แม้บรรยากาศภายในห้องอันกว้างใหญ่ดูจะไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเมื่อวันผ่านๆ มา การปฏิบัติการ “ แอบส่อง ” แบบ reality show ของเด็กหนุ่มหล่อๆ ภายในห้องส่วนตัวดูจะเป็นกิจกรรมที่สร้างความบันเทิงสำหรับมวลหมู่เทพเจ้าชราทั้งหลายภายในเรือลำนี้

ทว่า ทุกคนภายในห้องตระหนักดีว่า การที่บุคคลถือเป็นเป็นเทพสูงสุดทั้งสามมารวมตัวในเวลาเดียวกันเพื่อยลโฉมเด็กหนุ่มหล่อที่ชื่อว่าพีร์นั้น ถือว่า...เป็นเรื่องไม่ธรรมดาทีเดียว

เพราะสาเหตุใดนะที่ทำให้เด็กหนุ่มคนนี้สามารถกระตุ้นให้เทพผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามใความสนใจได้ถึงเพียงนี้....แถมยังยกห้องรับรองโปไซดอนที่ถือว่าเป็นห้องที่ใหญ่และตระการตาที่สุดให้เป็นพิเศษอีกด้วย

หรืออาจเป็นเพราะ...เด็กคนนี้ไม่ได้มาด้วยความสมัครใจ หากถูกบังคับขืนใจมา แถมยังเป็นผู้ชายแท้ๆ ไม่เคยมีความสัมพันธ์ใดๆ กับเพศที่สามมาก่อน เลยทำให้ท่านเทพทั้งสามเกิดความสนใจแล้วเกิดความท้าทายที่อยากจะเอาชนะขึ้น

ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม กลับถือเป็นโชคดีของเจ้าพีร์โดยที่มันเองก็ไม่รู้ตัว......

ตามกฏที่วางไว้ หากเด็กหนุ่มคนใดเป็นที่ต้องตาต้องใจของหนึ่งในสามเทพสูงสุด จะกลายเป็น “ ของต้องห้าม ” สำหรับเหล่าทวยเทพชั้นรองๆ ทันทีหรือจะพูดอีกอย่างก็คือ ตามสิทธิ์ของชั้นวรรณะแล้ว เทพที่อยู่ในวรรณะสูงสุดย่อมได้ครอบครองของที่ดีที่สุดเสมอ

แต่นี่ นับว่าเป็นครั้งแรกที่เทพสูงสุดทั้งสามคนเกิดสนอกสนใจในหนุ่มหล่อคนเดียวกัน นั่นหมายความว่า....เทพทั้งสามจะต้องแข่งขันกันเองเพื่อช่วงชิงสิทธิ์ในการครอบครองในตัวของเด็กหนุ่มรูปงามคนนี้

จริงๆ แล้ว การที่เด็กหนุ่มเป็นเป้าแห่งการแย่งชิงของเทพทั้งสามได้ก่อให้ทั้งกระแสฮือฮาและอิจฉาริษยาในคราวเดียวกัน ที่ผ่านมา แทบไม่มีใครเลยจะได้มีโอกาสเห็นรูปร่างหน้าตาที่แท้จริงของทั้งสามเทพแบบจะๆ ตา เพราะส่วนใหญ่จะพักอยู่ในชั้นที่จัดไว้เป็นพิเศษบนเรือ หากเทพองค์ใดจะเรียกเด็กคนหนุ่มใดไปปรนนิบัติเป็นการส่วนตัว ก็จะส่งคนรับใช้มารับถึงห้อง หากเด็กหนุ่มผู้โชคดีนั้นปรนนิบัติได้เป็นที่ถูกใจ ทั้งเด็กหนุ่มทั้งผู้ดูแลก็จะได้รับค่าตอบแทนมูลค่าสูงลิ่วตามมา

แต่กฏเหล็กที่สำคัญที่เด็กหนุ่มทุกคนที่ได้รับโอกาสนี้ต้องจดจำไว้ให้ขึ้นใจก็คือ....ห้ามนำข้อมูลเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาที่แท้จริงของทวยเทพทั้งสามไปเปิดเผยให้ผู้อื่นได้รับทราบอย่างเด็ดขาด หากขัดคำสั่งข้อนี้ อาจถูกขับให้ระเห็จออกจากเรือไปได้ง่ายๆ พร้อมๆ กับความสิ้นสุดของอาชีพในวงการบันเทิงที่ใฝ่ฝันไว้

ดังนั้น แทบไม่มีใครเลยที่กล้าฝ่าฝืนกฏอันสำคัญนี้ มีแต่เพียงเสียงเล่าลือกันว่า เทพสูงสุดแต่ละคนยังอยู่ในวัยหนุ่มแน่น กล้ามเป็นมัดๆ และช่างหล่อเหลาเหลือเกิน แถมลีลารักก็เป็นเลิศ ส่วนอาวุธประจำกายนั้นก้อ.......ระดับเหนือคำบรรยาย

ฟังดูแล้ว อย่างชนิดที่ต่อให้ไม่มีอามิสสินจ้างมาเป็นตัวล่อ เด็กหนุ่มที่มีใจฝักใฝ่ในเพศเดียวกันก็พร้อมที่จะพลีกายเป็นเครื่องบรรณาการให้ด้วยความเต็มอกเต็มใจอยู่ดี

ดังนั้น จึงไม่แปลกที่กระแสแห่งความริษยาในตัวเด็กหนุ่มหน้าใหม่คนนี้จะปรากฏอยู่ในสีหน้าและแววตาของทั้งบรรดาเหล่าทวยเทพชราและเหล่าเด็กหนุ่มๆ ภายในเรือลำนี้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้...นอกจากเฝ้ามองเหตุการณ์ข้างหน้าอย่างระทึกใจ พร้อมกับการพนันขันต่อว่า ท้ายสุดแล้ว เทพเจ้าสูงสุดองค์ใดหนอที่จะได้เจ้าพีร์ไปอยู่ในครอบครอง

ไม่ว่าใครจะคิดยังไง แต่เหล่าเทพทั้งสามได้กำหนดกฏในการแข่งขันไว้เรียบร้อยแล้ว กฏนั้นมีง่ายๆ แต่ทำได้ยากว่า ใครก็ตามที่สามารถทำให้เด็กหนุ่มจอมพยศยินยอมและตอบรับในตัวของ “ ผู้ครอบครอง ” ได้โดยไม่มีเงื่อนไขและด้วยความเต็มใจ โดยจะต้องมีคำว่า “ รัก ” ออกมาจากปากหนุ่มน้อยชายแท้เป็นตัวตัดสิน ผู้นั้นจะเป็นผู้ชนะในการเดิมพันคราวนี้

การแข่งขันคราวนี้ยังเข้มข้นขึ้นอีก เพราะนอกจากผู้ชนะจะได้ครอบครองเด็กหนุ่มสุดฮ็อตคนนี้แล้ว ยังจะได้สิทธิ์ในการสั่งให้เทพสูงสุดผู้พ่ายแพ้อีกสององค์ให้อยู่ในอาณัติอีกสามวันเต็มๆ

ช่างเป็นการเดิมพันที่ท้าทายและตื่นเต้นเร้าใจอะไรเช่นนี้ !

ตามประเพณีที่ปฏิบัติกันมายาวนาน เทพซีอุสในฐานะที่มีตำแหน่งสูงสุดจะเป็นผู้เริ่มเดินเกมส์ก่อน......................

หลังจากเจ้าพีร์แต่งตัวเสร็จได้ไม่นาน.......เสียงโทรศัพท์ข้างเตียงก็แผดร้องขึ้น มันทำหน้าเซ็งๆ เอื้อมมือยกโทรศัพท์ที่เป็นแผ่นโลหะบางเบาขึ้นมาแนบหู

“ พีร์ ถ้าแต่งตัวเสร็จแล้ว มายืนรอตรงประตูนะ เดี๋ยวจะมีคนมารอรับไปทานอาหาร ”

เสียงที่ได้ยินผ่านหูนั้นดูแปลกๆ เหมือนไม่ใช่คนพูด และไม่สามารถจับได้ว่าเป็นชายหรือหญิง แต่ฟังดูราวกับเปล่งออกมาจากเครื่องตอบรับอัตโนมัติที่ไหนสักแห่งมากกว่า

เฮอะ ! แต่จะเป็นจากที่ไหนก็ช่างเถอะ ทางเลือกของมันก็ถูกกำหนดด้วยคนอื่นหมดแล้วนี่ ชีวิตกูนี่แม่งช่างบัดซบชิบหาย !