We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: ขอร้องพี่ๆครับ ใครมีนิยายเรื่องหนึ่งใจหลายรักของพี่เอ๋CT บ้างครับ อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลัยเลย"
Posted by โปโป on 12-Mar-17 at 06:01 PM
232.....
ตาที่จ้องมองมาเหมือนค้นหาคำตอบอะไรสักอย่าง เหมือนอย่างเสาะหาความหมายที่มากกว่าคำพูดที่เราได้เอ่ยออกไป เราลองที่จะทำตามความรู้สึกของตัวเองด้วยความสามารถเฉพาะตัวที่ไม่ได้ใช้ไปนาน แผ่นหลังของเราพิงอยู่ที่ประตูเป็นที่มั่น มือของเราของเราแตะที่หน้าอกเขาเบาๆ
“ไม่อยากจะทน แต่ก็ต้องทนไม่ใช่เหรอ เบียร์” หน้าตาของเบียร์กวนๆ ตายาวรีของเขา ปากบาง จมูกโด่งได้รูปนี่เรามองไม่เห็นเขาได้ยังไงตั้งนานมาแล้ว หรือว่าเราเมาจนตาลาย
“เอ๋จะทำอะไรเรา”
“เบียร์นะสิจะทำอะไรเรา”เขาทนการมองของเราไม่ไหว เลยหันหลังไปนั่งที่เดิม
“มากินกันต่อ ไม่ต้องกลับหรอก” เราเดินตามอย่างว่าง่ายนั่งลงข้างๆ
“แต่เราไม่กินนะ เบียร์จะกินก็กินไป” เราโน้มตัวเข้าใกล้เขา ดึงกระป่องเบียร์ออกจากมือเขาช้าๆ
ไม่มีอะไรจะต้องพูดหรอกเราคร่อมที่ตัวเขาบนพื้นโน้มตัวให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกันแล้วจูบลงบนปากบางนั้นเบาๆ สอดลิ้นเข้าไปความขมของรสเบียร์ยังคงแผ่ซ่านไปทั่วลิ้นของเบียร์ เขาตอบสนองแผ่วเบาหากพอเราถอนริมฝีปากออกมือของเขากลับคว้าคอเราไว้ เราตกอยู่เป็นเบี้ยล่างเขาทันที เบียร์นอนทับเราทั้งตัวมือประคองหน้าเราไว้แล้วจูบอย่างดุดันตอบแทนเราจากช้าเปลี่ยนเป็นเร็วและแรง ใจของเราเตลิดไปแล้ว เสื้อของเราถูกเบียร์เลิกขึ้นมือของเขาไขว่คว้าหาหน้าอกที่เป็นฐานเล็กๆจากการกินยาคุมเล่นเป็นบางครั้ง เขาลุกขึ้นถอดกางเกงแล้วลำนั่งคร่อมที่หน้าของเรา เราดื่มด่ำกับท่อนลำยาวเล่นจนมันกลายเป็นท่อนลำเขื่องขึ้นมาแทน
“เตรียมมารึเปล่า” เราส่ายหน้า
“งั้นก็จัดการให้เสร็จแล้วกัน” เบียร์ป้อนมันเข้ามาอีกกระแทกกระทั้น บดคลึงกับปากของเราจนมันทะลักทะลาย
เราหลับไหลไม่ได้สติจนสายหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ค่ำคืนนั้นมันผ่านไปง่ายๆ เรานอนกอดเขาจนตื่น เบียร์อมยิ้ม
“อย่าพูดไปนะเอ๋”
“ไม่พูดหรอก เราต้องกลับแล้วหล่ะ เบียร์จะได้นอนอีกสักหน่อย ขอบคุณนะ”
ล้างหน้าอีกครั้งแล้วค่อยๆเดินออกจากห้องของเบียร์ ประทับใจคงยังไม่ถึง เพียงแค่ดับกระหายเท่านั้น เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ว่าพรุ่งนี้ หรือวันต่อไปจะเป็นอย่างไร เราไม่ใช่คนที่จะถูกทอดทิ้งได้เหมือนเมื่อก่อนหรอก เราชินชาแล้วกับเรื่องเหล่านั้น โมจะเป็นอย่างไรก็เรื่องของเขา หมดเวลาที่เราจะตะเกียกตะกายหาอีกแล้ว เราเป็นคนแบบนี้ เราก็จะดำเนินชีวิตของเราแบบนี้ เราจะขีดเส้นทางของความรักของเราเองไม่รอคอยความหวังกับโชคชะตาที่จะชักพาใครให้เข้ามาพบเจออีกแล้ว เราจะเดินออกไปหยิบเจ้าความรักนั้นขึ้นมาแต่งเติมด้วยตัวเอง สายวันอาทิตย์มันค่อนข้างจะสดใสสำหรับเรา
เสียงโทรศัพท์กีดร้องทำลายความสงบของการพักผ่อนเพราะฤทธิ์อัลกอฮอล์
“วันนี้อยู่ห้องมั๊ย”
“ถามทำไม” เราตอบไปอย่างเสียไม่ได้
“ว่าจะแวะเข้าไปซะหน่อย”
“มาก็เจอ หรืออาจะไม่เจอ ยังไม่รู้จะทำอะไร เพิ่งตื่น”
“พูดดีๆ เมื่อคืนไปไหนมา”
“กินเหล้า”
“เพื่อนเยอะนะ”
“ถ้าไม่มีอะไรจะพูด เราจะวางนะ จะนอนต่อ” โมเงียบเราก็เลยตัดบทด้วยการวางสายก่อน และเขาก็โทรเข้ามาอีก
“วางสายทำไม”
“จะพูดอะไรก็พูดมา”
“อยู่ห้องนะ จะออกไปแล้ว”
“ได้” เรารับคำง่ายๆ แล้วนอนต่อ ไม่นานเขาก็มาถึงห้อง เรายังคงสลบไสลไม่ได้สติอยู่ โมนั่งลงข้างๆตัวเรา แว่บความรู้สึกนั้นเหมือนมือของเขาลูบหน้าที่ผมลงมาปิดหน้ายุ่งเหยิงนั้นเบาๆ
“มาทำไม”
“คิดถึง”เขาตอบสั้นๆ “เมื่อคืนไปไหนมา”
“จะสนใจทำไม”
“เรามาหานะเมื่อคืน”
“ไม่ต้องโกหกหรอก ขี้เกียจฟัง” เราหันหลังให้เขาตายังคงจับจ้องข้างฝาไม่ได้หลับต่อเช่นเดิม
“โกรธเหรอ ถึงหนีไปเที่ยว”
“จะโกรธทำไม ไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา จะโกรธให้รกสมองทำไม”
“เอ๋ทำประชดเราเหรอ”
“ทำไมต้องทำแบบนั้นหล่ะ”เราขยับตัวออกจากการกอดจากด้านหลังของโม “เราพยายามแล้วที่จะทำดีกับโม แต่ความพยายามไม่เป็นผล เราควรที่จะเลิกทำได้แล้ว โมว่ามั๊ย”
“อะไร มานี่ไม่ได้มาชวนทะเลาะนะ”
“ไม่ได้ทะเลาะแค่พูดว่าคิดอะไรเท่านั้น เราไม่ชอบที่โมชอบหลอกล่อแบบนี้ ถ้าเราไม่ดี ไม่ได้อย่างใจโมก็ตัดสินใจเถอะว่าจะทำอะไรต่อ”
“พูดแปลกๆ ไปเจอใครมาเหรอเมื่อคืน”
“เรื่องของเรา” เราไม่ตอบ เบียร์ไม่ได้อยู่ในความคิดเราหรอกตอนนั้น
“ไม่พูดแล้วเรื่องเก่า หันมาคุยกันดีๆได้รึเปล่า” เราพลิกตัวกลับมาหาเขา “ไปอาบน้ำไปเหม็นเหล้า”เขาลุกขึ้นนั่งดึงแขนเราให้ลุกตาม “จะพาไปกินข้าว” เราลุกตามแรงดึงของโมแล้วจัดการชำระร่างกายช้าและนาน รอยดูดที่คอของเบียร์เห็นได้ชัดเมื่อมองตัวเองในกระจก เราลูบรอยนั้นเบาๆพยายามนึกถึงความรู้สึกของชั่วเวลานั้นแต่ก็นึกไม่ออก คงเมาจนจำไม่ได้
เขามองเห็นรอยที่คอก็ขมวดคิ้ว
“ไปกับใครมา”เราไม่ตอบ “จะรู้ไปทำไม”
“ยังไม่เลิกอีกเหรอนิสัยแบบนี้”
“ไม่เลิกหรอก” เราเช็ดหน้า ด้วยโทนเนอร์อีกครั้งก่อนจะละเลงครีมบำรุงผิวบนหน้า ขอบตามันคล้ำจนเห็นได้ชัดนี่มันดูไม่ได้เลยเหรอแค่คืนเดียวเอง
“ตอบมาดีๆ ไปนอนกับใครมา”
“จำไม่ได้หรอกว่าใคร” เราใส่เสื้อผ้า “จะไปรึยัง”
“ไม่ไปแล้ว แบบนี้มันต้องเคลียร์ก่อน” ประตูที่เปิดไว้ถูกปิด
“ไม่มีอะไรจะเคลียร์ “ เราหันไปหากาแฟแทน โมเดินมาคว้าข้อมือ
“มันมากเกินไปแล้วนะ แค่เราไม่มา เอ๋ก็ไปหาคนอื่น”
“ก็เหมือนกันนี่ ไม่มาหาเราก็คงจะขลุกอยู่กับคนอื่นเหมือนกัน เราทนหิวได้ไม่นานหรอก”
“ประชดเหรอ” โมยืนอยู่ต่อหน้า “จะบอกไว้นะถ้าไม่เลิกทำตัวแบบนี้ คราวหน้าเจ็บตัวแน่”
“เหรอ” เราแสยะยิ้มที่มุมปาก วางถ้วยกาแฟที่กินเสร็จแล้วเดินออกจากห้องทิ้งเขาไว้ทั้งอย่างนั้น โมออกจากห้องแล้วเดินตามเรามา มือบีบที่คอจากด้านหลังแน่น
“เดินไปดีๆ” เราพยายามแกะมือเขาออกแต่ไม่สำเร็จ
เขาลากเราไปที่รถแล้วขับออกไปอย่างแรง ไปที่ห้องของเขา
“เราต้องทำงานพรุ่งนี้ พามาที่นี่ทำไม”
เขาผลักเราไปที่โซฟาแล้วยืนจ้องหน้าเขม็ง ฝ่ามือตบฉาดที่หน้าของเราอย่างแรงจนหูอื้อ รู้สึกเจ็บใจน้ำตามันคลอที่เบ้าตา เราจับที่มุมปากเพราะรู้สึกว่ามันเจ็บ
“พอใจแล้วสินะ” เราลุกขึ้นยืนผลักให้เขาหลบ
“ห้ามไปไหนเลยนะ นั่งลง” เขากดไหล่เราลงที่เดิมมือผลักเรานั้นทั้งบีบและกด มือเขาบีบที่คอของเราต่อ
“ปล่อย” เราตะโกนเสียงดังใส่หน้าเขา โมดันตัวเราลงบนที่โซฟาเราเพลี่ยงพล้ำลงไปนอนเขาคร่อมที่ตัวแล้วบีบคอเขย่าจนเราหายใจไม่ออก
“ทำไม ทำไมต้องทำแบบนี้ เราบอกเอ๋แล้วใช่มั๊ยว่าให้เลิกทำตัวแบบนี้”
“จะปล่อยไม่ปล่อย”เรากัดที่แขนเขาแรงจนจมเขี้ยว โมเจ็บสะบัดมือมาถูกที่หน้าเราอีกครั้ง ฝ่ามือที่หวดตามมาบอกถึงความเจ็บของเขาได้เป็นอย่างดี
“ชอบมากนัก บ้ากาม ไม่รู้จักพอ เดี๋ยวจะทำให้ มันขาดไม่ได้ใช่มั๊ย ทุกวันนี้อยู่ได้ด้วยเรื่องเดียวใช่มั๊ย” โมรวบมือที่ผลักไสเขาไว้แน่นเขาพลิกตัวเราเอามือไพล่หลังไว้ เรากระเสือกกระสนให้เขาปล่อยแต่เขาแรงเยอะกว่าเราทั้งโกรธทั้งเกรี้ยวกราด เหมือนมีของแข็งๆแหย่เข้ามาในตัวเราแต่มันไม่ใช่สิ่งคุ้นเคย ลักษณะมันกลมๆแต่ขนาดใหญ่กว่าอวัยวะเพศเจ็บแสบมาก
“ดีมั๊ย เอาให้หายอยากเลยนะ เอาให้ตายไปเลย”เรามีแต่ความเจ็บปวดที่ไม่รู้ว่าเป็นท่อนอะไรแทงเข้ามาสักพักเขาก็ดึงมันออกไปจากตัวแล้วทิ้งเราไว้ทั้งอย่างนั้น
“กลับไป” เขาโยนเสื้อผ้าของเราไว้ข้างๆตัวเรา เราลุกขึ้นพร้อมความเจ็บระบมไปทั้งตัวใจมันหวิวมือสั่นระริกค่อยๆลุกขึ้นยืนหยิบเสื้อผ้ามาใส่ ร่างกายเราไม่สามารถยืนให้ตรงได้เหมือนกับว่ามันหมดแรง ข้าวก็ยังไม่ได้กินทั้งวันมีแค่กาแฟ ตาเราลายทั้งเจ็บที่ก้นเจ็บที่หน้าและตามลำตัว เราเห็นหน้าเขาลางๆที่ยืนโกรธขึ้งอยู่เราพยายามจะคว้าตัวเขาเพื่อยึดไว้ไม่ให้ล้มแต่เขาเบี่ยงตัวออก เหมือนคว้าอากาศแล้วเราก็หน้ามืดแว่บความรู้สึกสุดท้ายนั้นเขาคว้าตัวเราไว้ทันก่อนที่จะล้มลงไปโดยไม่รู้สึกตัวอีกเลย
ในสายของวันจันทร์ตื่นขึ้นมาเห็นโน๊ตหน้ากระจกว่าโทรไปลางานให้แล้ว และมีของกินวางอยู่ที่โต๊ะ อาการเจ็บปวดมันไม่ได้ลดลงไปเท่าไหร่นัก ยิ่งขยับตัวยิ่งรู้สึกว่าระบม เราเป็นห่วงงานขึ้นมาปาไปครึ่งค่อนวันแล้วเสียงที่ได้ยินจากรองหัวหน้าเหมือนอยู่ไกลๆ
“เอ๋ เป็นอะไรมากมั๊ย เห็นเพื่อนโทรมาลาให้ พี่เป็นห่วงนะ ไปทำอะไรมาเหรอคะ”
“ปวดหัวมากฮะ” เรากุมขมับ
“แล้วนี่อยู่กับใคร เพื่อนอยู่ด้วยรึเปล่า ไปหาหมอรึยัง”
“เพิ่งตื่นฮะ”
“กินข้าวกินยาแล้วก็นอนนะ ถ้าไม่ไหวก็นอนพักอีกสักวัน รักษาตัวด้วย” รองหัวหน้าวางสายไปแล้ว ไม่สบายต่อวันหยุดเราไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเลย เรากัดฟันกินข้าวประทังความหิวเสร็จก็แข็งใจอาบน้ำใส่เสื้อผ้า หยดเลือดที่โดนตบเป็นรอยที่เสื้ออยู่หลายจุด กลั้นใจเข้มแข็งเดินไปที่ประตู แต่เปิดไม่ได้ โมล็อคกุญแจขังเราไว้ในห้อง เราหันไปคว้าโทรศัพท์ทันที“โม ลาครึ่งวันคะบอกว่ามีธุระด่วน ออกไปเมื่อครู่นี้เอง” เรานอนอย่างคนหมดอิสรภาพอยู่ที่โซฟาตอนเขาเปิดประตูเข้ามาพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าของเรา
“ไม่ต้องไปไหนแล้ว มาอยู่นี่เลย” เขาโยนกระเป๋าไว้ข้างตัวเรา
“เราไม่อยู่ด้วยหรอก” เขาทำท่าจะหวดอีกครั้ง
“ไม่ฟังจะโดนดีกว่านี้นะ”
“ทำเราทำไม” เขาไม่ตอบ หนีไปยืนสูบบุหรี่คนเดียวที่ระเบียง ไม่เคยคาดคิดว่าโมจะเป็นคนแบบนี้
“อย่างที่บอก ถ้าเราไม่เขี่ยเอ๋ทิ้ง เอ๋ก็ห้ามมีคนอื่น”
“เราเป็นคนนะ เราไม่ใช่ของเล่น” ค่อยๆพูดอย่างเจ็บที่ปาก แล้วก็หยุดนิ่ง ไม่มีประโยชน์อะไร
“ลุกไหวมั๊ย จะพาไปหาหมอ”
เขาประคองเราให้เดินจนถึงโรงพยาบาล เราไม่บอกสิ่งที่โมกระทำกับเราทั้งหมดบอกเพียงแค่ว่ามีเรื่องชกต่อยกันกับเพื่อนแล้วเราก็เป็นลมหมดสติ หมอส่องเข้าไปในตามองหาอะไรก็ไม่รู้
“ไม่เป็นไรมากนะ กินยาแล้วนอนเยอะๆ ที่น่าเป็นห่วงคือความดันของคุณมันต่ำมาก พักผ่อนให้เพียงพอและก็กินยา ยาหมดค่อยมาเช็คอาการดูใหม่”
หมอออกใบรับรองแพทย์ให้สามวันและรับปากว่ามันจะดีขึ้น ส่วนรอยฟกช้ำต้องใช้เวลาสักระยะ รอยเขียวเป็นจ้ำที่มุมปากเห็นชัดกว่าเดิมเสียอีก
“ดีที่ฟันไม่หัก” หมอส่ายหน้า “วัยรุ่นเลือดร้อน ทีหลังก็อย่าวู่วามนะครับ ตัวเล็กแบบนึ้คงสู้เขาไม่ไหวหรอก เจ็บตัวเปล่าๆ” หมอถามว่าเราเดินแปลกๆ เราบอกว่าแค่จุกเสียดเท่านั้น โมเดินมาให้เราจับแขนเป็นหลักไว้แล้วพาไปขี้นรถ ขับกลับห้อง เขาไม่พูดอะไร ไม่มีคำขอโทษจากปากเขาให้เราได้ยินสักคำ
“หมอบอกเป็นอะไร ทำไมยาเยอะแยะ”
“เป็นเอดส์” เราบอกไปอย่างนั้น
“ปากดีอีกแล้ว สักวันคงเป็นอย่างปาก”
“กลัวก็ไม่ต้องมาอยู่ใกล้”
“อย่าโกหก เป็นอะไร”
“ไม่มีอะไรหรอก แค่ความดันต่ำ” เราไม่ค่อยรู้เรื่องกับไอ้โรคบ้าของเราหรอก รู้แค่ว่าเครียดและตกใจจะหมดสติได้ก็เท่านั้น เราเคยเป็นครั้งนึงตอนอยู่กับพี่โด่ง และนี่มันมาออกอาการเพราะโมอีกรอบ
“ดันทุรังมากกว่า” โมพูดคนเดียว เขาพาเรากลับห้องบังคับให้เรานอน โดยมีเขานอนอยู่ใกล้ๆ เราหวาดระแวงว่าเขาจะทำอะไรเราอีกจนไม่กล้าหลับตา
“จะไปไหน” เราพยายามจะลุกขึ้นกลางดึก
“นอนไม่หลับ เรากลัว” เราบอกไปตามตรง “เราไม่อยากตาย” โมลุกขึ้นมาดึงตัวเราไว้เขากอดเราแน่น
“ขอโทษนะ” เสียงกระซิบที่หูเบาพร้อมกับการซุกไซ้ที่ลำคอ โมดูดรอยที่เบียร์ทิ้งเอาไว้อย่างแรง เรานั่งนิ่งปล่อยให้เขาดันตัวเรานอนลงบนเตียงตามเดิม
“เจ็บมากมั๊ย” เรารู้ว่าเขาเอาอะไรแทงเราแล้วมันเป็นขวดโรลออนที่หัวมนทู่รอยเลือดที่ขวดนั้นบอกถึงความเจ็บปวดของเราได้ดี เราโยนมันทิ้งถังขยะไปแล้ว ไม่อยากคิดถึงมันอีก ไม่รู้ข้างในของเราจะเป็นอย่างไรบ้าง หน้าของเรามีแผลที่หางคิ้วเพราะนาฬิกาของโมมันครูดเอาตอนเขาสะบัดจากการกัด หมอดูแล้วบอกว่าไม่เป็นไรไม่ถึงขั้นต้องเย็บ หมดสภาพ เรานอนมองเพดานอย่างเลื่อนลอย เราจะหนีจากโมไปได้อย่างไร เราอยากจะพูดอะไรสักคำแต่มันก็พูดไม่ออก สมควรแล้วเหรอที่เราโดนกระทำอย่างนี้ มันสมควรแล้วเหรอ
“โมคิดอะไรอยู่” เราถามทั้งๆที่หลับตา
“ไม่รู้มันโกรธ จนเลือดขึ้นหน้า”
“โกรธทำไม ในเมื่อ” เขาเอามือมาปิดปากเรา
“อย่าพูดอีกได้มั๊ย เรารู้ว่าเอ๋เจ็บตัวเพราะเรา แต่เราอยากให้เอ๋จำมันไม่มีทางอื่น”
“เราจะต้องเจ็บตัวแบบนี้อีกทุกครั้งเหรอ”
“ไม่ต้องพูดแล้ว พอ พอ นอนนะ” เขากอดเราแน่นจนเราอึดอัด
ฤทธิ์ยามันทำให้เราไม่มีเรี่ยวแรงที่จะช่วยเหลือตัวเองเช่นเคย โมออกไปทำงานแต่ก็ขังเราไว้เช่นเคย มีเพียงโทรศัพท์เท่านั้นที่เราจะติดต่อกับโลกภายนอกได้ พรุ่งนี้เราคงจะดีขึ้น เราจะพูดกับเขาใหม่อีกครั้ง
แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีโอกาสได้พูดเพราะโมไม่เปิดโอกาสให้พูดอะไร เขาพาเราไปส่งที่ทำงานและยังกำชับว่าให้รออย่ากลับเอง
“หน้าไปโดนอะไรมา”
“หกล้ม” ทีน่าไม่ยอมเชื่อ “หล่อนเหมือนโดนซ้อมเลยนะเอ๋” ทั้งๆที่พยายามจะหลบสายตาเพื่อนแล้ว
“ใครทำหล่อน”
“ไม่หรอก ชั้นล้มเอง”
เรายื่นใบลาให้หัวหน้าเซ็นอนุมัติ รองหัวหน้ามองหน้าเราแล้วแกก็ลุกไปปิดประตูห้อง
“พักร้อนเหลืออีกกี่วัน” แกถามพร้อมจรดปากกาเซ็นต์ชื่อบนใบลา
“สองอาทิตย์”
“งั้นก็ใช้มันเถอะนะ พี่ไม่อยากเห็นเอ๋อยู่ในสภาพแบบนี้ที่ทำงานนะ มันไม่น่าดูเท่าไหร่”
“ฮะ” เราก้มหน้า
“เรื่องงานไม่ต้องห่วง ลูกน้องเอ๋เขาคงพอรันได้บ้าง พี่จะช่วยดูให้” แกจ้องหน้าเรา
“พอจะบอกได้มั๊ย ว่าเกิดอะไรขึ้น”
“เรื่องไม่เป็นเรื่องนะฮะ”
“แฟนเราซ้อมเหรอ” เหมือนแกรู้
“เอ๋ไม่มีแฟน”
“งั้นก็แล้วไป ยังไงก็คุยกันดีๆนะ พี่ให้เอ๋หยุดพักผ่อน มีสตินะเอ๋ พวกแบบเอ๋มันรักแรงโกรธแรง อยู่กันด้วยเหตุผลนะคะ ดูแลตัวเองให้ดี ตอนนี้ถ้ายังพูดกันไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องพูดอะไรกัน พี่เป็นห่วงนะ ตัวแค่นี้จะไปสู้อะไรเขาได้” แกพูดอย่างกับเราตัวกะเปี๊ยก
“พี่โทรบอกเขาให้มารับแล้ว”
“ใครฮะ”
“โม ไง อย่าหาว่าพี่ยุ่งเลยนะ เขาต้องรับผิดชอบสิ่งที่เขาทำนะ เขาโทรมาลางานให้เอ๋ทุกวันพี่ก็เลยถามเขา ก็ปากแข็งเหมือนกันทั้งคู่ ไม่เป็นไรเคลียร์กันให้รู้เรื่องนะ จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย” เขาพูดไปทำไม เรานึกตำหนิโมแล้วออกจากห้องหัวหน้า พี่ๆที่ทำงานมองหน้าเราด้วยความสงสัยกันทั้งนั้นเราได้แต่ยิ้มแล้วรีบกลับทันทีหลังจากที่โอนงานที่ค้างอยู่ให้ลูกน้อง
“เอ๋ ไม่ต้องห่วงนะ พักผ่อนให้เต็มที่ พี่จะดูแลงานให้” ลูกน้องที่อายุมากกว่าตบไหล่เราเบาๆ ก่อนที่เราจะลงไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
เบียร์เพิ่งมาถึงเขาชะงักที่เห็นรอยเขียวช้ำที่มุมปากทั้งสองข้างของเรา
“ไปทำอะไรมา”
“ทะเลาะกับเพื่อน” เขาไม่ใช่สาเหตุ เราเลี่ยงที่จะตอบคำถามมากกว่านี้
“เดี๋ยวเราโทรหานะ” เบียร์มายืนบอกใกล้ๆล็อคเกอร์
“เราไม่ได้อยู่ห้องช่วงนี้ ไว้เรากลับห้องแล้วเราจะโทรบอก เราลาพักร้อนสองอาทิตย์”
“เหรอ ว่าจะชวนไปเที่ยวด้วยกันซะหน่อย”
“ไว้คราวหน้านะ”
โมจอดรถรอที่ทางออกพนักงาน ต่างคนต่างไม่พูดอะไรจนถึงห้อง โมก็แยกไปทำงานต่อ เขาไม่ได้ขังเราเช่นเคยแต่เราก็ไม่ได้คิดจะไปไหนอยู่แล้ว เรานอนหลับตาอย่างเหนื่อยอ่อน เรื่องแค่นี้รู้ไปถึงที่ทำงาน เราช่างไม่มีความรับผิดชอบเสียจริงๆ แล้วอนาคตเราจะเป็นยังไง มีแต่ความมืดมนอยู่ในหัวสมอง.......................

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.