Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 554
Message ID: 1
#1, RE: นิยายที่ยังไม่มีชื่อเรื่อง(กระทู้ 3 ครับ)
Posted by someone on 20-Jun-13 at 01:22 AM
In response to message #0
ไอ้ตาลเดินกลับมาบอกผมว่า ไอ้เบสต์จะเอาของที่ผมทิ้งไว้ที่โรงเรียนมาให้ผม ตอนนี้มันกำลังเดินขึ้นมาที่ห้อง ผมพยักหน้ารับแล้วหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน จนเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู ผมก็ยังไม่ลืมตามอง

“เอก……เป็นไงมั่งวะ พี่ขอโทษเราจริงๆว่ะ” เสียงไอ้เบสต์ดังขึ้น ผมเลยลืมตามองอย่างอ่อนแรง มันจับมือผมบีบเบาๆเหมือนจะส่งกำลังใจมาให้

“ไม่เป็นไรพี่ ผมรู้ว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจ” ผมพยายามเค้นเสียงบอกออกไป……ผมไม่โทษมันจริงๆครับ ทุกอย่างเป็นความผิดของผมเองทั้งนั้น

สิ่งที่ผมสามารถทำได้มากที่สุดในตอนนั้น คงแค่เพียงพิมพ์ข้อความอธิบายเรื่องราวทั้งหมดส่งไปให้ไอ้นัย ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะเปิดอ่าน และถ้ามันได้อ่านแล้ว มันจะเชื่อผมมั้ย……..ซึ่งผมก็ภาวนาขอให้มันเชื่อด้วยเถอะ

คืนนั้นทั้งไอ้ตาลและไอ้เบสต์เลยอยู่นอนเป็นเพื่อนผม ผมรู้สึกดีขึ้นมาบ้างเมื่อมีเพื่อนมาชวนคุย ชวนดูทีวี และมาเถียงกันอยู่ในห้อง บางทีพวกมันก็เล่นตลกให้ผมดู ซึ่งก็ทำให้ผมลืมเรื่องเครียดๆ ไปได้ชั่วขณะ

สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกดีไปกว่านั้นก็คือ ไอ้ตาลกับไอ้เบสต์ท่าทางจะคุยกันอย่างถูกคอทั้งๆที่เพิ่งได้คุยกันเป็นวันแรก นั่นหมายถึงมิตรภาพที่ดีกำลังเริ่มขึ้นกับเพื่อนของผมทั้งสองคน เพราะมันเริ่มสนิทถึงขั้นตบกระโหลกกันเลยละครับ…….เฮ้อ…….ท่ามกลางสถานการณ์ที่ย่ำแย่สำหรับผมแบบนี้ กลับมีบางอย่างที่ช่วยผมให้ยิ้มออกมาได้บ้าง ขอบใจว่ะ……ไอ้ตาล……ไอ้เบสต์

………………………….

ผมสะโหลสะเหลไปโรงเรียนในตอนเช้า เพราะเมื่อคืนกว่าจะข่มตาหลับลงไปได้ก็ปาไปตีอะไรไม่รู้ ไอ้เบสต์ยังอยู่ข้างผมไม่ห่างเหมือนกำลังจะแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น มันพยายามบังคับให้ผมกินข้าวให้ได้เยอะๆ เพราะผมกินไปได้แค่สามสี่คำ ผมก็กลืนไม่ลงแล้วครับ

“เรายังต้องมีงานที่ต้องรับผิดชอบอีกเยอะนะเอก ถ้าไม่กินข้าวแล้วจะเอาแรงที่ไหนไปเรียน ไปร้องเพลงล่ะวะ” ไอ้เบสต์มองผมด้วยสายตาเป็นห่วงพร้อมเอามือยีหัวผมเบาๆ เลยทำให้ผมพยายามฝืนกินเข้าไปได้อีกนิดหน่อย

วันนั้นผมนั่งเรียนอย่างหมดอาลัยตายอยาก ไม่มีความรู้อะไรเข้าหัวผมเลยสักนิด เพราะในหัวผมมีแต่เรื่องของตัวเอง จนไอ้โป้งกับไอ้เก็ตก็คงสงสัยว่าทำไมผมถึงได้ซึมไปแบบนี้ แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรให้มันฟังหรอกนะครับ ผมว่าไอ้สองตัวนี่มันคงมีเซ้นส์ว่าผมกำลังมีเรื่องทุกข์ใจ เลยพยายามทำให้ผมหัวเราะออกมาได้บ้าง……ขอบใจว่ะเพื่อน

เย็นนั้นผมยังคงไปซ้อมที่ห้องชมรมการแสดงเหมือนเดิมครับ จริงๆคงต้องบอกว่าพยายามลากสังขารไปซ้อมมากกว่า เพราะผมไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรเลย แต่ผมก็ต้องมีความรับผิดชอบและไม่อยากเอาเรื่องส่วนตัวมาทำให้งานเสีย

เสียงอินโทรเพลงรักคุณยิ่งกว่าใครดังขึ้น ผมเจ็บแปล๊บเข้าไปถึงขั้วหัวใจ เพราะสำหรับผม เพลงๆนี้ มันเหมือนเป็นเพลงที่ผมร้องให้ไอ้นัยเท่านั้น…….ใช่……เพลงนี้เป็นเพลงของไอ้นัย เพียงคนเดียว

เหตุการณ์ที่ผมร้องง้อไอ้นัยที่บ้านพี่กรไหลเข้ามาในหัวผมอย่างช่วยไม่ได้ ผมยังจำอารมณ์นั้นได้ดีว่าผมรู้สึกอินกับเพลงครั้งแรก เพราะผมกำลังร้องให้ไอ้นัย……คนสำคัญของผม

แต่วันนี้ต่างจากวันนั้น ขณะที่ผมกัดฟันเปล่งเสียงร้องออกไป หน้าไอ้นัยก็ลอยเข้ามาเต็มๆ………ใช่สิ…….มันเคยนั่งดูผมอยู่ตรงนั้นแล้วยิ้มส่งกำลังใจมาให้ผมทุกครั้ง…….แต่วันนี้ ไม่มีแม้แต่เงาของไอ้นัย และผมก็ไม่รู้ว่าจะมีมันมานั่งดูผมแบบนั้นอีกมั้ย…….ผมรู้สึกเหมือนใจจะขาด…….นัย…..จนป่านนี้มึงยังไม่ติดต่อกลับมาเลย มึงไม่แคร์กูบ้างเลยเหรอวะ

ก้อนอะไรมาจุกที่คอผมอีกแล้วครับ ผมร้องเพลงต่อไม่ออกจริงๆ ผมยืนหลับตาเอามือกุมหัวตัวเองนิ่ง จนน้องแองจี้กับน้องๆคนอื่นต้องพาผมไปนั่งพัก

“ไหวมั้ยคะพี่เอก” น้องแองจี้ถาม “ถ้าไม่ไหวก็กลับไปพักเถอะนะคะ”

“ไหวคับ พี่ขอพักแป๊บนะ” ผมพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหล ฝืนยิ้มและพูดออกไปอย่างยากเย็น

น้องแองจี้นั่งลงตรงหน้าแล้วเอามือผมไปกุม ก่อนจะมองด้วยสายตาที่ห่วงใย น้องๆคนอื่นก็พากันมาจับมือจับแขนผมบีบเบาๆ

“ไม่ว่าพี่จะมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ แต่หนูอยากให้พี่เอกรู้ไว้นะคะ ว่าพวกหนูเป็นห่วงพี่กันทุกคน” น้องแองจี้พูดเหมือนรู้อะไร…..ก็คงใช่สินะ เมื่อวานนี้ถ้าใครอยู่ในห้องตอนเกิดเรื่อง ก็คงเดาเรื่องราวได้ไม่ยากหรอก

“ขอบใจนะน้องๆ……ขอบใจมาก…..” ผมยิ้มออกไปด้วยความปลื้มใจที่น้องๆเป็นห่วงผมขนาดนี้……น้ำตามันรื้นขึ้นมาอีกแล้วครับ และในที่สุดมันก็ไหลออกมาจนได้

………………………

โทรศัพท์สั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงขณะที่ผมกำลังซ้อมที่ชมรมดนตรี ทำเอาผมตกใจรีบหยิบขึ้นมาดูเพราะคิดแต่ว่าจะเป็นสายของไอ้นัย…….แต่มันก็ไม่ใช่ครับ

“น้องเอก วันนี้ไปนอนบ้านพี่นะครับ น้องโน น้องตาลก็จะไปนอนด้วย” เสียงพี่กรพูดมาตามสาย ทำเอาผมรู้สึกอุ่นใจยังไงบอกไม่ถูกครับ “ตอนนี้พวกเรารออยู่หน้าตึกนะ ถ้าซ้อมเสร็จก็ลงมาได้เลยครับ อย่าลืมชวนน้องเบสต์มาด้วยนะ”

“พรุ่งนี้วันเสาร์พี่จะพาไปเที่ยวต่างจังหวัด” พี่กรพูดขึ้นเมื่อผมกับไอ้เบสต์เดินมาถึง “ไปค้างกันซักคืน วันอาทิตย์ค่อยกลับ พี่ยกเลิกสอนร้องเพลงหมดแล้วล่ะ”

“ไปไหนคับพี่” ผมอดสงสัยไม่ได้ แต่ก็รู้สึกดีใจไม่น้อยเลยครับ เพราะผมจะได้ไปพักผ่อนสมองที่เครียดๆด้วย

“เอาน่า แล้วจะชอบ” พี่กรบอก……เอ…..ทำไมไม่บอกเลยละวะ แต่ช่างเหอะ ไปไหนผมก็ไปทั้งนั้น แค่รู้ว่าจะได้ไปเที่ยว ผมก็ดีใจแล้ว

ผมมารู้เอาทีหลังว่าไอ้ตาลกับไอ้เบสต์เป็นโต้โผคิดที่จะโทรชวนพี่กร ผมอดที่จะขอบคุณพวกมันในใจไม่ได้…….เพื่อนรักของกูทั้งสองคน ขอบใจว่ะ

เย็นนั้นเราช่วยกันทำอาหารกันอีกครั้งครับ แต่คราวนี้อยู่กันหลายคนก็เกิดเรื่องสนุกๆ ตามมา ทั้งการเตรียมอาหารแบบเงอะๆงะๆ เลอะๆเทอะๆ ของพวกเรา การแซวกันระหว่างไอ้โนกับไอ้ตาล และการเถียงกันระหว่างไอ้ตาลกับไอ้เบสต์ เลยทำให้ผมได้หัวเราะและเพลินกับการทำอาหาร จนลืมเรื่องเศร้าไปได้บ้าง

เราทั้งหมดเข้าไปนอนอยู่ในห้องพี่กรครับ โดยมีผม ไอ้ตาล ไอ้เบสต์ นอนกับพื้นห้อง ส่วนพี่กรกับไอ้โนนอนบนเตียงกันสองคน

พวกเราต่างหาเรื่องสนุกๆมาเล่าให้กันฟัง แต่อะไรก็คงไม่มันส์เท่า Dirty Jokes หรอกนะครับ เราเลยได้หัวเราะกันจนท้องคัดท้องแข็ง ก่อนจะที่ผมจะหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย