Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 694
Message ID: 0
#0, สิ้นลาย...ยอดขุนพล
Posted by หมึกหมด on 03-Aug-15 at 02:08 PM
ตอนที่ 1 จุดเปลี่ยน

ห้องโถงใหญ่หน้าจวนแม่ทัพถูกสาดส่องด้วยแสงจันทร์สว่างเรืองรองยามนิทรามืดสนิท ในเรือนอันกว้างขว้างแห่งนี้ถูกประดับตกแต่งอย่างเลิศหรู สมแก่เกียรติของผู้เป็นเจ้าของซึ่งกำลังหลับไหล ด้วยใบหน้าวัย 30 ปี สง่างดงามเกินบุรุษทั่วเขตแคว้นแดนต้าเหลียนแห่งนี้ พระพักตร์คมคายได้รูปจนสตรีทั้งหลายยังต้องแอบชายตามอง ดวงเนตรปิดสนิทพร้อมขนตาที่ยาวโค้งละมุน จมูกสูงโด่งเป็นสันดูงามตายิ่งนัก ริมฝีปากสีดอกเหมย เรียวบางและหยักโค้งกระจับได้รูป ขนคิ้วริ้วเรียงรายพร้อมด้วยไรผมยาวดกดำตัดกับสีผิวที่ขาวสะอาดผ่องแผ้ว พร้อมด้วยมัดกล้ามที่แม้นถูกปกคลุมด้วยชุดผ้าแพรก็ยังสามารถเห็นเป็นรูปร่างที่ชัดทุกสัดส่วน ช่วยขับให้ชายผู้นี้ช่างดูน่าเกรงขามไม่ต่างจากพญาราชสีห์

ชายผู้เป็นเจ้าของร่างฉกรรจ์อันงดงามจนเป็นที่ต้องตาต้องใจของสตรีทั่วหล้าและเป็นที่อิจฉาในหมู่บุรุษเพศด้วยกันเองนี้มีนามว่าแม่ทัพซู่เหวิน ยอดขุนผลผู้ปกครองใหญ่แห่งแคว้นต้าเหลียน ผู้เป็นเจ้าของจวนแม่ทัพใหญ่แห่งนี้ ผู้เป็นที่เคารพรักของชาวต้าเหลียนทุกผู้ทุกคน ผู้เป็นเจ้าชีวิตของทหารและนางสนมน้อยใหญ่ในจวนแห่งนี้

บัดนี้แม่ทัพซู่กำลังหลับสนิท ชายหนุ่มตกอยู่ในห้วงความฝันว่าตนกำลังเสพสมอยู่กับหญิงงามรูปหนึ่ง ส่วนบนของหญิงสาวถูกปลายลิ้นท่านแม่ทัพบรรจงไล่เลียตั้งแต่เนิ่นนมไปถึงยอดประทุมถันอย่างกระหื่นกระหาย ขณะเดียวกันปลายนิ้วก็เค้นคลิ้งส่วนล่าง บี้บดเม็ดสาวอย่างเมามัน แม้เป็นเพียงความฝัน แต่ท่อนลึงค์ขนาดเชื่องกลับตอบสนองดีเยี่ยม ลำฆวยขนาด 8 นิ้วผงาดล้ำชูชันขึ้นดันกางเกงของท่านแม่ทัพ น้ำใสๆ ไหลออกจากปลายฆวยเป็นระยะจนกางเกงเปียกชุ่ม

ในเพลาเดียวกันนั้น... มีกลุ่มควันลอยล่องไหลเข้าห้องบรรทมอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับกลุ่มชายรูปร่างกำยำล่ำสัน 3 คนลอบเข้ามาในห้องบรรทมที่กำลังจะกลายเป็นห้องทรมานในอีกไม่ช้า ชายทั้งสามสวมชุดสีดำสนิทกลมกลืนกับบรรยากาศภายในห้อง เคลื่อนไหวรวดเร็ว ไร้สิ้นเสียง ไม่นานก็เข้ามายืนอยู่หน้าแท่นบรรทมใหญ่ ม่านที่กั้นอยู่ถูกชายทั้งสามแหวกออก เผยให้เห็นบุรุษที่แม้หลับสนิทอยู่ก็ยังดูออกว่าหล่อเหลาเกินกว่าชายใดจะเทียบได้ งามจนโจรชุดดำทั้งสามตกอยู่ในภวังค์ช่วงขณะ เมื่อได้สติคืนมา จู่ๆ โจรชุดดำทั้งสามก็เข้าจับแม่ทัพซู่ คนหนึ่งใช้แขนรัดคอจากด้านหลัง อีกสองเข้าขนาบจับแขนซ้ายขวา พลันแม่ทัพซู่ก็หลุดออกจากฝันที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่

“พวกเจ้าเป็นใคร บังอาจมากที่เข้ามาในห้องบรรทมของข้า!!!” แม่ทัพซู่คำรามลั่น
“ท่านแม่ทัพนี่ปากดีจริงนะ พวกข้าจะคอยดูว่าท่านจะไปได้สักกี่น้ำ ฮ่าๆๆๆ” หนึ่งในโจรสวนกลับ

แม้ร่างกายแม่ทัพซู่จะแข็งแรงสมชายชาตินักรบ แต่เมื่อถูกชายฉรรจ์รูปร่างกำยำมากถึงสามคนจับไว้เช่นนี้ อีกทั้งก่อนหน้านี้โจรทั้งสามได้ปล่อยควันพิษที่ทำให้ผู้ที่สูดหายใจเข้าไปหมดเรี่ยวแรงแล้ว ก็เป็นการยากที่แม่ทัพใหญ่จะดิ้นหลุดออกจากการควบคุมได้ เมื่อเห็นทีว่าไม่สามารถจัดการพวกโจรต่ำช้านี้ได้ จึงร้องตะโกนเรียกทหารที่เฝ้าอยู่นอกห้องบรรทมทันที

“ทหาร!!! มีผู้บุกรุก” แม่ทัพซู่ตะโกนออกไปอย่างสุดเสียงพร้อมกับเรี่ยงแรงที่น้อยลงทุกที
สิ้นเสียงแม่ทัพใหญ่ บานประตูก็ถูกถีบออกอย่างแรง เผยให้เห็นองครักษ์เอกของท่านแม่ทัพยืนสง่างามสมกับเป็นทหารมือขวาของแม่ทัพซู่

“หลี่เฉิน!!! ช่วยข้าด้วย” แม่ทัพร้องพร้อมกับดิ้นรนหวังให้พ้นจากพันธนาการของชายชุดดำทั้งสาม แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล ภาพที่เห็นตอนนี้คือแม่ทัพถูกล็อคคอและแขนทั้งสองข้างจากทั้งด้านหลัง ส่วนท้างด้านหน้าปรากฏให้เห็นท่อนแกนชายลำเขื่องตั้งผงาดดันกางเกงจนแทบทะลุ มองแล้วช่างน่าเย้ายัวและสมเพชยิ่งนัก
หลี่เฉินเยื้องย่างเข้ามาในห้องอย่างใจเย็น มุมปากแสยะยิ้มอย่างพอใจ แววตาเปี่ยมไปด้วยความแค้นที่สั่งสมไว้มานาน

“หลี่เฉิน เหตุใดจึงยืนอยู่เฉยๆ เล่า รีบมาช่วยข้าสิ” แม่ทัพถามอย่างฉงน
“เจ้ารู้ไหม? คุณชายซู่ ข้าไม่ใช่เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ท่านเก็บมาฝึกทหารหรอกนะ แท้จริงแล้วข้าคือบุตรชายคนเดียวแห่งตระกูลเฉิน ผู้ปกครองแคว้นเหอเป่ย เมืองที่ข้าเกิดและเป็นเมืองเดียวกับที่ท่านทำลายไปพร้อมกับท่านพ่อและท่านแม่ของข้า เมื่อ 15 ปีที่แล้ว” หลี่เฉินกัดฟันตอบ

ย้อนกลับไปเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ซู่เหวินเข้ากำราบกบฏแค้วนเหอเป่ยที่กระด้างกระเดื่องกับองค์ฮ่องเต้ ในศึกครั้งนั้น ซู่เหวินได้สังหารแม่ทัพใหญ่และมเหสีแห่งแคว้นเหอเป่ยไปเพื่อไม่ให้เป็นเสี้ยนหนามแก่องค์จักรพรรดิ ไม่นึกว่าทั้งสองจะมีลูกชายหลงเหลืออยู่ด้วย

ในตอนนั้นหลี่เฉินเป็นเพียงเด็กกำพร้าไร้หัวนอนปลายเท้า เดินเร่ร่อนอยู่ในตัวเมืองต้าเหลียนจนบังเอิญได้พบกับซู่เหวินขณะออกตรวจเยี่ยมราษฎร เด็กน้อยถลาเข้ามาหาเค้า อ้อนวอนขอร้องให้รับเค้าเป็นทหารชั้นเลวในจวน ตั้งแต่นั้นหลี่เฉินก็ตั้งใจฝึกวรยุทธ์อย่างดีมาตลอด ไม่นึกว่าจะพัฒนาตัวเองจนกระทั่งได้เป็นทหารเอกมือขวาของเขา

มาบัดนี้คนที่เขาไว้ใจที่สุดกลับเป็นคนที่เครียดแค้นเขาอย่างสุดหัวใจ...

“เจ้าพลากทุกอย่างไปจากข้า วันนี้ข้า -หลี่เฉิน- จะขอทวงคืนเจ้าอย่างสาสม ฮ่าๆๆ” หลี่เฉินหัวเราะอย่างผู้ชนะ

...ทิ้งให้คุณชายซู่เหวินกังวลกับชะตากรรมที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้