We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: ต้นสน - Repost และตอนพิเศษ"
Posted by sarawatta on 28-Jun-11 at 00:36 AM
มาแล้วครับ ขออภัยด้วยที่ให้รอนานครับ ช่วงนี้คงจะเป็นอย่างนี้บ่อยหน่อยเพราะงานเยอะครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------


ตอนที่ 24: ในที่สุดก็ลืมไม่ได้

เมื่อต้นไม่อยู่แล้ว สนก็รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญของชีวิตขาดหายไป เขามักเหม่อลอยบ่อยๆ วันไหนโทรหาต้นไม่ได้เขาก็จะเกิดอาการวุ่นวายใจ บางทีก็นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร พาลไปจนถึงเบื่อหน่ายหน้าที่ยามค่ำคืนของการเป็นสามี ยิ่งนึกถึงสิ่งที่ต้นเพิ่งบอกเขาเมื่อไม่กี่วันนี้ก็ยิ่งทำให้สนเกิดความหวั่นใจโดยไม่รู้สาเหตุ ช่วงหลังๆ เขาเริ่มหงุดหงิดง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะกับภรรยาที่สนเองก็เริ่มมีปัญหามาระยะหนึ่งแล้ว วันนี้ก็เช่นกัน หลังจากสนไปรับภรรยาจากที่ทำงานมาที่ห้องพัก เขาก็วางของที่ภรรยาซื้อมาลงบนโต๊ะนั่งเล่น แล้วก็เดินมาหาภรรยาที่มาถึงก็นั่งดูทีวีโดยไม่สนใจอะไร

“นา...ทำไมนาซื้อของแพงๆ พวกนี้มาเยอะแยะเต็มไปหมดเลย พี่ว่าเราน่าจะประหยัดกันบ้างนะ ตอนนี้เรามีค่าใช้จ่ายตั้งหลายอย่าง”

นาหันขวับมามองสนทันทีด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจ แต่พอนึกได้ว่าไม่ควรทำท่าทางอย่างนั้นจึงเดินมาคลอเคลียสามีเพื่อเอาใจ “ก็เครื่องสำอางของนาจะหมดแล้วนี่คะ นาเป็นผู้หญิง นาก็อยากสวยอยากงามเป็นธรรมดา พี่ต้องเข้าใจนาด้วยสิ หรือพี่สนอยากให้เมียตัวเองไม่สวยล่ะ” นาทำเสียงอ้อนพลางคอยเหลือบตามองดูสามีเพื่อสังเกตปฏิกิริยาตอบสนอง

สนถอนหายใจแล้วแย้งว่า “พี่เข้าใจ แต่ของที่นาซื้อมันมีแต่ของแพงๆ ทั้งนั้นเลย” สนแย้ง

นามองค้อนสามีแล้วก็เถียงว่า “แต่มันก็เงินของนานะคะ นาไม่ได้เอาเงินของพี่สนซื้อซะหน่อย แล้วทีพี่สนส่งเงินไปให้พ่อกับแม่เดือนหนึ่งทีละตั้งหลายตังค์ นายังไม่เห็นว่าอะไรพี่สนสักคำนะคะ” นาเถียงพลางผละตัวออกจากสามีด้วยอาการไม่พอใจ

สนมองหน้าภรรยาและขมวดคิ้ว เขาเริ่มไม่พอใจที่ภรรยาของเขาก้าวก่ายไปถึงพ่อกับแม่ของเขาซึ่งไม่เกี่ยวอะไรด้วย

“นา...พ่อกับแม่ของพี่เหนื่อยยากขนาดไหนกว่าจะส่งเสียพี่เรียนจนจบ พี่ต้องตอบแทนบุญคุณของท่านให้อยู่สุขสบาย มันเป็นหน้าที่ของคนที่เป็นลูก นาต้องเข้าใจสิครับ” สนพยายามอธิบายอย่างใจเย็น

“นารู้ค่ะ แต่ทำไมต้องส่งให้เยอะขนาดนั้นล่ะคะ พ่อแม่อยู่บ้านไม่ได้ทำอะไร ทำไมจะต้องใช้เงินเยอะขนาดนั้นล่ะ” นายังไม่ยอมลดละ เพราะเธอรู้สึกไม่พอใจเรื่องนี้มาระยะเวลาหนึ่งแล้ว ถ้าวันนี้ไม่พูด วันหน้าก็ต้องพูด

“นา” สนเรียกภรรยาเสียงแข็งขึ้น ดูเหมือนนาจะคิดได้ว่าไม่ควรต่อล้อต่อเถียงเรื่องนี้ต่อไปเพราะเห็นว่าสนเริ่มแสดงท่าทางไม่พอใจมากขึ้นแล้ว

“เอาไว้คุยวันหลังแล้วกันนะคะ วันนี้นาเหนื่อย อยากจะอาบน้ำนอนละ” ว่าแล้วนาก็ผละไปทันที ทิ้งกองเครื่องสำอางที่เธอซื้อมาไว้บนโต๊ะให้สนจัดการเก็บเข้าที่ให้

สนได้แต่ถอนหายใจ เขาไม่รู้ว่าเขาตามใจภรรยาเขามากจนเกินไปหรือเปล่า ตั้งแต่เริ่มคบกัน เขาคอยเป็นสุภาพบุรุษและเอาอกเอาใจผู้หญิงคนนี้ทุกอย่าง หลังๆ นาเหมือนจะได้ใจเพราะเห็นว่าถึงเธอไม่ทำแต่สนก็ทำให้เสมอ เวลาที่มีปัญหากัน สนต้องการพูดให้จบและสะสางความเข้าใจให้เรียบร้อย เพราะเขารู้ว่าหากไม่เคลียร์ให้จบแล้วก็จะกลายเป็นปัญหาสะสมที่จะยากต่อการแก้ไขในภายหลัง แต่หลายครั้งเขาพบว่ายิ่งคุยก็ยิ่งไม่เข้าใจและทำให้ทะเลาะกันมากขึ้น เขาจึงต้องหยุดไปก่อน แต่สนก็เริ่มกลัวว่าถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ชีวิตแต่งงานของเขาจะต้องอยู่อย่างไม่เป็นสุขแน่ๆ เขารู้สึกว่าช่วงเวลาที่เป็นสุขที่สุดของการแต่งงานก็คือตอนที่นอนด้วยกันเท่านั้น ส่วนหนึ่งก็เป็นความต้องการตามธรรมชาติซึ่งเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ชั่วยาม พอหมดไปแล้วก็ยังต้องอยู่กับความกังวลใจและไม่เข้าใจกันต่อไป ทำไมไม่เหมือนเวลาที่เขาอยู่กับต้น ทำไมต้นเข้าใจและรู้ใจเขาทุกอย่าง พูดอะไรก็รู้เรื่อง เข้าใจกัน มิหนำซ้ำต้นยังคอยเสียสละและมีแต่ให้ ไม่เคยคิดจะเรียกร้องเอาอะไรจากเขาเลย คนที่รักกันจริงเขาต้องทำอย่างนี้ไม่ใช่หรือ แต่ทำไมภรรยาของเขาไม่เป็นแบบนั้นเลย สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนจะพิสูจน์คำถามที่ปั้นจั่นถามเขาว่าอยู่กับใครแล้วมีความสุขที่สุด ต้นเป็นคนที่เขาอยู่ด้วยแล้วมีความสุขและสบายใจอย่างที่สุด จะว่าเป็นเพราะเวลาก็ไม่น่าจะใช่ เขารู้สึกอย่างนั้นตั้งแต่วันแรกๆ ที่รู้จักกับต้นแล้ว เขาไม่มีข้าวกิน ต้นก็ยังอุตส่าห์แบ่งของตัวเองมาให้ เขาอยู่ในอันตรายต้นก็เสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยจนตัวเองบาดเจ็บ ทำไมต้นดีกับเขาได้ขนาดนั้นตั้งแต่วันแรกๆ จนถึงวันนี้ มันไม่ใช่เรื่องของเวลา แล้วมันเป็นเรื่องของอะไรล่ะ สนถามตัวเองในใจ เขาไม่เคยเอาต้นมาเปรียบเทียบกับภรรยาเขาเลยจนกระทั่งได้คุยกับปั้นจั่นเมื่อวันนั้น ยิ่งสนได้รู้จากปั้นจั่นว่าสิ่งที่ต้นต้องการจริงๆ จากเขาคืออะไร มันเป็นสิ่งที่ต้นไม่เคยพูดและไม่มีวันจะบอกเขาอย่างแน่นอน สนยิ่งรู้สึกชื่นชมและทึ่งในน้ำใจของเพื่อนที่ไม่เคยคิดจะเรียกร้องแม้ว่าตัวเองจะโหยหาและเจ็บปวดมากเพียงใด

สนถือโอกาสช่วงที่ภรรยากำลังอาบน้ำโทรศัพท์ไปหาต้น อีกไม่กี่วันต้นก็จะกลับแล้ว เขาอยากรู้ว่าต้นจะกลับวันไหนเพราะเขาอยากไปรับต้นด้วยตัวเองที่สนามบิน และก็ดูเหมือนวันนี้โชคจะเข้าข้างเขาเสียด้วยที่สามารถโทรศัพท์หาต้นได้

“ฮัลโหลต้น นอนหรือยัง” สนถามด้วยน้ำเสียงดีใจ

“เพิ่งสามทุ่มเอง ยังไม่นอนหรอก กำลังดูทีวีอยู่” ต้นตอบพลางขำ

แค่ได้ยินเสียงเพื่อน สนก็ยิ้มดีใจจนเก็บสีหน้าไม่อยู่แล้ว “นายรู้หรือยังว่าจะกลับเมื่อไร”

“วันอังคารหน้า ประมาณบ่ายสอง”

“เหรอ เดี๋ยวเราจะไปรับนายที่สนามบินเองนะ” สนบอกอย่างดีใจ

“ไม่เป็นไรหรอกสน เราไม่อยากรบกวนเวลาทำงานของนาย เรากลับเองได้” ต้นรีบบอก เขาไม่ได้คิดอะไรเลยในตอนนั้น แค่รู้สึกเกรงใจเพื่อน

แต่การปฏิเสธของต้นทำให้สนหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย “ไม่เป็นไรต้น เราลางานครึ่งบ่ายได้ ให้เราไปรับนายนะ ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ไม่ต้องกังวล” สนคะยั้นคะยอ เขารู้ว่าต้นเป็นคนขี้เกรงใจ แต่เขาก็เต็มใจและตั้งใจว่าจะทำอย่างนั้นอยู่แล้ว

ต้นเริ่มมีสีหน้าลำบากใจเพราะเขาเพิ่งตกลงกับพี่มั่นคงไว้ว่าจะให้พี่เขามาส่งเพราะไม่อยากรบกวนเวลาทำงานของสน “คือ...พอดี...เราว่าจะให้พี่มั่นมาส่งน่ะสน เราไม่อยากรบกวนเวลาทำงานนาย” ต้นบอกด้วยเสียงอ่อยเพราะกลัวว่าเพื่อนจะเสียน้ำใจ

"พี่มั่นเป็นใคร" สนถามด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปและห้วนขึ้น

"ก็...คนที่เราเคยบอกนายไงว่าเขา..." ต้นหยุดพูดไว้แค่นี้เพราะเขารู้สึกหวั่นใจที่จะพูดต่ออย่างบอกไม่ถูก

ได้ยินดังนั้นแล้วสนก็เริ่มเกิดอาการน้อยใจและไม่พอใจขึ้นมาทันที “ต้น นายรู้ไหมว่าทำไมเราถึงอยากไปรับนาย นายรู้ไหมว่าเราคิดถึงนายมากแค่ไหน เราตั้งใจไว้แล้ว ต่อให้ต้องลางานทั้งวันเราก็จะมารับนายให้ได้ เราให้ความสำคัญกับนายนะต้น นายเป็นเพื่อนเรานะ เรื่องแค่นี้ทำไมเราจะทำให้ไม่ได้ นายไม่เห็นความสำคัญของเราแล้วใช่ไหมต้น”

ต้นถอนหายใจอย่างหนักใจ ไม่คิดว่าสนจะเกิดอาการน้อยใจได้ถึงขนาดนี้ “ไม่ใช่อย่างนั้น แต่พอดีเราตกลงกับพี่เขาไว้แล้ว ถ้าเราเปลี่ยนทีหลังมันก็จะดูไม่ค่อยดี”

“โอเค...ไม่เป็นไร นายก็กลับกับเขาแล้วกัน แค่นี้นะ” สนพูดเสียงห้วงแล้วก็วางโทรศัพท์ไปทันทีโดยไม่ฟังเสียงร้องเรียกของต้น

ต้นได้แต่ยืนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเริ่มสับสนและลังเลว่าเขาทำถูกต้องหรือไม่ที่ปฏิเสธเพื่อนไปอย่างนั้น แต่เขาก็ตกลงกับพี่มั่นคงไปแล้ว แล้วเขาจะให้เขาทำอย่างไรล่ะ ดูท่าทางสนจะน้อยใจเขาอย่างมากเสียด้วยสิ ต้นไม่เคยเห็นสนน้อยใจเขาถึงขนาดนี้มาก่อนเลย

พอสนวางโทรศัพท์ไปแล้วเขาก็เดินมานั่งดูทีวีพร้อมกับสีหน้าเคร่งเครียด ดูทีวีไม่รู้เรื่องเพราะในหัวเฝ้าคิดน้อยใจเพื่อน ทำไมเขาต้องรู้สึกน้อยใจขนาดนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน พอภรรยาอาบน้ำเสร็จแล้วเขาจึงไปอาบน้ำบ้าง แล้วก็เข้านอนโดยไม่พูดไม่จากับภรรยาแม้แต่คำเดียว นาเห็นอย่างนั้นแล้วก็นึกว่าสามีโกรธตนเอง เธอจึงรีบปิดทีวีและตามเข้ามานอนด้วย พอนอนลงแล้วนาก็พยายามมาเคล้าเคลียสนซึ่งนอนหันหน้าไปอีกทางโดยหวังว่าจะทำให้สนอารมณ์ดีขึ้น แต่ก็ไม่เป็นอย่างที่เธอคิด

“นา วันนี้พี่เหนื่อย” สนบอกเสียงแข็ง แต่ดูเหมือนนาไม่สนใจสิ่งที่เขาบอกเท่าใดนัก ยังคงพยายามเคล้าเคลียเขาอยู่ จนสนเริ่มหงุดหงิดมากขึ้นจึงพูดกึ่งตวาดว่า “นา พี่บอกว่าวันนี้พี่เหนื่อยไง”

พอเจออาการแบบนี้เข้า นาก็หน้างอทันที “แล้วทำไมต้องตวาดนาด้วย บอกกันดีๆ ก็ได้นี่คะ”

สนรู้ว่าสงครามน้ำลายกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

“เป็นอะไรคะ เห็นทำท่าเหมือนคนเบื่อโลก ทำไมคะ อยู่กับนานี่มันน่าเบื่อมากหรือไง” นาเริ่มใส่อารมณ์บ้างเพราะเธอเองก็อดทนกับอาการแปลกๆ ของสามีมาหลายวันแล้ว แต่สนก็ไม่ยอมพูดอะไร ยังคงหันหน้าหนีไปอีกทางอยู่เช่นเดิม

“บอกมาสิคะ พี่สนเป็นอะไร นาชักจะไม่ไหวแล้วนะคะ ทำเหมือนคนไม่มีชีวิต ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ไม่รู้ว่าไม่พอใจอะไรกันนักกันหนา” แม้ว่าสามีจะเงียบและไม่พูดอะไรแต่นาก็ไม่ยอมลดละตามนิสัยไม่ยอมคนของเธอ

“ก็เบื่อที่นาเป็นแบบนี้แหละ คุยอะไรก็ไม่เคยรู้เรื่องกันเลย” สนว่ากลับไปในที่สุดอย่างอดรนทนไม่ได้ เขารู้ว่าถ้าอยู่ตรงนี้ต่อไปภรรยาเขาคงหาเรื่องทะเลาะไม่เลิก สนจึงลุกขึ้น เปิดไฟแล้วก็หยิบเสื้อผ้าที่จะใส่ไปข้างนอกมาใส่ นารีบลุกตามมาทันที เธอมองสามีด้วยสายตาสงสัยอย่างสุดขีดแล้วถามว่า

“นี่พี่สนจะไปไหน ดึกแล้วนะคะ”

“พี่ไม่รู้ แต่พี่เบื่อที่จะทะเลาะกัน” สนหันมาบอก แล้วเขาก็เดินออกไปจากห้องนอน หยิบกุญแจรถแล้วก็ออกไปจากห้องโดยไม่ฟังเสียงร้องเรียกจากภรรยา

“โอ๊ย เป็นอะไรของเขาเนี่ย” นาพูดอย่างหงุดหงิด มองตามสามีด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างยิ่งแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอทำอะไรผิดหรือว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่นาก็สังเกตได้ว่าตั้งแต่ที่เพื่อนรักของสามีไปทำงานต่างประเทศ สนก็มีอาการแปลกๆ แบบนี้มาตลอด

สนเดินลงมาที่ลานจอดรถ เขารู้สึกเครียดและหงุดหงิดเหลือเกินในช่วงนี้ เขาก็ไม่รู้หรอกว่าจะไปไหน ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นก็คงจะไปเที่ยวผับบาร์หรือกินเหล้าเมายา แต่สนไม่ทำแบบนั้นเพราะรู้ว่าต้นไม่ชอบ เขาให้ความสำคัญกับความหวังดีของเพื่อนเสมอมา หรือว่าวันนี้เขาควรจะทำอย่างนั้นเสียแล้ว เขาต้องการที่พึ่งทางใจอย่างยิ่งในขณะนี้ แต่เขาก็ไม่รู้จะไปหาใคร สนเปิดประตูรถเข้าไปนั่งข้างใน ในระหว่างที่กำลังครุ่นคิดตัดสินใจอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ต้นโทรมานั่นเอง แต่สนก็ปล่อยให้เสียงโทรศัพท์ดังอยู่อย่างนั้นจนมันเงียบเสียงลงไป สักพักต้นก็โทรมาอีก สนเริ่มลังเลเพราะยังคงน้อยใจเพื่อนอยู่ แต่คิดไปคิดมาก็สงสัยเพราะปกติต้นไม่เคยโทรหาเขาในเวลาดึกดื่นขนาดนี้ถ้าหากไม่มีเรื่องจำเป็น หรือว่าจะมีอะไรหรือเปล่า คิดได้อย่างนั้นแล้วสนก็รีบรับโทรศัพท์ทันทีก่อนที่มันจะหยุดไปอีก

“ฮัลโหล” สนทักก่อนด้วยน้ำเสียงเฉยชาจนต้นรู้สึกได้

“สน...เราขอโทษนะ นายมารับเราได้ไหม เราอยากให้นายมารับเรา” ต้นรีบบอกสิ่งที่เขาได้ตัดสินใจแล้วทันทีหลังจากที่นอนคิดไปคิดมาอยู่นาน
ได้ยินเสียงเพื่อนแล้วน้ำตาของสนก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้เขาสับสนและเหนื่อยหน่ายกับชีวิตเหลือเกิน เขากำลังต้องการใครสักคนที่เขาพอจะยึดเหนี่ยวได้บ้าง แล้วต้นก็โทรมาหาเขาในตอนนี้พอดี

เมื่อเห็นเพื่อนยังเงียบอยู่ต้นก็รีบพูดอธิบายว่า “เรายกเลิกพี่เขาไปแล้วนะสน เรามาคิดๆ ดูแล้ว...คนที่เราควรจะให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือนาย เราขอโทษที่เราหักหาญน้ำใจของนาย อย่าโกรธเรานะสน”

“ต้น...” สนร้องเรียกเพื่อนแล้วก็เริ่มสะอื้น เขาอัดอั้นตันใจมาหลายวันแล้ว ช่วงนี้เขาหดหู่กับชีวิตมากเหลือเกินโดยที่เขาก็ไม่รู้เลยว่าเขาเป็นอะไร นอกจากคิดถึงเพื่อนแล้วเขาก็ไม่รู้ว่ามีอะไรมากกว่านี้อีกหรือเปล่าที่ทำให้เขาต้องเป็นถึงขนาดนี้

“สน นายเป็นอะไร นายร้องให้ทำไม” ต้นร้องถามด้วยน้ำเสียงตกใจ เกิดอะไรขึ้นหรือถึงทำให้สนเสียใจถึงขนาดนั้น

“นายรู้ไหมต้น ตั้งแต่นายไม่อยู่ ไม่มีใครเลยที่เราจะพึ่งพาได้ ชีวิตเราไม่เคยมีความสุขเลย” สนเริ่มระบายสิ่งที่อัดอั้นตันใจ “เรารู้นะว่านายตั้งใจที่จะไปเพราะเราเป็นสาเหตุ แต่นายรู้ไหมว่าชีวิตเราเป็นยังไง นายลองกลับมาดูสิต้นแล้วนายจะเห็น นายอย่าใจร้ายกับเราแบบนี้ได้ไหม เราเคยบอกนายแล้วว่าชีวิตนี้เราอยู่ไม่ได้หรอกถ้าไม่มีนาย เราก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่ตอนนี้เรากำลังรู้สึกแย่ ไม่ต่างจากตอนที่นายหายไปจากบ้านพักตอนสมัยเรียนเลย รู้ไหมต้น”

“สน...” ต้นรู้สึกใจหายวาบ สนเป็นอะไรถึงมีความรู้สึกแย่ถึงขนาดนั้น เขามีภรรยาและครอบครัวอยู่แล้ว ทำไมสนยังบอกว่าชีวิตไม่มีความสุข ไม่รู้จะพึ่งพาใคร แต่อีกด้านหนึ่ง ต้นก็รู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจทำแบบนั้นไป ต้นทำอย่างนั้นด้วยเหตุผลอย่างที่สนบอกจริงๆ ถ้าต้นไปหาเพื่อนได้ตอนนี้เขาจะรีบไปทันทีเลย “เดี๋ยวเราก็กลับไปแล้วสน เราก็คิดถึงนายมากเหมือนกันนะ นายรู้ไหมว่าถึงเราจะพยายามแค่ไหน แต่ความรู้สึกที่เรามีให้นายก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง” แล้วต้นก็เริ่มร้องให้บ้าง จึงกลายเป็นว่าต่างคนก็ต่างระบาย “เราก็รู้สึกไม่ต่างจากนายหรอกสน ชีวิตเราก็ไม่มีความสุข เราอยากกลับไปหานาย ได้เห็นนาย ได้ทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้นายบ้าง ถึงจะเจ็บแค่ไหน...ก็ยังดีกว่าที่จะต้องเป็นแบบนี้” พูดมาถึงตรงนี้แล้วต้นก็ปล่อยโฮ “เรารักนายนะสน...รักมาก...ผูกพันมาก ไม่มีใครอีกแล้วในโลกนี้ที่เราจะรู้สึกแบบนี้ด้วย เราขอโทษ...ไม่ว่าจะทำยังไงเราก็ทำใจไม่ได้ เราเลิกรักนายแบบนั้นไม่ได้เลย ให้เราตายเสียดีกว่า”

สนได้แต่ตะลึงงันกับสิ่งที่ได้ยิน จากที่รู้สึกอ่อนแอเมื่อสักครู่นี้ เขาก็เริ่มตระหนักแก่ใจว่าต้นก็ยังคงเป็นคนที่เจ็บและทนทุกข์ทรมานมากกว่าเขาอยู่ดี สนจึงคิดว่าเขาไม่ควรจะอ่อนแอเพราะนั่นหมายความว่าเขาจะเป็นคนเห็นแก่ตัวที่คิดถึงตัวเองมากจนเกินไป “ต้น เราไม่เคยรังเกียจความรักของนายนะ เราดีใจและเข้าใจเสมอไม่ว่านายจะรักเราแบบไหน เราเสียอีกที่ต้องขอโทษนายเพราะเราไม่เคยตอบแทนความรักแบบนั้นให้นายได้เลย”

“เรารู้ แต่เราก็ไม่อยากให้นายเป็นห่วง ไม่อยากให้นายกังวลกับชีวิตของเรา แต่ตอนนี้เราคิดว่าขอให้เราได้กลับไปเจอนายก็พอ เราไม่อยากจากนายไปไหนนานๆ อีกแล้วสน เราก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน”

ต่างคนต่างเงียบไปและอยู่ในความคิดคำนึงของตนเอง จนเสียงสะอื้นหายไปแล้วทั้งสองคน

“เดี๋ยวเราไปรับนายนะ เราจะให้เวลานายทั้งวันเลย เราจะไปนอนเป็นเพื่อนนาย จะทำอะไรอร่อยๆ ให้นายกินด้วย ดีไหม” สนเปลี่ยนเรื่องพูด ดูเหมือนตอนนี้อารมณ์และน้ำเสียงของเขาดีขึ้นมาก

ต้นรู้ว่าไม่ใช่เวลาที่จะมาเกรงใจให้เพื่อนเสียน้ำใจอีก จึงตอบตกลงทันที “โอเค”

รอยยิ้มของทั้งสองหนุ่มที่เป็นเพื่อนรักกันกลับมาแล้ว ต้นเป็นคนเดียวในโลกนี้จริงๆ ที่พออธิบายแล้วสนสามารถรับฟังและเข้าใจได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ความน้อยอกน้อยใจเมื่อสักครู่นี้จึงหายไปหมดสิ้น

“คืนนี้เราขอคุยกับนายหน่อยนะ ไม่ได้คุยกับนายนานๆ มาหลายวันแล้ว เดี๋ยวเราจ่ายค่าโทรศัพท์ให้ก็ได้” สนสัพยอกพลางขำ ต้นก็พลอยขำไปด้วย

“โอเค แล้วนาเขาไม่ว่าเอาเหรอที่นายลุกขึ้นมาคุยโทรศัพท์ดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้”

พอถามถึงภรรยา สนก็อึ้งไปสักพัก “ไม่หรอก อย่ามัวแต่ห่วงคนอื่นเลย เราอยากคุยกับนายแค่สองคนมากกว่า” สนตัดบทไป ถึงต้นจะไม่รู้ว่าทำไมสนถึงพูดเช่นนั้น แต่เขาก็ไม่คิดจะซักถามมากไปกว่านี้ให้เสียบรรยากาศ

สนลุกออกมาจากรถ ตัดสินใจเดินกลับขึ้นไปบนห้องพร้อมกับคุยโทรศัพท์ไปด้วย นานอนหลับไปแล้ว เขาจึงเดินไปนั่งคุยโทรศัพท์กับต้นตรงระเบียงห้องข้างนอกอย่างมีความสุข คุยไป ยิ้มไป หัวเราะไป จากประสบการณ์ในครั้งนี้ เขาตระหนักดีแก่ใจแล้วว่าชีวิตของเขาขาดต้นไม่ได้ ไม่ใช่คำพูดที่พูดเพื่อให้ฟังดูดี แต่มันเกิดขึ้นกับสนมาแล้วถึงสองครั้ง เขาจะต้องรู้สึกอย่างนี้ในอนาคตอีกหรือ ถ้าเขาไม่อยากให้เป็นอย่างนี้อีก เขาก็น่าจะต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.