#36, RE: เรื่องแต่ง กลกามรักfuck พี่น้องสุด hot
Posted by มดตะนอย on 02-Jan-15 at 04:28 PM
In response to message #35
เฮ้ยไอ้พีร์ เย็นนี้ มึงว่างป่าวว่ะไปเตะบอลกันไหม ทีมเดิมอ่ะ ไอ้โก้กับไอ้แทนก็มาจอยด้วยนะโว๊ย ร่างสูงเพรียวหยุดชะงักพลางหันหน้ามามองเจ้าของมือที่จับไหล่ของตนเองอยู่ อ้าว! ซันเองเหรอ นึกว่าใคร เอ่อ แต่โทษทีว่ะ วันนี้ไม่ว่าง กูนัดตรวจสุขภาพที่ คลีนิกไว้ เนี่ย ผิดนัดมาหหลายครั้งแล้ว หมอมันคงแช่งชักหักกระดุกกูอยู่แน่ๆ ว้าเหรอ น่าเสียดาย นานๆ ที อุตสาห์อยู่กันครบหน้า ว่าแต่มึงจะตรวจสุขภาพไปทำไมว่ะ กูก็เห็นมึงแข็งแรงสมบูรณ์ดีนี่หว่า กูต้องใช้ใบรับรองแพทย์สำหรับทุนไปเรียนภาษา 3 เดือนที่นิวซีแลนด์ช่วงซัมเมอร์นี้ นี่ก็ใกล้เดดไลน์แล้ว เดี๋ยวไม่ทันพอดีทุนการศึกษาดีๆ แบบนี้หายากนะโว้ย มีทั้งค่าเรียน ค่าที่พัก แถมค่าใช้จ่ายประจำเดือนให้อีก เอ่อๆ กูเข้าใจ แต่ว่างๆ ก็มาเล่นบอลหรือตั้งวงแดกเหล้ากันบ้างน้าโว้ย เนี่ย พวกนั้นคงผิดหวังน่าดูที่มึงไม่ไป อืมม์ เอาไว้ครั้งหน้าละกัน รับรองไม่พลาด เอ่อ งั้นก็ได้ ว่าแต่คลินิกที่มึงจะไปนี่คือที่ไหนว่ะ ไกลไหม ก็ไม่ไกลหรอก เดินประมาณ 10 นาทีก็ถึง คลินิกธีรยุทธที่ซอยเสนาใกล้ๆ โรงเรียนเราไง มึงรู้จักไหม ถ้าไอ้พีร์สังเกตสักนิด...ก็จะเห็นได้ว่าสีหน้าของเพื่อนสนิทเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อคลินิก อืมม์ คลินิกธีรยุทธเหรอ ก้อ.................. ก้อไรวะ........ ไอ้ซันทำสีหน้าอึกอักเล็กน้อยก่อนตอบ ก้อไม่มีไรหรอก เพียงแต่ได้ยินมาว่าคุณหมอที่นั่นตรวจโรคได้เด็ดดวงเชียวนะโว้ย มึงหมายความว่าไงว่ะ ตรวจโรคได้เด็ดดวง ใช้คำแปลกๆ นะมึง กะ..ก็ไม่มีไรหรอก กูก็แค่พูดตามที่ได้ยินเค้าเล่าลือมาเท่านั้นแหละ แล้วที่เค้าเล่าลือกัน นี่มันไรเหรอ หรือว่าเป็นหมอโรคจิต ฆ่าหั่นศพป่าวว่ะ ฮ่าฮ่า เฮ้ย ไร้สาระน่า นั่นก็เกินไป เอ่อ งั้นก้อโชคดีนะโว้ย งั้นกูไปก่อนล่ะ ! อ้าว แม่ง จู่ๆ ก็ตัดบทดื้อๆ แบบนี้อ่ะเหรอ แล้วตกลงที่เค้าเล่าลือกันคือ.... ถามยังไม่ทันจบประโยค....ไอ้พีร์ก็เห็นแต่เพียงแผ่นหลังของเจ้าเพื่อนตัวดีจากไปไกลลิบๆแล้ว เจอมุกนี้เข้า.....ไอ้พีร์ถึงกับส่ายหัว อะไรของมันว่ะ แต่พอก้มดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ ไอ้พีร์ถึงกับตาเหลือก ชิบหายแล้ว คลินิกจะปิดภายในครึ่งชั่วโมงนี่หว่า ไอ้พีร์สบถด่าเพื่อนอยู่ในใจนึก นี่ถ้ากูไปคลินิกไม่ทันเพราะมึงละก้อ ฮึม มึงตายแน่ ไอ้ซัน คิดแล้วก็เร่งฝีเท้ามุ่งตรงไปยังคลีนิกที่นัดหมายไว้ทันที ในที่สุด.....เท้าของไอ้พีร์มาหยุดอยู่ตรงหน้าอาคารกลางเก่ากลางใหม่สีขาวตุ่นๆ ห้าชั้นที่มีป้ายสีเขียวแก่เขียนว่า ธีรยุทธคลีนิก มันก้าวเท้าเข้าไปภายในตึกที่ค่อนข้างร้อนอบอ้าวพลางมองไปรอบๆ ตัวอาคารที่มีสภาพค่อนข้างเก่าแสดงถึงขาดการบำรุงรักษาและที่สำคัญ ไม่มีลิฟท์ที่จะขึ้นไปชั้นบนแต่อย่างใด แถมแผนกตรวจร่างกายของคลีนิกดันทะลึ่งตั้งอยู่ชั้นบนสุด ! แต่ด้วยความอยากเป็นนักเรียนทุนไปเรียนเมืองนอกครั้งแรกในชีวิต ไอ้พีร์ก็ไม่ย้อท้อที่จะเดินขึ้นบันไดไปชั้นห้าโดยไม่ปริปากบ่น เมื่อถึงที่หมายแล้ว ทั้งเนื้อทั้งตัวของหนุ่มน้อยก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เมื่อผลักประตูอลูมีเนียมสีเงินเข้าไปในห้องตรวจร่างกาย จมูกของเด็กหนุ่มก็สัมผัสถึงกลิ่นน้ำยาตามโรงพยาบาลที่อบอวลอยู่ภายในห้องซึ่งดูเหมือนจะไม่มีระบบระบายอากาศที่ดีนัก เฮ้อ ร้อนก็ร้อน แถมยังมีกลิ่นแบบนี้อีก ว่าแต่หมออยู่ไหนว่ะ จะได้รีบๆ ตรวจรีบๆ กลับ ระหว่างที่คิดอะไรเพลินๆ อยู่นั้นเอง.......เสียงกระแอมไอข้างหลังก็ทำให้เด็กหนุ่มสะดุ้งสุดตัวและเอี้ยวตัวมามองต้นเสียงด้วยท่าทางตื่นๆ เป็นไงเรา ขอโทษทีที่ทำให้ตกใจ วันนี้มาตรวจสุขภาพใช่ไหม หือ ! เอ๊ะ เอ่อ คระ...ครับ คุณหมอ พอตั้งสติได้....สิ่งแรกที่ไอ้พีร์อดอุทานในใจไม่ได้หลังจากเห็นคุณหมอที่นั่งพิงพนักเก้าอี้อย่างเต็มตา....เป็นผู้ชายที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มฉกรรจ์ น่าจะประมาณสามสิบต้นๆ ใบหน้าเข้ม ดวงตาดุคมกริบ ไว้หนวดหนาเหนือริมฝีปากผิวออกดำแดง รูปร่างใหญ่หนาแถมมีรอยสักลวดลายหนุมาณโผล่ออกมาจากเสื้อยืดแขนสั้นด้วย ดูยังไงก็ไม่มีบุคลิกของคนประกอบอาชีพหมอแม้แต่น้อย...........จนไอ้พีร์อดใจไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถาม คุณ....คุณหมอธีรยุทธใช่ไหมครับ เมื่อได้ยินคำถาม...ซึ่งดูท่าแล้วก็คงไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนถามแบบนี้ ใบหน้าดุเข้มก็คลี่ยิ้มจนเห็นฟันขาวเรียงเป็นระเบียบดูขัดกับริมฝีปากหนาคล้ำที่ดูเหมือนจะบ่งบอกถึงการเป็นนักสูบบุหรี่ตัวยง ไม่ใช่หรอก พี่เป็นยาม คุณหมอธีรยุทธมีธุระออกไปข้างนอกน่ะ สีหน้าของไอ้พีร์แสดงถึงความเข้าอกเข้าใจว่า ตัวเองไม่ได้คิดผิด คนๆ นี้ไม่ใช่หมอจริงๆ ด้วย อ้อครับ แล้วคุณหมอธีรยุทธจะกลับมาเมื่อไหร่ครับ คิ้วหนาเข้มขมวดลงทำท่าครุ่นคิด อืมม์ พี่ก็ไม่ค่อยแน่ใจนะ คุณหมอไม่ได้บอกไว้ด้วยสิ แต่เห็นคุณหมอบ่นอยู่เหมือนกันว่า นัดตรวจสุขภาพกับเด็กนักเรียนคนหนึ่งไว้ แต่เด็กคนนั้นก็ไม่เคยมาตามนัดสักที สีหน้าชายหนุ่มหลุดขำเมื่อเห็นเด็กหนุ่มตรงหน้าถึงกับหน้าเสียเมื่อได้ยินประโยคที่ดูน่าจะพาดพิงถึงตนเอง เอ่อ เหรอครับ คุณหมอบอกแบบนั้นเหรอครับ ก็ไม่เชิงหรอก แต่คลับคล้ายคลับคลาว่าพี่ได้ยินแบบนั้นนะ หน้าขาวนวลของเด็กหนุ่มยิ่งซีดไปอีกเมื่อได้ยินประโยคตอกย้ำ ละ...แล้วคุณหมอโกรธมากมั้ยครับถ้ายังไงก้อ ผมอยากฝาก...... เฮ้อ จะฝากอะไรหรือ ถ้าจะขอโทษน่ะ คงต้องไปพูดกับคุณหมดด้วยตัวเองน่ะ จะฝากผ่านพี่ไปคงไม่เหมาะนะ ผมทราบครับเพียงแต่................. สีหน้าสำนึกผิดที่ดูๆ แล้วเหมือนหมาหงอยทำให้ชายหนุ่มอดเห็นใจขึ้นมาไม่ได้...สงสัยเราจะเล่นสนุกกับเจ้าเด็กนี่พอแล้วมั้ง ขนาดอยู่ในภาวะวิตกกังวล......... ไอ้พีร์ยังรู้สึกทึ่งยามเห็นความสูงของชายหนุ่มที่ลุกจากเก้าอี้ขึ้นยืนเต็มตัว อื้อหือ ! นี่ว่าเราเป็นคนสูงแล้วน่ะ แต่ยามคนนี้น่าจะสูงร่วม 190 ซม. เลยมั้ง สายตาของเด็กหนุ่มมองเรือนร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามที่บึกบึนเอวหนาและจบลงที่...เอ่อ ทำไมตรงนั้นแม่งดูนูนตุงงั้นว่ะ ไหนใครบอกว่ะว่าคนเล่นกล้ามมักของเล็ก............มันไม่จริงชัดๆ เด็กหนุ่มรู้สึกแปลกใจที่เห็นบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นยามเดินไปเปิดลิ้นชักที่ตู้เหล็กและดึงแฟ้มบางๆ ออกมาพลิกดู อืมม์ จากทะเบียนประวัติที่กรอกไว้ทางเน็ต ดูเราก็สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดีนะ ไม่น่ามีโรคภัยอะไรน่ากังวล เป็นนักกีฬาเหรอ เรา เด็กหนุ่มยืนนิ่งตกอยู่ในภาวะงุนงงชั่วครู่ก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มกระจ่างแจ้งอย่างรวดเร็ว ความโกรธเริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอก ตกลง พี่ไม่ใช่ยามใช่ไหมครับ พี่คือหมอธีรยุทธ ทำไมพี่ถึงได้........ อืมม์ ใช่ พี่คือหมอธีรยุทธ คนที่น้องจะมาตรวจด้วย พี่แค่หลอกน้องเล่นน่ะ แต่ความรู้สึกของพี่เกี่ยวกับเด็กที่ไม่มาตามนัดนะ.................เป็นเรื่องจริง เด็กหนุ่มหน้าเจื่อนไปเพราะเรื่องนี้ตัวเองก็ผิดจริงๆ อ้อ อีกอย่างนะ ถ้าน้องสังเกตดีๆก็จะเห็นรูปที่พี่รับปริญญาบัตรติดอยู่ที่ผนัง พี่ว่าหน้าตาพี่ไม่ค่อยเปลี่ยนนะเพราะมันเพิ่งผ่านมาเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง จริงด้วย...เด็กหนุ่มมองภาพที่อยุ่บนผนังพลางคิดในใจแต่ใครจะไปนึกว่าคุณหมอจะมีรูปร่างหน้าตาแบบนายทหารยังงี้แถมชอบหลอกเล่นอะไรแผลงๆ อีก เอาว่ะ หยวนๆ ก็ได้วะ เพราะเราเองก็มีส่วนผิดอย่างที่เค้าว่าจริงๆ ด้วย เอ่อ ถ้างั้น ผมก็ต้องขอโทษพี่ด้วยที่ไม่ได้มาตามนัดครับ ถ้าไงจะเริ่มตรวจกันเลยตอนนี้ได้ไหมครับ ไม่เป็นไร พี่เองก็ผิดที่หลอกน้องซะหัวปั่น ถ้างั้นเพื่อไม่ให้เสียเวลา เรามาเริ่มตรวจร่างกายกันเลยดีกว่า
|