Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 498
#0, มิติแห่งเวลา
Posted by ธารา สราญชล on 20-Oct-12 at 10:35 PM
Credit = https://www.facebook.com/pages/Thara-SaranChon/471622686202386


เวลา น. ชั่วขณะความยาวนานที่มีอยู่หรือเป็นอยู่ โดยนิยมกำหนดขึ้นเป็น
ครู่ คราว วัน เดือน ปี เป็นต้น เช่น เวลาเป็นเงินเป็นทอง ขอเวลาสักครู่
( ป., ส. ) .


มิติ ๑ น. การวัด ( มักใช้ประกอบหลังศัพท์อื่น ) เช่น ตรีโกณมิติ , สังคมมิติ ,
ขนาดซึ่งวัดไปตามทิศทางใดทิศทางหนึ่ง โดยถือขนาดยาวเป็นมิติที่ ๑ ขนาด
กว้างเป็นมิติที่ ๒ ขนาดหนาหรือสูงเป็นมิติที่ ๓ ในทางศิลปะอาจใช้หนาหรือ
ลึกแทนกว้างหรือยาวก็ได้ ( ส. )

มิติ ๒ น. ด้าน , มุมมอง , เช่น เปิดมิติใหม่ของวงการภาพยนตร์ .


(นิยามตามตตัวพิมพ์ )
ตามความหมายที่อ้างอิงจากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ถือว่า
เวลานั้นเป็นมิติที่4 เป็นความหมายในเชิงของการวัดอย่างหนึ่งโดยเป็นการวัดชั่วขณะความ
ยาวนานที่มีอยู่หรือเป็นอยู่ ซึ่งต้องอาศัยเครื่องมือที่ใช้วัดได้แก่นาฬิกา และหน่วยที่ใช้วัด
ได้แก่ วินาที,นาที,ชั่วโมง เป็นต้น อันเป็นมาตรฐานสากลที่สามารถเข้าใจได้ตรงกันและใช้
ประโยชน์ อันเป็นมาตรฐานสากลที่สามารถเข้าใจได้ตรงกัน และใช้ประโยชน์ในการวางแผน
การนัดหมาย และการทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ในทางกลับกัน ถ้านำคำว่า “ มิติ ” มารวมกับ
คำว่า “ เวลา ” เป็นคำว่า “ มิติแห่งเวลา ” ก็จะมีความหมายเพิ่มเติมนอกจากข้างต้น อัน
ได้แก่ความหมายในเชิงมุมมองโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านคุณค่าของเวลา ซึ่งมีความละเอียด
และซับซ้อนในแต่ละบุคคล โดยขึ้นอยู่กับทัศนคติ , อารมณ์ , ความรู้สึก , สิ่งแวดล้อม ของ
แต่ละบุคคล โดยมีบทพิสูจน์ซึ่งชัดเจนถึงมุมมองที่แตกต่างโดยเฉพาะในเรื่องของเวลา ได้แก่
การกำหนดให้แต่ละบุคคลทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งเหมือนกันในเวลาที่เท่ากัน ตลอดจน
ควบคุมคุณสมบัติและปัจจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องของแต่ละบุคคล ให้มีความใกล้เคียงกันมากที่สุด
ก็ยังคงมีความแตกต่างกันในผลงานของแต่ละบุคคล ทั้งในเชิงคุรภาพและปริมาณอยู่ดี ความ
แตกต่างเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะการมองเห็นคุณค่าของเวลานั้นไม่เท่ากัน จึงเป็นที่มาของสำนวน
ที่เกี่ยวข้องกับเวลาที่เป็นที่ทราบโดยทั่วกัน ได้แก่ “ เวลาเป็นของมีค่า ” และ “ เวลาของแต่ละ
คนไม่เท่ากัน ”

ผู้อ่านหลายท่านคงเคยเสียดายเวลา เวลาที่ผ่านไปจนยากที่จะย้อนกลับไป
แก้ไขในข้อผิดพลาดในอดีต หรือไม่ก็อยากจะเก็บสำรองเวลาเอาไว้ใช้ในยามจำเป็น เช่น
ในช่วงที่รู้ตัวว่าเวลาของตนเหลือน้อยเต็มทีแล้วที่จะทำสิ่งใดให้สำเร็จและเป็นที่น่าพอใจก็จะนำ
เวลาสำรองออกมาใช้

เรื่องของการเสียดายเวลานี้มีการกล่าวขวัญถึงอย่างมากทั้งในอดีตและปัจจุบัน
และจะคงมีต่อไปในอนาคต ในรูปแบบของภาพยนตร์ , หนังสือ , บทความ , บทกวี ฯลฯ ที่
มีการดำเนินเรื่องราวผ่านจินตนาการที่ยังไมาสามารถเกิดขึ้นได้จริงในปัจจุบัน เช่น การประ
ดิษฐ์เครื่องย้อนเวลา , การนำเวลาไปจัดเก็บไว้ในที่ๆสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ (อาจจะเก็บ
ในขวดแก้ว ) เป็นต้น

เมื่อสิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง คงจะทำให้เกิดความสับสนยุ่งยากใน
สังคมอย่างมากจนไม่อาจจะคาดเดาได้ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือไม่มีอะไรเกิดขึ้น ( ทั้งๆที่
ควรจะเกิด ) เนื่องมาจากการใช้สิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวอย่างอิสระ ไร้การควบคุม

สิ่งใดก็ตามที่สามารถกระทำได้ ก้ควรที่จะลงมือทำเสียเพราะเวลานั้นมีจำกัด
และในทางกลับกัน สิ่งใดที่ไม่สามารถแก้ไขปรับปรุงได้และยังไม่ได้คำตอบในปัจจุบัน เวลา
ที่ผ่านไปก็ไม่ใช่ว่าจะเปล่าประโยชน์เสียเลยทีเดียว เพราะในหลายๆสิ่งที่เข้ามาในชีวิตของแต่
ละบุคคลก็ย่อมต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งคำตอบว่าสิ่งนั้นถูกต้องและ
เหมาะสมกับตนเองหรือไม่ ซึ่งเมื่อเวลาที่รอคอยมาถึงแล้ว ( ถ้าตนเองยังอยู่ถึงวึ่งเวลานั้น )
สิ่งนั้นก็จะได้รับการพิสูจน์ และตนเองก็จะได้รับคำตอบว่าสิงนั้นเป็นอย่างไร ถูกต้องหรือไม่
เหมาะสมกับตนเองหรือเปล่า ควรตัดสินใจและวางแผนต่อไปอย่างไรดี เวลาที่ผ่านพ้นไปนี่
แหละคือเครื่องพิสูจน์

เวลานอกจากจะหมายถึงความยาวนานที่กำหนดวัดได้โดยจัดเป็นมิติหนึ่งของ
การวัด ได้แก่มิติที่4 แล้วยังมีความหมายอื่นๆอีกมากมาย ตามมุมมองของแต่ละบุคคลว่ามอง
เวลาเป็นอย่างไร เพียงแต่ต้องไม่ลืมว่าเวลาไม่เคยหยุดนิ่งและยังไม่เคยมีใครหยุดเวลาได้ แล้ว
เราจะยังอยู่เฉยๆปล่อยให้เวลาของตนเองหมดไปโดยเปล่าประโยชน์อย่างนั้นหรือ ?