We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: รักที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต"
Posted by sarawatta on 06-Mar-12 at 09:05 PM
อิๆ ลืมไปครับว่าปกติผมต้องมีรูปด้วย คราวนี้มาพร้อมรูปด้วยครับ
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ตอนที่ 5

"เฮ้ย พวกมึงเห็นบูมปะวะ" นี่คือคำถามแรกที่ทิวทักเพื่อนเมื่อมาถึงโรงเรียนในตอนเช้า

"จะเกินไปแล้วโว้ย ตั้งแต่สนิทกับไอ้บูม ลืมพวกกูไปเลยนะมึง ถามหาแต่ไอ้บูม" เอกทำเสียงประชด

"ลืมห่าอะไรล่ะ พูดดีๆ นะมึง เดี๋ยวบ้องให้ มึงไม่เห็นหรือไงว่ามันขาเจ็บอยู่ ก็ต้องช่วยดูแลมันหน่อย"

"ไม่ต้องไปดูแลมันแล้ว วันนี้มันไม่ได้ใช้ไม้คำยัน โน่น เดินไปหลังโรงเรียนคนเดียว ไม่รู้ไปทำอะไร" ปุ้ยว่าพลางชี้บอก

ทิวมองตาม "เออ ขอบใจนะเว้ย เดี๋ยวมา" พูดจบทิวก็จะวิ่งไป แต่ปุ้ยเรียกไว้ก่อน "เดี๋ยว...อย่าเพิ่งไป"

ทิวเบรกแทบไม่ทันพลางหันมามองอย่างสงสัย "มีอะไรวะ"

"ช่วยดูๆ มันหน่อยละกัน กูว่ามันเป็นเด็กมีปัญหาว่ะ พวกกูเคยพยายามคุยกับมันแล้ว มันไม่ค่อยพูดเท่าไร แต่ดูเหมือนมันจะชอบคุยกับมึงมากกว่า บอกมันด้วย ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอก"

ทิวยิ้มให้ปุ้ยด้วยความตื้นตันใจ ถึงมันจะห่ามๆ และกวนๆ (มากถึงมากที่สุด) ไปบ้าง แต่มันก็เป็นคนมีน้ำใจและคิดดีกับเพื่อนเสมอ แม้กระทั่งกับเพื่อนที่มันไม่ค่อยสนิทด้วยก็ตาม "เออ ไม่ต้องห่วง ไหนๆ บูมก็จะมาเป็นเพื่อนกับเราอีกอย่างน้อยสามปีอยู่แล้ว เราก็ต้องคอยดูมันเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ นั่นแหละ" ต้องบอกว่าวันนี้ทิวกับเพื่อนแปลกไปจริงๆ ที่คุยเรื่องมีสาระได้ด้วย ปกติมีแต่คุยเรื่องสนุกสนาน

ทิวยิ้มกับเพื่อนๆ อีกครั้งแล้วก็วิ่งมาตึกด้านหลังโรงเรียน สอดส่ายสายตาหาบูม แต่ก็ไม่เจอว่าอยู่ตรงไหน บูมมาทำอะไรที่หลังโรงเรียนนะ ปกติมักจะเห็นอ่านหนังสือเรียนอยู่ตามโต๊ะม้าหินอ่อนด้านหน้าหรือไม่ก็บนห้อง มองไปมองมา ทิวก็ได้ยินเสียงเหมือนคนร้องเพลงมาจากที่ไหนสักแห่ง พอตามเสียงไปเรื่อยๆ ก็เห็นบูมแอบร้องเพลงอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งพร้อมกับถือกระดาษแผ่นหนึ่งด้วย ทิวเข้าใจว่าน่าจะเป็นเนื้อเพลงที่เขาพิมพ์ให้เมื่อวาน ดูท่าทางบูมมีความสุขทีเดียว

ทิวไม่เข้าไปทักเพื่อนในทันที แต่แอบมองและยิ้มด้วยความชื่นชมในความพยายามของเพื่อน ไม่เสียแรงที่เขาอุตส่าห์ลงทุนสอนด้วยตัวเอง นี่ถ้าเป็นคนอื่น เขาต้องคอยตามคอยจี้กว่าจะร้องแต่ละเพลงให้ได้อย่างใจ แต่กับบูม เขาเพิ่งสอนไปแค่วันเดียวเองกลับได้เห็นความตั้งใจจริงตั้งแต่วันแรกเลย พอบูมร้องเพลงจบ ทิวก็ปรบมือให้

"เฮ้ย มาตั้งแต่เมื่อไร" บูมหันมามองด้วยความตกใจและมีท่าทางอายๆ

"ก็มาทันฟังนายร้องท่อนฮุกแล้วก็ท่อนจบเมื่อกี้นั่นแหละ ใช้ได้เลยทีเดียวนะ นี่ขนาดไม่ค่อยได้ร้องเพลงนะเนี่ย" ทิวชมพลางเดินเข้าไปใกล้

"จริงเหรอ" บูมยิ้มอย่างไม่ค่อยมั่นใจ "เราคิดว่าเราต้องหาเวลาซ้อมบ้าง แค่ซ้อมกับนายอย่างเดียวคงไม่พอหรอก แต่ว่าเราซ้อมที่บ้านไม่ได้ ก็เลยว่าจะซ้อมตอนเช้าๆ ที่โรงเรียนด้วย"

ทิวรับฟังแล้วพยักหน้าเข้าใจ จริงๆ ร้องเพลงตอนเช้าอาจไม่ค่อยดีเท่าไรเพราะช่วงนี้เสียงจะยังมาไม่เต็มที่ แต่ถ้าบูมไม่สะดวกเวลาอื่นตอนเช้าก็คงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เอาไว้ให้สนิทกันมากกว่านี้เขาจะลองคุยเรื่องที่บ้านของบูมดูบ้างเผื่อจะช่วยอะไรได้ "แบบนี้คนสอนก็ปลื้มแย่เลยที่คนถูกสอนตั้งใจขนาดนี้ ตั้งแต่สอนร้องเพลงให้พวกสมาชิกในชมรมดนตรีมา เพิ่งเห็นนายนี่แหละที่ตั้งใจซ้อมจริงๆ" ทิวชมจากใจจริง

บูมยิ้มอีก เขาเริ่มยิ้มได้มากขึ้นในช่วงนี้ ตั้งแต่ที่เริ่มมีทิวเข้ามาเป็นเพื่อน "นายว่าเราจะเข้าเป็นสมาชิกในชมรมดนตรีได้ไหม" บูมถามด้วยสีหน้าไม่แน่ใจ

ทิวพยักหน้า

"แล้วนายคิดว่า....เสียงอย่างเรา...จะได้มีโอกาสขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีไหม"

ทิวพยักหน้าอีก "ได้สิ...เราจะพาให้นายไปถึงวันนั้นให้ได้ ถ้านายไม่ท้อเสียก่อน ไม่ต้องห่วง เห็นนายตั้งใจแบบนี้เราก็เต็มที่อยู่แล้ว"

ไม่รู้ว่าทิวตามฝาดหรือเปล่า นอกจากเขาจะเห็นบูมยิ้มดีใจและมีความหวังแล้ว เขายังเห็นหยดน้ำตาที่มันค่อยๆ ไหลลงมาจากจากตาของบูมด้วย พอเพ่งดูดีๆ ทิวก็พบว่าเขาไม่ได้ตาฝาดจริงๆ ด้วย ทำไมบูมจึงน้ำตาไหลแบบนั้น "นายเป็นไรหรือเปล่าบูม" ทิวถามด้วยความเป็นห่วง

"เปล่าหรอก เราแค่ดีใจ...ที่เรา...เพิ่งเคยมีเพื่อนดีๆ แบบนี้" พูดจบบูมก็ดึงเพื่อนเข้าไปกอด ทิวทำให้เขาได้รู้ตัวว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขามันช่างอ้างว้างเดียวดายเหลือเกิน เขารู้สึกเหงา ขาดที่พึ่งทางใจ ขาดความอบอุ่นแม้ว่าครอบครัวเขาจะมีครบพร้อมทุกอย่าง ขาดคนที่จะรับฟังและช่วยเขาอย่างจริงใจ

ทิวออกจะงงๆ นิดๆ แต่เขาก็กอดตอบและตบหลังเพื่อนเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ "ไม่ต้องห่วงนะบูม นายเป็นเพื่อนของพวกเราแล้ว นายมีอะไรไม่สบายใจก็บอกพวกเราได้ อย่างน้อยนายก็จะต้องอยู่กับพวกเราอีกตั้งสามปี พวกเรายินดีช่วยเพื่อนของพวกเราทุกคน"

บูมปล่อยเพื่อนออกจากอ้อมแขนแล้วก็ยิ้ม เขาไม่ร้องให้แล้วล่ะ ปกติเขาไม่เคยร้องให้เลย ไม่ว่าจะโดนกดดันหรือบีบคั้นมากแค่ไหน เขาเก็บกดไว้มากจนคิดว่าในไม่ช้ามันก็คงต้องระเบิดออกมา เหมือนอย่างในวันนี้ที่เขาเพิ่งรู้ว่าเขาเก็บกดความเหงาและอ้างว้างไว้ในใจของเขามากมายเพียงใด "ขอบใจมาก" บูมสูดหายใจยาวแล้วพูดต่อว่า "เมื่อเช้าเราแวะซื้อขนมปังร้านโปรดมาฝากพวกนายด้วย เรายังไม่ให้พวกนั้นกินเพราะว่านายยังไม่มา เดี๋ยวเราไปเอามาแบ่งเพื่อนๆ กินกันนะ"

ทิวพยักหน้า "นายไม่ใช้ไม้ค้ำแล้วเหรอ เดินไหวหรือเปล่า" ทิวถามพลางก้มมองดูที่ขาของเพื่อนที่ยังมีผ้าพันแผลแปะอยู่ตรงหัวเข่าที่ถลอกเป็นแผล

"ไม่เป็นไรแล้วล่ะ เราไปหาหมอมาเมื่อวาน สงสัยยาที่ให้มากินคงดีด้วยมั้ง ก็เลยหายไว" บูมพูดแล้วก็เริ่มออกเดิน จริงๆ โรงพยาบาลที่เขาไปมาเมื่อวานนั้นก็เป็นโรงพยาบาลเอกชนอย่างดีที่พ่อกับแม่เขาไปใช้บริการเป็นประจำ ด้วยกำลังเงินและฐานะของครอบครัวเขา พ่อกับแม่จะสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดให้เขาเสมอไม่ว่าจะใช้เงินมากขนาดไหนก็ตาม แต่ที่เห็นเขาใช้โทรศัพท์เชยๆ นั้นเป็นเพราะพ่อกับแม่เกรงว่าโทรศัพท์ดีๆ หรูๆ ที่มันทำได้หลายอย่างนั้นจะทำให้เขาเสียคน เขาก็อยากได้เหมือนกันตามประสาวัยรุ่น แต่ก็เถียงพ่อกับแม่ไม่ได้

---------------------------------------------------

บูมกับทิวช่วยกันถือขนมปังจากร้านมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งลงมาจากห้องเรียน แล้วเอามาแบ่งเพื่อนๆ ที่มานั่งแซวสาวๆ ที่เดินผ่านไปผ่านมาอยู่บริเวณทางเข้าหน้าโรงเรียน พวกเพื่อนๆ ดีใจกันใหญ่ที่อยู่ดีๆ ก็มีลาภปากตั้งแต่เช้า

"โห จากร้านนี้เลยเหรอ อยากกินมานานแล้ว แต่ไม่มีปัญญาซื้อ" หม่าวดูจะตาโตดีใจกว่าเพื่อนๆ

"เขาระดับไหนแล้วมึง ไม่เห็นเหรอว่าพ่อกับแม่มันขับรถเบ็นซ์มาส่งทุกวัน เขาก็ต้องกินของมีระดับสมฐานะเขาหน่อยสิ" เอกว่าพลางกินอย่างเอร็ดอร่อย

"กูว่ามันเป็นขนมปังที่อร่อยที่สุดเท่าที่กูเคยกินมาเลยว่ะ" ช้างเป็นปลื้มด้วยคน เจ้าหมอนี่ตอนแรกๆ มันไม่ได้ชื่อช้างหรอก แต่ด้วยความที่มันกินเยอะจนอ้วน หลังๆ เพื่อนๆ ก็เลยเรียกมันไอ้ช้าง แต่ด้วยความที่มันชอบเดินเขกหัวเพื่อนเวลาอยู่ในห้องเรียน เพื่อนๆ ก็เลยเรียกมันว่าไอ้ช้างเกเรไปด้วย

"บูมไม่กินเหรอ" ทิวหันไปถามบูมที่ยืนยิ้มอย่างปลาบปลื้มใจที่เห็นเพื่อนๆ ชอบขนมที่เขาซื้อมาฝาก

"กินแล้ว ตามสบายเลย ซื้อมาฝากพวกนายนั่นแหละ"

----------------------------------------------------------------

ตั้งแต่ทิวเริ่มเป็นเพื่อนกับบูม บูมก็ดูจะทำตัวเป็นเพื่อนกับคนอื่นๆ ได้ง่ายขึ้นไปด้วย แต่อย่างไรก็ตาม บูมก็ชอบไปไหนมาไหนกับทิวมากกว่าใคร กลายเป็นคู่หูดูโอ้คู่ใหม่ของโรงเรียนไปเลย และแน่นอน ตอนเที่ยงหลังกินข้าวทุกๆ วัน ทิวก็จะช่วยบูมสอนร้องเพลงเสมอ ยกเว้นวันไหนที่มีธุระอย่างอื่นจริงๆ

ผ่านการฝึกซ้อมไป 1 เดือนเศษๆ ทิวก็ทำให้บูมต้องประหลาดใจสุดๆ เพราะแทนที่จะพาบูมมานั่งฝึกร้องเพลงอย่างเคย ทิวกลับพาเขาไปห้องซ้อมวงดนตรีของชมรมแทน

พอเปิดประตูเข้าไปทิวก็รีบขอโทษขอโพยนักดนตรีที่กำลังรออยู่ยกใหญ่ "มาแล้วๆๆ ขอโทษจริงๆ ครับที่มาช้า"

"เออๆ ไม่เป็นไรเว้ย เร็วๆ เข้า เดี๋ยวจะต้องไปเรียนแล้ว" ต้าบอกพลางหันไปเช็คสายแจ๊คที่เสียบกับเบสที่เขาถืออยู่

"ไหนล่ะนักร้องใหม่ของมึง" เพ้งถามพลางสอดส่ายสายตามองหานักร้องใหม่ที่ทิวบอกว่าจะให้มาลองร้องเพลงดู

"นี่ไง บูม เข้ามาสิ" ทิวบอกพลางเดินไปจูงแขนเพื่อนที่ยืนงงๆ เข้ามาในห้อง แล้วก็แนะนำให้เพื่อนๆ ในวงรู้จัก

"นี่บูมนะครับ บูม นี่เพ้ง มือกีตาร์ พี่ต้า มือเบส พี่ออย มือกลอง แล้วก็ซิท มือคีย์บอร์ด ทั้งหมดนี้อยู่ในวงอะไรนะ" ตอนหลังทิวหันไปถามเพื่อนๆ นักดนตรี

"Zenith ครับ" เพื่อนๆ นักดนตรีตอบพร้อมกันพลางหัวเราะ ในวง Zenith นั้นเป็นการรวมตัวกันของนักดนตรีมือเจ๋งๆ ที่พี่ปี๊ดคัดมาเองกับมือเลย มีทั้งที่อายุเท่ากันและต่างกันจากหลายๆ ห้อง ที่น่าแปลกก็คือในชมรมดนตรี ไม่เพื่อนสมาชิกจากห้องของทิวเลยแม้แต่คนเดียว

"แล้วนายพาเรามาที่นี่ทำไมเหรอ" บูมแอบถามทิวอย่างงงๆ

"ให้มาเทสต์เสียงไงล่ะ" ทิวกระซิบบอก

บูมอ้าปากค้างตาโต "จริงเหรอ"

ทิวพยักหน้า บูมดีใจจนถึงกับกระโดดกอดคอเพื่อน "ขอบใจมากทิว"

"อ้าว มัวแต่ดีใจอยู่นั่นแหละ ให้ไวเลย เดี๋ยวเหลือไม่ถึง 20 นาทีแล้วนะโว้ย" ต้าบ่น แต่สีหน้าก็ไม่จริงจังนัก

"ครับๆๆๆ" บูมรีบรับคำอย่างเร็วไว แล้วก็วิ่งมาที่ไมโครโฟนที่ตั้งไว้ให้ แล้วก็หันมาถามทิวว่า "จะให้เราร้องเพลงอะไรล่ะ"

"ก็เพลงที่นายซ้อมมาเป็นเดือนนั่นแหละ" ทิวบอก

"แล้วพี่ๆ เขาซ้อมกันมาแล้วเหรอ" บูมถามอีก

"เออ" เสียงนักดนตรีข้างหลังตอบมาพร้อมกัน บูมหันไปหัวเราะกับพวกเขาด้วย บูมไม่รู้หรอกว่าทิวไปจัดการเรื่องนี้ให้เขาตั้งแต่เมื่อไร แต่เขาโฆตรจะดีใจเลย ดีใจจนยิ้มแทบไม่หุบเลยล่ะ

"เต็มที่เลยนะบูม เราจะถ่ายวิดีโอนี้ไว้ด้วย เอาไปให้พี่ปี๊ดดู รับรอง นายได้เข้าชมรมดนตรีในตำแหน่งนักร้องชัวร์" ทิวให้กำลังใจ พลางหยิบไอโฟนเขาขึ้นมาเตรียมไว้

เสียงดนตรีดังขึ้นแล้ว ดนตรีมันดูแปลกๆ ไปเล็กน้อยเพราะทิวบอกให้วง Zenith เรียบเรียงดนตรีใหม่ให้มีจังหวะทันสมัยขึ้น ไม่ใช่เวอร์ชั่นอะคูสติกตามต้นฉบับเดิม

"ขึ้นตรงไหนน่ะ งง" บูมบอกพลางเกาหัว เสียงดนตรีก็หยุดลงตาม

"โอเค เดี๋ยวเราให้สัญญาณละกัน เอาใหม่นะ" ทิวบอก แล้วหยิบโทรศัพท์ตั้งท่าเตรียมถ่ายวิดีโออีกครั้ง "จัดเต็มเลยนะเพื่อน" ทิวให้กำลังใจอีกครั้ง ได้กำลังใจดีแบบนี้ บูมสู้ไม่ถอยอยู่แล้ว

พออินโทรขึ้นไปได้สักพัก ทิวก็ให้สัญญาณมือว่าให้บูมเริ่มร้อง บูมขึ้นได้ถูกพอดี เขาดูงงๆ ในตอนแรกๆ บ้าง แต่พอร้องไปก็เริ่มมั่นใจมากขึ้น สามารถใส่อารมณ์และลูกเล่นได้ดีมากขึ้น คงไม่โปรเท่ากับทิวหรอก แต่ก็เรียกได้ว่าดีที่สุดของบูมในตอนนี้แล้วล่ะ

"ฉันก็รู้และฉันอุ่นใจ ว่าฉันนั้นจะมีเธออยู่...กับฉัน"

เพลงจบลงแล้ว ทิวและเพื่อนๆ นักดนตรีปรบมือชอบใจกันใหญ่

"เยี่ยมเลยบูม" น้ำเสียงดีใจของทิวทำให้บูมหัวใจพองโตจนแทบจะลอยได้เลยทีเดียว

"ใช้ได้เลยบูม ยินดีต้อนรับนักร้องนำคนใหม่ไว้ล่วงหน้าเลยละกัน" พี่ต้าบอกพลางเดินมาตบไหล่เขา คนอื่นๆ ก็เดินมาตบไหล่และชมเขาเช่นกัน

เราอยากจะบอกว่าเราโฆตรรักนายเลยว่ะทิว ขอบใจสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่นายช่วยทำให้เราจริงๆ บูมคิดในใจ สายตาที่เขามองมาที่ทิวนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ

----------------------------------------------------------

เลิกเรียนแล้วทิวไม่ได้ลงเล่นเตะบอลเหมือนเคย แต่เขารีบวิ่งไปที่ชมรมดนตรีและตรงดิ่งไปหาพี่ปี๊ด รุ่นพี่ ม.6 ประธานชมรมดนตรี

"พี่ปี๊ด ผมมีอะไรมาให้พี่ดูแน่ะ พี่พอมีเวลาหรือเปล่า" ทิวบอกพลางหอบแฮ่กๆ หน้าโต๊ะทำงานของพี่ปี๊ด

พี่ปี๊ดหันมามองและทำสีหน้าสงสัยในท่าทางตื่นเต้นโดยไม่รู้สาเหตุของทิว "ได้ๆ มีอะไรเหรอ แต่ไม่นานนะ เดี๋ยวพี่จะต้องรีบกลับบ้านไปธุระกับที่บ้าน"

"ไม่นานพี่ ขอเวลาแค่ห้านาทีเท่านั้น ว่าแต่มีที่ที่มันเงียบกว่านี้ไหมครับ"

พี่ปี๊ดไม่ตอบทิวแต่กลับตะโกนเสียงดังว่า "เฮ้ย ช่วยเงียบๆ หน่อยแป๊บนึง"

เสียงซ้อมดนตรีเสียงคนคุยกันในชมรมก็เงียบลงทันที ทิวเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้ เขาดึงเก้าอี้มานั่งแล้วก็หยิบโทรศัพท์ไอโฟน แล้วเปิดวิดีโอที่บูมร้องเพลงให้พี่ปี๊ดฟัง

"เป็นไงบ้างพี่"

พี่ปิ๊ดดูมีท่าทางสนใจมากทีเดียว

"เฮ้ย มีหูฟังปะ จะได้ฟังให้ชัดๆ"

ทิวรีบค้นกระเป๋าเป้แล้วหยิบหูฟังมาให้พี่ปี๊ดทันที พอได้ฟังจากหูฟังเท่านั้น พี่ปี๊ดก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อย

"ใช้ได้เลย คนสอนเก่งนะเนี่ย" พี่ปี๊ดหันมาบอกแล้วฟังต่อ ทิวยิ้มแทบไม่หุบเลยทีเดียว พอฟังจบพี่ปี๊ดก็ถามว่า

"มันยังสนใจที่จะเข้าชมรมหรือเปล่าวะ"

"สนใจสิพี่ บูมเขาซ้อมมาเป็นเดือนทุกวันเลยนะครับ ผมสอนเขาเองกับมือเลย เขาตั้งใจมากนะครับพี่ ผมยังไม่เคยเห็นใครตั้งใจเท่าบูมเลย" ทิวได้โอกาศโฆษณาสรรพคุณเพื่อนของเขาไปด้วย

"ดีๆ งั้นพรุ่งนี้ทิวพาบูมมาคุยกับพี่หน่อยละกัน"

"ได้เลยครับพี่ ขอบคุณพี่มากครับ" ทิวบอกอย่างดีใจแล้วก็รีบคว้าไอโฟนวิ่งออกไปข้างนอก ท่ามกลางความงุนงงของคนในชมรม

ออกมาปั๊บทิวก็โทรหาบูมทันทีเพราะเขารอที่จะบอกข่าวดีนี้ช้ากว่านี้อีกแค่วินาทีเดียวก็ไม่ได้แล้ว

"จริงเหรอทิว นายพูดจริงเหรอ" บูมตอบอย่างตื่นเต้นในขณะที่นั่งรถกลับบ้าน พี่ชายเขาหันมามองด้วยความสงสัย บูมจึงค่อยๆ ใช้มือป้องปากแล้วบอกทิวว่า "แค่นี้ก่อนนะ"

ทิวได้ยินเสียงกระซิบกระซาบแบบนั้นก็เลยเดาได้ว่าน่าจะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้บูมไม่สะดวกที่จะพูดตอนนี้

"อะไรเหรอบูม ทำเสียงดีใจเชียว" บีมหันไปถาม วันนี้พ่อกับแม่ไม่ว่าง บีมจึงถูกบังคับให้ขับรถมารับน้องชายแทน

"เปล่า" บูมตอบเสียงห้วนเช่นเคยแล้วก็ทำสีหน้าเรียบเฉย เขาไม่ได้พูดดีๆ กับพี่ชายมาหลายปีแล้ว อยู่บ้านเดียวกันก็แทบจะนับคำที่ใช้คุยกันได้ เพราะเขาจะไม่คุยกับใครในบ้านเท่าไร ถ้าไม่จำเป็น โดยเฉพาะกับพี่ชายที่บูมยังเคืองๆ อยู่

บีมยิ้มนิดๆ แล้วก็ถอนหายใจ หลายปีมานี้ บ้านของพวกเขาดูไม่ค่อยจะเป็นเหมือนบ้านเลย มันดูอึดอัดและเต็มไปด้วยบรรยากาศที่เคร่งขรึม ไม่ค่อยมีเสียงหัวเราะ ไม่ค่อยมีเสียงคุยกัน มันน่าอึดอัดจนแทบไม่อยากจะอยู่เลยทีเดียว แต่ช่วงหลังๆ มานี้เขาสังเกตเห็นว่าน้องชายของเขาดูหน้าตาสดใสมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไร มันก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.