We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: หนีออกจากบ้าน"
Posted by อิ๊ก on 01-Feb-12 at 12:38 PM

หนทาง

ผมเริ่มรู้สึกหิว ก่อนออกจากบ้านผมยังไม่ได้กินข้าว ในกระเป๋าสตางค์ผมมีแบงค์ยี่สิบอยู่แค่ใบเดียวและผมใช้มันจ่ายค่ารถประจำทางไปส่วนหนึ่งแล้ว และผมไม่มีบัตรเอทีเอ็ม

ผมลุกขึ้นและเดินเตร่ไปตามถนนสีลม หยิบเศษเงินติดตัวสิบกว่าบาทออกมาซื้อลูกชิ้นปิ้งกินประทังความหิว ผมจำไม่ได้ว่าวันนั้นเป็นวันธรรมดาหรือเป็นวันหยุดแต่ผู้คนเยอะแยะมากมาย แม้จะไม่เคยมาเที่ยว แต่ก็เคยได้ยินกิตติศัพท์ของสถานที่แห่งนี้มาไม่น้อย ผมเดินเข้าไปในซอยซอยหนึ่งที่มีแสงไฟสวยงาม ร้านต่างๆ เปิดเพลงในจังหวะมันส์ๆ แข่งกันเสียงดัง มีพนักงานชายยืนอยู่หน้าร้านคอยเชื้อเชิญคนที่เดินผ่านไปมาให้เข้าไปเที่ยวข้างใน ทุกคนที่ผมเดินผ่านต่างมองผมแต่ไม่มีใครเชิญผมเลย

ผมพยายามมองเข้าไปในแต่ละร้านที่ต่างก็เปิดประตูไว้ หวังว่าจะเห็นคนแก้ผ้าหรือร่วมรักกันอย่างที่เคยได้ยินมา ผมเห็นเวทีกลางร้าน เห็นเสาสเตนเลส และเห็นนักแสดงหญิงชายอยู่บนนั้น แต่ทุกคนใส่เสื้อผ้าดีเป็นปกติจึงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

กว่าจะเดินจนสุดซอย ท้องผมก็ร้องอย่างหนัก ลูกชิ้นสองไม้มันหายไปไหนหมดแล้ว ด้วยความหิวสาหัส สมองผมจึงวิ่งวุ่นหาทาง ทำอย่างไรจึงจะได้กิน ผมปลดนาฬิกาออกจากข้อมือด้วยว่าเป็นสิ่งมีค่าสิ่งเดียวที่ผมนึกได้ เนื่องจากผมพูดภาษาอังกฤษพอได้ และนาฬิกาเรือนนี้ก็เป็นของฝากจากสวิสฯ ที่คนไทยคงไม่รู้จัก ผมจึงมองหาฝรั่งที่ดูมีอายุสักหน่อยเพื่อจะเสนอขายนาฬิกาให้ ผมเดินไปตามถนนสีลม ผ่านลูกค้าเป้าหมายไปหลายคน แต่ก็ยังไม่กล้าจะเอ่ยปาก สุดท้ายผมเห็นลุงฝรั่งท่าทางใจดีคนหนึ่งจึงรวบรวมความกล้าและยื่นนาฬิกาให้กับเขา

“Are you interested in this watch, sir? Only 2000 baht” ผมไม่รู้หรอกว่ามันราคาเท่าไหร่ แต่ผมคิดว่าสองพันน่าจะถูกสุดๆ แล้ว ผมจำไม่ได้ว่าฝรั่งคนนั้นสูงเท่าไร แต่ผมในตอนนั้นน่าจะสูงประมาณ 170 ซม. ได้ แต่ภาพที่เหลืออยู่ในความทรงจำในปัจจุบันนี้นั้น ผมตัวเท่ามด แหงนคอตั้งมองหน้าฝรั่งตัวเท่าช้าง

ลุงฝรั่งจับไหล่ผมทั้งสองข้างแล้วยิ้มอย่างใจดี แล้วส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนดันผมไปทางด้านข้างให้พ้นทาง ไม่ได้พูดอะไรสักคำ แค่นั้นก็มากพอแล้วสำหรับผม ผมรู้สึกด้อยค่าและอับอาย ตัวเล็กจ้อยลงเรื่อยๆ จนเหลือเพียงฝุ่นผงละมัง

ผมคงยืนงงอยู่ตรงนั้นพักหนึ่งจนได้ยินหนุ่มเจ้าของร้านไฟแช็กข้างทางคุยกับใครสักคนว่า

“วันนี้มีเด็กใหม่ว่ะ”

เมื่อผมหันไปมองหน้าเขา เขากำลังมองผมอยู่ ดวงตามีแววเย้ยหยันอยู่ในที ในตอนนี้เมื่อนึกย้อนกลับไป เขาคงจะไม่ได้พูดถึงผมหรอก แต่ในเวลานั้น ขณะที่อยู่ผิดที่ผิดทาง ผมรู้สึกว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาและเป็นหัวข้อสนทนาของทุกคนรอบๆ ตัว ผมผูกนาฬิกาไว้อย่างเดิมแล้วรีบเดินออกจากถนนสีลมและข้ามฝั่งกลับไปหน้าสวนลุมฯ จากนั้นออกเดิน เดิน และเดิน เพราะผมไม่มีเงินติดตัวแล้ว

ผมเคยไปเดินทางไกลที่เขาใหญ่สมัยเรียนลูกเสือชั้นม.3 และผมชอบมาก และด้วยว่าผมไม่เคยอยู่นอกบ้านในเวลานี้มาก่อนผมจึงรู้สึกสนุกเล็กๆ ที่จะเดินไปตามถนนทั้งที่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ผมจำได้ว่าผมเดินไปถึง MBK จากนั้นเดินต่อไปถึงหน้าโรงเรียนของผมที่อยู่ไกลออกไป เมื่อเดินไปถึงถนนสายเล็กด้านหลังโรงเรียนผมก็เห็นสาวประเภทสองคนหนึ่งยืนโก้งโค้งเลิกกระโปรงขึ้นมาจนเห็นเนื้อบั้นท้ายและมีหนุ่มใช้แรงงานอายุรุ่นสิบปลายๆ ถึงยี่สิบต้นๆ ยืนประกบอยู่ทางด้านหลัง ทั้งคู่ต่างผละออกจากกันเมื่อผมเดินผ่านไปอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ผมไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร แต่สาวคนนั้นคงจำผมได้ เพราะเขาพูดขึ้นมาว่า

“เด็กโรงเรียนนี้นี่”

แม้เมื่อผมหันกลับไปมอง ผมก็ยังจำหน้าหล่อนไม่ได้และผมยังคงนึกไม่ออกจนทุกวันนี้

หลังจากนั้นผมเดินกลับไปที่สวนลุมฯ อีก

ท้องฟ้าเริ่มสว่างแล้วและสวนเปิดอีกครั้ง มีคนเข้าไปออกกำลังกายหลายคนโดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผมเห็นก๊อกน้ำดื่มจึงรีบตรงไปกดน้ำกินด้วยความกระหาย จากนั้นเมื่อเห็นโต๊ะม้าหินว่างอยู่ชุดหนึ่งผมจึงไปนั่งฟุบในลักษณะคว่ำหน้าและหลับไป

ผมน่าจะหลับไปประมาณสามชั่วโมงได้ แดดเริ่มส่องร้อนและแขนผมชาทั้งสองข้าง แต่ที่ทำให้ผมตื่นจริงๆ เพราะเสียงอากง อาม่าที่มานั่งคุยกันที่โต๊ะตัวนั้นด้วยเสียงดังโฉ่งฉ่าง ไม่ได้มีความเกรงใจกันเลย ผมลุกหนีและไปล้างหน้าล้างตา หลังจากนั้นก็ออกมาเดินเล่นชมสวนยามสายๆ ผมยังไม่ได้กินอะไรเลย แต่ท้องผมก็ไม่ได้โวยวายอะไรนัก แค่คอยประท้วงอยู่อย่างเงียบๆ

ขณะกำลังเดินอยู่ที่ถนนทางเดิน ใกล้ๆ กับกลุ่มไทเก๊ก ผมก็ได้ยินเสียงหนึ่งเอ่ยทักทายผม

“หวัดดีครับน้อง มาออกกำลังเหรอ”

ผู้พูดเป็นชายวัยกลางๆ ผมไม่แน่ใจว่าเขาอายุเท่าไหร่ ตาเขสองข้างทำให้ผมลังเลอยู่พักหนึ่งว่าจะมองตาข้างไหนของเขาดี ด้วยอะไรไม่รู้ แต่ผมรู้สึกดีใจและอุ่นใจที่มีคนเอ่ยทักผม ผมหยุดเดินและเอ่ยตอบ

“มาเดินเล่นครับ พี่ล่ะ”

“นั่งก่อนครับ นั่งก่อน” ชายคนนั้นนั่งอยู่ที่ม้านั่ง เมื่อเห็นผมหยุดคุย เขาก็ขยับที่ให้ผมนั่งลงข้างเขา

“แต่งตัวหล่อเชียว เป็นคนที่ไหนครับนี่” เขาถามผม

“คนกรุงเทพฯ ครับ” ผมค่อนข้างงง เพราะไม่เคยมีใครถามผมแบบนี้ “พี่ล่ะครับ”

“เป็นคนน่าน เข้ามาหางานทำเนี่ย ไม่มีงานเลย” จากนั้นเขาชวนผมคุยสัพเพเหระหลายๆ เรื่อง ถามผมว่าเรียนที่ไหน บ้านอยู่แถวไหน พ่อแม่ทำอะไร ผมตอบเขาจริงบ้าง เท็จบ้างเพราะไม่อยากให้เขารู้จักผม แต่ก็ยังคุยกับเขาเพราะรู้สึกดีที่มีคนคุยด้วยหลังจากคืนที่ยาวนานและเหนื่อยล้า แล้วเขาก็บอกว่า

“พูดกันตรงๆ เลยนะ พี่น่ะ ชอบน้อง อัธยาศัยดี พี่รู้สึกถูกชะตา แต่พี่ไม่ได้กินข้าวมาสองวันแล้ว น้องพอมีเงินให้พี่ยืมไหม” ผมรู้สึกเห็นใจเขา ถ้าผมมีเงินบ้างก็คงจะให้ แต่ผมมีเศษเงินติดตัวไม่ถึงห้าบาทเท่านั้น ผมควักมันออกมา

“ผมมีเท่านี้เองครับ” เขามองที่มือ แล้วมองหน้าผม ผมหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาแล้วเปิดให้เขาดู “ผมไม่มีตังค์เหมือนกัน ผมก็ไม่ได้กินอะไรทั้งคืนเลย” ชายคนนั้นมองหน้าแล้วยิ้มให้ผม

“ไม่เป็นไรน้อง มีแค่นี้ก็เก็บไว้เถอะ” ผมอ้อยอิ่งอยู่พักก่อนเก็บเงินเข้ากระเป๋าเช่นเดิม ผมเห็นเขาเริ่มสอดส่ายสายตาไปรอบๆ จึงรู้ว่าบทสนทนาของเราคงจะจบแค่นั้นแล้ว

“งั้นผมไปก่อนนะครับ” ผมรีบตัดบทจากมา เขายิ้มให้ผมอีก

“ครับ โชคดีนะ ถ้าเจอกันก็ทักได้นะ” เขาเอ่ยตอบ

ผมเดินไปจนเจอห้องสมุดเด็ก ผมกำลังเหงื่อโทรมเพราะอากาศร้อนและแดดที่แรงจัดจึงรีบเข้าไปเอาไอเย็นจากแอร์ ในห้องสมุด มีเด็กอีกคนรุ่นใกล้ๆ กับผมกำลังนอนอ่านหนังสืออ่านเล่นอยู่ ผมหยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาอ่าน แต่ผมคงจะไม่ได้อ่านจริงๆ หรอก เพราะผมจำไม่ได้เลยว่าคือหนังสืออะไร ผมคงคิดแค่ว่าทำอย่างไรผมถึงจะอิ่ม

ผมจำไม่ได้แล้วว่าเวลาผ่านไปเร็วหรือช้าแค่ไหน แต่ในที่สุดฟ้าก็มืดอีกครั้ง และผมเดินออกมาจากสวน ผมมานั่งที่อนุสาวรีย์เช่นเดิม ท้องร้องดังลั่น ข้างในท้องมีแต่น้ำที่ผมดื่มประทังหิวมาตลอดทั้งวัน ผมไม่รู้ว่าที่บ้านกำลังตามหาผมอยู่รึเปล่า ผมไม่ได้สนใจ

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.