Part : ไอ้นัท ผมยืนพิงผนังและถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ยินเสียงผ้ากั้นถูกรูดออกตามด้วยเสียงฝีเท้าที่เดินจากไป
เกือบไปแล้วไหมล่ะ ความลับที่ถูกปิดมาร่วมสิบกว่าปีที่ผมแอบชอบเพื่อนสนิทของตัวเองมาโดยตลอด
เจ้าแม็คนี่เป็นเพื่อนข้างบ้านผมเองแหละครับ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแล้ว แต่ผมยังจำได้ดีถึงวันแรกที่เราสองคนเจอกัน
วันนั้นเป็นวันที่อากาศดีท้องฟ้าแจ่มใส ผมกำลังนั่งเล่นของเล่นอะไรซักอย่างที่สนามหญ้าหน้าบ้าน จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงทักทายมาจากประตูบ้าน พอมองไปก็เห็น ผู้หญิงวัยกลางคนหน้าตาสะสวยยืนอยู่และข้างๆ ตัวมีเด็กน้อยที่ผมเห็นหน้าตาไม่ชัดนักเนื่องจากถูกบังด้วยรั้วไม้
ด้วยความที่เป็นคนอัธยาศัยดีมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก ผมจึงวิ่งไปเปิดประตูและทักทายคนแปลกหน้าทั้งคู่
ตัวผู้หญิง (ผมเรียกว่าคุณน้าสุ) ก็ดูท่าทางอบอุ่นใจดีบอกว่า มาทำความรู้จักในฐานะเป็นเพื่อนบ้านใหม่ เค้าเพิ่งย้ายมาจากกรุงเทพฯ และถามถึงพ่อแม่อยู่ไหน บลา บลา บลา ผมก็ถามคำตอบคำ ก็แหม ผมมัวแต่มองขนมที่เค้าถือมาด้วยตาเป็นมันเลยนี่ครับ ส่วนไอ้เด็กผิวขาวที่ยืนข้างๆ นี่ ตอนแรกนึกว่าเป็นใบ้เพราะไม่พูดอะไรเลยเอาแต่ร้องไห้ขี้มูกโป่ง ขี้แยชะมัด !
คุณน้าสุบอกว่า เจ้านี่ชื่อแม็ค เป็นลูกชายคนเดียว ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องจากบ้านที่คุ้นเคยมา เลยขอให้ผมช่วยเป็นเพื่อนเล่นให้กับเจ้าแม็คอะไรนี่ด้วย
ตอนแรก ผมก็อึกอักทำเป็นเล่นตัวนิดหน่อย แต่พอน้าสุยื่นขนมให้แทนคำขอบคุณเท่านั้นแหละครับ ผมก็ตอบโอเคทันที ผมนี่ไม่เห็นแก่กินเลยเนอะ
ใครจะไปรู้ว่า....อีกสิบกว่าปีต่อมา ไอ้เจ้าเด็กที่ตัวเล็กกว่าผม (ในตอนนั้น) จะกลายเป็นเด็กหนุ่มร่างสูงเพรียวแถมหน้าตาหล่อเหลาบาดใจได้ขนาดนั้น
ส่วนความรู้สึกผมที่มีต่อมันเปลี่ยนจากเพื่อนรักเป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งมากกว่านั้นในตอนไหนนะเหรอ ผมก็จำไม่ค่อยได้แฮะ จำได้เพียงลางๆ ว่า ทุกครั้งที่เจอหน้ามันช่วงนี้ ผมจะรู้สึกใจเต้นโครมครามอย่างไม่มีสาเหตุ ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่สายตาผมจะตามเฝ้ามองแต่มัน ความรู้สึกไม่พอใจจะก่อตัวทุกครั้งที่เห็นมันแสดงท่าทางสนิทสนมกับคนอื่นไม่ว่าหญิงหรือชาย
ที่กวนใจผมที่สุดก็คือ มีนักเรียนทั้งหญิงชายร่วมสถาบันจำนวนไม่น้อยพยายามที่จะเข้าหามัน แต่คิดแล้วก็ไม่แปลก มันออกจะเป็นหนุ่มฮอตและบ๊อปปูลาร์ซะขนาดนั้น
อ้อ นี่ผมยังไม่ได้พูดถึงไอ้อั๊ต ไอ้ทีม และไอ้กิตเพื่อนร่วมทีมบาสใช่ไหม อื้อหือ เมื่อกี้ ผมสังเกตเห็นไอ้สามตัวเนี่ยมองเจ้าแม็คเปลี่ยนเสื้อผ้าตาเป็นมันเชียว ถ้าแดกทั้งเป็นได้ก็คงทำไปแล้ว ผมรู้ได้ไงเหรอครับ ของยังงี้ เค้าเรียกว่าผีเห็นผี มองปราดเดียวก็ออก นี่ยังไม่นับโค๊ชชัยนะ รายนั้นก็ใช่ย่อย ได้ยินข่าวว่าเป็นเสือไบ ดูท่าทางที่เข้ามาพูดคุยกับเจ้าแม็คในห้องแต่งตัวเมื่อกี้แล้ว ก็รู้เลยว่ากำลังเล็งเพื่อนผมอยู่ เฮ้อ ดูสิครับ คู่แข่งผมเต็มไปหมดเลย
คนที่ไม่รู้ตัวว่ามีไรเกิดขึ้นรอบตัวก็น่าจะเป็นเจ้าแม็คนั่นแหละ ก็มัวแต่คร่ำเคร่งกับการเรียน กีฬา แถมกิจกรรมในฐานะประธานนักเรียน ก็เลยมองข้ามหลายสิ่งหลายอย่างรอบตัวไปซะชิบ แต่ก็ดี...มันทำให้ผมมีโอกาสมากขึ้น อย่าลืมนะ...ผมเห็นและรู้จักมันคนแรก (อย่างน้อยก็ที่จังหวัดนี้แหละวะ) ผมไม่ได้ขี้ตู่นะ...ขอบอก !
อ้อ ผมไม่เคยเกิดความรู้สึกแบบนี้กับเพื่อนชายคนอื่นนะ มีแต่มันคนเดียวเท่านั้นจริงๆ
กลับมาในโลกปัจจุบันดีกว่า..........
ตอนนี้ ผมก็ยังยืนอยู่ในห้องน้ำชายที่น่าจะ...มีผมคนเดียว ผมคิดยังงั้นนะ ก็เงียบสนิทซะขนาดนี้
เอาล่ะ คงได้เวลาปลดปล่อยซะที
ผมปลดปมผ้าเช็ดตัวสีขาวแล้วปล่อยให้ร่วงไปกองอยู่ที่เท้า
ดูสิ ขนาดผ่านไปร่วมสิบนาทีแล้ว ลูกคนเก่งพ่อยังแข็งตัวโป๊กอยู่เลย
มา....พ่อจะช่วยลูกเอง
ผมเอื้อมมือกุมไปรอบๆ ท่อนลำที่แข็งตัวจนร้อนแล้วชักขึ้นลงจากจังหวะช้าๆ และค่อยๆ เร่งมือมากขึ้น
อูยย์ ซื๊ดดดดดดดดดดด
ผมแอ่นตัวกระดกขึ้นลงพลางรัวมือเร็วขึ้น ส่วนมืออีกข้างก็ลูบไล้ไปตามหน้าอกหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามที่เกิดจากการเล่นกีฬาหลากหลายประเภท
ผมใช้มือบี้ที่หัวนมสีคล้ำที่ตั้งแข็งชูชันทั้งสองข้างสลับกันไปมา.............
หูยยยยยยย เสียวชิบ ซื๊ดดดดดดดดดดดด
ความเสียงกระสันทวีขึ้นเรื่อยๆ ตามแรงชักขึ้นลงจนท่อนฆวยยาวมันละเลื่อมด้วยน้ำเงี่ยนที่ชโลมไปทั่ว
ผมรู้ถึงจุดสุดยอดที่ใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว จริงๆ ผมอึดมากกว่านี้เยอะ แต่พักนี้ไม่รู้เป็นไร พอมีหน้าและหุ่นของเจ้าแม็คปรากฏขึ้นมาในห้วงมโนนึก ผมจะไปเร็วกว่าที่คิด
อ๊าห์ มะ..แม็ก กูอยากเ...ดมึง อูยยยยย์ ซิ๊ดดดดดดดดดดดด จะไปแล้ว ซี๊ดดดดดดดดดดดด
ผมเงยหน้าจนส่วนหัวชนผนังปูน เกร็งหน้าท้อง แล้วในที่สุด สายน้ำข้นคาวสีขาวขุ่นก็พุ่งกระจายจากหัวฆวยบานใหญ่จนเปรอะพื้นและผนังเห็นเป็นคราบด่างดวง
การปล่อยพิษจากแก่นกายกินเวลานานพอสมควรก่อนที่จะสงบลง ผมหอบหายใจถี่ด้วยความเหนื่อยระคนสุขสม
ผมหลับตาลง จะดีแค่ไหนนะ ไอ้แม็ค ถ้ามีมึงอยู่ตรงนี้