แพงลิบลิ่ว! อสังหาฯ ภูเก็ตทะยานแสนล้าน แพงสุดเป็นประวัติศาสตร์ ราคาที่ดินสูงถึงไร่ละ 25-100 กว่าล้าน รัสเซีย อิสราเอล หนีสงคราม เหมาซื้อวิลล่า เช่าโรงแรมอยู่ยาวพื้นที่จังหวัดภูเก็ตตลอดทั้งปี2566 ได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้ราคาที่ดินสูงถึงไร่ละ 25-100 กว่าล้านบาท มีคอนโดมิเนียมและบ้านตากอากาศเปิดขายใหม่สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ ด้วยมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท มีคอนโดมิเนียม 36 โครงการ 8,743 หน่วย กว่า 49,559 ล้านบาท จากปกติเปิดปีละ 2,000-3,000 ยูนิต และเป็นผู้พัฒนารายใหญ่จากกรุงเทพฯและในพื้นที่ เช่น บมจ.แสนสิริ บมจ. แอสเซทไวส์ บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ บจ. บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป
ส่วนปี2567 คาดว่าจะมีเปิดขายอีก 4,500 ยูนิต ขณะที่ในตลาดมีคอนโดมิเนียมอยู่ระหว่างขาย75 โครงการ 22,253 ยูนิต ขายไปแล้ว 14,484 ยูนิตหรือ 65.08% รอขายอยู่ 7,769 ยูนิต คิดเป็น 34.91% ส่วนใหญ่สนใจพัฒนาโครงการพื้นที่ฝั่งตะวันตกของภูเก็ต เช่น บางเทา เชิงทะเล รอบลากูน่า กมลา ระดับราคา 5-10 ล้านบาท
สำหรับบ้านพักตากอากาศมีเติบโตแบบก้าวกระโดดเช่นกัน มีเปิดขายใหม่ถึง 61โครงการ 1,108 ยูนิต ด้วยมูลค่ากว่า 51,002 ล้านบาท สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่วนใหญ่อยู่ฝั่งตะวันตกของเกาะ โดยเฉพาะบางเทา เชิงทะเล และรอบลากูน่า หลายโครงการได้รับความสนใจจากผู้ซื้อเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกำลังซื้อรัสเซียที่ซื้ออยู่เองและเหมาเพื่อลงทุนปล่อยเช่าให้คนรัสเซียด้วยกันเอง รวมถึงเริ่มมีคนอิสราเอลเข้ามาเช่าที่อยู่อาศัยหรือโรงแรมพักระยะยาวมากขึ้นในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังเกิดสงคราม
ขณะที่ปัจจุบันมีโครงการอยู่ระหว่างการขาย 107 โครงการ 2,316 ยูนิต ขายได้แล้ว 1,220 ยูนิต เหลือขาย 1,096 ยูนิต กว่า 98% เป็นบ้านเดี่ยว ราคาต่ำกว่า 30 ล้านบาท รองลงมา 30-50 ล้านบาท และ50-70 ล้านบาท โดยตลาดบ้านพักตากอากาศปี 2566 ที่ผ่านมา ได้ความสนใจจากำลังซื้อต่างชาติมาก จากยุโรป เช่น เยอรมัน เดนมาร์ก และเอเชีย เช่น จีน ฮ่องกง และ สิงคโปร์ เป็นต้น ทำให้ทุกโครงการมียอดขายต่างชาติเต็มโควต้า 49% ต้องขายแบบเช่าระยะยาว 30+30+30 ปี