We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: รักที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต"
Posted by sarawatta on 28-Mar-12 at 10:16 PM
ตอนที่ 21

เช้าวันใหม่แล้ว ทิวตื่นขึ้นแต่เช้ามืดเป็นคนแรกเพราะต้องเตรียมตัวไปทำงานให้ทันตอนเจ็ดโมงเช้า แต่พอนึกได้ว่ามีใครบางคนนอนอยู่ข้างๆ ทิวก็หันไปมองดูบูมที่นอนหลับไหลอย่างเป็นสุข มือข้างหนึ่งของบูมพาดทับอยู่บนตัวเขา ทิวค่อยๆ ดึงมือข้างนั้นมาแนบแก้มของตัวเอง น้ำตาแห่งความดีใจมันจะไหลออกมาอีกแล้ว ชีวิตที่เคยอ้างว้างเดียวดายของทิวได้หมดไปเมื่อมีบูมอยู่ข้างๆ มันทำให้เขามีกำลังใจที่จะต่อสู้ชีวิตต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ

ทิวค่อยๆ วางมือของบูมลงและค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างเงียบๆ เพื่อไม่ให้บูมตื่น แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเพราะบูมเริ่มรู้สึกตัวและลืมตาขึ้น เขาถามทิวด้วยอาการงัวเงียว่า "ทิวจะไปไหนครับ"

วิธีเรียกของบูมทำให้ทิวต้องมองด้วยความสงสัย ทำไมบูมถึงพูด "ครับ" กับเขา

"ไปอาบน้ำ เราต้องไปทำงานแต่เช้า"

"เดี๋ยวก่อนสิ เดี๋ยวค่อยไปก็ได้ นี่ยังเช้ามืดอยู่เลยนะ กี่โมงแล้วเนี่ย" แล้วบูมก็หันไปดูนาฬิกาที่หัวเตียง "ตีห้าครึ่งเอง ทำไมต้องรีบไปล่ะ"

"เราต้องเข้างานเจ็ดโมงเช้า" ทิวบอกพลางแอบขำที่บูมทำงัวเงียเหมือนเด็ก

บูมลุกขึ้นนั่งแล้วก็สวมกอดทิวไว้เบาๆ จากข้างหลัง "อยู่กับเราก่อนนะ ตั้งสี่ปีกว่ากว่าจะได้มาเจอกัน เราคิดถึงนายมากรู้หรือเปล่า"

ทิวได้แต่ยิ้มแต่ไม่ตอบอะไร

"ทิว..." บูมเรียกเสียงเบา

"หืม"

"เมื่อคืน... นายมีความสุขหรือเปล่า"

เจอคำถามนี้เข้าไปทิวก็เลยก้มหน้าด้วยความเขินอาย

"ว่าไงล่ะทิว ชอบหรือเปล่า" บูมถามย้ำเหมือนกับจะต้องได้คำตอบนี้ให้ได้

ทิวพยักหน้าด้วยความเขินอาย

"จริงเหรอ..." บูมยิ้มดีใจ "เราดีใจที่นายมีความสุขนะ" แล้วบูมก็กระชับอ้อมแขนเพื่อให้ทิวเข้ามาแนบชิดกับตัวเขามากขึ้น "ทิว... แล้วนาย... อยากมีความสุขแบบเมื่อคืนอีกไหม" พูดไม่พูดเปล่า มือของบูมก็เริ่มอยู่ไม่สุข

"บูม... เดี๋ยวนี้นาย..." จะบอกว่าไงดีล่ะ บ้ากามหรือหื่นดี แล้วมันจะแรงไปไหม

"เฉพาะกับนายเท่านั้นแหละ" บูมเหมือนจะเดาได้ว่าทิวจะว่าเขาว่าอะไร "ก็ใครใช้ให้นายน่ารักแบบนี้ล่ะ นะทิวนะ นะๆๆๆ"

ทิวหัวเราะขบขันกับการอ้อนเหมือนเด็กของเพื่อน แต่มันก็ทำให้หัวใจที่เคยแห้งผากของเขาชุ่มชื้นพองโตขึ้นมากทีเดียว ทิวยังไม่ตอบ แต่หมุนตัวแล้วหันหน้าไปหาบูม ก่อนจะพูดว่า "เรื่องอะไร"

แล้วทิวก็ทำท่าจะลุกหนี แต่ไม่มีทางเสียละ บูมคว้าตัวทิวไว้แล้วก็เล่นกอดปล้ำกันไปมาอย่างสนุกสนาน "จะหนีไปไหน"

เสียงหัวเราะหยอกล้อค่อยๆ เงียบลงเมื่อบูมขึ้นมาทาบทับอยู่บนตัวทิว "เราไม่ได้เป็นคนหื่นนะทิว แต่พออยู่ใกล้ๆ กับนายแล้วเราอดใจไม่ไหว เราอยากจะปลอบให้นายหายเศร้า เราอยากจะทำให้นายมีความสุข"

แต่พอเห็นทิวทำเป็นเงียบๆ บูมก็เริ่มน้อยใจ "แต่ถ้านายไม่ชอบก็ไม่เป็นไร" พูดจบแล้วเขาก็หันตัวออกไปนอนบนหมอนของตัวเอง

"ได้ไงล่ะ มาทำให้เราตื่นแบบนี้แล้วต้องรับผิดชอบสิ"

บูมได้ยินทิวพูดแบบนั้นแล้วก็หัวเราะชอบใจเสียงดัง เขาหันมามองหน้าทิว จากหน้าที่ยิ้มๆ ก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นซึ้งๆ "เรารักนายนะทิว ต่อไปนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้นายจำไว้นะว่าเรา...รักนาย"

ทิวพยักหน้ารับคำแล้วก็ยิ้ม สรุปว่า ตอนเช้านี้ทิวก็ถูกพายุความต้องการทั้งของบูมและของเขาเองพัดโหมกระหน่ำไปอีกรอบ เล่นเอาแทบจะไม่มีแรงไปทำงานเลย

ใครอาจจะหาว่าบูมเป็นคนบ้ากาม แต่บูมไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก ที่เขาเลือกที่จะมีสัมพันธ์ทางกายกับทิวนั้นเพราะเขาต้องการที่จะผูดมัดตัวเองไว้ให้แน่นขึ้น ความสัมพันธ์ทางใจอย่างเดียวอาจไม่ทำให้สายใยแห่งความรักนั้นเหนียวแน่นมากพอ โดยเฉพาะเมื่อจะต้องเผชิญกับอุปสรรคในวันข้างหน้าที่เขาเองก็คาดเดาอะไรไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

บูมคิดว่าเขาตัดสินใจไม่ผิด หลังจากที่ความสัมพันธ์ทางกายเกิดขึ้น ทำให้เขารู้สึกหวงแหนและอยากปกป้องคนที่เขามีความสัมพันธ์ด้วย ความรู้สึกโหยหา คิดถึง อยากอยู่ใกล้ อยากสัมผัสก็มีมากขึ้น นั่นอาจเป็นเพราะความรู้สึกของการเป็นเจ้าของทั้งใจและกายได้เกิดขึ้นตามกลไกธรรมชาติเมื่อมีความสัมพันธ์ทางกายนั่นเอง

ก่อนออกจากบ้าน พอบูมเห็นทิวใส่ชุดพนักงานร้านสะดวกซื้อ เขาก็อดที่จะน้ำตาไหลด้วยความสงสารทิวไม่ได้ เขายังไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับทิวบ้าง แต่บูมก็พอเดาได้ว่าชีวิตของทิวคงลำบากมาก เห็นแล้วก็ยังอดที่จะตำหนิตัวเองไม่ได้ว่าเขาไม่ควรหนีหายไปแบบนั้นเลย ถ้าเขายังอยู่ ทิวก็อาจจะไม่ลำบากถึงขนาดนี้

บูมขับรถมาส่งทิวที่หน้าสะดวกซื้อหน้าปากซอย พี่พงษ์ดูจะแปลกใจมากทีเดียวที่เห็นทิวมาทำงานด้วยรถยนต์ยี่ห้อหรูราคาแพงแบบนั้น

"ตอนเย็นเรามารับนะ" บูมบอก ทิวพยักหน้าและยิ้มให้ แล้วบูมก็ค่อยๆ ขับรถออกไป

----------------------------------------------------------------------

ตอนเย็นๆ บูมก็มารับทิวที่ร้านตรงเวลาเป๊ะ วันนี้บูมขอให้ทิวยกเลิกไปเล่นดนตรีก่อนเพราะเขาอยากจะฟังเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงสี่ปีกว่าๆ ที่ผ่านมาของทิว รวมทั้งเรื่องราวบางอย่างที่ทิวอาจไม่รู้ และเป็นต้นเหตุให้เขาต้องไปจากทิวทั้งที่ยังรักกัน

หลังจากกินข้าวที่ซื้อมาจากข้างนอกแล้ว บูมกับทิวก็มานั่งคุยกันตรงที่นั่งเล่นหน้าบ้าน ทิวเห็นบูมปิดโทรศัพท์ เขาก็เลยปิดโทรศัพท์บ้าง การคุยกันครั้งนี้คงยาวนานและบูมไม่ต้องการให้ใครรบกวน

"ทิว... เล่าให้เราฟังเท่าที่นายจะเล่าให้เราฟังได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นายอย่าหยุด เราจะฟังจนกว่านายจะเล่าจบ หลังจากนั้น เราจะเล่าอะไรบางอย่างให้นายฟัง ตกลงไหม"

ทิวพยักหน้าเห็นด้วย "ได้"

"พร้อมหรือยัง"

ทิวพยักหน้าแล้วก็เริ่มเล่า "วันสุดท้ายที่โรงเรียน เราพยายามมองหานาย แต่ก็ไม่เจอ ตอนนั้นเราน้อยใจมากว่าทำไมนายถึงไม่อยากเขียนอะไรให้เราบ้าง เราเจอต้อง ต้องมาบอกว่านายกำลังจะกลับบ้าน เราก็รีบวิ่งไปหานาย แต่ก็ไม่ทัน เราเห็นรถเก๋งของแม่นายวิ่งออกไปแล้ว เราก็วิ่งตาม แต่..." ทิวหยุดพูดด้วยความสะเทือนใจ แต่เมื่อตกลงกับบูมไว้แล้วว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องเล่าต่อให้จบ ทิวก็ต้องเล่าต่อ

ฟากของบูมนั้น เขาก็รู้สึกสะเทือนใจไม่ต่างกัน น้ำตาเริ่มไหลลงมาโดยไม่รู้ตัว แต่พอรู้ตัวแล้ว เขาก็ปล่อยให้มันไหลอยู่อย่างนั้น ไม่คิดจะทำอะไรกับมัน

"ช่วงปีแรก เรา...เสียใจมาก แต่ก็พยายามคิดว่า นายคงมีเหตุผลบางอย่างที่เราอาจจะไม่รู้ และก็อาจจะสำคัญมากจนทำให้นายต้องจากไปแบบนั้น แต่เราก็ไม่รู้ว่ามันคือเหตุผลอะไร บางครั้งเราก็สงสัยว่าเราทำอะไรผิดหรือเปล่า และที่สงสัยมากก็คือ ทำไมนายไม่เคยติดต่อเรามาเลย นายลืมเราไปหรือเปล่า บางครั้งก็สงสัยว่านายเคยคิดถึงเราบ้างไหม มันทรมานมาก พอแม่เห็นเรากินไม่ได้นอนไม่หลับ บางครั้งก็ร้องไห้ แม่ก็เลยถาม เราก็เลยต้องเล่าให้แม่ฟัง พอแม่ฟังจบก็ถามเราว่า เราเป็นเกย์หรือเปล่า เราก็ตอบว่าใช่ แต่แม่... ก็ไม่ได้รังเกียจเรา แม่รับได้ จนกระทั่งเราเรียนมหาลัยปีสอง เราก็เริ่มทำใจได้มากขึ้น อาจจะเป็นเพราะเราต้องเรียนหนัก ก็เลยไปใช้เวลากับการเรียน แต่ก็ไม่ได้ลืมนะ เพื่อนเก่าๆ ของเราอย่างไอ้ต้อง ไอ้ปุ้ยก็เคยมาถามเราว่าได้เจอกับนายหรือได้ข่าวคราวของนายบ้างไหม เราก็ตอบว่าไม่เคยเลย เหมือนพวกนั้นก็ไม่ค่อยพอใจนายอยู่เหมือนกัน"

"แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น แม่ของเรา...หัวใจวายเฉียบพลันเพราะความเครียด แล้วแม่ก็จากไป ตอนนั้นต้องมาอยู่เป็นเพื่อนเราอยู่หลายวันเพราะเขากลัวว่าเราจะคิดสั้น ชีวิตตอนนั้นเราแย่มาก เราแทบไม่อยากจะมีชีวิตอยู่เลย" ทิวหยุดอีกครั้งเพราะพูดถึงแม่ทีไรเขาก็อดจะสะท้อนใจไม่ได้ "เราเพิ่งมารู้ตอนหลังว่า... ที่แม่เครียดเป็นเพราะว่า แม่ต้องคอยหาเงินมาใช้หนี้ เพราะแม่ไปกู้เงินนอกระบบมาให้เราเรียนหนังสือ แต่หลังจากแม่เราเสียไปแล้ว เจ้าหนี้ของแม่ก็มาหาเรา แล้วบอกให้เราหาเงินที่เหลือมาใช้หนี้ที่แม่กู้มาสามแสนกว่าบาท รวมดอกเบี้ยแล้วก็เกือบสี่แสน ตอนแรก เราต้องขายรถของแม่ ได้เงินมาประมาณแสนหนึ่งเราก็ให้เขาไป แต่หลังจากนั้นเขาก็บอกว่าให้หาเงินมาจ่ายให้เขาเดือนละหนึ่งหมื่นบาททุกเดือนตามข้อตกลงในสัญญา เราก็เลยต้องออกจากมหาลัยมาทำงานใช้หนี้"

พอทิวพูดมาถึงตรงนี้บูมก็กำมือแน่นพร้อมกับสะอื้น เขามองดูทิวด้วยสายตาเจ็บปวด มิน่าล่ะ ทิวถึงต้องมาทำงานแบบนี้ ทิวสบตากับบูมเหมือนจะถามว่าไหวไหม บูมพยักหน้าเป็นสัญญาณให้ทิวเล่าต่อไป

"เราไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่ได้เพราะเราเรียนไม่จบ โชคดีที่เพื่อนที่มหาลัยพาไปฝากงานที่ร้านอาหารที่หนึ่ง เราก็เลยหันมายึดอาชีพร้องเพลงในร้านอาหาร ก็ทำอยู่หลายที่ บางคืนก็ทำสองที่ แต่มากกว่านั้นก็ไม่ไหวเพราะบางที่ก็อยู่ไกลกัน เราไม่มีรถขับไปเอง ต้องใช้แท็กซี่ ขึ้นรถเมล์ก็กลัวจะไปไม่ทัน บางวันก็กลับดึกมาก ก็ได้เงินมาพอใช้หนี้และใช้ส่วนตัวบ้าง แต่ก็ไม่มีเหลือเก็บเลย ตอนกลางวันเราก็ฝึกเล่นกีตาร์ที่บ้านเพิ่มเติม บางร้านเราก็ทั้งร้องทั้งเล่นเอง แต่บางร้านเราก็ไปร้องอย่างเดียว แล้วเราก็ได้รู้จักกับคุณเชน ลูกชายเจ้าของร้านอาหารที่หนึ่งที่เราไปร้องเพลง คุณเชนมาชอบเรา ตอนนั้นเราอ่อนไหวมาก พอมีคนมาทำดีด้วยเราก็เผลอใจ แต่เราไม่ได้รักเขาหรอก เราแค่อยากมีใครสักคนบ้างเพราะตอนนั้นเราไม่มีใครเลย แม่ก็ไม่อยู่ ตอนนั้นก็เหลือต้องเพียงคนเดียวที่ยังคบเป็นเพื่อนกัน แต่ต้องก็ไม่ได้มาหาเราบ่อยๆ แต่ท้ายที่สุด เราก็เลิกคบกับคุณเชนไปเพราะมารู้ทีหลังว่าเขาเป็นพวก...ซาดิสม์ แล้วเราก็เลิกไปร้องเพลงที่ร้านนั้นด้วย"

"แต่พอเลิกแล้วเราก็ได้รายได้น้อยลง แทบไม่พอใช้หนี้และไม่พอกิน ตอนแรกเราก็ยืมต้อง แต่เดือนต่อมามันก็ไม่พอใช้อีก เราไม่รู้จะทำยังไง พอดีมีเพื่อนที่รู้จักคนหนึ่ง เขารู้จักพี่เจ้าของบาร์เกย์ ตอนแรกเราก็ไม่คิดจะทำแบบนี้หรอก แต่ตอนนั้น เราไม่มีทางเลือก เราก็เลยต้องไป" ทิวสะอื้นด้วยความสะเทือนใจเมื่อพูดถึงตรงนี้

บูมก็สะเทือนใจไม่แพ้กัน ดูเขาตกใจมาก ไม่คิดว่าชะตาชีวิตของทิวจะเข้าตาจนถึงขนาดนั้น ถ้าเขาอยู่ ทิวคงไม่ต้องทำแบบนี้ เขาเกลียดตัวเองเหลือเกินที่ทิ้งทิวไปในเวลานั้น เขาทำไปได้ยังไง

"วันแรกที่เราไปทำงานนี้ ก็ไม่ค่อยมีใครสนใจเท่าไรเพราะเรายังหน้าใหม่ จนเริ่มดึก เราก็ได้แขกคนหนึ่ง เราก็ออกไปกับเขา แต่พอเขาจะทำอะไรเราจริงๆ เราก็รับไม่ได้ ก็เลยบอกให้เขาหยุด ตอนแรกเขาไม่ยอมเพราะจ่ายเงินแล้ว แต่เราก็ไหว้อ้อนวอนเขาว่าอย่าทำอะไรเราเลย แล้วก็เอาเงินในกระเป๋าที่เรามีสองพันให้เขาไป เราไม่รู้ว่าพอหรือเปล่า แต่เขาก็ยอม ตอนนั้นเราก็กลับมาบ้าน มีเงินเหลือติดตัวแค่สองร้อย วันนั้นเรารู้สึกสภาพจิตใจย่ำแย่มาก จนเราคิดจะฆ่าตัวตาย จริงๆ เรากำลังจะกินน้ำยาล้างห้องน้ำฆ่าตัวตายแล้วล่ะ แต่เราได้ยินเสียงโทรศัพท์ เราสงสัยว่าใครโทรมาก็เลยลงมารับ แต่ก็ไม่มีเสียงคนพูด เราคิดว่าเป็นนายโทรมา ก็เลยถามว่า ใช่บูมหรือเปล่า แต่ก็ไม่มีเสียงตอบ แต่มันก็ทำให้เราเลิกคิดฆ่าตัวตาย เรารู้ว่าเป็นนาย แค่เรารู้ว่านายยังนึกถึงเราอยู่ เราก็มีความหวัง เราก็เลยคิดในใจว่า ต่อให้ลำบากอีกสักแค่ไหน เราก็จะยอมลำบากทุกอย่าง ขอให้เราได้เจอนายอีกครั้ง"

ถึงตรงนี้บูมก็สะอื้นด้วยความสะเทือนใจ "ทิว...เราขอโทษ" บูมพูดด้วยเสียงเบาหวิว เขาจำได้ว่าเขาโทรมาเพราะรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี เขานึกขอบคุณที่อะไรบางอย่างดลใจให้เขาโทรมา ไม่อย่างนั้นแล้ว เขาก็อาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าทิวอีกเลย

"แต่ตอนนั้นเราก็ลำบากมากจริงๆ เพราะหลังจากจ่ายค่ารถไป เราก็มีเงินเหลือแค่ไม่กี่บาท ตอนเช้าวันนั้นพี่บีมมาหาเรา เราเดาเอาว่านายคงบอกให้พี่บีมมา พี่บีมบอกว่านายยังคิดถึงเราอยู่ นายไม่ลืมเรา เราดีใจมากที่ได้รู้อย่างนั้น มันทำให้เรามีกำลังใจที่จะอยู่ต่อไป พอพี่บีมไป เราก็ไปขอให้พี่ๆ วินมอไซค์ช่วยให้เราได้ขับวินมอร์ไซค์ในซอยเพื่อหารายได้เสริม เราก็ทำอยู่พักหนึ่ง ก็ได้รู้จักกับพี่พงษ์ที่เป็นผู้จัดการที่เซเว่น พี่พงษ์ชวนเรามาทำงานที่นี่ เราก็เลยมา ก็ช่วยเราได้เยอะ เพราะทำให้เรามีรายได้หลัก แล้วก็ร้องเพลงเป็นรายได้เสริม จนกระทั่ง วันนั้นเราก็ได้เจอกับนายโดยบังเอิญ..." พูดมาถึงตรงนี้แล้วทิวก็รู้สึกสะดุดใจ เขาลืมไปเสียสนิทเลยว่าบูมมีแฟนแล้วนี่นา...

"แล้วทำไมนายต้องขายบ้านล่ะทิว" บูมถือโอกาสถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเรื่องมาถึงปัจจุบันแล้ว เขารู้ว่าทิวน่าจะนึกได้แล้วเรื่องที่เขามีแฟน แต่เขาจะยังไม่พูดเรื่องนี้ตอนนี้

"ก็... เจ้าหนี้ของเรา เขาจะขอให้เราจ่ายเงินที่เหลืออีกเจ็ดหมื่นบาท เพราะเขาต้องใช้ด่วนภายในสิ้นเดือนนี้ แต่เราไม่มีให้ เราก็เลยจะขายบ้าน คงพอมีเงินเหลือบ้าง เราก็ว่าจะไปซื้อคอนโดอยู่"

"โธ่ทิว" บูมพูดด้วยความสะเทือนใจ เขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาหาทิว ทิวเหมือนจะรู้ว่าบูมต้องการอะไร เขาจึงลุกขึ้นแล้วบูมก็กอดเขาไว้

"เราขอโทษ... เราขอโทษจริงๆ ทิว เรามันขี้ขลาด เรามันเห็นแก่ตัว ปล่อยให้นายลำบากอยู่คนเดียว เราเสียใจที่เราไม่ได้มาอยู่กับนายตอนที่นายต้องการใครสักคน ทั้งๆ ที่นายก็ดีกับเรามาก นายเป็นเพื่อนคนแรกที่ดีกับเรามาก เราตกบันไดเจ็บขานายก็มาช่วยทั้งๆ ที่เราก็ทำไม่ดีกับนาย เราอยากเข้าชมรมดนตรีนายก็มาสอนร้องเพลงให้ จนเราได้เป็นนักร้องนำของวง นายดีกับเรามากขนาดนั้น แต่เรากลับทิ้งนายไป เราเกลียดตัวเองเหลือเกินทิว เราเกลียดตัวเอง... เราเกลียดตัวเองที่ขี้ขลาดแบบนั้น" บูมร้องไห้ฟูมฟาย

"ช่างมันเถอะบูม มันผ่านไปแล้ว แต่เราเชื่อว่านายมีเหตุผลบางอย่าง นายเล่าให้เราฟังได้ไหม"

บูมค่อยๆ ปล่อยเพื่อนแล้วพยักหน้าตกลง เขากลับไปนั่งที่เดิม สงบสติอารมณ์สักพักก็เริ่มเล่าบ้าง "เรื่องมันเกิดในวันเกิดของเราเอง ที่เราเชิญเพื่อนๆ มางานวันเกิดของเราที่บ้าน ตอนก่อนจะกลับ เราตั้งใจไว้แล้วว่าเราจะบอกนายว่าเราคิดยังไงกับนาย แต่แม่ก็มาเรียกเราเสียก่อน พอทุกคนกลับไป เราก็ถูกแม่เรียกขึ้นไปถามว่า... เรากับนายสนิทกันมากแค่ไหน เราก็ตอบไปว่าสนิทกันมาก แต่แล้วแม่ก็ขอให้เราเลิกคบกับนายอย่างเด็ดขาด เพราะแม่ไปรู้มาว่า...นายเป็นเกย์ เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแม่รู้ได้ยังไง วันต่อมา... ถ้านายจำได้เราก็บอกนายว่า เราเลิกคบกันเถอะ เราเสียใจมากนะทิว แต่เราก็ขี้ขลาดเกินไป เรามัวแต่กลัวจนลืมไปว่าเราควรทำอะไรบางอย่าง วันสุดท้ายที่โรงเรียน ตอนแรกเรายอมรับว่าเราหลบหน้านายเพราะเราละอายใจตัวเอง แต่พอรู้ว่าจะต้องจากไปเราก็วิ่งตามหานาย เราเจอต้อง เราบอกให้ต้องช่วยตามหา แต่แม่ก็มาเสียก่อน เราก็เลยต้องไป"

"ถามว่าเราเสียใจไหม เราก็บอกได้เลยว่าเราเสียใจมาก เราแทบจะไม่เป็นผู้เป็นคนเลยในปีแรกๆ ที่ไปเรียนที่อเมริกา ผลการเรียนก็ย่ำแย่มาก ก็ใช้เวลาเป็นปีกว่าจะผ่านมาได้ แต่เราอยากติดต่อนายนะทิว แต่เราก็ละอายใจจริงๆ ที่เราเป็นคนขี้ขลาด เราคิดว่าเราไม่คู่ควรกับนาย นายควรจะได้เจอคนอื่นๆ ทีดีกว่าเรา พอคิดแบบนั้น มันทำให้เราไม่กล้าติดต่อมาหานาย แม้กระทั่งเวลาที่เรากลับบ้าน เราก็ไม่ได้มาหาหรือโทรมา แต่ถามว่าคิดถึงไหม ก็คิดถึงมาก เราไม่เคยลืมนายเลย แต่... ชีวิตของเราก็ไม่มีอะไรมาก พออยู่ที่นั่นเราก็มีอิสระมากขึ้น หลังๆ พ่อแม่ก็เริ่มเข้มงวดกับเราน้อยลง แต่เรื่อง...ผู้หญิงคนนั้นที่นายได้เจอเขาแล้วที่เซเว่น เขาเป็นลูกสาวของเพื่อนพ่อ อายุเท่ากับเรา ไปเรียนเมืองนอกพร้อมๆ กับเรา เรียนที่เดียวกัน พ่ออยากให้เราเป็นแฟนกันก็เลย...ทำให้เรากับแพรวคบกันมาจนถึงทุกวันนี้ เราหมั้นกันแล้ว แล้วครอบครัวของเราก็อยากให้เราแต่งงานกันภายในปีสองปีนี้"

บูมสบตากับทิว เห็นสายตาที่มีคำถามของทิวแล้วบูมก็พูดอะไรไม่ออก จุดเริ่มต้นของความยุ่งยากคงจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ เขาจะดึงให้ทิวต้องมาเจ็บช้ำและเสียใจอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่เขาตัดสินใจกลับมาหาทิวและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งแบบนี้

"แล้วนาย...รักเขาหรือเปล่าล่ะ" ทิวถามเสียงเบาพลางมองหน้าบูมด้วยความสงสัยและไม่แน่ใจระคนกัน มันเจ็บไม่ใช่เล่นเลยที่ได้รู้ว่าเขามีความสัมพันธ์กับคนที่มีเจ้าของแล้ว

แล้วบูมจะตอบคำถามนั้นของทิวยังไงล่ะทีนี้???

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.