Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 735
#0, แนบรูปไม่เป็น
Posted by จากคนที่ไม่ไช่..จนกลายเป็นคนรัก on 24-Aug-16 at 11:35 PM
สวัสดีครับเพื่อนๆชาว DEK-D ทุกคน เพื่อนๆทุกคน หากจะเลือกมีแฟนสักคน คงต้องการอยากจะได้แฟน แบบในสเป็คที่เราต้องการ ไช่ไหมครับ? ผมเองก็เคยคิดแบบนั้น จนมาถึงทุกวันนี้ ผมคิดไหม่แล้ว ว่า ความรัก กับความชอบหรือสเป็ค มันคนละประเด็นกันเลยจริงๆ .....
ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมชื่อ กันตะ ...งงละสิ มันมาจากชื่อจริงผมครับ กันตพงศ์ ผมเติบโตมาจากครอบครัวที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบนัก คืออะไรนะหรือครับ ... ก็ผมเป็นลูกผู้ชายคนกลาง จากพี่น้องสามคน แต่ปัญหาคือ ผมไม่ใช่ผู้ชาย100% ใช่ครับ ผมเป็นเกย์ ....
แต่ผมไม่ได้เป็นประเภท สาวแตก บิ๊กอายนะครับ ถึงจะเป็นแบบไหนก็เถอะ ผมก็ไม่เคยถูกยอมรับจากพ่อ มาโดยตลอด(ในอดีต) ผมเป็นพี่น้องคนเดียวที่ตั้งใจเรียน และเรียนจบ ปริญญา ตรี ชีวิตของผม ค่อนข้าง ออกห่างจากครอบครัว และค่อนข้าง จะไม่ค่อยอยากกลับไปอยู่ร่วมกับคนในครอบครัว ด้วยความรู้สึกที่ผม แตกต่างจากคนอื่นๆ ...


ครอบครัวผมเคยมีกัน 5 คน นับจากวันที่แม่ผมเสียไป ผมก็คล้ายเป็นคนตัวคนเดียวเลย ผมหนีออกมาใช้ชีวิตอยู่กับญาติห่างๆ โดยมีพี่ชาย(พี่หนุ่ม) และป้า(แม่ของพี่ชาย) และครอบครัวของเค้า ที่ผมมาพึ่งพิงยามที่ผมไม่มีใคร จนกระทั่งเมื่อปลายปี 2553 ช่วงนั้นผมทำงาน เป็นพนักงาน 7-eleven แถวๆในจังหวัดสระบุรี ชีวิตที่โสด ก็ทำไห้ไช้ชีวิตแบบวัยรุ่นทั่วไป มีความรักเข้ามากี่ครั้งผมก็จะมองว่า "รักแบบที่เราเป็นคงไม่มีรักแท้" ผมเลยไม่เลือกที่จะหยุดที่ใครเลย แต่นั้นก้ไม่ได้หมายความว่าจะใช้ชีวิตแบบมั่วเสเพลนะครับ คือคุยไปเรื่อยๆแก้เหงา แต่ไม่นัดเจอน่ะครับ ช่วงนั้นผมเจอความรักที่เหมือนจะไช่เข้ามากี่ครั้ง สุดท้ายคือ จะจบแบบไม่สมหวังเสมอไป จนเมื่อช่วงที่เล่น Facebook ผมได้คุยกับผู้ชายคนนึง ผมเรียกเค้าว่า "พี่เต้"

ตลอดเวลาผมปรึกษาได้เพียงคนเดียวคือ พี่ชาย ผมเป็นคนชอบคนอายุเยอะกว่า ซึ่งคนๆนี้ก็ตรงกับที่เราตามหา ครั้งแรกที่เจอกัน ผมประทับใจเค้ามาก คือ เป็นผู้ใหญ่ แต่ก็คุยกันสักพัก จนกระทั่งเกินเลยความสัมพันธ์ไป ในตอนนั้นผมไม่เคยเป็นฝ่ายถูกกระทำเลย มีพี่คนนี้ละ ที่ยอมให้เค้ากระทำ จากวันนั้นเค้าก็เงียบหายไป (มาทราบทีหลังคือ เฟสเค้าโดนสแปม)
ผมก็ได้เปลี่ยนงาน ไปทำงานที่กรุงเทพฯ ทำไห้เราขาดการติดต่อกัรไประยะนึง ช่วงนั้นประมาณปีเศษๆ ผมก็กลับมาอยู่ สระบุรี อีกครั้ง ผมไม่รู้ด้วยพรหมลิขิต หรืออะไร ทำไห้ผมกลับมา ช่วงนั้น ผมได้รู้จักเพื่อนเยอะขึ้น ทั้งเก่าและไหม่ จนเพื่อนเก่าของผมคนหนึ่ง ชื่อตูน ได้ดึงผมเข้ากลุ่มไลน์ ที่ชื่อว่า GTT (มันย่อมาจากกลุ่มเกย์เที่ยวไทย...แอบคล้ายชื่อรายการดังของพี่สามเทยด้วย555555...) ด้วยพวกเราสนิทกัน คำพูดในเชิง จิกกัด เหน็บแนมเอาฮา ก็จะมาถล่มกันจนวันๆผมต้องคอยจ้องดูแชทในกลุ่มจนสนุกมาก โดยที่มีผู้ชายคนนึง อยู้ในกลุ่ม โดยที่ผมไม่รู้เลยว่าคือ คนที่เราเคยคุยกันมาก่อน นั้นคือ "พี่เต้" ที่เราเคยคบหากัน แ่เค้าคงจำผมไม่ได้ ...(คือผมแอบไปทำศัลยกรรม มาตอนอยู่ กทม.) จู่ๆใน แชทส่วนตัวก็ทักมาว่า
พี่เต้: กันอยู่แถวไหน?
ผม: ในเมืองสระบุรีครับ
พี่เต้: เย็นนีั้ว่างมั้ยกินข้าวกัน
ผม : อะเครครับ
หลังจากนั้นเค้าก็ส่งสติ๊กเกอร์โคนี่ใส่แว่นพร้อมทำท่าเก็กหล่อมา ในใจตอนนั้น ผช. คนนี้คุ้นๆจัง ผมกดเข้าไปในโปนไฟล์เค้า ก็เลื่อนไปเอจรูปนึง ที่เคยคุยกันตอนในเฟส และถามพี่ชายว่า คนนี้คือคนที่ผมเคยคบด้วยมะก่อนไช่ป่าวพี่
พี่หนุ่มก็ตอบว่าไช่เพราะจำรูปที่ผมเคยไห้แกดูตอนสมัยคบกัน
เย็นนั้นผมแว๊นซ์ ไปหาเค้า และโทรถามทางไปตลอดทาง อีกใจก็ลุ้นจะไช่บ้านหลังเดียวกับที่คนนั้นจริงๆ หรือแค่หน้าคล้าย จนที่ เต้..คนในสายบอกทางจนถึงหน้าบ้าน ผมก็ถึงบางอ้อ ว่าไช่จริงๆ
นาทีแรกที่ผมเห็นเค้า ผมก็แทบน้ำตาจะไหล แต่ท่าทีเค้าที่มองผม กลับเหมือนคนไม่รู้จักกันเลยและนี่เป็นครั้งแรกที่เจอกัน ..... เค้าขึ้นซ้อนท้ายมอไซค์ผมและบอกทาวไปร้านอาหาร

เราไปนั้งกินร้านอาหารร้านนึง ซึ่งเป็นร้านอาหาร ที่เค้าบอกชอบมาประจำ ชื่อร้าน ..... ตรงไปทางท่าลาน เค้าสั่งอาหารมาหลายอย่าง เราก็นั้งคุยกันไปเรื่อย แต่ระหว่างสนทนา เรากลับรู้สึกเหมือนเรากับเค้าจูนกันไม่ติด คุยกันคล้ายเพื่อนซะมากกว่า
หลังจากวันนั้นผ่านไป เราก็เจอกัน แต่สถานะแบบเหมือนเพื่อนคนนึงซะมากกว่า ถ้าถามความรู้สึกตัวเอง ตอนแรกที่เจอกลับรู้สึกว่าเค้า ไม่เหมือนครั้งแรกที่เจอ ครั้งนั้น เค้าดูเป็นผู้ชายอบอุ่น ขรรึมๆ สุขุม ครั้งนี้ เค้าดูเป็นคนมีสังคมกว้างขึ้น จนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม หน้าตาดูดีขึ้น คนรุมล้อมมากขึ้น แต่กระนั้นก็เถอะ ความรู้สึก คนที่เคยรัก มันกลับมาเจอก็ทำไห้มันย้อนกลับมาทำไห้นึกถึงวันเก่าๆ เรากลับรู้สึกอยากได้เค้าคืนมา วันนั้น เป็นวันที่4 ธค. 55 เรานัดไปเที่ยวกันในกลุ่ม บางคนก็ออกมาเดินเล่นงานประจำปีจังหวัด ในวันที่เรามาเจอกัน ก็เหลือบไปเหน เค้าคุยกับใครคนนึงแบบทำนองแฟน เราก็เริ่มคิดละว่า คงไม่มีโอกาสกลับมาเป็นแบบเดิมหรอก
ในแชท ผมกับพี่เต้ ก็คุยกันแบบ มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน ซึ่งสถานะนี้ ผมและพี่เค้า ก็ไม่ได้เอ่ยปากบอกกัน ด้วยอะไรก็ไม่รู้ ผมกับเค้ากลับมามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันอีกครั้ง และนั้นก็ทำให้ความรู้สึกทั้งหมดในอดีตกลับ มา แต่......
พี่เต้ ได้แอบไปตกลงกับ เพื่อนผมอีกคนในกลุ่ม ว่าจะคบกัน นาทีที่เค้าทักกันแบบเปิดเผยในกลุ่ม ผมก็แทบช็อคว่าเค้า คบกันแล้วหรอ วันที่5 ธ.ค ผมได้ไปยืนดูเค้าร้องเพลง ผมลืมบอกไป พี่เต้ เค้าเป็นนักร้องงานเลี้ยง ตามวงดนตรี ผมตั้งใจว่าจะขออยู่ดูเค้า เวลาเค้าไปร้องเพลง จะในฐานะอะไรก็เถอะ ขอยืนมองตรงนี้เอา .... แต่ยิ่งอยู่ใกล้กัน ยิ่งสนิทกัน มันทำให้ผมรู้สึกว่า “เห้ย... -เป็นแค่เพื่อนแล้วล่ะ ลืมเรื่องทั้งหมดซะ” จนถึงวันที่27 เพื่อนคนที่พี่เต้ตกลง คบเป็นแฟน จะมาเจอกันครั้งแรกในวันที่31วันสิ้นปี พี่เต้ได้ขอร้องให้ผม พามาหาเค้าที่เวทีคอนเสิร์ต เพราะรถประจำทางไม่มี นาทีนั้น ผมได้แต่ก้มหน้าร้องไห้ ผมติดต่อไปหาเพื่อนที่ทำงานอยู่ต่างประเทศ เพื่อนคนนั้นได้จองไฟล์ บินไปที่ประเทศหนึ่ง เพื่อไปที่นู้นและเริ่มชีวิตใหม่ ทันที่ที่ถึงวันที่31 ผมตั้งใจจะออกเดินทาง ผมนั่งรอเที่ยวบินออกเดินทาง ประมาณ 2 ทุ่มเศษๆ พี่หนุ่มก็ไลน์มาหา ขอให้ผมกลับมาเต้มันขอร้อง ในใจผมคิดเสมอ ว่า ถ้าเค้าเลือกแล้วจะมาสนใจเราทำไม ผมปิดกั้นการโทรเบอร์ของเต้ แต่พี่ชายได้โทรมาขอ “พี่ถามเต้แล้ว เต้มันขอเลือกแก กลับมาเถอะ พี่สงสารมัน แกรักมันไม่ใช่หรอ” ผมนั่งคิดไปร้องไห้ไป จะเอายังไงดี สุดท้าย ผมก็ทนต่อแรงต้านทานตัวเองไม่ไหว เดินทางกลับมาหาเค้า คืนนั้น เต้ให้ผม มาอยู่ด้วยและความสัมพันธ์เราก็กลับมาเหมือนเดิม ......
เหมือนจะจบแบบแฮปปี้ แต่ไม่ไช่ครับมันแค่เริ่มต้นเท่านั้นเอง..... ติดตามต่อตอนต่อไปนะครับ
ต่อ....2


เราสองคนหลังจากใช้ชีวิตร่วมกัน ก็เจอสารพัดปัญหา ที่เข้ามา ทั้งมือที่สาม ที่สี่ ที่ห้า ด้วยอะไรน่ะหรือครับ เพราะความที่คนเรา มาใช้ชีวิตร่วมกัน แบบต่างคนต่างพ่อต่างแม่ ต่างความคิด ต่างจิตใจ รวมถึงก็มีคนที่แบบชอบทั้งๆที่รู้ว่ามีเจ้าของ สุดท้ายแล้วเราสองคนก็ผ่านมันมาจนได้
อีกส่วนหนึ่งคือ สังคมนี่ครับ ที่เป็นปัญหาหลักจริงๆ เราเคยมานั่งคุยกันว่า ทำยังไง ให้คนยอมรับว่า ถึงเราจะเป็นเพศที่3 ก็เรียกว่า ครอบครัวได้
แฟนผมทำงาน เป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ แห่งหนึ่งครับ อาชีพเสริมก็คือร้องเพลง


ส่วนผมเมื่อก่อน ผ่านหลายงานมากก่อนจะถึงปัจจุบัน555
เราสองคนร่วมกันสร้างฐานะ ด้วยการค้าขาย ก็มีผม กับพี่ชาย(พี่หนุ่ม) นี่ละครับมาลงทำเต็มตัว พร้อมกับแฟนผม เราทำทุกอย่างที่ได้เงิน ดูเอาละกันผมทำไรบ้าง

ขายส้มตำ....

ด้วยรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างนี่ละครับ ตะเวณขายตามตลาดนัด เราทำกันแบบไม่สนใจ ไม่อายใคร เพราะ เราทำอาชีพสุจริต ไม่ได้ขอใครกิน ทำด้วยความสามารถ โดยใช้ชื่อ"ส้มตำป๋าเต้"

พี่หนุ่มคนออกแบบป้ายและจัดวางละ ออกมาแนวได้ถึงใจมาก จัดจ้านในย่านสระบุรี

อยากรู้อร่อยป่าวดูคนรุมสิ

ขายของตลาดนัดเช้า ...ทำหมดอะ ปลาส้มนี่ จับกันเอง ทำกันเองนะครับ555
เหลืองลูกข้างล่าง นั้น เรียกลูกท้อ ที่บ้านปลูกไว้ ก็จัดการเก็บมาขายเช่นกัน

จับปูนา นี่ก็นาแถวบ้าน เราก็จับมาทั้งกินและขายเช่นกัน เอาจริงๆ คนจับคือ พี่หนุ่ม กับแฟนนั้นละ ผมส่องไฟ เพราะจับไม่เป็นแต่ก็มีประโยชน์นะส่องไฟตามหลังเค้า

ทำกระทงขาย อยากบอกว่าขายดีมาก นีี่ก็ฝีมือ ทั้งผม แม่สนม(แม่ของแฟน) พี่หนุ่ม(ส่วนใหญ่) ผม (อีอันแปลกๆ2อันข้างหลังน่ะฝีมือผม) ที่เห็นคือบางส่วนนะ ขายไปบ้างละใกล้หมดละนีกขึ้นได้ถ่ายรูปสิเห้ย+++555 ไฟเย็นข้างๆของน้องอุ้มสุดหล่อ น้องชายสุดเลิฟชวนมาขายด้วยกันหนุกหนานวัยรุ่น

สามคนก็มา งานถ่ายรูปก็มี5555

ทำเองลอยกันเองกับแฟน ที่ไหน....อ่างปลาหน้าบ้านครับ แฟนไปร้องเพลง ผมไปขายของคนละที่ กลับบ้านกลางดึกมาลอยที่บ้าน 5555

เราทำแบบนี้ละมาเรื่อยๆมีไรก็ขาย ทำมันทุกอย่าง ไม่สนใจสีสันแสงสีใดๆ....

แต่ก็ไม่ลืมเพื่อนฝูงนะ มาเที่ยวกันบ้าง
เรื่องทำบุญ นี่ขอให้บอก เราชอบมากกกก


พวกเราแก๊ง GTT สายบุญนะเออ
ไปทุกที่ที่มีวัดและความสงบ
ถามว่าเอาตัวอย่างมาจากไหน......
ผู้หญิงคนนี้ล่ะ "คุณแม่สนม" แม่ของแฟนผม ท่านชอบเข้าวัดทำบุญ สอนให้รู้จักบาปบุญ คุณโทษ จนทำไห้ผม ชอบการเข้าวัดไปด้้วยเลย
......ไม่ใช่แค่แม่เท่านั้น
ทั้งบ้านมณีไพร ก็มีจิตใจเดียวกัน

เราเคยพูดกันว่า เราจะต้องมีรถสักคันนึงให้ได้........และแล้ว
เราก็ทำมันจนได้ .....
แต่เรายังไม่หยุดแค่นั้น เรายังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิม ....