ตอนที่ 16
เพื่อนใหม่
ผ่านไปเกือบสองเดือน น้ำหนักก้องก็ลดลงมาเป็นปกติเท่ากับตอนที่รู้จักกับวิทย์ใหม่ ๆ แต่การลดได้รวดเร็วขนาดนี้ ก้องต้องแลกกับการเสียเงินค่าเทรนเนอร์ไปเกือบสามหมื่น ซึ่งจริง ๆ แล้วการเทรนก็ไม่มีอะไรมาก ใช้เวลาแค่วันละ 1 ชั่วโมง โดยใน 1 ชั่วโมงนั้นเทรนเนอร์ให้ก้องเสียเวลาไปกับการวิ่งลู่วิ่งด้วยตนเองเกือบครึ่งชั่วโมง เหลือเวลาได้ออกกำลังกายกับเครื่องประเภทอื่นจริง ๆ แค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ถ้าหมดโปรแกรมนี้แล้ว ก้องคงไม่ซื้อโปรแกรมต่ออีกแน่นอน แม้เทรนเนอร์จะพยายามโน้มน้าวใจแทบทุกครั้งก็ตาม เพราะก้องรู้สึกเหมือนโดนเอาเปรียบยังไงไม่รู้
นับตั้งแต่วันแรกที่ก้องพบผู้ชายคนนั้น ก้องก็ไม่เห็นเขามาเล่นอีกเลย ทุกครั้งที่ไปออกกำลังกาย ก้องไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องคอยมองหาเขาอยู่เรื่อย ๆ จนวันที่วิทย์นัดเจอก้องที่หน้าแมคโดนัลด์ซึ่งอยู่ติดกับฟิตเนส ก้องก็เห็นเขามาเดินซื้อของกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งคาดว่าจะเป็นแฟน ทำให้ก้องรู้สึกหงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูก จนวิทย์สังเกตได้เมื่อกลับไปถึงบ้าน
นายยังรักเราหรือเปล่า
เฮ้ย ทำไมถามงั้นล่ะ ไม่รักนายแล้วเราจะไปรักใคร
ก้องยังจำบทสนทนาระหว่างเขากับวิทย์ในคืนนั้นได้ดี ก้องยอมรับว่า ณ ขณะนั้น แม้ใจของเขาอาจจะไขว้เขวไปบ้าง แต่เขาก็ยังมั่นใจว่าความรักที่เขามีให้วิทย์นั้นยังคงเดิม
@@@@@@@@@@@@@@@@
วันนี้ก้องไม่มีตารางเทรน เลยมาออกกำลังกายเอง หลังจากวิ่งไปได้สิบห้านาที ก้องก็เตรียมตัวไปเข้าคลาสบอดี้คอมแบทต่อ ระหว่างนั้นมีคนมายืนรอเข้าคลาสบริเวณหน้าห้องออกกำลังกายเต็มไปหมด พลันสายตาก้องก็เหลือบไปเห็นชายคนหนึ่ง ใบหน้าขาวใสตัดกับรอยหนวดเคราที่ขึ้นบาง ๆ สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ มีผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กพาดบ่า เตรียมจะเข้าคลาสเหมือนกัน ท่าทางหยิ่ง ๆ ไม่สนใจใครแบบนี้ ก้องจำเขาได้แม่นยำ ในใจก็อยากจะเข้าไปทัก แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ผลสุดท้าย ก็ได้แค่แอบมองเขาไปเรื่อย ๆ จนหมดคลาส ก่อนจะแยกย้ายกันไปออกกำลังกายอย่างอื่นต่อ
จนกระทั่งหลังออกกำลังกายเสร็จ ขณะที่ก้องกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำ และก้มหน้าก้มตาเอาเสื้อผ้าเก็บในล็อกเกอร์ ก็มีเสียงทุ้ม ๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง
น้องครับ ตอนแรกก้องไม่ได้ใส่ใจเพราะไม่คิดว่าจะมีใครเรียก จนเสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง ก้องจึงเงยหน้าหันไปมอง พร้อมด้วยหัวใจที่เต้นแรง เพราะเจ้าของเสียงนั้นคือคนที่ก้องเฝ้ามองมาตลอดนั่นเอง
เอ่อ...มีอะไรเหรอครับ ก้องพยามควบคุมอาการไม่ให้อีกฝ่ายรู้ว่าตนเองตื่นเต้นแค่ไหน
กระเป๋าสตางค์หล่นนะครับ ใช่ของน้องหรือเปล่า ชายคนนั้นชี้ให้ดูกระเป๋าสตางค์ที่หล่นอยู่หน้าล็อกเกอร์ของก้อง และเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ล็อกเกอร์ใกล้ ๆ กัน
ก้องหันไปทางชายคนนั้น หลังจากเก็บกระเป๋าขึ้นมาแล้ว
ขอบคุณนะครับที่บอก ถ้าหายไปคงแย่
ชายคนนั้นหันมายิ้มให้ คราวหลังก็ระวังหน่อยแล้วกัน
รอยยิ้มของเขาทำให้จิตใจก้องหวั่นไหวขึ้นมาอย่างประหลาด แต่ก้องก็พยายามเตือนตัวเองว่าเรามีแฟนแล้ว ไม่ควรไปยุ่งกับใครอีก การรักเดียวใจเดียวสำหรับเกย์อาจเป็นเรื่องยากและแทบจะเป็นไปไม่ได้ แรก ๆ อาจบอกว่ารักกันมากมาย แต่สุดท้าย ไม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ปันใจไปมีคนอื่น ก้องไม่อยากเข้าไปอยู่ในวงจรแบบนั้น
มาเล่นบ่อยหรือเปล่าครับ เสียงทุ้ม ๆ นั้นดังแทรกเข้ามาในความคิด
เกือบทุกวันแหละครับ แล้วพี่ล่ะครับ ไม่เห็นตั้งนาน
ผมไม่ได้มาเล่นเกือบสองเดือนแล้ว พอดีทางบริษัทส่งไปดูแลสาขาที่ต่างประเทศ เพิ่งกลับมาได้ไม่ถึงอาทิตย์ เออ...ว่าแต่รู้ได้ยังไงว่าผมไม่ได้มาที่นี่นานแล้ว
ก้องยิ้มกลบเกลื่อนอาการเขิน ไม่น่าหลุดเลยเรา เดี๋ยวเขาก็รู้หมดว่าเราสนใจเขา
ผมเคยเห็นพี่มาเล่นครั้งหนึ่งน่ะครับ แล้วก็ไม่เห็นอีกเลย ก้องรีบบอก ขณะที่อีกฝ่ายแต่งตัวเสร็จพอดี
ผมกลับก่อนนะ น้องชายคงมารอแล้ว พรุ่งนี้เจอกัน