|
งานศึกษาจากวารสาร Journal of Adolescent Health สรุปว่า สี่กลุ่มอาการที่อาจพบได้ทั่วไปในผู้ชายที่มีพฤติกรรมรักร่วมเพศคือ : #โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แบบคลาสสิค (หนองใน, หนองในเทียม, ซิฟิลิส, การติดเชื้อเริม, หูดที่อวัยวะเพศ, โรคโลน, โรคหิด) ; #โรคเกี่ยวกับลำไส้ (การติดเชื้อชิเกลล่า , เชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ เจจูไน , โรคบิดอะมีบาในลำไส้ , โรคติดเชื้อไกอาร์เดีย , โรคไวรัสตับอักเสบเอ, โรคไวรัสตับอักเสบบี, โรคไวรัสตับอักเสบชนิดไม่ใช่ทั้งเอและบี , และโรคติดเชื้อไซโตเมกาโลไวรัส ) ; #อาการบาดเจ็บ (ภาวะกลั้นอุจจาระไม่อยู่, ริดสีดวงทวารหนัก, โรคแผลขอบทวาร, มีวัตถุแปลกปลอมในลำไส้, ลำไส้ใหญ่ส่วนปลายฉีกขาด, ทวารหนักอักเสบเรื้อรัง, องคชาตบวม, การใช้สารระเหยไนไตรท์, ไซนัสอักเสบจากสารเคมี, และการล่วงละเมิดทางเพศเหยื่อผู้ชาย) ; และ #โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (จากเชื้อเอชไอวี) <1> . รายงานในปี 1990 จากคลีนิคฟอร์ตลอเดอร์เดล รัฐฟลอลิดา ระบุว่า มากกว่า 55% ของชายรักร่วมเพศที่มีความผิดปกติบริเวณทวารหนักจะเป็นโรคหนองใน และ 80% ของผู้ป่วยโรคซิฟิลิสจะเป็นชายรักร่วมเพศ ,15% ของชายรักร่วมเพศไม่มีอาการหนองในเทียม และหนึ่งในสามของชายรักร่วมเพศมีการติดเชื้อเริมบริเวณทวารหนัก นอกจากนี้ การติดเชื้อในลำไส้ที่มักเกิดจากการกินอุจจาระมนุษย์ก็เฉิดฉายในชุมชนรักร่วมเพศ สิ่งนี้บ่งชี้ถึงการกลืนกินอุจจาระที่เกิดขึ้นในกลุ่มคนรักร่วมเพศ <2> . เว็บไซต์ของศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (CDC) ระบุว่า โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในชุมชนชายเกย์และไบเซ็กชวล จากการเพิ่มขึ้นของโรคซิฟิลิสที่ถูกบันทึกไว้ทั่วประเทศในปี 2012 กลุ่มชายรักชาย มีสัดส่วนที่ 75% จากผู้ติดเชื้อซิฟิลิสระยะแรกและระยะที่สองในสหรัฐอเมริกา กลุ่มชายรักชายก็มักได้รับการตรวจพบว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ รวมถึงโรคหนองในและหนองในเทียม เชื้อไวรัส HPV เป็นโรคติดต่อทางเพศที่พบมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาและเกี่ยวข้องกับกลุ่มชายรักชายเช่นกัน ไวรัส HPV บางสายพันธ์สามารถทำให้เกิดหูดที่บริเวณทวารหนักและอาจพัฒนาไปสู่การเกิดโรคมะเร็งทวารและมะเร็งในช่องปากได้ กลุ่มชายรักชายมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งทวารมากกว่าชายรักต่างเพศถึง 17 เท่า และชายที่มีเชื้อเอดส์มีโอกาสเป็นโรคมะเร็งทวารหนักมากกว่าชายที่ปลอดเชื้อ <3> . <1> Owen WF, Jr. Medical problems of the homosexual adolescent. Journal of Adolescent Health Care 1985;6(4):278-85.<2>Refer to Wexner SD, Milsom JW, Dailey TH. The demographics of anal cancers are changing. Identification of a high-risk population. Dis Colon Rectum 1987;30(12)42-6. <3> Refer to http://www.cdc.gov/msmhealth/STD.htm. . https://www.facebook.com/share/R7U57abKRQy6ydrc/?mibextid=WC7FNe |
|