We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: กึ่งอีโรติกเรื่องที่สาม... เรื่องของพี่น้อง"
Posted by อิ๊ก on 05-May-12 at 07:09 PM

บทที่ 3

ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะมีวันนี้...
.
ถ้าเปิดดูอัลบั้มรูปถ่ายเก่าๆ ของที่บ้าน ผมจะเห็นพ่อ แม่ และพี่เต้ยไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันบ่อยๆ ผมจึงรู้ว่าแต่ก่อนบ้านเรามีฐานะดีมาก แต่ธุรกิจของพ่อไปได้ไม่ดีนักหลังจากผมเกิดได้ไม่นาน พี่น้ำบอกว่ามันเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไทยล้มระเนระนาด แต่พี่น้ำก็ยังเรียนหนังสืออยู่เลยไม่ได้รู้อะไรมากนอกจากฟังมาจากคนอื่นๆ ด้วยเหตุนี้ผมจึงเคยไปเที่ยวแค่ต่างจังหวัด แต่ยังไม่เคยไปต่างประเทศกับเขาเลยสักครั้ง (นอกจากพม่ากับลาว) และด้วยเหตุนี้ผมจึงคิดเสมอว่าพี่เต้ยโชคดีกว่าผม ผมรักพี่ชายและไม่เคยน้อยใจเขา แต่ผมแอบน้อยใจพ่อแม่บ้างในบางครั้ง
.
ธุรกิจของพ่อแย่ลงเรื่อยๆ และล้มไปในที่สุดเมื่อไม่นานมานี้เอง หลายๆ คนบอกว่าเราล้มบนฟูกเพราะพ่อแม่มีทรัพย์สินหลายอย่าง แต่ผมรู้ดีกว่านั้น สิ่งที่บ้านเราสูญเสียไปมันมีมากกว่ารายได้และตัวเงิน ผมไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นมานานเท่าไร แต่ผมเพิ่งมารู้เอาเมื่อตอนเทอมสองของชั้นม.3 นี้เองเมื่อพ่อย้ายออกจากบ้านไปอยู่กับพี่ชายของพ่อที่กรุงเทพฯ พ่อ แม่ และพี่เต้ยบอกว่าพ่อได้งานใหม่ และทีแรกผมก็เชื่ออย่างนั้น แต่หลังจากที่พ่อกลับบ้านมาแค่ไม่กี่วันในช่วงสามเดือนรวมทั้งท่าทีที่เปลี่ยนไปของแม่ ผมก็เข้าใจได้เองว่าจริงๆ แล้วเกิดอะไรขึ้น
.
ท่าทีที่เปลี่ยนไปของแม่คือ แม่ชอบแอบไปอยู่ในห้องนอนคนเดียว ตอนแรกผมไม่ได้คิดอะไร แต่พอหลายครั้งเข้าผมก็เข้าใจว่าแม่คงแอบไปร้องไห้ แต่หลังจากนั้นไม่นานแม่ก็เริ่มไปเที่ยวกับเพื่อนๆ และกลับดึกๆ ผมอยู่บ้านคนเดียวรู้สึกกลัว หลายครั้งก็จะนั่งรอจนแม่กลับซึ่งก็มักจะเลยเที่ยงคืนไปแล้ว ผมเริ่มไม่พอใจมากขึ้นๆ แต่ก็ไม่ได้พูดออกมาและไม่ได้บอกใครเลย ผมชอบทำให้คนรอบข้างมีความสุขและผมไม่ชอบเอาปัญหาของตัวเองไปบอกคนอื่น ผมไม่อยากให้ใครๆ คิดว่าผมเป็นเด็กมีปัญหา แม้แต่เพื่อนสนิทผมก็ไม่เคยเล่าให้พวกมันฟัง
.
แล้วผมก็ทะเลาะกับแม่จนได้ ผมก็ดื้อของผมตามปกติ แต่แม่ว่าผมรุนแรงมากกว่าทุกครั้ง ผมเสียใจมากและเก็บเสื้อผ้า ตัดสินใจนั่งรถเข้ากรุงเทพฯ ในใจผมนึกถึงพ่อกับพี่น้ำ ผมอายพี่น้ำ ไม่อยากให้เขาเห็นผมในสภาพนี้ แต่ผมกลัวพ่อดุยิ่งกว่า สุดท้ายเมื่อลงรถแล้วผมจึงเรียกแท็กซี่ไปบ้านพี่น้ำ
.
วันนั้นเป็นวันธรรมดาซึ่งหมายความว่าวันรุ่งขึ้นผมคงต้องขาดเรียน โชคดีที่ป้ากับลุงไปทริป ส่วนพี่คนอื่นๆ เขาก็ไม่ได้เห็นว่าเป็นเรื่องแปลกที่ผมจะมาหาพี่น้ำเพราะเห็นว่าเราสนิทกัน มีแต่พี่น้ำเท่านั้นที่ทำหน้าประหลาดใจเมื่อผมไปกดกริ่งหน้าประตูบ้าน ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองหรือเปล่า แต่ในชั่วถัดมา ผมเห็นสีหน้าของพี่น้ำเปลี่ยนเป็นดีใจ
.
พี่น้ำไม่ได้ซักไซ้ไล่เรียงอะไรผม เขาเป็นคนอย่างนี้แหละ แต่ผมเดาว่าพี่เขาคงโทรไปบอกแม่แล้วแน่ๆ พี่น้ำหาข้าวให้ผมกิน ไล่ผมไปอาบน้ำ แล้วก็ให้ผมนอน แต่คืนนี้พี่น้ำเข้านอนพร้อมผม
.
เตียงของพี่น้ำเป็นเตียงขนาดเล็ก ปกติแล้วผมจึงต้องนอนพื้น ส่วนพี่น้ำนอนบนเตียง แต่วันนี้พี่น้ำมานอนข้างๆ ผม อ้างว่าขี้เกียจเก็บเตียง พี่น้ำถามผมว่า
.
“ตกลงมีเรื่องอะไร อยากเล่ารึเปล่า” นี่คงเป็นสาเหตุแท้จริงที่เขาลงมานอนตรงนี้
.
ตอนเด็กๆ ผมรู้สึกว่าบ้านของเราอบอุ่นกว่าอีกหลายๆ บ้าน แม้พ่อแม่จะไม่เคยพาผมไปเที่ยวต่างประเทศเหมือนพี่เต้ย แต่ทั้งคู่ก็เอาใจใส่ผมอย่างดี ทั้งคู่ไม่เคยทะเลาะกันรุนแรงเลย แล้วเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นเมื่อไรนะ... เมื่อสี่ปีที่แล้วตอนผมสิบขวบ เรายังไปกางเต้นท์นอนต่างจังหวัดด้วยกันสี่คน เมื่อตอนผมอายุ 12 เราก็ยังไปดูหนังด้วยกันออกบ่อย หรือจะเป็นปีที่แล้ว? ผมไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมแค่ปีเดียวโลกของผมถึงกลับตาลปัตรได้ขนาดนี้ ผมโกรธและเกลียด แต่ไม่รู้ว่าโกรธใคร เกลียดใคร อาจจะเป็นตัวผมเองก็ได้ที่ทำให้ทุกอย่างมันแย่ลงตั้งแต่เกิดมา
.
ผมร้องไห้
.
“เฮ่ย...” พี่น้ำพูดได้แค่นั้นแล้วก็เอามือมาลูบหัวผม พี่น้ำทำอย่างนี้เป็นประจำอยู่แล้ว แต่ปกติผมไม่ได้รู้สึกอะไร แค่รู้ว่าเขาให้ความเอ็นดูผมเท่านั้น แต่ในคืนนี้มันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก คงเหมือนกับเวลาที่เราอยู่ห้องแอร์นานๆ แล้วก็เดินออกมาจากห้อง จริงๆ อากาศข้างนอกก็อุ่นเป็นปกติ แต่เรากลับรู้สึกว่ามันอุ่นมากกว่านั้นหลายเท่า นั่นทำให้ผมยิ่งสะอื้นใหญ่ ต่อมน้ำตาผมเบรกแตกเสียแล้ว
.
“เอา... ร้องมาๆ” พี่น้ำพูดพลางขยับตัวเข้ามาชิดผมทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นมากขึ้นอีก ผมหันไปกอดพี่น้ำ เอาหน้าซบซอกแขนข้างที่พี่เขาเอื้อมมาโอบตัวผมไว้... แล้วร้องไห้ กลิ่นสบู่จางๆ ของพี่น้ำลอยเข้าจมูกผม
.
“อยากเล่าเมื่อไหร่ก็เล่านะ ไม่ต้องอายพี่หรอก... แต่ถ้าอยากร้องก็ร้องเถอะ” พี่น้ำบอกผมแล้วหอมผมที่หน้าผาก ผมกอดพี่น้ำแน่นขึ้นรู้สึกอบอุ่นบอกไม่ถูก ลึกๆ แล้วผมก็รู้สึกเขินอยู่เหมือนกัน แต่ในเมื่อเขาเป็นพี่ผม ผมก็ขออ้อนเขาสักหน่อยเถอะ...
.
ในคืนนั้นผมไม่ได้เล่าอะไรให้พี่น้ำฟัง แต่ร้องไห้จนหลับไปเมื่อไรไม่รู้ ผมคงหลับไปในท่าจมูกซุกรักแร้พี่น้ำนั่นแหละ แต่พอตื่นมาตอนเช้า ต่างคนก็ต่างนอนไปคนละทิศ นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่คืนที่ทั้งผมและพี่น้ำนอนไม่ได้กอดหมอนข้างเลย และดังนั้นเมื่อผมตื่นขึ้นมาและมองไปทางพี่น้ำ ภาพที่เห็นคืออวัยวะกลางลำตัวของพี่น้ำมันแข็งชี้ดันบ๊อกเซอร์จนตุงโด่เหมือนของผมในตอนนี้ ผมมองของผมกับของพี่น้ำสลับกันแล้วก็สงสัยว่าขนาดมันจะห่างกันสักแค่ไหน ผมไม่ได้ตั้งใจคิดอะไรไม่ดีกับพี่ตัวเองหรอก แค่อยากรู้ว่าของผมมันใกล้จะเท่าของผู้ใหญ่แล้วหรือยัง เพราะปีสองปีมานี้จู๋ผมมันใหญ่ขึ้นเร็วมากๆ แต่ตัวผมยังเล็กนิดเดียว
.
ที่โรงเรียนมีสอนวิชาว่ายน้ำ เมื่อเทียบระหว่างตอนอยู่ม.2 กับตอนขึ้นม.3 นั้น มีเพื่อนผู้ชายของผมหลายๆ คนที่ตัวสูงพรวดเป็นสิบเซนต์ บางคนยังบึ้กขึ้นอีก รูปร่างเหมือนเป็นหนุ่มทีเดียว แต่ผมก็ยังตัวเท่าเดิม อาจจะสูงขึ้นสักเซนต์หนึ่งได้ละมั้ง แต่ถ้าเทียบกันเฉพาะที่เป้ากางเกงแล้ว เป้าของผมมันอูมขึ้นชัดกว่าเพื่อนตัวใหญ่ๆ หลายคนเสียอีกผมจึงไม่กลัวใครจะว่าผมเตี้ย เพราะผมมีดีของผม และรู้สึกได้ว่าเพื่อนๆ หลายคนก็แอบมองเป้าผมเหมือนกัน สีประจำโรงเรียนของผมคือสีฟ้า เพราะฉะนั้นกางเกงว่ายน้ำของพวกเราจึงเป็นสีฟ้า เพื่อนๆ ลองคิดดูเถอะครับ ทุกส่วนนูนและส่วนเว้าของอวัยวะชิ้นสำคัญของลูกผู้ชายมันเลยถูกขับเน้นให้เด่นชัดเหมือนดูหนังสือสุขศึกษาเลยทีเดียว การเรียนว่ายน้ำจะแยกเวลาระหว่างชายหญิงและห้องเราไม่มีเพื่อนผู้ชายที่หวานแหววผมจึงไม่ค่อยรู้สึกเขินมากเท่าไร
.
ความโศกเศร้าเมื่อวานมันเจือจางลงไปมากแล้ว เมื่อเห็นภาพนี้ผมนึกอยากแกล้งพี่น้ำ ใจอยากจะดีดที่ปลายอวัยวะที่แข็งตุงนั้นแต่ก็ไม่กล้า ผมจึงลุกขึ้นแล้วนอนพาดพี่น้ำทั้งตัวในแนวขวาง ถ้ามองลงมาจากบนเพดานห้อง ตัวของเราจะไขว้กันเป็นไม้กางเขน ในท่านี้ผมแกล้งปลุกพี่น้ำให้ตื่นได้ แขนขวาของผมพาดไปบนหน้าพี่น้ำ ส่วนแขนซ้ายก็พาดลงไปบนท่อนเอ็นของพี่น้ำ...ผมก็แค่อยากรู้ว่ามันแข็งแค่ไหนเท่านั้นเอง
.
พี่น้ำลืมตาตื่นขึ้นมองดูผมพลางกะพริบตาปริบๆ ผมรู้สึกว่าพี่น้ำกระดกท่อนเอ็นดันแขนผม หรือว่าท่อนของพี่น้ำมันกระดกของมันเองก็ไม่รู้
.
“หนักจัง โดนกุ้งแห้งทับ” พี่น้ำเย้ยหยัน ผมจึงยันขาขึ้นให้น้ำหนักตัวกดลงไปบนตัวพี่น้ำมากขึ้นอีก
.
“โอ้ย หนักเว้ย” พี่น้ำโวยวายแล้วเอาแขนขวามาโอบหน้าอกผมไว้ จากนั้นผลัก ดัน และพลิกตัวขึ้น แล้วตอนนี้กลับกลายเป็นว่าผมนอนอยู่กับพื้น ส่วนพี่น้ำขึ้นมาทับผมไว้แทน พี่น้ำเอาอกของเขามาทับอกผม แต่มือข้างหนึ่งไม่วายเอามารองหัวผมไว้ คงเพราะกลัวฟาดกับพื้น ตัวพี่น้ำหนักมากๆ ถึงมากที่สุด
.
“โอ้ย หนัก” คราวนี้ผมเป็นฝ่ายพูดบ้าง พลางใช้สองแขนดันตัวพี่น้ำออกเพราะตัวพี่น้ำหนักจริงๆ เล่นเอาผมพูดแทบไม่ออก แต่พี่น้ำได้แต่ยิ้มขำ ล็อกแขนผมไว้สองข้าง
.
“อยากมาทับพี่ทำไม” พี่น้ำหัวเราะเยาะ ในท่านี้ หน้าเราทั้งคู่เกือบจะชนกันแต่ผมไม่ได้รู้สึกขัดเขินอะไร เพราะกำลังอึดอัด
.
“โอ้ย หนัก ยอมแล้วๆ” ผมเริ่มอ้อนวอน “พอแล้ว” เสียงผมเล็ดลอดออกมาอย่างยากลำบาก พี่น้ำหอมผมที่หน้าผากฟอดใหญ่ๆ หนึ่งที แล้วพูดว่า
.
“ชื่นใจ” จริงๆ เมื่อคืนพี่น้ำก็หอมผมไปทีแล้ว ซึ่งตอนนั้นผมรู้สึกขอบคุณ แต่ตอนนี้ผมกลับเขินมากๆ เพราะผมก็เริ่มเป็นหนุ่มแล้ว ถ้าเป็นสักเมื่อสองปีที่แล้วผมคงไม่ได้คิดอะไร ที่สำคัญตอนนี้จู๋ผมยังแข็งตุงดันกางเกงอยู่เลย พอพี่น้ำหอมผมแบบนี้มันเกิดความรู้สึกแปลกๆ ผมรู้สึกว่าจู๋มันกระดกขึ้นโดยที่ผมไม่ได้ตั้งใจ
.
“แหวะ... พี่น้ำแกล้ง... อี๋...” ผมร้องโวยวายแก้เขิน แต่พี่น้ำก็ผละออกไปแล้ว เมื่อพี่น้ำยืนขึ้น อวัยวะของพี่น้ำก็ชี้ตุงออกมาตั้งฉากกับลำตัว พี่น้ำหันหน้ามาหาผมโดยไม่เขินอาย ผมเห็นสายตาของพี่น้ำชำเลืองมองที่เป้ากางเกงแข็งตุงของผม ผมกำลังเริ่มเขินขณะที่พี่น้ำพูดว่า
.
“สมน้ำหน้า อยากแกล้งกันก่อน” แล้วจากนั้นพี่น้ำก็ถอดบ๊อกเซอร์ลงต่อหน้าผม อวัยวะที่แข็งโด่ดีดผึงออกมาให้ผมเห็นเต็มสองตาในระยะใกล้ๆ
.
“อาบน้ำก่อน” แล้วพี่น้ำก็หยิบผ้าเช็ดตัวมาพันเอวก่อนเดินเข้าห้องน้ำไป ทิ้งผมนอนอยู่กับพื้นห้อง ในสมองนึกย้อนถึงแต่ช็อตเมื่อสักครู่ที่อวัยวะอันเขื่องของพี่ชายมันชี้ออกมาให้ผมเห็นเต็มๆ ตาท่ามกลางแสงสว่างของตอนสายๆ แบบนั้น ผมบอกไม่ถูกว่ารู้สึกเขิน หรือตกใจ หรืองง หรือทึ่ง หรืออาจจะเป็นทั้งหมดนี้ผสมกันก็ได้

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.