We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: ต้นสน - Repost และตอนพิเศษ"
Posted by sarawatta on 14-Jun-11 at 10:41 PM

ตอนที่ 15: เมื่อความลับถูกเปิดเผย

หลังจากที่เกิดเรื่องแล้ว สนก็เลิกไปหาก้อยโดยปริยาย แม้ว่าก้อยจะยังโทรมาตามบ้างก็ตามแต่สนก็ปฏิเสธที่จะคุยด้วยและไม่ยอมรับโทรศัพท์ เจอหน้าสนก็เดินหนี จนในที่สุดก้อยก็เลิกตามไปเอง สนใช้เวลาทุ่มเทกับการเรียนมากขึ้น เขามีเงินเก็บจำนวนหนึ่งบวกกับเงินที่แบ่งกับต้นคราวนั้นจึงพอจะซื้อโน้ตบุ๊กเป็นของตัวเองสำหรับไว้ทำงานได้ ส่วนต้นนั้นก็ยังคงเรียนไปด้วยและทำงานอาสาสมัครเพื่อสังคมไปด้วย ชมรมของเขาไปได้ดีทีเดียว มีสมาชิกเพิ่มขึ้น มีรายได้จากการบริจาคเข้ามาเพื่อช่วยสมทบทุนการทำกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น บางครั้งต้นก็รู้สึกว่าเขาอยากทำงานแบบนี้มากกว่า ไม่รู้ว่าเขาคิดผิดหรือไม่ที่เรียนวิศวะ จริงๆ เขาก็เรียนได้ไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่เขาชอบที่จะทำงานเพื่อสังคมมากกว่า คิดไปคิดมาบางทีเขาก็อยากทำงานองค์กรไม่แสวงผลกำไรเพื่อช่วยสังคม ช่วยเด็ก คนพิการ คนติดเชื้อเอชไอวี อนุรักษ์ธรรมชาติ หรืออะไรทำนองนี้มากกว่าที่จะทำงานบริษัท

ความสัมพันธ์ของต้นกับเจนี่นั้นก็ไม่มีอะไรคืบหน้า เจนี่จึงเลิกล้มความคิดที่จะให้ต้นเป็นคนพิเศษ แต่ก็เป็นเพื่อนกันและไม่มีปัญหาอะไร ต้นรู้ดีว่า ในชีวิตนี้ต้นคงจะรักใครไม่ได้อีกแล้ว ในหัวใจของต้นมีเพียงเพื่อนของเขาเพียงคนเดียวตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ความรักทั้งหมดที่ต้นมีจึงทุ่มเทให้เพื่อนเพียงคนเดียว แม้จะไม่ได้บอกตรงๆ แต่ก็รู้สึกได้จากการกระทำแทบทุกอย่าง เพียงแต่สนไม่เคยเข้าใจว่าต้นทำด้วยความรู้สึกแบบไหนเท่านั้นเอง สนเข้าใจแต่เพียงว่าต้นทำเพราะรักสนอย่างเพื่อนเท่านั้น แต่สนก็มีความสุขกับชีวิตดีที่มีเพื่อนคอยดูแล เจ็บไข้ได้ป่วยก็ช่วยดูแลกัน สนมีปัญหากับการรีดเสื้อผ้า ต้นก็ช่วยรีดให้ เรียนไม่เข้าใจ ต้นก็พยายามสอนให้ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้เรียนวิชาเดียวกัน มีปัญหาอะไรก็คอยช่วยเสมอทั้งเรื่องเล็กน้อยและเรื่องอื่นๆ ต้นคอยสนับสนุนเพื่อนทั้งด้านกายและใจเสมอมาโดยไม่เรียกร้องสิ่งใดตอบแทน ไม่ใช่ว่าไม่อยากได้เพราะต้นเองก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง แต่เขาได้เรียนรู้ว่าความรักอย่างผู้ให้มีความทุกข์น้อยกว่าความรักอย่างผู้ขอต่างหาก เขาจึงเลือกที่จะให้มากกว่าขอ
------------------------------------------------------------------------------------------------
ขึ้นปีสามแล้ว ต้นก็ได้กลายเป็นประธานชมรมจิตอาสาเพื่อสังคมตามที่คาดหมาย ยิ่งทำให้ต้นมั่นใจยิ่งขึ้นว่านี่คือทางเลือกของชีวิตที่เขาต้องการ

ปีนี้เป็นปีที่ 11 แล้วที่ต้นกับสนได้เป็นเพื่อนรักกัน ความรักระหว่างเพื่อนก็ยังสม่ำเสมอดี เขามีความสุขที่ได้เห็นเพื่อนเติบโตและได้ช่วยสนับสนุนเท่าที่ทำได้ ต้นยิ่งมั่นใจมากขึ้นไปอีกว่า “รักแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว” เขาจึงไม่เคยคิดที่เรียกร้องหรือทำให้สนรู้ว่าต้นคิดกับเพื่อนอย่างไร แต่ความลับก็ไม่เคยมีในโลก สุดท้ายก็มีเหตุให้สิ่งที่ต้นปิดบังมากว่า 10 ปีถูกเปิดเผยออกมาจนได้

ช่วงเย็นๆ ของวันหยุดวันหนึ่ง สี่หนุ่มลงมานั่งทำงานด้วยกันที่ห้องโถงชั้นล่างอย่างสบายๆ อารมณ์หลังจากกินข้าวแล้ว สนนั่งทำงานกับคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของเขา ส่วนต้นไม่มีงานวันนี้แต่เขาก็ช่วยนิกกับปั้นจั่นทำการบ้าน

“เฮ้ย พวกมึงสองคนรู้ไหมว่าต้นจะเก่งเศรษฐศาสตร์เท่าพวกมึงแล้วนะ” สนแซวเพื่อนขณะทำงาน เขาเห็นสองคนนี้ทำการบ้านทีไรก็ต้องถามหาต้นแทบทุกที

“อ้าว ก็พวกกูไม่ชอบคำนวณนี่หว่า” ปั้นจั่นแก้ตัว

“ไม่ชอบแล้วเรียนทำไมวะ” สนถามกลับ

“ก็ไม่คิดว่ามันจะเยอะขนาดนี้นี่หว่า” ปั้นจั่นตอบแล้วทุกคนก็หัวเราะ

“พอดีเราเห็นหนังสือเล่มหนึ่งเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์น่าสนใจ ก็เลยยืมจากห้องสมุดมาให้พวกนาย เอาไหม เดี๋ยวเราไปเอามาให้” ต้นบอก นิกกับปั้นจั่นทำท่าทางสนใจ ต้นจึงลุกขึ้นเพื่อจะเดินไปหยิบหนังสือเล่มนั้นบนห้องของเขา สนรีบร้องห้ามว่า

“ไม่ต้องไปหรอก จะเอาอะไร บอกเรามาเดี๋ยวเราไปหยิบให้”

ต้นหยุด นั่งลงกับที่แล้วบอกสนว่า “หนังสือเล่มสีฟ้าน่ะสน เราวางไว้บนโต๊ะทำงานของเรา มีอยู่เล่มเดียว หาไม่ยากหรอก” ต้นบอก หลังๆ มานี้สนดูจะเอาใจเขามากขึ้น ถ้าสนอยากช่วยอะไรต้นจึงไม่ค่อยขัดเพราะเข้าใจว่าเพื่อนก็อยากทำอะไรให้เขาบ้าง แม้เพียงเล็กๆ น้อยๆ

สนเดินขึ้นไปชั้นสองของบ้านแล้วก็ไปที่ห้องของต้นซึ่งก็อยู่ติดกับห้องของเขาเอง สนสามารถเปิดประตูเข้าไปได้เลยเพราะปกติพวกเขามักจะไม่ล็อกห้องกันยกเว้นตอนออกไปข้างนอก สนไม่ได้เปิดไฟเพราะเห็นว่ามาเอาของแป๊บเดียว เขาเดินไปที่โต๊ะทำงานของต้นตรงมุมห้องก็เห็นหนังสือเล่มสีฟ้าๆ ตามที่ต้นบอกวางอยู่จึงหยิบขึ้นมา จังหวะที่กำลังจะเดินออกไปนั้นสายตาของเขาก็พลันเหลือบไปเห็นหนังสือเล่มหนึ่งที่ต้นคงลืมเก็บเข้าที่ มันวางอยู่ตรงมุมๆ โต๊ะใกล้ๆ กับหนังสือเล่มสีฟ้าที่เขาเพิ่งหยิบมานั่นเอง มันอาจจะไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเลยถ้าหากว่าหน้าปกของหนังสือเล่มนั้นไม่ได้มีรูปของผู้ชายที่เปลือยอกและใส่แต่กางเกงในสีขาวตัวเดียว สนวางหนังสือเล่มสีฟ้าลงแล้วหยิบหนังสือเล่มนั้นมาเปิดดูด้วยความอยากรู้ว่ามันคือหนังสืออะไร มือไม้และปากของสนสั่นทันทีที่เห็นรูปภาพข้างในหนังสือเล่มนั้น เขารู้สึกอ่อนแรงจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ ต้นมีหนังสือแบบนี้ได้อย่างไรกัน หนังสือที่มีแต่รูปผู้ชายโป๊เปลือย ต้นเป็นเกย์หรือ เขาไม่อยากจะเชื่อเลย ตลอดระยะเวลาที่คบกันมาเป็นสิบๆ ปี เขาไม่เคยรู้เลยว่าต้นเป็นเกย์ และเขาก็เกลียดคนพวกนี้มาก ภาพที่เขาถูกชายคนนั้นพยายามข่มขืนปรากฏชัดขึ้นในหัวของเขา ความหวาดกลัวและขยะแขยงครั้งนั้นฝังลึกเข้าไปในจิตใต้สำนึกของเขาจนยากที่จะถอนมันออกมาได้ง่ายๆ

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้” สนพึมพำพูดกับตัวเอง

สนเดินลงมาจากห้องของต้นแล้วเอาหนังสือมาให้นิกกั้นปั้นจั่น แต่มืออีกข้างหนึ่งของเขาไพล่หลังเอาไว้เหมือนถืออะไรซ่อนไว้อยู่ สีหน้าเขาดูเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนทั้งโกรธและผิดหวังปนกันอยู่บนใบหน้านั้น

“ต้น นายเป็นเกย์ใช่ไหม” สนตัดสินใจถาม ทุกคนต่างตกตะลึง โดยเฉพาะต้นที่หน้าซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด

“นายพูดอะไรน่ะสน” ต้นถามเสียงสั่น

“ตอบเรามาสิ ว่านายเป็นเกย์ใช่ไหม” สนถามเสียงดัง แล้วเขาก็เอาหนังสือเล่มนั้นที่ถือไว้ด้านหลังฟาดลงไปบนโต๊ะ

“แล้วนี่อะไรต้น นายมีหนังสือพวกนี้ได้ยังไง” สนคาดคั้นด้วยสีหน้าโกรธและผิดหวังที่เห็นได้ชัดเจนขึ้น

ต้นมองดูหนังสือเล่มนั้นแล้วก็ใจหายวาบ ในที่สุดความลับที่เขาปกปิดเอาไว้ก็ถูกเปิดเผยออกมาจนได้ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้อยากให้ใครรู้เลยโดยเฉพาะสนเพราะไม่มีความจำเป็นอะไรที่สนจะต้องรู้ นิกกับปั้นจั่นเองก็ดูจะตกตะลึงไม่แพ้กัน แม้ว่าจะรู้ว่าต้นเป็นเกย์มาตั้งนานแล้วแต่ก็ไม่เคยคิดที่จะบอกใครอีก และไม่คิดว่าพอสนรู้แล้วสนจะโกรธอะไรได้ขนาดนั้น

“นายเป็นเกย์ใช่ไหมต้น” สนถามย้ำ “นายไม่ได้คิดกับเราแค่เพื่อนด้วยใช่ไหม เราผิดหวังในตัวนายมากรู้ไหม” สนพูดกึ่งตะโกน ต้นลุกขึ้นแล้วรีบเดินมาจับแขนเพื่อนไว้

“สน เราขอโทษ นายฟังเราก่อนนะ” ต้นอ้อนวอน

ทันทีที่ต้นจับมือเขา ภาพในจิตใต้สำนึกนั้นปรากฏขึ้นอีกครั้ง ความรู้สึกเกลียดกลัวขยะแขยงเพิ่มทวีโดยอัตโนมัติ สนผลักเพื่อนออกไปอย่างแรงจนต้นล้มลงกับพื้น

“อย่ามาถูกตัวเรานะ” สนตวาด

“ไอ้สน มึงทำอะไรวะ” นิกกับปั้นจั่นร้องพร้อมกันเพราะคาดไม่ถึงว่าสนจะทำกับเพื่อนถึงขนาดนั้น

ต้นหัวใจสลายแล้ว เขามองหน้าเพื่อนอย่างไม่เชื่อสายตาและไม่เชื่อหูตัวเอง ไม่คิดว่าเพื่อนที่ต้นรักมาก ทุ่มเทความรักให้มาตลอดหลายปีที่ผ่านมาจะรังเกียจเขาได้ถึงเพียงนี้ น้ำตาต้นไหลรื้นเต็มใบหน้าเพราะสุดจะกลั้น

“นายรังเกียจเราขนาดนี้เลยหรือสน” ต้นพูดพร้อมสะอื้น สนเองก็ตกใจไม่น้อย พอรู้ตัวว่าทำอะไรลงไปก็สายเสียแล้ว

ต้นลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งขึ้นไปบนห้องทันที เขาทนไม่ได้ที่จะเห็นสายตาฉายแววรังเกียจจากคนที่เขารัก มันโหดร้ายทารุณเกินกว่าที่เขาจะอยู่ตรงนี้ต่อไปได้ ต้นปิดประตูล็อกห้องแล้วปล่อยโฮอย่างสุดกลั้น

“ไอ้สน มึงทำอะไรลงไปรู้ตัวไหม” ปั้นจั่นตะคอกใส่เขาอย่างเหลืออด

สนเดินหนีขึ้นไปบนบ้าน เสียงต้นร้องให้โฮๆ อยู่ในห้องดังจนได้ยินจากข้างนอก เขาไม่เคยเห็นต้นเสียใจและผิดหวังมากขนาดนี้เลย ต้นร้องให้เหมือนคนที่หมดสิ้นแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง ร้องให้เหมือนคนจะขาดใจ ร้องให้เหมือนคนที่ผิดหวังอย่างที่สุดในชีวิต แต่สนก็ไม่ได้ทำอะไร เขาเข้าไปในห้องของเขา เฝ้าถามตัวเองว่าเขาทำเกินไปหรือเปล่า สนเดินเอาหูไปแนบกับกำแพงห้อง เสียงต้นยังคงร้องให้ไม่หยุดเลย เขาทรุดนั่งลงกับพื้น ชันเข่าแล้วซบหน้าลงบนเข่าของตัวเอง อันที่จริงนั้นเขาก็เสียใจและผิดหวังไม่แพ้กันเลย

“ทำไมนายต้องเป็นแบบนี้ด้วยล่ะต้น” สนรำพันเบาๆ แล้วก็ร้องให้อยู่อย่างนั้นเป็นเวลานานทีเดียวจนผล็อยหลับไป แล้วก็สะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงคนมาเคาะประตูห้องดังสนั่น จริงๆ แล้วน่าจะเรียกว่าทุบมากกว่าเคาะ สนรีบเดินไปเปิดประตูทันที

“ไอ้สน มึงรู้ไหมว่าไอ้ต้นมันเป็นอะไร กูเคาะประตูห้องมันเท่าไหร่มันก็ไม่เปิด” นิกบอก สนรีบวิ่งมาที่ห้องต้นด้วยหน้าตาตื่นทันที เขาเคาะประตูห้องต้นอยู่หลายครั้งแต่ไม่มีเสียงตอบใดๆ จากข้างในห้อง

“ไอ้ต้นมันจะคิดสั้นหรือเปล่าวะ” ปั้นจั่นพูดพลางทำสีหน้าไม่ดี สนใจหายวูบ

“มึงพูดอะไรน่ะ” สนตะคอกเพื่อน

“เออ กูพูดไม่ดีหรอก แต่ใครล่ะที่ทำให้ต้นมันเป็นแบบนี้” ปั้นจั่นตะคอกกลับ แต่สนไม่ได้สนใจมากนัก เขาเป็นห่วงเพื่อนของเขามากกว่าในตอนนี้ เขาพยายามเคาะและเรียกต้นแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ เขาเริ่มกลัวอย่างที่ปั้นจั่นพูดเมื่อสักครู่นี้ ถ้าต้นคิดสั้นหรือเป็นอะไรไป เขาจะทำอย่างไรดี เขาจะไปบอกพ่อกับแม่ต้นรวมทั้งพ่อกับแม่ของเขาเองว่ายังไง

“โทรหาพี่พิมพ์เร็ว ขอกุญแจสำรองด่วน” นิกนึกได้ ปั้นจั่นรีบหยิบโทรศัพท์มือถือมาแล้วกดหาพี่พิมพ์เจ้าของบ้านทันที ราวๆ ครึ่งชั่วโมงพี่พิมพ์ก็มาถึงด้วยความร้อนรน เธอกำลังจะนอนพอดีแต่ก็ต้องมา สนรีบรับกุญแจมาแล้วไขเข้าไปในห้อง เขาหลับตาแล้วนับหนึ่งถึงสิบในใจ เขาไม่อยากลืมตาแล้วเห็นภาพที่เขาไม่อยากเห็นเลย ในขณะที่คนอื่นๆ กรูกันเข้าไปในห้องแต่สนกลับรู้สึกว่าเขาทำใจได้อย่างยากลำบากที่จะมองหาเพื่อนในห้อง เขากลัวเหลือเกินว่าเขาจะเห็นต้นเป็นอะไรอยู่ตรงไหนสักแห่งในห้องนี้ แต่เมื่อทุกคนหาจนทั่วก็ไม่มี

“ไปดูตรงหน้าต่างซิ ต้นกระโดดลงไปหรือเปล่า” นิกรีบวิ่งไปเปิดหน้าต่างดู ก้มมองลงไปข้างล่างแล้วก็ไม่มีอะไรอยู่ดี

“กระเป๋าเป้ไอ้ต้นมันหายไปว่ะ หนังสือเรียนมันก็เอาไปด้วย แสดงว่ามันออกไปจากห้องแล้วล่ะ” ปั้นจั่นบอกคนอื่นๆ

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ ทำไมต้นถึงหนีไปล่ะ” พี่พิมพ์ถามอย่างสงสัย ทุกคนหยุดมองหน้ากัน

“ทะเลาะกันนิดหน่อยครับ” สนบอกเบาๆ

“หน่อยกับผีอะไรล่ะ” ปั้นจั่นประชดด้วยความหมั่นไส้

“โทรหาต้นซิ” พี่พิมพ์เสนอ สนรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเพื่อนทันที แต่ก็โทรเท่าไรก็ไม่ติด

“สงสัยต้นจะปิดเครื่องครับ” สนบอก หรือว่าต้นจะกลับบ้านไป แต่ถ้าเขาจะโทรไปที่บ้านต้นเขาจะถามพ่อกับแม่ต้นว่าอย่างไรล่ะ ถ้าเกิดว่าต้นไม่ได้ไปที่นั่นแล้วพ่อแม่ต้นถามว่าต้นไปไหนหรือเกิดอะไรขึ้น เขาจะตอบพ่อกับแม่ของต้นว่าอย่างไร ถ้าโทรไปตอนนี้ก็จะยิ่งทำให้พ่อกับแม่ของต้นตกใจเข้าไปอีก

“ต้นมันจะกลับบ้านหรือเปล่าวะ สนมึงโทรไปถามที่บ้านมันซิ” นิกเสนอ แต่สนรู้ว่าต้นคงไม่ได้กลับไปบ้านอย่างแน่นอน เพราะต้นคงจะเสียใจมาก ตอนนี้ต้นไม่อยากเจอเขาแน่ๆ ถ้ากลับไปที่บ้านเขาก็ต้องตามไปหาเจออยู่ดี

“อย่าเลย เดี๋ยวพ่อกับแม่ต้นจะตกใจ ต้นไม่ได้กลับบ้านหรอก” สนบอก ทุกคนมองหน้ากันเหมือนสงสัยว่าสนรู้ได้อย่างไร

“มึงรู้ได้ยังไงวะ” นิกถามอย่างสงสัย

“กูเป็นเพื่อนต้นมาสิบเอ็ดปี ทำไมจะไม่รู้” สนตอบ

“เป็นเพื่อนกันแล้วก็ทำแบบนี้เนี่ยนะ” ปั้นจั่นประชดอีก สนเจ็บแปลบในหัวใจกับสิ่งที่ปั้นจั่นพูด พี่พิมพ์มองดูเด็กๆ แต่ละคนด้วยสีหน้างงๆ

เมื่อไม่รู้จะไปตามหาที่ไหน ไม่รู้ว่าต้นไปไหน ติดต่อต้นก็ไม่ได้ ก็คงทำอะไรไม่ได้มากกว่ารอ ก่อนจะกลับพี่พิมพ์กำชับว่าถ้าต้นกลับมาหรือติดต่อต้นได้แล้วให้โทรบอกแกด้วย ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปนอน สนกลับมาที่ห้อง เขาสังเกตเห็นว่าตรงใต้ประตูมีกระดาษแผ่นหนึ่งตกอยู่ จึงหยิบขึ้นมาอ่าน

“สน เรารู้ว่านายคงรังเกียจเรามากและคงรับไม่ได้ที่เราเป็นแบบนี้ เพื่อให้นายสบายใจ เราจะขอเป็นฝ่ายจากไปเอง นายไม่ต้องห่วงเรานะ โชคดีนะเพื่อนรักของเรา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เรารักและเป็นห่วงนายเสมอ”

สนอ่านแล้วก็น้ำตาร่วง “ใครบอกนายล่ะต้น ใครบอกนายว่าเรารังเกียจนาย” สนรำพันเบาๆ เขากำแผ่นกระดาษนั้นไว้แน่น

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.