We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: รักที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต"
Posted by sarawatta on 06-Apr-12 at 10:04 AM
ตอนที่ 26

"นี่เหรอคู่หมั้นของบูม ชื่ออะไรล่ะจ้ะหนู" ดูเหมือนคุณยายของบูมจะถูกใจว่าที่หลานสะใภ้เข้าให้แล้ว

"แพรวค่ะคุณยาย" แพรวตอบพลางยิ้ม

"หน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพรา สวยน่ารักเชียว" คุณยายชมพลางพิศดูใบหน้าของสาวน้อยที่มานั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้มพอใจและชมไม่ขาดปาก "ว่าไหมพ่อ" คุณยายหันไปถามคุณตา ท่านก็พยักหน้าและยิ้มพอใจไม่ต่างกัน

"บูมเขาตาแหลมค่ะแม่" คุณทิพย์นภาพูดเสริม ดูๆ ไปแล้วในบ้านนี้ก็ดูจะไม่มีใครไม่ชื่นชมและอยากได้แพรวมาเป็นลูกสะใภ้สักคน มีแต่บูมเท่านั้นแหละที่ทำหน้าเครียดๆ ไม่ค่อยยิ้มแย้มแจ่มใส เขายอมรับว่าเขาเปลี่ยนไปจริงๆ เมื่อได้กลับมาหาทิว สิ่งที่เขาปฏิบัติกับแพรวก็เป็นเพียงมารยาทสังคมที่ชายหนุ่มจะพึงกระทำต่อหญิงสาวเท่านั้น บูมอยากจะบอกแม่เหลือเกินว่า เขาไม่ได้ตาแหลมใดๆ ทั้งสิ้น คนที่เลือกมาให้เขาก็คือพ่อกับแม่ แพรวสวยน่ารัก เขายอมรับในเรื่องนี้ แต่เธอก็ไม่ใช่คนที่เขาต้องการ

"แล้วทิพย์ไปหาฤกษ์หายามงานแต่งงานให้บูมกับหนูแพรวแล้วหรือยังลูก" คุณตาเป็นฝ่ายถามบ้าง

"ยังเลยค่ะพ่อ เดี๋ยวทิพย์ว่าจะปรึกษาพ่อกับแม่เรื่องนี้อยู่เหมือนกันค่ะ จริงๆ ทิพย์ก็อยากให้บูมแต่งงานกับหนูแพรวเร็วๆ เหมือนกันนะคะ ทางพ่อกับแม่ของหนูแพรวก็อยากให้แต่งงานกันเร็วๆ เหมือนกันค่ะ"

แม่ไม่ได้ถามบูมสักคำเลยว่าบูมอยากแต่งงานหรือยัง แต่คราวนี้บูมคงอยู่เฉยๆ ไม่ได้ "แม่ครับ บูมเพิ่งอายุ 23 เองนะครับ ยังไม่อยากแต่งงานไวขนาดนั้นครับ"

แม่ทำสีหน้าไม่พอใจอย่างที่บูมก็พอจะเดาออก "ทำไมพูดแบบนี้ต่อหน้าหนูแพรวล่ะบูม ก็หมั้นกันแล้วยังไงก็ต้องแต่งงานกันอยู่ดี" แต่แล้วคุณทิพย์นภาก็หยุดพูดไปทั้งๆ ที่คงอยากพูดอะไรอีกหลายอย่าง แต่เนื่องจากพ่อกับแม่ของเธออยู่ที่นี่จึงไม่อยากทะเลาะกับลูกชายให้ผู้บังเกิดเกล้าเห็น

แพรวเองได้ยินแบบนั้นก็หน้าเสียไปเหมือนกัน บูมก็สังเกตเห็น แต่เขาก็อยากให้แพรวเริ่มรับรู้อะไรบางอย่างจึงไม่ได้พูดแก้แต่อย่างใด

"คุณพ่อกับคุณแม่คงจะหิวข้าวแล้วล่ะคุณ ผมว่าเราไปทานข้าวเย็นกันเลยดีไหมครับ" คุณลิขิตรีบพูดขึ้นเมื่อเห็นบรรยากาศเริ่มไม่ค่อยดี แล้วก็หันไปมองหน้าลูกชายคนเล็ก คุณลิขิตยังไม่เคยคุยกับบูมเรื่องการแต่งงานของบูมกับแพรวอย่างจริงๆ จังๆ เลย เห็นทีเขาคงจะต้องคุยกับลูกชายคนเล็กให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียทีเพราะเขาก็เริ่มสงสัยอะไรบางอย่างเหมือนกัน

---------------------------------------------------

'ให้มันเป็นเพลงบนทางเดินเคียง ที่จะมีเพียงเสียงเธอกับฉันอยู่ด้วยกันตราบนาน ดั่งในใจความบอกในกวีว่าตราบใดที่มีรักย่อมมีหวัง คือทุกครั้งที่รักของเธอส่องใจฉันมีแต่เธอ'

เสียงโทรศัพท์ของบูมดังขึ้นด้วยเสียงเพลงประกอบภาพยนต์ดังเรื่องหนึ่งที่ออกฉายเมื่อนานหลายปีมาแล้ว ความน่าสงสัยคงไม่ได้อยู่ที่ว่าทำไมเขาไปเอาเพลงเก่าๆ มาทำเป็นเสียงเรียกเข้า แต่เพราะมันเป็นเพลงประกอบภาพยนต์เกย์นี่สิ เพื่อนๆ ในที่ทำงานพอได้ยินก็เลยหันมามองเขาเป็นตาเดียวกัน แล้ววันนี้ก็ดันเป็นวันที่ทุกคนมาทำงานที่สำนักงานอย่างพร้อมเพรียงกันเสียด้วย ขาดแต่เพื่อนต่างชาติสองคนเท่านั้นที่นานๆ จะเข้ามาที

บูมคุยโทรศัพท์เสร็จแล้วก็หันไปยิ้มกับเพื่อนๆ ที่มองมาที่เขาด้วยสีหน้าเหมือนกับสงสัยอะไรบางอย่าง

"มีใครเคยดูหนังเรื่องรักแห่งสยามบ้างป้ะ" บูมถามแก้เขิน

"โห...หนังเขาจบไปไม่รู้กี่ปีกี่ชาติ เพิ่งได้ดูเหรอ" วิทแซวพลางหัวเราะชอบใจ คนอื่นๆ ก็พลอยหัวเราะไปด้วย

"บูมเขาจะเอาเวลาที่ไหนไปดู วันๆ ก็ทำแต่งาน เมื่อก่อนก็เอาแต่เรียนหนังสือ" แพรวพูดแล้วก็ขำไปกับเพื่อนๆ ด้วย แต่ในใจก็เริ่มรู้สึกหวาดหวั่นอะไรบางอย่าง

"ทำไมอยู่ๆ ถึงถามขึ้นมาล่ะ ประทับใจฉากไหนในหนังเรื่องนี้เหรอ อย่าบอกนะว่าฉากที่โต้งกับมิว..." เอิร์ธถามแล้วก็ทำตาโต

"อืม...ก็ฉากนั้นแหละ" บูมพูดด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริงพลางหันไปยิ้มกับทิว แต่ดูเหมือนทิวก็ไม่รู้่ว่าจะทำหน้ายังไงเหมือนกัน

"เฮ้ยจริงเหรอ เดี๋ยวนี้บูมเปลี่ยนรสนิยมไปชอบแบบนั้นแล้วเหรอ" วิทถามขึ้นอย่างเห็นเป็นเรื่องขำ แต่สิ่งที่เขาถามก็เหมือนกับน้ำมันที่ราดเข้าไปเติมเชื้อแห่งความสงสัยของแพรวให้เพิ่มมากขึ้น

บูมยิ้มแล้วก็ตอบไปว่า "ผมไม่เคยเปลี่ยนรสนิยม" บูมหันไปพูดกับวิทแล้วก็พูดสืบไปว่า "พอดีเมื่อวานไปบ้านทิว เห็นทิวมีแผ่นอยู่ก็เลยยืมมาดู ไม่คิดว่าจะสนุก"

พอบูมพูดถึงตรงนี้ จุดสนใจของสายตาก็เคลื่อนจากบูมไปหาทิวทันที ทิวได้แต่ทำหน้ายิ้มๆ เพราะไม่รู้จะพูดอะไร แต่บูมก็ดึงกลับมาด้วยการพูดต่อว่า "ดูแล้วก็ได้แง่คิดหลายอย่างนะ โดยเฉพาะเรื่องความรักของชายกับชาย เราว่าสังคมของเราน่าจะเข้าใจคนเหล่านี้มากขึ้นนะ เขาก็เป็นคนเหมือนกับเรา"

"บูมดูแล้วอยากมีแฟนเป็นผู้ชายบ้างหรือเปล่าล่ะ ระวังนะแพรว ก่อนแต่งงานอย่าลืมไปสืบดูล่ะว่าบูมซ่อนกิ๊กผู้ชายไว้หรือเปล่า" เอิร์ธพูดแล้วก็หัวเราะด้วยความคึกคะนองตามประสาคนในวัยอย่างพวกเขา แต่ก็ทำให้แพรวเริ่มแสดงสีหน้ากังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด

"โอ๊ย...แพรวไม่กลัวเรื่องนั้นหรอก บูมเขาแมนจะตาย จริงไหมคะบูม" แพรวพยายามกลบเกลื่อนแล้วก็หันไปถามกับแฟนหนุ่มพลางยิ้ม

บูมได้แต่ยิ้มๆ และขำนิดๆ ส่วนทิวนั้นก็เริ่มรู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์แบบนี้เสียแล้ว เขาคิดว่าเขาน่าจะอดทนได้ แต่เมื่อบูมค่อยๆ ทำให้แพรวสงสัยมากขึ้นก็กลับทำให้ทิวยิ่งรู้สึกอึดอัดมากขึ้นตามไปด้วย

พอเห็นเพื่อนๆ เริ่มหมดท่าทีสนใจ บูมก็เดินมาหาที่ทิวที่โต๊ะทำงานแล้วก็ถามเบาๆ ว่า "เรื่องเรียนเรียบร้อยแล้วไช่ไหมทิว"

ทิวเงยหน้าขึ้นมาตอบว่า "อืม...ขอบใจนายมากนะที่ช่วยเป็นธุระให้ตั้งหลายอย่าง"

"ไม่เป็นไร เราอยากให้นายเรียนหนังสือให้จบ จะได้ไม่ลำบาก..." บูมยิ้มนิดๆ นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกผิดมาก "พรีเซนเทชั่นเป็นไงบ้าง"

ทิวพยักหน้า "เสร็จแล้ว นายอยากดูไหม"

"ก็ดีเหมือนกัน" บูมพูดแล้วก็เดินไปลากเก้าอี้ที่โต๊ะทำงานเขามานั่งข้างๆ ทิว ความสนิทสนมของเขากับทิวนั้นก็ยิ่งทวีความน่าสงสัยมากขึ้น

---------------------------------------------------------------------------

"ทิว...มึงจะเลิกเรียนหรือยัง"

"อีกประมาณครึ่งชั่วโมง มีอะไรหรือเปล่าต้อง" ทิวตอบพลางใช้มือป้องปากไว้เพื่อไม่ให้รบกวนคนอื่นๆ ที่อยู่ในห้องเรียน

"จะมารับ" ต้องตอบ เขาเพิ่งผ่อนรถมาใหม่หลังจากที่ทำงานมาได้ระยะหนึ่ง วันนี้ก็เลยคิดว่าจะมารับทิวเสียหน่อยเป็นการฉลองใช้รถวันแรก

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวบูมก็จะมารับกูแล้ว"

"ได้ไง กูมารอมึงที่มหาลัยแล้วรู้เปล่า โทรไปบอกไอ้บูมเลยว่าไม่ต้องมาแล้ว กูเพิ่งถอยรถคันใหม่มา อยากให้มึงมาเจิมเป็นคนแรก มึงคงไม่คิดจะบอกให้กูกลับไปไช่ไหมทิว กูมาถึงแล้วนะโว้ย มึงเป็นเพื่อนคนแรกของกู กูก็เลยอยากให้มึงได้นั่งรถของกูเป็นคนแรก มึงสำคัญสำหรับกูนะทิว เร็ว...รีบโทรไปบอกไอ้บูมเลยว่าไม่ต้องมาแล้ว" ต้องพยายามหว่านล้อม

แล้วจะให้ทิวทำยังไงก็ต้องมันมารอแล้วนี่นา เขาคงไม่กล้าบอกให้ต้องกลับไปหรอก ทิวจึงขอตัวออกมาข้างนอกห้องเรียนแล้วก็โทรไปหาบูมทันที

"อยู่บนทางด่วนแล้ว อีกไม่เกิน 20 นาทีก็น่าจะถึง" บูมตอบเมื่อทิวถามเขาว่าเขาออกมาแล้วหรือยัง

"คือ..." จะพูดยังไงดี กลัวบูมโกรธจังเลย แต่เขาก็ไม่อยากโกหกเพราะนั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นของความไม่ไว้ใจกัน "พอดี...ต้องมันมารับเราน่ะบูม ตอนนี้มันอยู่ที่มหาลัยแล้ว เราก็ไม่กล้าบอกให้มันกลับ เดี๋ยวมันจะน้อยใจ"

บูมขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ต้องไปรับทิวที่มหาวิทยาลัยอย่างนั้นหรือ "ก็...ไม่เป็นไรนี่ เราก็ไปรับนายแล้วต้องก็มากับเราด้วยก็ได้ มากันสามคนก็ได้ จะได้คุยกัน ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันอยู่แล้วนี่ กับต้องเราก็ไม่ได้ติดใจอะไร"

"แต่ว่า...ต้องมันเอารถมารับเราน่ะสิ มันบอกว่ามันเพิ่งถอยรถมาแล้วอยากให้เรานั่งรถมันเป็นคนแรก" น้ำเสียงของทิวดูหนักใจไม่น้อย

"เหรอ..." บูมครุ่นคิด ถ้าเขาเป็นทิวก็คงเกรงใจต้องอยู่เหมือนกัน ยังไงทิวกับต้องก็เป็นเพื่อนกันมานาน จะบังคับให้ทิวหักหาญน้ำใจเพื่อนทิวก็คงทำไม่ได้อยู่แล้วล่ะ "อืม...งั้น...นายก็ให้ต้องมารับละกัน เดี๋ยวเราจะกลับบ้าน"

"บูม...เราขอโทษนายจริงๆ นะ เราไม่รู้จริงๆ ว่าต้องจะมา มันไม่ได้นัดเราเลย อยู่ดีๆ มันก็โทรมาบอกว่าอยู่ที่มหาลัยแล้ว เราก็ไม่รู้จะทำยังไง ขอโทษนะบูม ขอโทษจริงๆ" ทิวพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด กังวลใจกลัวว่าบูมจะน้อยใจและคิดมาก

"ไม่เป็นไรทิว...เราเข้าใจ นายกับต้องเป็นเพื่อนกันมานาน เรารู้ว่านายบอกให้ต้องกลับไปไม่ได้หรอก ถ้าเราเป็นนายเราก็ทำไม่ได้เหมือนกัน" แต่จะบอกว่าบูมไม่กังวลเลยนั้นก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะมีบางอย่างที่บูมรู้แต่ทิวยังไม่รู้

ได้ฟังแล้วทิวก็พอยิ้มออก "ขอบใจบูมมากนะที่เข้าใจเรา คิดถึงบูมนะ"

"คิดถึงทิวเหมือนกันครับ แล้วเจอกันนะ บาย"

บูมวางสายไปแล้ว ทิวก็เลยกลับเข้าไปในห้องเรียนตามเดิม ตอนแรกทิวตั้งใจจะเรียนภาคค่ำ แต่ว่าหลักสูตรที่เขาเรียนนั้นไม่เปิดเรียนภาคค่ำเขาก็เลยต้องมาเรียนเสาร์อาทิตย์แทน ทำให้ทิวไม่มีเวลาว่างเลยแม้แต่วันเดียวในหนึ่งสัปดาห์

--------------------------------------------------------------------------------

"เดี๋ยววันนี้กูจะพามึงไปกินข้าวข้างนอก ห้ามปฏิเสธนะเว้ย วันนี้วันพิเศษของกู" ต้องรีบขู่ก่อนที่จะขับรถออกไป

"เออๆ เอาเป็นว่าเย็นนี้กูให้เวลามึงเต็มที่เลยละกัน จะพากูไปไหนก็ได้ทั้งนั้น" ทิวบอกแล้วก็ขำ

"จริงนะเว้ย" ต้องถามยืนยัน

"เออ..."

ดูต้องมันจะมีความสุขและภูมิใจมากทีเดียวที่ได้พาทิวขับรถไปตรงนั้นตรงนี้ แล้วก็พาไปกินข้าวที่ร้านอาหารแพงๆ เห็นต้องมีความสุขแบบนั้นแล้วทิวก็รู้สึกดีไปด้วย แต่ทิวก็ไม่รู้หรอกว่าที่ต้องดูมีความสุขขนาดนั้นเพราะอะไรกันแน่ ทิวคิดแต่เพียงว่าต้องคงดีใจที่ได้พาเพื่อนสนิทมานั่งรถคันใหม่ เอ...ทำไมต้องไม่หาตุ๊กตาหน้ารถมานั่งด้วยสักคนนะ ถ้าเป็นผู้ชายทั่วไปเขาก็คงอยากให้แฟนมานั่งด้วยมากกว่าที่จะเป็นเพื่อน แต่เขาก็ไม่เคยเห็นต้องพูดถึงแฟนเลย คบกันมาก็ตั้งนาน ทิวเพิ่งรู้สึกว่ามันแปลกก็วันนี้ หรือว่าต้องจะมีแล้วแต่ไม่ได้บอก?

"เฮ้ยต้อง...กูถามมึงอย่างดิ" ทิวหันไปถามเพื่อนขณะที่ต้องกำลังขับรถมาส่งเขาที่บ้าน

"ว่ามา"

"มึงมีแฟนหรือยังวะ"

คำถามนี้เล่นเอาต้องแทบจะเหยียบเบรกทันที เขาครุ่นคิดอยู่สักพักก็ตอบไปว่า "ยังเว้ย...หาอยู่ แต่เหมือนจะเจอแล้วล่ะ"

"จริงเหรอ ใครวะ กูรู้จักหรือเปล่า" ทิวถามอย่างตื่นเต้น

"รู้จักดีเลยแหละ ให้ถึงบ้านมึงก่อนเดี๋ยวกูจะบอกมึง" วันนี้แหละที่ต้องได้ตัดสินใจแล้วว่าเขาจะบอกทิวเรื่องที่เขาคุยกับบูมวันนั้น เป็นไงก็เป็นกัน ดีกว่าเก็บไว้ในใจ บางทีพอเขาบอกไปแล้วเขาก็อาจจะมีความหวังมากขึ้น อย่างน้อย...วันหนึ่งถ้าทิวไม่มีใครจริงๆ ทิวก็จะรู้ว่ายังมีเขาอีกคนที่ยังรออยู่

------------------------------------------------------------------------

"บูมคะ วันงานเปิดโครงการ ตอนเช้าๆ แพรวว่าจะแวะไปทำผมที่ร้านซะหน่อย บ่ายๆ บูมไปรับแพรวได้ไหมคะ"

"แพรว...บูมเป็นผู้จัดการโครงการ วันเปิดโครงการบูมต้องอยู่แสตนด์บายที่งานตลอดเวลา บูมคงไปรับแพรวไม่ได้จริงๆ ครับ" บูมปฏิเสธไปตามเหตุผลที่เขาบอก

"บูมคะ แค่ช่วงบ่ายนิดเดียวเอง บูมแวบออกมาแป๊บนึงก็ได้นี่คะ คนอื่นๆ ก็ช่วยอยู่ดูได้" แพรวต่อรอง ในวันงานเธอจะเป็นพิธีกรคู่กับบูมด้วยก็เลยอยากจะแต่งตัวให้สวยเป็นพิเศษ

"แพรว...บูมไม่กล้ารับปากจริงๆ แพรวมาเองได้ไหม นั่งแท็กซี่มาก็ได้ วันนั้นบูมต้องเตรียมหลายอย่างจริงๆ บูมกลัวว่าจะไปไม่ได้ บูมขอโทษจริงๆ" บูมยังยืนยันเช่นเดิม เขาก็หวังว่าแพรวจะเข้าใจบ้าง

"แพรวไปเองก็ได้ค่ะ" แพรวพูดเสียงต่ำแล้วก็วางสายไป คงจะงอนไปตามประสาผู้หญิง

บูมถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน จริงๆ เมื่อก่อนเขาก็ง้อได้ไม่มีปัญหาอะไร แต่ตอนนี้...เขาไม่อยากทำอย่างนั้นเลย อีกอย่าง...มันก็ไม่ได้จริงๆ ตามที่เขาบอกนั่นแหละ ในฐานะผู้จัดการโครงการเขาต้องอยู่ดูแลความเรียบร้อย ไม่ควรที่หายไปด้วยเรื่องส่วนตัวแบบนั้น

บูมว่าจะกลับมานั่งอ่านหนังสือที่เพิ่งซื้อมาตามเดิม จู่ๆ เขาก็นึกถึงพี่ชายขึ้นมา บางทีถ้าพี่บีมรู้อะไรบางอย่าง พี่บีมอาจจะช่วยเขาได้ คิดได้แล้วบูมก็วางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะที่เขานั่งอ่านหนังสือ แล้วก็รีบไปที่ห้องพี่ชายซึ่งอยู่ติดกันทันที

"เข้ามาเลยบูม พี่ไม่ได้ล็อกห้อง" เสียงพี่บีมดังแว่วออกมาหลังจากที่บูมเคาะประตูเรียก

บูมเปิดประตูเข้าไปก็เห็นพี่ชายกำลังโหลดภาพจากกล้องถ่ายรูปลงเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ "พี่บีมทำงานอยู่เหรอครับ ผมมากวนหรือเปล่า"

บีมหันมามองน้องชายแล้วก็รีบตอบไปว่า "ไม่เป็นไร พี่ก็มีเรื่องอยากคุยกับบูมอยู่พอดี"

"วันนี้พี่ไปถ่ายรูปที่ไหนมาครับ" บูมถามพลางเดินไปนั่งลงบนเตียงของพี่ชาย

"งานอีเวนต์เปิดตัวสินค้า มีดารามาหลายคนเลย" บีมบอกแล้วก็เดินมานั่งข้างๆ กับน้องชาย "ว่าไง...เรื่องแต่งงานของเรา เห็นแม่บอกว่าจะรีบไปหาฤกษ์ให้ไม่ใช่เหรอ ทำไมรีบแต่งนักล่ะบูม อายุแค่ 23 เองนะ" บีมรีบเข้าเรื่องทันที

"ผมไม่ได้อยากแต่งเร็วขนาดนั้นซะหน่อยพี่ แม่เขาพูดเองเออเอง" บูมบอกด้วยสีหน้าไม่สบายใจ

บีมสังเกตเห็นแล้วก็ถาม "ถามจริง...บูมอยากแต่งงานหรือเปล่า"

บูมหันไปมองพี่ชาย ครุ่นคิดอยู่สักพักก็ส่ายหน้า "ไม่อยากแต่งครับ"

"บูมไม่ได้ชอบแพรวใช่ไหม" บีมถามอย่างรู้ทัน เขาสังเกตเห็นท่าทีของบูมที่มีต่อแพรวมานานแล้วล่ะ

บูมถอนหายใจอย่างเคร่งเครียด "ผมจะทำไงดีครับพี่บีม ผมไม่อยากแต่งงานจริงๆ นะครับ ผมไม่ได้คิดอะไรกับแพรวเกินเพื่อนเลย"

บีมเองก็หนักใจเช่นกัน เขารู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่บูมจะไปบอกพ่อกับแม่ว่าเขาไม่อยากแต่งงานกับแพรว "พี่คิดว่า...บูมต้องบอกความจริงกับพ่อแม่นะ แต่ต้องหาโอกาสเหมาะๆ หน่อย ไม่งั้นก็จะเป็นเรื่องอีกจนได้"

"ผมว่ายังไงก็เกิดเรื่องครับ ไม่ว่าจะบอกตอนไหน"

ก็คงจะจริงอย่างที่บูมว่า บีมยังนึกไม่ออกเลยว่าโอกาสเหมาะๆ ที่เขาพูดถึงเมื่อกี้มันควรจะเป็นตอนไหน

"อ้อ...แล้วบูมไปหาทิวมาหรือยัง" บีมเปลี่ยนเรื่องเมื่อเพิ่งนึกได้ นี่ก็จะเป็นปีอยู่แล้วที่บูมกลับมาจากเมืองนอกแล้วยังไม่ได้ไปหาทิวเลย
บูมพยักหน้าพลางยิ้มน้อยๆ "ไปมาแล้วครับ หลายเดือนแล้ว"

"อ้าวเหรอ" บีมทำหน้าแปลกใจ แต่ก็ดีใจที่น้องชายยอมไปคุยกับเพื่อนอีกครั้ง "แล้วทิวว่าไง เขาดีใจหรือเปล่าที่ได้เจอบูม"

"ดีใจสิครับพี่ ผมก็ดีใจ ตอนนี้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วครับ"

"ดีแล้ว เอ๊ะ...กลับมาเป็นเหมือนเดิมนี่เป็นยังไงเหรอ" บีมถามด้วยความสงสัย จริงๆ เขาก็สงสัยความสัมพันธ์ของน้องชายกับเพื่อนคนนี้มานานพอสมควรแล้วล่ะ

"คือ..." บูมทำสีหน้าลังเล

"พี่ว่ามันถึงเวลาแล้วนะที่บูมจะบอกความจริงกับพี่เรื่องเพื่อนของเรา บูมชอบทิวหรือเปล่า" บีมไม่รอช้ารีบถามเข้าประเด็น น้องชายเขาเป็นคนคิดมาก ขี้กังวล ขั้นตอนเยอะ ถ้าอยากจะคุยให้ได้เรื่องเลยก็ต้องถามตรงๆ แบบนี้แหละ

บูมถึงกับสะดุ้งตกใจที่ถูกจู่โจมรวดเร็วปานสายฟ้าแล่บแบบนั้น แต่เขาก็ตั้งใจอยู่แล้วล่ะว่าจะบอกพี่บีม

"ครับ" บูมตอบพลางลอบสังเกตสีหน้าท่าทางของพี่ชาย เขาไม่รู้ว่าพี่ชายเขาจะรับได้หรือเปล่าที่เขาชอบผู้ชายด้วยกันแบบนี้

"พี่นึกอยู่แล้วเชียว ตั้งแต่สมัยเรียนด้วยกันเลยหรือเปล่า"

บูมพยักหน้า

"นี่ใช่ไหมที่เป็นเหตุผลที่ทำให้บูมไม่อยากแต่งงาน"

"ครับ" บูมรีบตอบทันที

"เรื่องไม่อยากแต่งงานนี่ก็เรื่องใหญ่แล้วนะ แต่อันนี้...เรื่องคอขาดบาดตายเลยล่ะ" บีมพูดแล้วก็ถอนหายใจอย่างหนักใจ

"พี่บีม...คิดยังไงครับที่ผม...เป็นเกย์" บูมถามด้วยท่าทางไม่มั่นใจ

"พี่ไม่ได้มีปัญหาที่จะยอมรับเรื่องนั้นหรอกบูม พี่คิดว่าพี่รู้มาตั้งนานแล้วล่ะ"

บูมยิ้มดีใจที่พี่ชายไม่รังเกียจเขาในเรื่องนี้

"พี่บีมจำโครงการสบายวอล์กเวย์ของบูมได้ไหมครับ"

"อ๋อ...จำได้ๆ ที่จะเปิดตัวอาทิตย์หน้านี้แล้วใช่ไหม เดี๋ยวพี่จะไปถ่ายรูปในงานให้ด้วย พี่เกือบลืมเลย ขอบใจที่เตือน"

"ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกครับ" บูมรีบบอก บีมหันมามองแล้วเลิกคิ้วด้วยความสงสัย

"ผม...ชวนทิวมาทำงานเป็นผู้ประสานงานโครงการด้วยครับ" บูมสารภาพความจริงออกไป

ตายล่ะสิ...นี่บูมกำลังจะทำอะไร เอาคู่หมั้นกับคนรักมาทำงานด้วยกัน นี่ถ้าแม่รู้เข้า... เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าเรื่องมันจะเป็นแบบไหน

"บูมพูดจริงเหรอ" บีมถามย้ำเพื่อความแน่ใจ

บูมพยักหน้า เขาก็พอจะรู้ว่าพี่ชายกังวลใจเรื่องอะไร มันก็คงจะต้องเกิดเรื่องอย่างที่เขาทั้งสองคนกังวล ไม่ว่าจะทำแบบไหน จะบอกด้วยวิธีไหน ผลลัพธ์ก็คงไม่ต่างกัน แต่อย่างน้อยถ้าเขาทำให้แพรวเข้าใจและหลีกทางให้เขาได้ พ่อแม่ก็จะบังคับให้เขาแต่งงานกับแพรวไม่ได้เพราะแพรวคงไม่อยากแต่งงานกับผู้ชายที่เป็นเกย์อย่างเขา แต่มันจะง่ายขนาดนั้นหรือเปล่า...ตอนนี้คงไม่รู้ เกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็คงจะได้รู้ตอนนั้นแหละ

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.