We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: เรื่องเล่าคาวน้ำกาม"
Posted by romanrome on 30-Nov-12 at 01:08 AM
วันนี้ตั้งแต่หลังเที่ยงวันเป็นต้นไป ผมไม่มีเรียนและไม่มีกิจกรรมที่จะต้องเข้าร่วม ดังนั้นผมจึงแต่งตัวไปช็อปปิ้ง และเดินเล่นที่ห้างไดอาน่า (ตามปรกติ ตอนอยู่มหาลัยเดิม หลังเลิกเรียนเสร็จแล้ว ผมมักจะใส่ชุดนักศึกษาออกไปตะลอนๆข้างนอกเสมอ โดยที่ไม่สนใจจะเปลี่ยนชุดแม้แต่น้อย ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เหตุผลง่ายๆคือ “ขี้เกียจ” เวลานี้ผมได้มาเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนของมหาลัยแห่งนี้ ถึงแม้ว่าจะต้องเข้าเรียนเหมือนกับมหาลัยเดิม แต่ถึงอย่างไร ผมก็ยังรู้สึกว่า ผมมาทัศนศึกษา ไม่ได้มาเรียนอยู่ดี)

ผมกำลังเดินซื้อของใช้ส่วนตัวที่แผนกซุปเปอร์มาร์เก็ต ผมเดินมาที่แผนกสบู่ ยาสระผม และครีมบำรุงผิว สายตาผมมาสะดุดอยู่ที่ขวดวาสลีนทาผิว ผมหยิบขวดวาสลีนขึ้นมา ดูไปพลางนึกถึงดากงอนๆและรูดากฟิตๆตอดๆของพี่ต่อ อยากจะงัดเอาแท่งตอปิโดของผมยัดเข้าไปในรูดากของพี่แก และกระเด้ารัวเข้าๆออกๆให้หายเซี่ยนกันไปข้างหนึ่ง

“มาคนเดียวหรือว่ะ? โลกกลมจริงๆได้เจอมึงที่นี่อีก” เจ้าของเสียงกล่าวทักผมอย่างเป็นกันเองมากๆ

ผมหันหน้าไปมองด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าเป็นใคร... นึกว่าใครที่ก็ “ไอ้หน้าหล่อพัฒน์” นี่เอง (ถ้าได้อ่าน2ตอนที่แล้ว คงพอจะรู้จักและได้ยินกิตติศัพท์ของไอ้พัฒน์รูปหล่อ มาบ้างแล้วนะครับ) ผมจ้องไอ้พัฒน์ด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรเอามากๆ เนื่องจากยังเคืองๆจากคดีความที่โรงอาหารคราวนั้น (จาก2ตอนที่แล้ว)

“ยิ้มให้กูบ้างซิ มึงยังไม่หายโกรธจากเรื่องวันนั้นอีกเหรอ? กูขอโทษที่เผลอว๊ากมึงไป กูไม่รู้นี่ว่ามึงอยู่ปีเดียวกับกู เห็นหน้ามึงดูละอ่อนแบบนี้ กูก็นึกว่ามึงเป็นรุ่นน้องปี 1” ไอ้พัฒน์ขอโทษขอโพยผม

ผมมองเห็นแววตาที่ดูค่อนข้างจะจริงใจบนใบหน้าที่หล่อทะลึ่งทะเล้นของไอ้พัฒน์ ผมกับใจอ่อนขึ้นมาทันที (ใบหน้าของมันหล่อน่าเอาซะขนาดนี้ จะไม่ให้ผมใจอ่อนได้อย่างไรครับ)

“ก็ได้” ผมตอบแบบไว้เชิง

ทันใดนั้น สายตาของผมก็ไปสะดุดเห็นสิ่งที่ไอ้พัฒน์ถืออยู่ในมือ พอผมเห็นของที่มันถืออยู่ในเท่านั้นแหละ ผมถึงกลับสติแตกควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่ ปล่อยฮาออกมาอย่างกับคนบ้า หัวเราะจนลืมความถือตัวเจ้ายศเจ้าอย่าง ไปอย่างสิ้นเชิง

“มึงหัวเราะอะไรกู?” ไอ้พัฒน์ถามอย่างงงๆ

พอควบคุมสติอารมณ์ได้ซักพัก ผมก็พูดออกไปว่า... “ไอ้ของสีชมพูที่มึงถืออยู่ในมือ”

“ไอ้บ้า...” ไอ้พัฒน์รีบซ่อนกล่องพลาสติกโปร่งใสที่สามารถมองเห็นกางเกงในสีชมพูและสีขาวที่อยู่ข้างในกล่อง ได้อย่างชัดเจน

“มึงใส่กางเกงในไซ้ส์เล็กหรือว่ะ?” ผมพูดไปหัวเราะไป และไม่ลืมที่จะจ้องมองตรงเป้ากางเกงของไอ้พัฒน์

ไอ้พัฒน์รีบเอามือกุมเป้าอย่างรวดเร็ว พร้อมกับพูดว่า... “กูจะใส่ไซ้ส์อะไรมันก็เรื่องของกู ถึงกูใส่ไซ้ส์เล็กก็ใช่ว่ามันจะเล็กไปซะทุกอย่าง ถ้าโดนแล้วจุกอย่าหาว่ากูไม่เตือนแล้วกัน”

คำพูดของไอ้พัฒน์ทำเอาผมสะดุ้งโหยง พูดให้สามารถจินตนากามได้อย่างเห็นภาพทุกอณูเนื้อจริงๆ

“ขอโทษจริงๆว่ะ กูลืมชื่อมึง มึงชื่ออะไร? ส่วนชื่อกูมึงคงรู้แล้วซินะ เออ... มึงมาคนเดียวหรือ? มายังไง? แล้วจะกลับยังไง?” ไอ้พัฒน์เอ่ยถามผม

“กูชื่อ กันต์ ส่วนชื่อมึง กูรู้ตั้งแต่วันที่กูโดนมึงว๊ากแล้ว กูมาคนเดียว นั่งรถป๊อกๆมา มึงมากับใคร?” ผมย้อนถาม

“กูก็มาคนเดียวเหมือนกัน ขี่มอเตอร์ไซด์มา มึงกลับกับกูละกัน เดี๋ยวไปส่งเอง จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลารอรถป๊อกๆ” ไอ้พัฒน์กล่าวเชิญชวน

มีหรือที่ผมจะปฏิเสธข้อเสนอนี้ได้ลงคอ ผมไม่รอช้า นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ของไอ้พัฒน์กลับทันที ระหว่างทางไอ้พัฒน์ซิ่งมอเตอร์ไซด์ฉวัดเฉวียนมากๆ ยังกับจะไปแข่งขันรายการชิงแชมป์เจ้านักบิดที่ไหน ผมใจหายใจคว่ำมาตลอดทาง พลันเอาแขนกอดรวบเอวของไอ้พัฒน์เอาไว้ เพราะกลัวตก ทันใดนั้น ไอ้พัฒน์ก็เบรคกระทันหันตรงสี่แยกไฟแดง ทำเอาตัวผมเซไปซบตัวมันทันที แต่ที่มากกว่านั้นคือ มือของผมดันไปกุมไว้ตรงเป้ากางเกงของไอ้พัฒน์อย่างไม่ได้ตั้งตัวและไม่ได้ตั้งใจ

“มึงนี่ไม่ยอมจบซะที ไอ้เรื่องขนาดกางเกงในที่กูใส่ อยากจะรู้ละซิว่า ของกูเล็กจริงหรือเปล่า” ไอ้พัฒน์พูดออกตรงๆ

“กูเปล่า... ก็มึงเล่นซิ่งมอเตอร์ไซด์เร็วเหมือนจรวด กูกลัวจะตกเลยเอามือโอบเอวของมึงไว้ นี่แม่ง... อะไรกัน นึกจะเบรคก็เบรคเอาดื้อๆ กูก็เสียหลักนะซิ มือไม้กูเลยเป็นแบบนี้” ผมอธิบายโดยไม่มีอ้อมค้อม นับว่าเป็นผลประโยชน์ที่มาจากความบังเอิญ

“กูหิวข้าว มึงกินอะไรมาหรือยัง?” ไอ้พัฒน์ถามผม

“ยังเลย กูก็หิวเหมือนกัน เดี๋ยวกะว่าพอถึงมอแล้ว จะไปหาอะไรกินซักหน่อย”

“เอาอย่างนี้... เดี๋ยวกูพามึงกินข้าวที่ร้านอรุณสวัสดิ์ ร้านนี้อาหารอร่อยมาก ที่สำคัญเจ้าของเป็นคนเหนือด้วย มึงจะได้อู้กำเมืองกับเขาให้หายคิดถึงบ้าน” ไอ้พัฒน์เสนอความคิดเห็น (แถมยังรู้อีกนะว่า ผมเป็นคนเหนือ)

“ตามใจมึง” ผมตอบสั้นๆ

ผมกับไอ้พัฒน์นั่งทานข้าวด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อย (ไม่ใช่อร่อยเพราะความหวานหรือโรแมนติกอะไร แต่อร่อยเพราะต่างคนต่างหิว เลยทำให้กินอะไรก็อร่อยไปหมด)

“วันหยุดสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ มึงจะทำอะไร? เห็นว่าหยุดยาวไปจนถึงวันอังคาร” ไอ้พัฒน์เอ่ยถาม

“กูไม่รู้เลย ขึ้นอยู่กับว่าเบื่อมาก เบื่อน้อยแค่ไหน เบื่อมาก ก็อาจจะไปเที่ยวไกลๆหน่อย เบื่อน้อยก็เที่ยวแถวๆนี้” ผมตอบแบบผ่านๆ ทั้งที่จริงแล้ว แซยิดได้ชวนผมไปเที่ยวบ้านของเขาที่ยะลา

“มึงไปเที่ยวบ้านกูไหม? บ้านกูอยู่หาดใหญ่ เดี๋ยวกูพามึงไปล่อนทั่วหาดใหญ่เอง” ไอ้พัฒน์เชิญชวนผม

“จะดีหรือ? กูเกรงใจมึงและที่บ้านของมึงด้วย กูกลัวไปรบกวนหรือสร้างภาระให้ ” ผมตอบแบบสงวนท่าที (คงจะรู้นะครับว่าใจจริงผมจะตอบว่าอะไร)

ในที่สุดไอ้พัฒน์ก็คะยั้นคะยอ จนผมตอบตกลง (ฮิๆๆๆ สำเร็จเป็นไปตามที่คาดไว้จริงๆ งานนี้รับรองน้ำแตกกระจุย กระจาย กระเจิง แน่ๆ)

เมื่อกลับถึงหอพัก ผมรีบไปบอกแซยิดทันทีเรื่องกำหนดการไปเที่ยวบ้านของแซยิดที่ยะลา (ผมอยากจะลองเปลี่ยนรสชาติอื่นดูบ้าง เวลามีอะไรกับแซยิด เขาชอบให้ผมเก็บบัวให้ตลอด ครั้นพอผมอยากจะกอดจูบลูบใล้ ดูดหัวนม หรือไม่ก็ให้แซยิดเก็บบัวให้ผม เขาก็ไม่ยอมท่าเดียว ขนาดขอให้เขาช่วยชอลิ้วเฮียงให้ผม เขายังไม่ยอมเลย บอกว่าไม่ถนัด ไม่คุ้นเคยบ้าง อะไรกัน ตั้งหลายๆครั้งแล้วยังบอกว่าไม่คุ้นเคยอีกเหรอนี่!!!!!!!!!!!!!)


“แซยิด... เราต้องขอโทษนะ คือวันศุกร์นี้เราไปเที่ยวบ้านแซยิดที่ยะลาไม่ได้จริงๆ เราต้องไปออกค่ายอาสากับทางชมรม เอาไว้คราวหน้าละกันนะ” ผมแกะสะตอป้อนใส่ปากแซยิด อย่างเนียนๆ

“ว้า... เสียดายจังเลย งั้นเราก็อดที่จะโดนนายดูดให้นะซิ ไม่ได้เอาน้ำออกมาเป็นอาทิตย์แล้ว จะใช้มือช่วยตัวเองก็ไม่มันเหมือนให้นายดูดให้” แซยิดรำพันด้วยความเสียดาย

“ไม่ได้เอาออกมาเป็นอาทิตย์ อย่างนั้นก็เอาออกตอนนี้เลยซิ” ผมใช้มือลูบๆคลำๆตรงเป้าของแซยิด

เมื่อครู่ที่ผ่านมา... ดุล กับ เล๊ะ เพิ่งจะออกไปทานข้าวข้างนอก ผมเลยกล้าที่จะช่วยให้แซยิดถึงจุดสุดยอดในห้อง

ผมมุดตัวเข้าไปอยู่ในโสร่งของแซยิด พร้อมกับใช้มือถลกกางเกงในลงมากองที่ตรงข้อมเท้า

ผมลากปลายลิ้นตวัดไปทั่วกะโปกของแซยิดอย่างหิวกระหาย และใช้ปลายจมูกสูดดมกลิ่นสาบอันยั่วยวนใจจากกะโปกลากขึ้นไปที่ลำลิงค์ของแซยิด

แซยิดร้องครวญครางอย่างเบาๆ ผมค่อยๆพ่นลมหายใจทางปากรดไปที่หัวกระดอที่เปิด พร้อมทั้งใช้ปลายลิ้นค่อยๆแตะที่ตาข้างเดียวของงูอนาคอนด้าที่กำลังตื่นตัวและชูชัน

ซักพักผมอ้าปากครอบกระดอที่แข็งโด่ของแซยิดจนมิดลำ โดยแซยิดกดหัวของผมขึ้นๆลงๆเป็นจังหวะจะโคน ผมห่อริมฝีปากของผมเพื่อให้ตอดรัดกระดอของแซยิด จากนั้นก็รูดกระดอของแซยิดอย่างเร็วๆรัวๆไม่เป็นจังหวะ แซยิดเริ่มร้องครางเสียงหลงออกมา

เวลานี้โสร่งของแซยิดได้หลุดหลุ่ยลงมากองกับพื้น ผมยังปฎิบัติภาระถวายบัวให้แซยิดต่อไป จนแซยิดถอดกระดอออกจากปากของผม และบอกให้ผมอ้าปากกว้างๆ วินาทีให้หลัง แซยิดก็พ่นน้ำแป้งเปียกขาวๆขุ่นๆอุ่นๆสดจากกระบอก เข้าปากผมอย่างเต็มๆ ผมกลืนน้ำกำหนัดอย่างเอร็ดอร่อย พร้อมทั้งดูดทั้งเลียน้ำที่ตกข้างอยู่ที่ปากกระบอกของแซยิดอย่างหมดจด


......................................................................

วันนี้ที่รอคอยก็มาถึง ผมตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้า โดยผมได้นัดกับไอ้พัฒน์ไว้ที่บริเวณหลังมหาลัย เพื่อขึ้นรถตู้ไปหาดใหญ่ สาเหตุที่ต้องขึ้นรถตู้เที่ยวแรก เพราะอยากไปถึงหาดใหญ่ให้เร็วที่สุด จะได้มีเวลาเที่ยวเยอะๆ

ผมและไอ้พัฒน์มาถึงที่หาดใหญ่เกือบๆ 8 โมงเช้า รถตู้ได้มาส่งเราทั้งสองคนที่ประตูรั้วหน้าบ้านของไอ้พัฒน์

“นี่บ้านมึงเหรอ? ทำไมเหมือนหอพักจัง?” ผมถามด้วยความสงสัย เพราะมองเห็นป้ายหอพักขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านตรงหน้าประตูรั้ว ส่วนในประตูรั้ว เป็นอาคารขนาด 3 ชั้น แต่ละชั้นจะมีห้องประมาณเกือบ10 ห้องได้

“หอพักนี่เป็นกิจการทางบ้านกู เข้ามาข้างในก่อน จะได้เอาของไปเก็บและออกไปเที่ยวกัน” ไอ้พัฒน์เปิดประตูรั้วบ้านพร้อมกับส่งสัญญาณให้ผมเดินตามมา

ไอ้พัฒน์พาผมเอาของไปเก็บไว้ในห้องชั้นล่างริมสุด ก่อนที่จะพาผมไปสวัสดีพ่อแม่ที่บ้านหลังใหญ่ตรงข้างหลังหอพัก ผมเดาว่าห้องนี่คงใช้เป็นห้องนอนของผมกับไอ้พัฒน์ในคืนนี้แน่ๆ เพราะมีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ต่างๆครบครัน ถ้าเป็นอย่างที่คาดเดาไว้จริงๆแล้วละก็...... (เติมคำในช่องว่างเอาเองนะครับ).......

หลังจากสวัสดีและพูดคุยกับพ่อแม่ของไอ้พัฒน์ เรียบร้อยแล้ว ไอ้พัฒน์พาผมซิ่งมอเตอร์ไซด์ออกไปกินข้าวที่ “โรงช้าง” (ชื่อของโรงอาหารยอดนิยมในวิทยาเขตหาดใหญ่) ตามด้วยโปรแกรมทัวร์เมืองหาดใหญ่ ซึ่งไอ้พัฒน์อาสาเป็นไกด์ท้องถิ่น โดยเริ่มจากห้างโอเดียน (ขนมไข่ ร้านที่ขายข้างนอกห้างอร่อยมาก) มายังตลาดสันติสุขและตลาดกิมหยง เท่านั้นยังไม่หนำใจ.... ไอ้พัฒน์เลยสมนาคุณพาผมซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ล่อนมาที่ อ.เมือง จ.สงขลา (มันบอกว่าจะพาผมไปดูโรงเรียนของมัน ซึ่งมันรู้สึก "so proud" มากๆที่จบจากโรงเรียนที่ว่านี้)

ไอ้พัฒน์พาผมเดินชมรอบบริเวณโรงเรียนจนหนำใจ จากนั้นมันก็พาผมไปเดินรับลมที่หาดสมิหลา ซึ่งอยู่ไม่ไกลไม่ใกล้มากนัก ก่อนที่จะกลับหาดใหญ่ ไอ้พัฒน์ตบท้ายโปรแกรมขี่มอเตอร์ไซด์ทัวร์ด้วยการพาผมไปยังเกาะยอ โดยข้ามสะพานติณฯ

ไอ้พัฒน์จอดรถบนไหล่สะพานเพื่อชมวิว และพักเหนื่อยไปในตัว

“สวยจัง กูไม่รู้จะขอบใจมึงยังไงดีที่พากูเที่ยวทั้งวัน” ผมกล่าวขอบคุณไอ้พัฒน์

“ไม่เป็นไร... มึงก็คิดมากไปได้ ที่กูทำไปทั้งหมด เพราะมาจากตรงนี้” ไอ้พัฒน์เอามือชี้ที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง

ผมอึ้งไปชั่วครู่ พอได้สติกลับคืนมาก็พูดเพื่อแก้เขินไปว่า... “ถ้ามีมึงโอกาสได้ขึ้นมาเที่ยวทางเหนือ ยินดีต้อนรับทุกเวลา กูจะพามึงเที่ยวชมมหาลัยของกู และพาเที่ยวรอบเมืองเชียงใหม่ รวมทั้งจะพามึงไปเที่ยวบ้านกูที่เชียงของด้วย”

“ขอบใจมากนะโว๊ย... ว่าแต่มึงจะอยู่มหาลัยที่ปัตตานีนานแค่ไหน? และต้องกลับไปที่มหาลัยเดิมเมื่อไหร่?” ไอ้พัฒน์เอ่ยถาม

“อีกประมาณเดือนกว่าๆ กูจะกลับก่อนวันสอบปลายภาคของนักศึกษาทั่วไป” ผมตอบ

“ถ้ามึงกลับไป กูคงจะคิดถึงมึง กูไม่รู้จะใช้คำไหนบรรยายความรู้สึกได้ดีมากกว่านี้ ... ถูกชะตา คำนี้น่าจะใกล้เคียงมากที่สุด” ไอ้พัฒน์มองหน้าผมด้วยสายตาที่ค่อนข้างจะลึกซึ้ง

ผมไม่พูดไม่จาอะไร รู้สึกเขินอย่างเดียว
.............................................................

เราทั้งสองกลับมาถึงหาดใหญ่ตอนค่ำนิดๆ หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จแล้ว ไอ้พัฒน์ขอตัวไปหาพ่อแม่ที่บ้านหลังหอพัก ส่วนผมก็ไปอาบน้ำทันทีเพราะรู้สึกเหนียวตัวจากคราบเหงื่อไคล หลังจากอาบน้ำและเช็ดเนื้อตัวเรียบร้อยแล้ว ผมใส่กางเกงในเพียงแค่ตัวเดียวเดินออกมาจากห้องน้ำ (ไม่ได้ใส่มาล่อเสือล่อตะเข้โดยเจตนา แต่ใส่เพราะความสบายเนื้อตัว อีกอย่างไอ้พัฒน์ก็ออกไปหาพ่อแม่ คงอีกนานกว่าจะกลับ ตอนนี้เหลือผมคนเดียวอยู่ในห้อง เลยขอสบายไว้ก่อน)

ขณะที่ผมกำลังหาเสื้อและกางเกง ในกระเป๋าเป้ เสียงกุญแจไขลูกบิดที่ประตูก็ดังขึ้นมา ไอ้พัฒน์เปิดประตูเข้ามาในห้องอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาผมตกใจจนคว้าหาผ้ามาปิดตรงส่วนสำคัญแทบไม่ทัน

“ กูเอง ขวัญอ่อนไปได้ ผิวมึงขาวเนียนจริงๆ ถ้าเป็นผู้หญิงนี่ ส่งประกวดนางสาวไทย ถ้าไม่เข้ารอบ อย่างน้อยจะต้องได้ตำแหน่งนางสาวผิวเนียนแน่ คนเหนือนี่ผิวขาวสมคำล่ำลือจริง” ไอ้พัฒน์จ้องมองดูสัดส่วนของผมอย่างไม่วางตา

“มึงเข้ามาพรวดพลาดแบบนี้ ทำกูตกใจหมด ทำไมกลับมาเร็วจัง? กูก็นึกว่ามึงคงคุยกับพ่อแม่ของมึงนาน” ผมถามไอ้พัฒน์

“ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ถามสารทุกข์สุขดิบอะไรทำนองนี้ อีกอย่างพวกท่านก็จะเข้านอนกันแล้ว แล้วมึงปิดทำไมนี่ ไม่เห็นต้องอายเลย กูไม่คิดทำมิดีมิร้ายกับมึงหรอก” ไอ้พัฒน์มองยิ้มๆเมื่อเห็นผมเอาเสื้อผ้าปิดตรงเป้ากางเกงใน

“คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ใครจะไปรู้ ถ้าเกิดมึงหน้ามืดตามัว ปล้ำกูขึ้นมา แล้วกูจะทำอย่างไร? มิต้องเสียความบริสุทธิ์ให้มึงฟรีๆหรือ” ผมพูดล้อเล่นในเชิงหมาหยอกไก่

“ถุย... อย่างมึงนี่นะ บริสุทธิ์ กูไม่เชื่อหรอก ว่าแต่... เจี๊ยวมึงก็ใหญ่ใช่เล่นเหมือนกัน” ไอ้พัฒน์เริ่มจ้องมาตรงที่เป้ากางเกงในของผมตาลุกวาว

“เห็นไหม กูพูดยังไม่ทันขาดคำเลย มึงก็ออกลายซะแล้ว” ผมพูดยั่วไอ้พัฒน์

“เอาเข้าไป มึงพูดซะกูเสียคนเลย ตอนนี้กูเปลี่ยนใจแล้ว กูอยากทำมิดีมิร้ายกับมึง ดูซิว่าจะมันส์จะเสียวแค่ไหน” ไอ้พัฒน์เดินเข้ามาโอบกอดผมพร้อมทั้งทุ่มผมลงบนเตียงที่กระเด้งกระดอน

“มึงจะทำอะไรกู ไอ้บ้า... ปล่อยกูนะโว๊ย... ไม่อย่างนั้นกูสู้สุดแรงเกิดจริงๆ เดี๋ยวจะหาว่ากูไม่เตือน” ผมพูดขู่ไอ้พัฒน์พอเป็นพิธีไปอย่างนั้น เพื่อไม่ให้ดูว่า ผมใจง่ายจนดูไม่มีราคาค่างวดอะไร

“กูว่ามึงจะสั่นสู้มากกว่ามั๊ง ดูกระเจี๊ยวมึงซิแข็งโด่ซะขนาดนั้น” ไอ้พัฒน์เริ่มไซร้ตรงซอกคอของผม ลมหายใจอ่อนๆของมัน หายใจรดที่บริเวณคอของผม ทำเอาผมรู้สึกเสียวซาบซ่านขึ้นมา

“กูพอจะดูออกนะ ที่มึงยอมรับคำชวนมาเที่ยวบ้านกู เพราะว่ามึงแอบชอบกู กูก็เหมือนกัน ครั้งแรกที่เจอกับมึงในโรงอาหาร กูรู้สึกชอบมึงตั้งแต่ตอนนั้นมา คนอะไรว่ะ โคตรจะน่ารัก หน้าหวาน และผิวขาวเนียนเหมือนนางงาม” ไอ้พัฒน์กระซิบบอกผม พร้อมใช้ลิ้นแตะที่ติ่งหูของผม

เวลานี้ตัวของผมกับไอ้พัฒน์โอบกอดกันอย่างแนบแน่น ผมค่อยๆใช้มือถอดเสื้อของไอ้พัฒน์ออกอย่างช้าๆ หัวนมสีชมพูทั้งสองข้างช่างน่าดูดน่าเลียยิ่งนัก ส่วนบริเวณหน้าท้องก็เป็นลอนสวยงาม ดูเซ็กซี่ได้ใจ

ผมบรรจงใช้ลิ้นเลียที่หัวนมทั้งสองข้างของไอ้พัฒน์ จากนั้นก็ใช้มือถลกกางเกงของไอ้พัฒน์ออก เหลือแต่กางเกงในสีขาวเพียงตัวเดียว ผมเลือนหน้ามาอยู่ตรงเป้ากางเกงใน และใช้ปลายจมูกถูไถเบาๆเพื่อปลุกมังกรของไอ้พัฒน์ให้ตื่นจากการจำศีล

มังกรของไอ้พัฒน์ตื่นตัวโดยโผล่หัวสีแดงคล้ำๆออกมานอกขอบกางเกงใน ผมใช้ลิ้นเลียบริเวณรอยยักอย่างช้าๆ จากนั้นก็จัดการถอดกางเกงในของไอ้พัฒน์ออกจนเหลือแต่ตัวล่อนจ้อน ผมใช้มือลูบไล้ตรงขนหมอยอันดกดำ เล่นอย่างมันมือ ส่วนปากนั้นก็อมมังกรของไอ้พัฒน์จนมิดลำ มังกรของไอ้พัฒน์ ถึงแม้ขนาดจะค่อนข้างเล็ก (เล็กกว่าของพี่ต่อและของแซยิด) แต่ก็ยาวสวยได้รูป เป็นแท่งไอติมหัวเปิดที่น่าดูดมาก

ผมบีบปากจนรัดมังกรของไอ้พัฒน์ และใช้ริมฝีปากสาวเป็นจังหวะขึ้นๆลงๆ

“เสียวจริงๆ มึงนี่ดูดเก่งชิบหาย อู๊ย... พอก่อน... กูยังไม่อยากน้ำแตกตอนนี้ เดี๋ยวไม่มันส์” ไอ้พัฒน์ครางออกมาพร้อมทั้งผลักหัวผมออกจากมังกรของมัน

ไอ้พัฒน์รีบถอดกางเกงในของผมออกทันที มันใช้มือจับแท่งตอปิโดของผม ที่แข็งชูชันพร้อมออกศึกทุกเมื่อ โดยสาวว่าวอย่างถี่ๆรัวๆ ทำเอาผมถึงกับร้องซี๊ดอย่างไม่ทันตั้งตัว

จากนั้น ไอ้พัฒน์ก็จัดการตวัดปลายลิ้นลงบนหัวแท่งตอปิโดของผมอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน ไอ้บ้านี่มันช่างเลียได้เสียวจับใจจริงๆ ซักพักมันก็จัดการถวายบัวให้ผม

“กระเจี๊ยวมีงนี่ใหญ่คับปากกูจริงๆ กูอมจนปวดกรามไปหมด คนอะไรว่ะ ตัวเล็กนิดเดียว แต่กระเจี๊ยวใหญ่โคตร” ไอ้พัฒน์พูดขึ้นมา

ระหว่างที่ไอ้พัฒน์กำลังจูบปากแลกลิ้นกับผมอยู่นั้น มือของมันก็ค่อยเลื่อนลงมาเล่นตรงกะโปกของผม และเลื่อนต่ำลงมาที่ตรงรูก้นของผม ซักพักไอ้พัฒน์ค่อยๆใช้นิ้วมือแหย่เข้าไปในรูก้นของผม

“โอ๊ย... มึงทำจะอะไรของมึง เอานิ้วออกจากก้นกูเดี๋ยวนี้ กูเจ็บ” ผมร้องขึ้นมา

“กูขอได้ไหมว่ะ กูอยากเย็ดมึง ตูดของมึงคงฟิตและตอด เวลาเย็ดคงมันส์น่าดู” ไอ้พัฒน์กระซิบขอผม

“ไม่เอา... กูกลัว มันเจ็บ อีกอย่างกูก็ยังไม่เคยโดนใครเย็ดตูดด้วย” ผมขอร้องไอ้พัฒน์

“ไม่ต้องกลัวหรอกนะ เชื่อกู ระดับกูแล้ว ไม่มีเจ็บ มีแต่จะเสียวกับเสียว กูกล้ารับประกันว่ามึงต้องติดใจ คราวหน้าขี้คร้าน มึงจะหันตูดมาให้กูเย็ดหลายรอบ” ไอ้พัฒน์พยายามเกลี้ยกล่อมผม แถมยังพยายามใช้นิ้วมือแหย่เข้าไปในรูก้นของผม

“นะครับ... คนดี ขอนะครับ ครั้งนี้ครั้งเดียว ถ้าเจ็บแล้วจะหยุดทันที” ไอ้พัฒน์พยายามอ้อนวอนผมอย่างสุภาพ ( ใจคอนี่... อยากจะยัดเยียดความผัวให้ตรูมากซะจริงๆเลยนะ)

ผมกล้าๆกลัวๆ สองจิตสองใจ ใจหนึ่งก็อยากจะลองดูว่ามันจะเสียวอย่างที่เขาว่ากันหรือเปล่า อีกใจหนึ่งก็กลัวเจ็บ ผ่านไปซักพัก ผมจึงตัดสินใจ เพราะอยากจะลองว่ามันจะเสียวและเจ็บแค่ไหน(ออกแนวซาดิสนิดๆ ) อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ มังกรของไอ้พัฒน์ก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมาก คงจะไม่ทำให้ผมถึงกับเจ็บจนเดินขาถ่าง (ถ้าเป็นมังกรของพี่ต่อ หรือของแซยิดก็ว่าไปอย่าง เพราะแต่ละคนก็ดุ้นใหญ่ๆทั้งนั้น โดยเฉพาะของแซยิด ใหญ่เกือบเท่าแขน โดนเข้าไปมีหวังฉีกและบานเบิกแน่ๆ)

ไอ้พัฒน์บอกให้ผมทำท่าคุกเข่าโก่งโค้ง ก่อนที่จะส่งจรวดเข้าไปในถ้า ไอ้พัฒน์ใช้ริมฝีปากจูบไซร้ตรงแก้มก้นของผม และใช้วาสลีนทารอบบริเวณปากถ้ำของผม พร้อมทั้งใช้นิ้วมือค่อยๆแหย่ลงไป ทำเอาผมถึงกับสะดุ้งขึ้นมาทันที

ครั้งแรกเมื่อถูกนิ้วมือแหย่ลงไปในตูด ผมรู้สึกเจ็บนิดๆ แต่พอครั้งที่ 2-3 รู้สึกคุ้นเคย ความรู้สึกเปลี่ยนเป็นเสียวแทน

เมื่อทุกอย่างพร้อม ไอ้พัฒน์ก็จัดการส่งจรวดพุ่งตรงเข้าไปในถ้ำของผมทันที โดยไอ้พัฒน์ค่อยๆสอดใส่จรวดเข้าไปอย่างเบาๆ มันบอกให้ผมไม่ต้องขมิบและเกร็งกล้ามเนื้อตรงตูดมาก เพราะจะทำให้ใส่ไม่เข้า และจะทำให้ผมเจ็บตูดอีกต่างหาก

เมื่อใส่จนมิดลำแล้ว ไอ้พัฒน์ก็บรรจงซอยเข้าออกอย่างช้าๆ ผมร้องเสียงหลงขึ้นมา ด้วยความเจ็บปวด ไอ้พัฒน์รีบเอามืออุดปากผม

“เบาๆหน่อยซิมึง... เดี๋ยวคนก็ได้ยินกันทั้งหอหรอก มึงไม่ต้องกลัวเจ็บ ซักพัก มึงก็รู้สึกเสียวแทน” ไอ้พัฒน์กระซิบบอกผม พร้อมทั้งค่อยๆเร่งสปีดซอยเข้าออกอย่างเป็นจังหวะจะโคน

ตอนนี้ผมชักจะเริ่มรู้สึกเสียวขึ้นมาแล้วซิ ความรู้สึกเจ็บในตอนแรกแทบจะหายไปเลย โดยมีความเสียวเข้ามาแทนที่

พอผมหยุดส่งเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดแล้ว ไอ้พัฒน์ยิ่งได้ใจ กระเด้าแรงๆถี่ๆมากขึ้นเรื่อยๆ จนผมครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน มันเป็นความเสียวที่สุดยอดไม่สามารถหาคำอื่นใดมาบรรยายได้

คราวนี้ไอ้พัฒน์เริ่มกระเด้าอย่างบ้าคลั่งมากขึ้นเรื่อยๆ สังเกตจากลำตัวที่เกร็งและเสียงครางที่เริ่มดังขึ้นมา มันไม่ร้องเปล่าๆ แถมยังใช้มือตบที่แก้มก้นของผม 3-4 ที (ซาดิสเหมือนกันนะไอ้นี่)

ซักพักหนึ่ง ไอ้พัฒน์ร้องเสียงหลงขึ้นมาอย่างผิดทำนอง ในเวลาเดียวกันนี้เอง ผมรู้สึกอุ่นๆในก้น เหมือนโดนน้ำอุ่นฉีดเข้ามาในก้น พอไอ้พัฒน์ถอดจรวดของจากรูก้นของผม ผมเลยรู้ว่า ไอ้พัฒน์น้ำแตกในก้นผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เมื่อไอ้พัฒน์ถึงจุดสุดยอดแล้ว มันยังมาช่วยผมรีดน้ำกามออก โดยจัดการถวายบัวให้ผม มันใช้ลิ้นเล่นกับแท่งตอปิโดของผมได้เก่งมากๆ โดยเฉพาตรงรอยหยักส่วนหัวแท่งตอปิโด ทำเอาผมเสียวซะจนพ่นน้ำเมือกขาวๆขุ่นๆออกมาเต็มปากไอ้พัฒน์

ผมกับไอ้พัฒน์นอนกอดกันจนถึงเช้า ด้วยสภาพเปลือยเปล่าทั้งคู่ ในที่สุดผมก็ตกเป็นเมียของไอ้พัฒน์จนได้ (หลังจากที่ผูกขาดเป็นผัวพี่ต่อมานานข้ามปี)

แต่มันพยายามบ่ายเบี่ยงไปได้ตลอด) ตั้งแต่นั้นมา ทุกๆครั้งที่มีอะไรกับไอ้พัฒน์ ผมต้องรับบทผูกขาดเป็นเมียตลอด ทั้งๆที่เคยขอเย็ดมันตั้งหลายครั้งหลายหน

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.