ่งจบไป แถมไอ้เบสต์ยังผายมือเพื่อบอกกับนักเรียนทุกคนที่กำลังมองอยู่ ว่าเพลงนี้เป็นเสียงร้องของผม ยิ่งทำให้ผมเดินขาขวิดไปเลยละครับ

“…….รักคุณ เสียยิ่งกว่าใคร มอบกล่องดวงใจเอาไว้ที่คุณ…….”

ผมกลายเป็นคนดังในชั่วไม่กี่นาที เพราะเมื่อผมแยกจากไอ้เบสต์เพื่อเดินไปที่ห้องเรียน ก็มีนักเรียนหลายคน พากันชี้มาที่ผม หลายคนเข้ามาชมว่าผมร้องเพลงเพราะ หลายคนยกนิ้วโป้งให้ บางคนก็เข้ามาจับมือ

“เฮ่…….มาแล้วโว้ย นักร้องสุดหล่อของพวกเรา”

เสียงเพื่อนๆในห้องที่มากันก่อนหน้าผมร้องตะโกนลั่น ทำเอาผมต้องยิ้มออกมาอย่างดีใจ

“เชี่ย……เสียงมึงโคตรดีเลยว่ะ” ไอ้โป้งเข้ามากอดคอผมพาเดินไปนั่ง คนอื่นๆก็พากันเฮโลเข้ามา “give me five”(เอามือตบกัน) กับผมกันใหญ่

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีนักเรียนห้องอื่นๆ พากันเดินมาหยุดดูผมที่หน้าห้องด้วย ต่างชี้มือมาที่ผม ทำเอาผมเขินสุดๆ เพราะไม่ชินกับความป๊อบที่ตัวเองกำลังเป็นอยู่

ผมว่า…..นักร้องอีกสามคนก็คงกำลังเป็นแบบผมนี่แหละ……อะไรกันวะ การโปรโมทของชมรมโสตนี่แม่งโคตรได้ผลเลยว่ะ นี่แค่วันแรกก็เรียกคะแนนจากนักเรียนได้ขนาดนี้ แล้วเหลือเวลาโปรโมทอีกตั้งอาทิตย์กว่าๆ ผมว่าวันงานจริง หอประชุมคงคึกคักแน่เลย