Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 554
Message ID: 94
#94, RE: นิยายที่ยังไม่มีชื่อเรื่อง(กระทู้ 3 ครับ)
Posted by someone on 27-Jun-13 at 01:47 PM
In response to message #93
หวัดดีครับ มาต่อให้แล้วครับ

veesak........ดีใจที่ชอบนะครับ และก็ขอบคุณมากๆเลยครับสำหรับกำลังใจดีๆที่ให้มาตั้งแต่แรก ซาบซึ้ง อิอิ

Platongg......อาจเป็นเรื่องวุ่นๆแทนนะครับ

Pathum Thong.......ขอบคุณครับ อย่างที่บอกว่าผมลงครั้งนึงไม่มาก เลยต้องมาบ่อยๆหน่อย อิอิ
เรื่องของไอ้เบสต์กับไอ้กัน ลองอ่านดูนะครับ

Non......อิอิ

Beside.......น่ารักจังคุณ Beside


...............................

ผมพาไอ้นัยไปห้องชมรมดนตรีต่อ พอไปถึงก็เจอทุกคนกำลังซ้อมอยู่ก่อนแล้ว ไอ้เบสต์กับพี่อิททำหน้าเหวอเมื่อเห็นไอ้นัยอยู่ในสภาพนั้น ก่อนที่ไอ้เบสต์จะเข้ามาหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอยู่ตรงหน้าไอ้นัย ซึ่งมันก็ยืนยิ้มทำท่าทางมั่นใจไม่สะทกสะท้านอะไร

“เจ๋งมากว่ะไอ้นัย ฮ่าๆๆ” ไอ้เบสต์ร้องบอกพลางหัวเราะ

“ทำไมต้องหัวเราะพี่นัยด้วยอะ ก็แค่ตัดผมเอง” ไอ้บอมบ์ถามขึ้นคงเพราะยังไม่รู้ว่าไอ้นัยไม่ได้อยู่โรงเรียนผม

“เออๆ ไม่มีอะไรหรอก มาซ้อมกันดีกว่า…..ไอ้เอกมาเร็วๆ รออยู่เลย”

ไอ้เบสต์บอกผมแล้วกอดคอไอ้บอมบ์แกล้งเอานิ้วแย่หู ไอ้บอมบ์เลยร้องแล้วดิ้นหนีแต่ไอ้เบสต์แม่งก็กอดเอาไว้แน่น เลยกลายเป็นว่าไอ้สองตัวนั่นกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่กลางห้อง ทำให้คนอื่นๆพากันหัวเราะกันใหญ่

เอ…..นี่ผมคิดมากไปหรือเปล่านะ ผมว่า…..ไอ้เบสต์กับไอ้บอมบ์มันดูสนิทสนมกันเร็วจัง…….หรือว่า ไอ้บอมบ์จะโดนไอ้เบสต์ลองของแบบที่ผมเคยโดนเมื่อตอนมาใหม่ๆ

ช่วงพักเบรก ผมจะไปห้องน้ำไอ้นัยเลยตามมาด้วย แต่พอเดินออกจากห้องได้ไม่กี่ก้าว ไอ้เบสต์ก็ตะโกนเรียกบอกจะไปด้วย
เราเลยเดินคุยกันไปเรื่อยๆ ผมเห็นเป็นโอกาสเหมาะเลยคุยกับไอ้เบสต์เรื่องไอ้บอมบ์

“เมื่อคืนมันโทรหากูว่ะ ถามว่ามึงมีแฟนรึยัง” ผมบอกไป

“มันก็โทรหากู๊ ถามว่ามึงมีแฟนรึยังเหมือนกัน” ไอ้เบสต์บอกแล้วอมยิ้ม……หา…..ไอ้บอมบ์แม่งร้ายจริงๆ “กูเลยบอกแม่งไปว่า มึงเป็นแฟนกับไอ้นัย แม่งเลยจ๋อยแดก”

“ดีมากเบสต์ มันต้องอย่างนี้” ไอ้นัยยิ้มกว้างพลางตบไหล่ไอ้เบสต์ แล้วหันมาหาผม

“ไงล่ะ กูบอกแล้วว่ามันโทรมาจีบมึง….ก็ไม่เชื่อ ” ไอ้นัยพูดแล้วล็อคคอผมแน่น

“งั้นแสดงว่า พอมันคุยกับมึงเสร็จมันก็โทรหากูดิ” ผมนึกลำดับเหตุการณ์คร่าวๆ “พอมันรู้ว่ากูมีแฟนแล้ว มันก็เลยเบนเข็มไปหามึง โดยถามข้อมูลจากกู”

“ก็คงงั้นแหละว่ะ” ไอ้เบสต์บอกแล้วอมยิ้ม

“แล้วมึงคิดไงวะ กูว่าจริงๆมันก็น่ารักดี ช่างพูดช่างคุยช่างประจบ” ผมพูดออกไปไอ้นัยเลยยิ่งล็อคคอผมแน่นกว่าเก่า

“โอ๊ยย…..ไม่ใช่น่ารักแบบจะชอบมันโว้ยมึงนี่” ผมหันไปโวยไอ้นัย มันเลยคลายล็อคปล่อยผมออก แล้วหัวเราะเบาๆ

“กูก็ว่างั้น แต่…….” ไอ้เบสต์หยุดพูดแล้วทำหน้านิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ผมเลยเดาเอาเองว่า มันกำลังคิดเรื่องไอ้กันแน่ๆ เพราะก่อนหน้านี้มันเคยส่งข้อความไปง้อไอ้กัน

“แต่ไรวะ มีอะไรก็บอกเพื่อนสิ เผื่อกูจะช่วยอะไรมึงได้บ้าง” ผมแกล้งทำไม่รู้เรื่องของมันกับไอ้กัน แต่ก็พยายามโยงเข้าไปหาให้ได้ “หรือมึงมีคนที่มึงชอบอยู่แล้ว”

“ก็….ทำนองนั้นว่ะ” ไอ้เบสต์บอกแล้วถอนหายใจ “เราเคยคบกัน…..มันดีกับกูมากว่ะเอก แต่กูเองแหละที่ทำไม่ดีกับมันเอาไว้จนมันทนไม่ไหว”

สีหน้าไอ้เบสต์ตอนนี้ดูจริงจังกว่าทุกครั้งที่ผมเคยเห็น นี่แสดงว่ามันก็แคร์ไอ้กันไม่น้อยเลย ผมว่า…..มันสองคนก็น่าจะกลับมาคบกันใหม่ได้นะ

“ถ้าจะให้กูช่วยอะไรมึงก็บอกนะ กูช่วยเต็มที่เลยว่ะ” ผมตบไหล่ไอ้เบสต์เบาๆ มันเลยยิ้มออกมาได้บ้าง

“ส่วนไอ้บอมบ์……จริงๆมันก็น่ารักดีนะ” ไอ้เบสต็พูดขึ้น……เฮ้ย! ….ไม่ได้นะ ไอ้กันมันก็ยังรักมึงอยู่ อย่าเขวสิวะไอ้เบสต์

“แต่กูว่าคนเก่าน่าสงสารออกนะเบสต์” ผมเริ่มเชียร์ไอ้กัน “คนเคยคบกันมันน่าจะคุยอะไรไม่ยากหรอก แล้วตอนนี้มึงก็คงไม่ร้ายกับเค้าแล้วมั้ง”

“ก็ถ้าเค้ายอมกลับมาคบกับกู กูก็คงไม่มองไอ้บอมบ์หรอกว่ะ” ไอ้เบสต์บอก

“ไปง้อสิวะ” ผมแกล้งแนะนำ ไอ้เบสต์เลยส่ายหัวไปมา

“กูไม่กล้าสู้หน้าเค้าว่ะ ทำเลวกับเค้าไว้เยอะ” ไอ้เบสต์สารภาพคงคิดว่าผมไม่รู้เรื่องมาก่อน

“งั้นให้กูช่วยมึงนะ มึงพอจะบอกกูได้มั้ยว่าเป็นใคร” ผมแกล้งไขสือต่อ โดยมีไอ้นัยยืนอมยิ้มอยู่ใกล้ๆ

“จริงเหรอวะเอก” ไอ้เบสต์หันมองผมแล้วทำท่าครุ่นคิดอยู่แป๊บนึง “มึงจำตอนที่กูเดินไปเจอมึงที่ห้องชมรมการแสดงได้ป่าววะ ไอ้นักบาสที่ไปกับกูนั่นแหละ”

“อ๋อ….จำได้ ไอ้กันเหรอ” ผมแกล้งต่อ “สมกันกับมึงอย่างกับกิ่งทองใบหยก”

“เว่อไปแระไอ้เอก” ไอ้เบสต์พูดแล้วมองหน้าผม “มึงคิดว่าจะช่วยกูได้ยังไงวะ”

“ก่อนอื่น……มึงถามตัวเองดูดีๆนะ ว่าถ้าเค้ายอมคืนดีกับมึง มึงต้องไม่ร้ายกับเค้าเหมือนก่อน” ผมย้ำกับมันอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“ชัวร์เลยเอก” ไอ้เบสต์บอกย่างมั่นใจ “กูจะทำดีกับมันให้มากขึ้นสิไม่ว่า”

“งั้นให้กูไปพามันมาหามึงเอามั้ย วันนี้เลย” ผมบอกไอ้เบสต์เพราะไม่อยากรอให้นานกว่านี้ กลัวไอ้บอมบ์จะคาบไอ้เบสต์ไปแดกซะก่อน

“เฮ้ย! วันนี้เลยเหรอ” ไอ้เบสต์ร้องลั่น แต่ก็ทำท่าคิดอะไรอยู่ในหัว

“อย่ารอนานเบสต์ ไม่แน่ตอนนี้เค้าอาจมีใครเข้ามาเหมือนมึงมีไอ้บอมบ์ก็ได้นะ” ผมยุแหลก

“ฮืมมมม…..ก็ได้วะ แล้วมึงจะเอาไงดี” ไอ้เบสต์ยิ้มนิดๆแล้วถามผม

“ตอนนี้มันต้องซ้อมบาสอยู่นี่ งั้นเดี๋ยวกูไปนัดให้ ได้เรื่องยังไงกูจะรีบไปบอกมึงเอง” ผมบอกมันแล้วรีบวิ่งออกไปทันที

ฮ่าๆ…..ดีใจจัง ที่ผมจะได้ช่วยเพื่อนทั้งสองคนให้กลับมาคบกันใหม่อีกครั้ง เพราะไอ้เบสต์มันก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ามันจริงใจกับผม มันคือเพื่อนที่ผมรักคนนึงเลยละครับ ส่วนไอ้กัน…..มันก็น่าสงสาร และผมก็รู้อยู่เต็มอกว่ามันยังรักไอ้เบสต์อยู่มาก…..เฮ้อ……ขอให้ภาระกิจครั้งนี้สำเร็จด้วยเถอะ ไอ้เบสต์กับไอ้กันจะได้มีความสุขเหมือน……ผมกับไอ้นัยไง ฮี่ๆ

ผมรีบวิ่งปรู๊ดเดียวมาถึงโรงยิม ซึ่งไอ้กันกำลังซ้อมบาสอยู่ ผมเลยไปนั่งรอข้างๆสนามซึ่งพอไอ้กันเห็นผม มันก็โบกมือแล้วยิ้มให้

ไม่นานนักไอ้กันก็เบรกการซ้อม มันเลยรีบวิ่งยิ้มกว้างมาหาผมด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยเหงื่อ

“ไงเอก ไม่ได้เจอหลายวันคิดถึงมึงเหมือนกันว่ะ” ไอ้กันทักผม

“กูก็คิดถึงมึง” ผมบอกมันพลางเอามือจับแขนมันบีบเบาๆ “กูมีข่าวจากไอ้เบสต์มาบอกมึงว่ะ”

“เรื่องไรวะเอก” ไอ้กันหุบยิ้มลงจนหน้ากลายเป็นนิ่ง จนผมอดแปลกใจไม่ได้ เพราะวันก่อนที่เราได้คุยกัน มันยังมีท่าทีสนใจอยากคืนดีกับไอ้เบสต์อยู่เลย แต่วันนี้ผมกลับรู้สึกแปลกๆ

“ไอ้เบสต์มันอยากเจอมึงว่ะกัน” ผมบอกความจริงออกไป “ตอนนี้มันปรับปรุงตัวแล้วนะ มันสัญญากับกูว่าจะไม่ทำตัวเลวๆเหมือนก่อนอีก”

“กูว่าเป็นสิ่งที่ดีนะ กูดีใจกับมันด้วย” เสียงไอ้กันราบเรียบจนผมอดใจหายไม่ได้ “แต่กูยังไม่อยากเจอมันว่ะ กูว่ากูกำลังสบายใจแล้วล่ะเอก”

“เอ่อ……หมายความว่า…..” ผมพูดได้แค่นั้นไอ้กันก็สวนขึ้นมาทันที

“เอก…..กูบอกตามตรงนะ ว่ากูกำลังมึความสุขกับการอยู่คนเดียว” ไอ้กันบอกผมเสียงเข้ม “พอกูปรับตัวได้ กูก็รู้เลยว่าความสุขที่แท้จริงมันคือการเป็นโสดว่ะ”

ไอ้กันจ้องตาผมด้วยแววตาที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ดูมันมีความสุขอย่างที่มันว่าจริงๆ แต่มากไปกว่านั้น ผมเห็นความมั่นใจในดวงตาของมันที่ฉายแววออกมา

“งั้นกูก็ไม่บังคับใจมึงหรอกนะกัน” ผมบอกมันอย่างเข้าใจ “กูเห็นมึงมีความสุข กูก็ดีใจด้วยว่ะ”

“ขอบใจนะเอก” ไอ้กันสวมกอดผม “กูว่ากูมีเพื่อนดีๆแบบมึงแค่คนเดียว กูก็มีความสุขแล้วว่ะ”

“มึงก็เป็นเพื่อนที่ดีของกูเหมือนกันนะ” ผมกอดไอ้กันแน่นขึ้น

ผมเดินออกมาจากโรงยิมด้วยอารมณ์ที่หลากหลายจริงๆครับ อย่างแรกผมอดสงสารไอ้เบสต์ไม่ได้ที่มันหมดโอกาสคืนดีกับไอ้กัน อีกอารมณ์นึงผมได้เห็นไอ้กันมีความสุขกับการอยู่คนเดียว ผมก็ดีใจกับมันด้วย……เฮ้อ……คนเรามันคิดไม่เหมือนกันจริงๆนะ ต่างคนต่างความคิด และความคิดมันก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้อยู่เสมอ

ไอ้เบสต์ดูเศร้าไปเลยครับเมื่อผมเดินมาบอกมัน มันขอตัวเดินออกไปข้างนอกคนเดียว ผมเองก็อดห่วงมันไม่ได้ ท่าทางมันคงจะผิดหวังไม่น้อย

ไอ้เบสต์หายไปนานมากเลยครับ จนผมคิดว่ามันคงกลับบ้านไปแล้ว

“บอมบ์ไปซ้อมอีกทีไป จบเพลงนี้เราก็กลับบ้านกันเหอะ” พี่อิทร้องบอกเพราะตอนนั้นก็เย็นมากแล้วครับ

ไอ้บอมบ์เลยเดินไปร้องเพลงช้าของมัน มานานนักไอ้เบสต์ก็โผล่เข้ามาในสภาพหน้าตาเศร้ากว่าเดิมอีกครับ ผมเลยรีบเดินไปหาแล้วพามันมานั่งพัก……อดคิดไม่ได้ว่ามันต้องไปหาไอ้กันมาแน่ๆ ถึงได้มีสภาพแบบนี้……และสิ่งที่ไอ้กันพูดให้มันฟังคงไม่ต่างจากที่ผมได้ยินมาก่อนหน้านี้

ไอ้บอมบ์ร้องเพลงไปก็มองไอ้เบสต์กับผมอย่างงงๆ จนมันร้องจบพี่อิทเลยตะโกนบอกเลิกซ้อมเสียงดัง

“กูขอร้องเพลงของกูซักรอบเหอะอิท” ไอ้เบสต์ตะโกนบอกแล้วลุกเดินไปหยิบไมค์ มันยืนก้มหน้าเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ในหัว

เสียงดนตรีอินโทรเพลงคนใจอ่อนดังขึ้น ไอ้เบสต์เม้มปากก่อนจะหายใจแรงๆเข้าปอดแล้วเปล่งเสียงร้องเพลงออกมา

“……หยุดได้ไหม วันไหนก็ไม่ต้องมาหา อย่าเอาสายตาอย่างนั้นมาทำให้หวั่นไหว….
เธอก็รู้ ว่าฉันมันใจไม่แข็งเท่าไหร่ หัวใจมันอ่อนให้เธอทุกที……”

เสียงร้องของไอ้เบสต์ครั้งนี้ดูเข้าถึงอารมณ์เพลงอย่างมาก…..มันเพราะและกินใจจนผมจนลุกซู่ไปทั้งแขน สีหน้าและแววตาของไอ้เบสต์มันดูเศร้าเหลือเกินครับ ผมเองมองดูก็รู้สึกสงสารมันจับใจ

“…..ไม่ต้องมาเจอได้ไหม เพราะฉันมันคนใจอ่อน ห้ามใจแล้ว ฉันห้ามจนอ่อนใจ เหน็ดเหนื่อยกับความสับสนเพราะรู้ว่ามันทนไม่ได้ เข้าใจไหม ฉันขอเธอได้ไหม อย่าพบกัน

กลับไปนะ วันนี้ฉันคงต้องใจร้าย ต้องทำแข็งใจ ขอร้องให้เธอไปจากฉัน
ตัดใจนะ เพราะฉันก็ต้องตัดใจเหมือนกัน ต้องการให้มันจบแค่ตรงนี้……
……..ไม่มีคนใจอ่อนอีกต่อไป…..”