" เฮ้ย......ตั้งใจฝึกกันหน่อยสิวะ.....ไอ้พวกขึ้เกียจสันหลังยาว.........." เสียงตวาดดังก้องโรงยิมแห่งค่ายมวย " นพรัตน์ " และเป็นเสียงที่ทุกคนในค่ายคุ้นเคยเป็นอย่างดี ครูทองภูมิ ครูฝึกมวยเก่าแก่ประจำค่ายถึงแม้ค่ายมวยแห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ก็มีนักมวยดาวรุ่งฝีมือดีๆ อยู่หลายคน
ปัญหาคาใจของครูทองภูมิตอนนี้มีอยู่ว่า .....มันไม่แปลกหรอกที่นักมวยฝีมือดีจะขึ้นชกเพื่อชิงตำแหน่ง และนำเงินมาสู่ค่าย แต่ไอ้นักมวยที่มีฝีมือดี มีแววเป็นดาวรุ่งมากกว่าใครๆ แต่ไม่ยอมขึ้นชกบนสังเวียนนี่สิ................จะทำไงดี
พอครุ่นคิดเสร็จ....เจ้าตัวปัญหาก็โผล่มาพอดี.....
" หวัดดีครับ ...จารย์" ไอ้ดำกระพุ่มมือไหว้ครูทองภูมิอย่างมีสัมมาคารวะ
" เอ่อ ไหว้พระเถอะ ไง วันนี้จะมาฝึกอย่างเดียวอีกสิท่า........ฝึกไปทำไมวะ ถ้าไม่ได้ขึ้นชก" ครูทองภูมิพยายามเกลี้ยกล่อม (แกมบีบบังคับ) ครั้งที่เท่าไรก็ไม่รู้
" ฮูยยย์ จารย์ ผมบอกแล้วไง ฝึกเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง แล้วก็มีกล้ามสวยๆ ไว้อวดสาวๆ ไงครับ" ไอ้ดำตอบพลางยักคิ้วหลิ่วตาให้ครูประจำค่าย
ครูทองภูมิเกิดรู้สึกอยากใช้วิทยายุทธจระเข้ฟาดหางสักเปรี้ยง......" หึ ก็เหตุผลเดิมๆ นั่นแหละ ถ้าแค่อยากฝึกให้แข็งแรง ไว้อวดสาว ก็ไปฝึกที่บ้านสิ มีคนเห็นน่ะว่า เอ็งอยู่บ้านใหญ่โตที่กลางซอยโน่น บ้านใหญ่ขนาดนั้นก็น่ามียิมส่วนตัวบ้างหรอก"
ไอ้ดำหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย " โธ่ จารย์ จารย์ก็รู้นี่ว่า ผมไม่ใช่เจ้าของบ้าน เป็นแค่คนใช้เค้า ในบ้านน่ะ มียิมก็จริง แต่ผมไม่มีสิทธิ์เข้าไปใช้หรอก" มันตอบพลางคิดว่า แค่พูดไม่กี่คำ มันยังโดนคุณริวด่าขนาดนั้น ขืนไปขอใช้ยิม มีหวังถูกเฉดหัวออกจากบ้านแน่
ครูทองภูมินิ่งไปนิดกับความจริงที่ไอ้ดำพูด...........
"เออ ก็นั่นแหละ ยังไงแกก็เป็นนักมวยที่มีฝีมือ ที่กูพูดเพราะอยากให้มึงได้มีโอกาสแสดงฝีมือบนเวทีมวยจริงๆ ดีกว่าฝึกต่อยลมไร้จุดหมายไปวันๆ "
" คร้าบบบบบบบบ ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำ จะน้อมรับไว้พิจารณาคร้าบบบบบบบบ...." ไอ้ดำทำหน้าทะเล้นก่อนรีบวิ่งไปเปลี่ยนชุด และฝึกซ้อม "ไปวันๆ" ร่วมกับกลุ่มเพื่อนๆ ของมัน
ครูทองภูมิถึงกับส่ายหัวกับความล้มเหลวในการเกลี้ยกล่อมของตนอีกครั้งหนึ่ง
.........................................................................................
พลบค่ำ.......
ไอ้ดำฝึกซ้อมเสร็จก็สะพายเป้เดินดุ่มๆ กลับบ้าน ทันใดนั้น รถคันหรูเลี้ยวตัดหน้ามันไปก่อนที่จะไปจอดนิ่งสนิทหน้าประตูใหญ่
ไอ้ดำเงยหน้าขึ้นมองผ่านกระจกรถไปยังคนตัวเล็กที่นั่งอยู่หลังรถคันนั้นแล้ว...มันก็ได้รู้จักกับคำว่า รักแรกพบ.........................
เด็กหญิงที่มีใบหน้าขาวผ่อง จมูกโด่งป็นสัน ริมฝีปากที่เย้ายวนชวนมอง อายุไม่น่าจะเกิน 14 - 15 ปี เธอดูสวยน่ารัก และน่าทะนุถนอมเหลือเกินราวกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบตัวน้อยที่สูงค่า
เธอนั่งหน้าเชิดคอตรง สายตาพุ่งตรงไปข้างหน้า ก่อนจะมีอะไรสักอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกว่า มีคนกำลังมองเธออยู่แบบตาไม่กระพริบ
เธอค่อยๆ เอี้ยวหน้าจิ้มลิ้มหันมามองไอ้ดำ ซึ่งกำลังมองมายังเธอในลักษณะที่เรียกได้ว่า..........หมามองเครื่องบิน
เธอสบตากับไอ้ดำอยู่ชั่วครู่....ก่อนจะยิ้มที่มุมปาก.........แล้วยกนิ้วกลางให้ไอ้ดำ ก่อนที่ประตูจะเปิดขึ้น และรถคันนั้นค่อยๆ เคลื่อนเข้าบ้านหลังใหญ่ไป
ไอ้ดำยืนค้างอยู่ตรงนั้น เหมือนอยู่ในความฝัน (ร้าย).........เสียงสาวใช้ที่วิ่งมาเปิดประตูและส่งเสียงต้อนรับนายหญิงน้อยของบ้าน ทำให้มันรู้เพิ่มเติมว่า
เด็กหญิงคนนั้นชื่อ คุณนุ่น...................
ไอ้ดำเดินกลับมาบ้าน........ในหัวของมันมีแต่ภาพของน้องนุ่นวนเวียนไปมา ไม่สามารถจะสลัดทิ้งไปได้
มันนอนก่ายหน้าผาก รู้อยู่แก่ใจว่าน้องนุ่นเป้นสิ่งที่เกินเอิ้อม แต่คนมันชอบไปแล้วนี่น่า ทำไงได้
หัวใจมันเต้นโครมคราม และไม่สามารถข่มตาให้หลับได้จนใกล้รุ่ง
..................................................................................................
รุ่งเช้า...............
มันขยี้ตา...ก่อนลุกขึ้นอย่างงัวเงียไปอาบน้ำแล้วไปรับสำรับอาหารเช้าจากทางครัว เพื่อยกไปให้คุณริวของมันที่ห้องนอนตามปกติ
มันถือถาดอาหารเช้ารออยู่ข้างหน้าห้องนอนคุณริว มือของมันที่จะเคาะประตูที่แง้มอยู่หยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์แว่วมาจากข้างในห้อง เสียงนี้เป็นเสียงที่มันคุ้นเคยดี
" เอ่อ ใช่ เมื่อวานแม่งโครตมันส์เลย ..ีอีนุ่นแม่งโคตรตอดโคตรฟิต ใช่ ใช่ สุดยอด นมมันขาวอวบยอดสีชมพูสู้มือด้วยนะโว๊ย...........แถมที่สำคัญนะโว๊ย.....แม่งยังซิงว่ะ ฮ่าๆๆ อิจฉากูละสิมึง......."
ไอ้ดำถือถาดยืนค้างอยู่หน้าห้อง ตัวมันเย็นเฉียบเหมือนใครเอาน้ำแข็งมาราดตัว
ถึงมันไม่ฉลาดนัก แต่เท่าที่ฟังจากบทสนทนา...ก็ไม่ยากที่จะปะติดปะต่อเรื่องราว แล้วมันพอเดาได้แล้วว่า ทำไมเมื่อวาน นายน้อยของมันถึงเดินกลับบ้าน ทำไมถึงกลับไม่ตรงเวลา
โธ่เว้ย...นี่รักแรกของมันถูกฟันไปแล้วเหรอเนี่ย....แถมยังไม่ใช่ใครที่ไหน คุณริวเจ้านายของมันนี่เอง
ทันใดนั้น ถาดที่มันถือก็ดูจะหนักอึ้งจนมันแทบยกไม่ไหว ตัวของมันอ่อนแรงเอาดื้อๆ
แต่มันก็กัดฟัน.....จับถาดไว้มั่นก่อนที่จะเคาะประตูเพื่อขัดจังหวะการสนทนา เพราะมันไม่แน่ใจว่า จะสามารถรับฟังต่อได้แค่ไหน
เสียงเคาะประตูทำให้เสียงพูดคุยโทรศัพท์หยุดชะงักลง
" ใครว่ะ....มากวนกูแต่เช้า"
ใบหน้าหล่อเหลาปรากฏอยู่ตรงหน้าประตู ตาของมันประสานกับเจ้านายหนุ่มชั่วครู่
" อ้อ มึงนี่เอง นึกว่าใคร.....เอาถาดนั่นวางไว้หน้าประตูแหละ กูยังไม่หิว และจำไว้ อย่ากวนกูอีก" ตามด้วยเสียงปิดประตูดังโครม
การพูดจาในลักษณะนี้...มันชินเสียแล้ว แต่วันนี้ ดูเหมือนจะไม่มีอะไรทำร้ายจิตใจมันได้เท่ากับบทสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อกี้อีกแล้ว
มันนึกอิจฉาไอ้ริวมาตลอดเพราะไอ้ริวเหนือว่ามันทั้งรูปร่างหน้าตา ฐานะ การศึกษา แถมตอนนี้ยังขโมยความซิงของหญิงที่มันชอบไปอีก
มันกำหมัดด้วยความรู้สึกพลุ่งพล่าน คลั่งแค้น ในใจนึกอยากที่จะถีบประตูออกแล้วลากไอ้ริวมากระทืบเสียให้หายแค้น.....แต่มันยังทำไม่ได้ เพราะเกรงว่า จะเดือดร้อนถึงแม่.........
ยัง...ยังก่อน อดทนไว้ รอก่อน มันเชื่อว่า เวลาที่จะเอาคืนไอ้ริวทั้งต้นทั้งดอกจะมาถึงในไม่ช้า