ตอนที่ 7 (ต่อ)
บ่ายวันอาทิตย์ ก้องมาถึงหอพักก่อนเวลานัดหมายเกือบครึ่งชั่วโมง และนั่งรอพัฒน์อยู่บริเวณชั้นหนึ่ง สักพัก พัฒน์ก็มาถึง เมื่อก้องเห็นของในรถก็แกล้งทำเสียงตกใจ
อะไรอ่ะพี่พัฒน์ ไหนบอกของไม่เยอะไง ต้องขนกันกี่เที่ยวเนี่ยถึงจะหมด
ตอนแรก...พี่ก็ว่าจะไม่เอาอะไรมาเยอะนะ แต่พอจัดไปจัดมามันก็อย่างที่เห็นนี่แหละ พัฒน์อธิบายเสียงอ่อย ๆ
ผมล้อเล่น ก้องหัวเราะเห็นฟันขาวเอามือตบต้นแขนพัฒน์เบา ๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าสำนึกผิด รีบเอาของลงจากรถเหอะพี่ แท็กซี่เขารออยู่
ของที่พัฒน์เอามา มีกระเป๋าเดินทางแบบล้อเลื่อนขนาดกลางสองใบ กล่องรองเท้าสี่กล่อง คอมพิวเตอร์เดสทอป และของใช้ชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ใส่รวมมาในถุงพลาสติกใบใหญ่อีกห้าหกถุง ก่อนที่พัฒน์จะขึ้นรถ พี่ชายของเขายังถามย้ำอีกครั้งว่า
เฮ้ยแกแน่ใจนะว่าชั้นไม่ต้องไปช่วย
ไม่ต้องห่วงน่าพี่ เดี๋ยวเสร็จเรียบร้อยผมโทรบอก
ไม่นานของทั้งหมดของพัฒน์ ก็ขึ้นมาอยู่บนห้องเรียบร้อย ทั้งคู่เหงื่อท่วมตัว เนื่องจากต้องขนของกันหลายเที่ยว แถมอากาศวันนี้ยังค่อนข้างอบอ้าวอีกด้วย
อ่ะก้องทานน้ำก่อน ดูสิเหงื่อท่วมเลย พัฒน์ยื่นขวดน้ำเย็นพร้อมหลอดที่ซื้อมาจากมินิมาร์ทข้างล่างส่งให้ก้อง ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดบนออก 2 เม็ด เผยให้เห็นแผงอกขาว มีไรขนบาง ๆ
ขอบคุณครับ ก้องรับมาดื่มด้วยความกระหาย
เหมือนฝนจะตกนะ ฟ้าเริ่มครึ้ม ๆ แล้ว เมื้อกี้แดดยังจ้าอยู่เลย พัฒน์พูดขณะเหลียวมองออกไปนอกหน้าต่าง
นั่นสิครับ มิน่าวันนี้อากาศถึงได้ร้อนอบอ้าวเหลือเกิน ก้องวางขวดน้ำไว้ที่โต๊ะ ลุกเดินไปที่หน้าต่างซึ่งขณะนี้เริ่มมีลมพัดโชยมาบ้างแล้ว
ข้างนอกวิวสวยเหมือนกันนะพี่พัฒน์มาดูสิ
พัฒน์ลุกตามไปยืนอยู่ด้านหลังก้อง
อืม พี่เพิ่งสังเกตเหมือนกัน ว่าทางฝั่งที่พี่อยู่ติดกับสวนสาธารณะด้วย เลยดูไม่อึดอัด พัฒน์เขยิบเข้าไปใกล้ก้องมากขึ้น
ดีนะ ตอนเย็น ๆ เลิกงาน พี่พัฒน์จะได้มีเวลาไปวิ่งออกกำลังกาย สงสัยว่าง ๆ ผมต้องมาขออาศัย...โอ๊ย... ลมกรรโชกแรงพัดเข้ามาทางหน้าต่าง หอบเอาเศษละอองปลิวเข้าตาก้องพอดี ก้องจึงหันหน้าหลบอย่างรวดเร็ว ทำให้ใบหน้าไปชนกับแผงอกของพัฒน์เข้าเต็ม ๆ กลิ่นน้ำหอมผู้ชายอ่อน ๆ ผสมกับกลิ่นเหงื่อที่ยังไม่แห้งดี สัมผัสเข้าจมูกของก้องอย่างไม่ตั้งใจ ก้องหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ส่วนพัฒน์ก็ยกแขนประคองหลังก้องด้วยท่าทีตกใจ
เป็นไรหรือเปล่าก้อง
สงสัยฝุ่นเข้าตาน่ะครับ ยังเจ็บ ๆ อยู่เลย
ไหนพี่ดูซิ พัฒน์พูดพร้อมกับก้มมองที่ตาของก้อง ทำให้สายตาของทั้งคู่จ้องมองซึ่งกันและกันพอดี พัฒน์รู้สึกเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่าง โน้มใบหน้าของเขาให้เลื่อนเข้าไปชิดใบหน้าก้องมากขึ้น ก่อนที่พัฒน์จะทำในสิ่งที่หัวใจเขาเรียกร้อง ก้องก็ได้สติ และรีบเบี่ยงตัวหลบออกมา
สงสัยฝุ่นจะหลุดไปแล้วมั้งครับ ไม่เจ็บแล้ว เออ...แล้วนี่พี่พัฒน์จะจัดของเลยหรือเปล่า ก้องรีบชวนคุยเรื่องอื่น พร้อมกับเดินกลับมานั่งที่ปลายเตียง
พัฒน์รู้สึกตัวเช่นกัน เขาพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ หันมาบอกก้องว่า
คงอีกสักพักน่ะ ไว้รอให้หายเหนื่อยก่อน แต่ก้องไม่ต้องช่วยแล้วล่ะ ตรงนี้พี่จัดการเอง ไป...เดี๋ยวพี่พาไปเลี้ยงข้าว
ก้องยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู คงไปทานไม่ได้แล้วล่ะพี่ จะสี่โมงแล้ว พอดีผมนัดกับเพื่อนไว้ตอนสี่โมงครึ่งน่ะ
อ้าวเหรอ แล้วทำไมไม่บอกพี่แต่แรก พี่ก็นึกว่าก้องว่าง ถึงให้มาช่วยขนของ พี่ขอโทษจริง ๆ พัฒน์รู้สึกเกรงใจ
ไม่ต้องเกรงใจหรอกพี่ ผมอาสามาช่วยเอง อีกอย่าง จากที่นี่ไปเอ็มโพเรียมก็ไม่ไกลกันเท่าไหร่ ถ้ารถไม่ติดมากแป๊บเดียวก็ถึง
โอเค ยังไงพี่ก็ขอบใจแล้วกัน งั้นพี่ค่อยพาไปเลี้ยงวันหลังนะ
พัฒน์ลงมาส่งก้องถึงถนนใหญ่ ก่อนจะเดินกลับเข้าหอไปเมื่อก้องขึ้นแท็กซี่ไปแล้ว ขณะนั่งอยู่ในรถ ก้องก็นึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ ซึ่งคล้าย ๆ กับที่เคยเกิดขึ้นในซาวน่าเมื่อหลายเดือนก่อน ต่างกันก็แต่ครั้งนี้ก้องยังไม่ได้รู้สึกอะไรกับพัฒน์เกินเลยไปกว่าเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเท่านั้น