Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 676
Message ID: 3
#3, RE: เรื่องเล่าจากเรื่องจริงตลอดหนึ่งเดือนของผม
Posted by สับสน on 10-Feb-15 at 01:45 PM
In response to message #2
ตอนเป็นวัยรุ่นสักสมัยม.3-ม.5 ผมจะโมโหร้ายมาก เวลาโมโหแล้วอะไรอยู่ใกล้มือเป็นแหลก ถ้วย จาน แก้วน้ำ ประตู ตกเป็นเป้าทุ่มไกลของผมมาหมดแล้ว (เพราะคิดว่าเป็นฝ่ายถูกกระทำก่อน เมื่อไม่มีใครฟังคำเรา เด็กวัยรุ่นก็หาทางระบายออกได้แค่นั้น) แต่พอโตขึ้นก็ใจเย็นขึ้น แทบจะไม่ได้โมโหใคร หลายๆ ครั้งกลับกลายเป็นได้แต่เก็บเอามาแค้นทีหลัง แต่บางครั้งบางหน อย่างเช่นครั้งนี้ ผมก็จะระเบิดอารมณ์ออกไปอย่างแรง และสุดท้ายก็กลับต้องมานั่งคิดว่าเราเผลอเขวี้ยงอะไรแตกไปอีกแล้วหรือเปล่า

ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา น้องชวนผมไปเที่ยวสวนสัตว์ ตามผมไปทำธุระ และผมชวนน้องไปเล่นกีฬาด้วยกันสองคน ตอนเล่นกีฬามันเหมือนเป็นช่วงที่ได้เห็นกันและกันในอีกมุมหนึ่งนะครับ แทนที่ความเป็นแมนของน้องจะ dominate ปรากฏว่าความหวานมันออกมาเรื่อยๆ แต่ไอ้ท่าทางหวานๆ นั้นกับรอยยิ้มของน้องและเสียงหัวเราะใสๆ มันดันทำให้ผมหลงน้องโดยไม่รู้ตัว

คืนนั้นผมนอนไม่หลับเลย นึกถึงหน้าน้องตอนที่ผมไปส่งบ้าน น้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ผมเองนี่ล่ะ ที่อยากร้องไห้ แต่ทำไมมันรู้สึกสงสารน้อง ทำไมถึงรู้สึกเหมือนว่าผมทำร้ายน้องวะ

พอตีห้าน้องก็ทักไลน์มา บอกว่านอนไม่หลับ ผมรู้สึกได้ว่าน้องแคร์กับเรื่องที่เกิดขึ้นมากพอๆ กับผม และสุดท้ายผมตัดสินใจจะเชื่อเรื่องที่น้องเล่า และจะเชื่อที่น้องบอกว่าจะไม่โกหกผมอีกแล้ว

อย่างที่บอกว่า ผมไม่ใช่คนรูปร่างหน้าตาดี ส่วนบุ๊กนี่มาเต็ม เป็นนักกีฬาว่ายน้ำแล้วยังเป็นเอ็กซ์ตร้าในละครดังๆ ล่าสุดนี้น้องได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ของสินค้าชิ้นหนึ่งด้วย แต่คนเราเวลาคบกันมันก็ต้องคาดหวังอะไรจากอีกฝ่าย ใช่ไหมครับ

สำหรับผมที่ไปเจอน้องครั้งแรกเพราะผมหวังเซ็กส์ นี่พูดเลย แต่ก็คิดนะว่าถ้าจะได้น้องคบเป็นเพื่อนสักคน มันก็โอเคดี แต่พอมาถึงตอนนี้ ผมหวังจะได้ความจริงใจจากน้องเท่านั้นเอง

แล้วน้องหวังอะไรล่ะครับ ผมคิดได้อยู่สองอย่าง คือน้องอาจจะอยากมีพี่เป็นเพื่อนสักคนไว้ปรึกษา หรือไม่น้องก็หวังความสบายจากผม

ไอ้เรื่องหวังความสบายเนี่ย ผมคิดว่ารับได้นะถ้าคุยกันตรงๆ “พี่ให้ตังค์ผม ผมให้ตัวพี่” แต่ผมก็ไม่ได้มีนโยบายจะทำอย่างนั้นหรอกนะครับ ผมยังไม่พร้อมขนาดนั้น

แต่ถ้าน้องเข้ามาแบบให้ความหวัง ให้ความไว้วางใจ ให้เราเชื่อว่าเขายอมรับเราเพราะตัวเรา แต่สุดท้ายหลอกเอาความสบายจากเรา แบบนั้นผมรับไม่ได้อะครับ และผมก็กลัวอยู่นะว่ากรณีของผมกับบุ๊กจะเป็นอย่างนั้น

อย่างที่เคยบอกไว้ เอินก็เป็นเด็กหน้าตาน่ารักและมีคนมาคุยมาจีบเยอะ (เพราะใจกล้าด้วย) แรกที่ผมคบกับเอิน ก็กลัวจะเป็นยังงั้นเหมือนกัน แต่นอกจากพาไปกินข้าวดูหนังกันนานๆ ทีแล้ว ผมก็ไม่ได้ให้อะไรเอินมากกว่านั้น เอินเองก็ไม่เคยขออะไรผม จนแน่ใจว่าน้องชอบผมที่ตัวผมจริงๆ และเราก็คบกันเหมือนคู่อื่นทั่วไป ผมซื้อของให้น้องบ้าง น้องซื้อของให้ผมบ้าง ยกเว้นเวลาไปเที่ยวกันผมจะเลี้ยง เพราะน้องยังไม่มีรายได้และที่บ้านก็ไม่ได้มีฐานะมากมาย

ดังนั้นผมก็หวังว่า บุ๊กอาจจะมองผมในลักษณะคล้ายๆ กับเอินก็ได้

หลังจากที่เราทะเลาะกัน บุ๊กต้องไปเข้าค่ายที่โรงเรียน แล้วก็ยังต้องย้ายบ้านด้วย แต่เราก็คุยกันในไลน์ตลอด ตอนอยู่ที่ค่าย บุ๊กขอยืมเงินผม ไม่ได้มากหรอกครับ แค่หลักร้อย แต่ก็มากพอที่จะทำให้ผมเริ่มกังวล

ถึงผมจะมีไลน์บุ๊ก แต่บุ๊กไม่ให้เฟซบุ๊กผม บอกว่ารออีกสักพักเขาจะให้ แต่ด้วยความที่ผมคิดถึงน้องเกือบตลอดเวลามันก็ทำให้ผมตามหาจนเจอเฟซบุ๊กและไอจีของเขาจนได้

แต่พอเปิดหน้าเฟซของน้อง ผมก็รู้สึกดาวน์แบบฉับพลัน เพราะน้องขึ้นความสัมพันธ์ว่ากำลังคบน้องอีกคนหนึ่งอยู่