We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: เรื่องเล่าคาวน้ำกาม"
Posted by romanrome on 04-Jan-13 at 00:59 AM
ก๊อก...... ก๊อก...... ก๊อก.......

ผมยืนเคาะประตูหน้าห้องบอล ผมอยากจะรู้ว่า เพราะอะไรบอลถึงทำหมางเมินไม่พูดไม่จากับผม ไม่มาคุยกับผมที่ห้องเหมือนเมื่อก่อน ?

"นายนั่นเอง มีอะไร? วันนี้มาหาเราถึงที่ห้อง ร้อยวันพันปีนายไม่เคยมาหาเราที่ห้องเลย" บอลพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา (มันก็ถูกของบอลนะ เพราะตั้งแต่คบกันมา ผมมาหาบอลที่ห้องยังไม่ถึง 5 ครั้ง ส่วนใหญ่บอลเป็นฝ่ายมาหาผมที่ห้องมากกว่า ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ ผมรู้สึกเขินอายและยึดติดกับความคิดบ้าๆว่า กลัวบอลเข้าใจผิดหาว่า ผมมาอ่อยถึงที่)

"เราอยากจะคุยกับนาย ช่วงนี้ไม่เห็นนายมาเล่นที่ห้องเราเลย พอเจอกันนายก็ทำท่าทางเหมือนไม่อยากคุยกับเรา เราขอเข้าไปคุยกับนายในห้องได้ไหม?" ผมยืนคุยกับบอลอยู่ที่ประตูห้อง

บอลไม่พูดไม่จา โดยทำทีพยักหน้าเชิญผมเข้ามาในห้อง

"ทำไมช่วงนี้นายถึงไม่อยากพูดกับเรา เวลาเจอเราก็พยายามหลบหน้าตลอด เราทำให้อะไรให้นายโกรธหรือไม่พอใจ?" ผมพยายามถามคาดคั้นเอาความจากบอล

บอลยังคงนิ่งเงียบทำท่าทางไม่สนใจในสิ่งที่ผมถาม

"นายไม่ได้ยินที่เราถามเหรอ? บอกเรามาซิ เราทำอะไรไม่ถูกใจนาย นายถึงได้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟแบบนี้" ผมพยายามคาดคั้นคำตอบจากบอล

บอลส่งสายตาที่ไม่ยินดียินร้ายใดๆทั้งสิ้น มาให้ผมแทนคำตอบ

ผมเริ่มจะหัวเสียนิดๆกับกริยาที่บอลทำใส่ผม ผมจึงเดินไปหาบอลที่ยืนพิงประตูหลังห้องตรงระเบียง (ผมนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตรงประตูหน้าห้อง) ขณะที่ผมกำลังเดินเข้าไปหาบอลนั้น เท้าของผมได้เดินเตะกล่องลังกระดาษใบเล็กๆที่อยู่บนพื้นห้องใกล้กับโต๊ะอ่านหนังสือของบอล โดยอุบัติเหตุ ทำให้ลังกระดาษใบนั้นคว่ำและหนังสือที่อยู่ข้างในกระจัดกระจายออกมากองกับพื้น

เมื่อเห็นหนังสือทั้งหมดที่อยู่ข้างในกล่อง ผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เพราะหนังสือดังกล่าวเป็นหนังสือยอดนิยมชาวสีม่วง(ในยุคนั้น)เช่น นีออน มรกต วีคเอ็นด์แมน ฮีท เมล มิถุนา และห้องห้าเหลี่ยม

คิดไม่ถึงจริงๆว่า บอลจะมีรสนิยมทางเพศแบบเดียวกับผม แต่ไม่แสดงอาการออกมาให้จับผิดได้เลยแม้แต่น้อย (ถ้าสมัยนี้คงเรียกว่า "แอ๊บได้เนียนมาก")

สีหน้าของบอลในตอนนี้ถึงกับเหวอ ไม่กล้าสู้หน้าผม แถมยังเดินออกมายืนอยู่ที่ระเบียงห้องเหมือนกับจะเป็นการสงบสติอารมณ์หรือตั้งหลัก

"ขอโทษนะ เราไม่ได้ตั้งใจจะเตะจนทำให้ลังกระดาษล้มลงจริงๆ เรากำลังจะเดินเข้ามานาย เพื่อถามให้เคลียร์ว่า ทำไม? เพราะอะไร? แต่มันดันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาก่อน" ผมพยายามพูดให้บอลเข้าใจ

บอลยังคงไม่ยอมพูดกับผม

"นายไม่ต้องกลัวหรือกังวลเกี่ยวกับเรื่องหนังสือในกล่องนั้นนะ เพื่อความสบายใจของนาย เราจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไม่รับรู้ว่าเกิดเหตุการณ์ใดๆทั้งสิ้น" ผมพยายามพูดและเอามือลูบลงบนแผ่นหลังของบอล เพื่อให้บอลสบายใจ

"เราไม่ว่าอะไรทั้งสิ้นถ้านายยังโกรธเราอยู่ หรือไม่ยอมให้อภัยเรา แต่เราขออะไรนายอย่างหนึ่งได้ไหม? เราอยากรู้ว่า ทำไมนายถึงโกรธและทำท่าทางไม่พอใจเรา? เราอยากรู้แค่นี้เท่านั้นเอง พอได้คำตอบแล้ว เราจะรีบออกไปจากห้องนายให้เร็วที่สุด และจะไม่โผล่หน้ามาสร้างความรำคาญให้นายอีกต่อไป" ผมพูดขอร้องบอล

"ไอ้บ้าเอ่ย!!! แค่นี้นายยังดูไม่ออกอีกหรือว่าทำไมเราถึงได้แสดงออกแบบนี้กับนาย? นายแกล้งโง่หรือว่าโง่จริงๆ?" บอลกัดฟันพูดกับผมอย่างกล้าๆกลัวๆ

"นายหมายถึงอะไร? เราไม่เข้าใจที่นายพูดเลยนะ" ผมทำหน้ามึนงง

"จะเข้าใจหรือไม่ก็แล้วแต่นาย เราถือว่าเราได้บอกเหตุผลที่นายอยากรู้ให้นายฟังแล้ว ถ้าไม่มีอะไรขอเชิญนายออกจากห้องเราไปได้" บอลพูดเสียงแข็ง แต่เท่าที่ดูจากสีหน้าและท่าทางแล้ว มันช่างแตกต่างจากน้ำเสียงอย่างสิ้นเชิง

พอบอลพูดจบ ผมชักจะเริ่มมองเกมส์ออกแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาของทั้งสองฝ่าย และต่างฝ่ายต่างก็ไม่มีอะไรจะต้องเสียหรือจะต้องอาย อีกต่อไป ดังนั้นผมจึงค่อนข้างจะแน่ใจมั่นใจที่จะพูดประโยคนี้ออกมาอย่างไม่สงวนท่าที

"นายชอบเราใช่หรือเปล่า?"

บอลใช้สายตาตอบคำถามแทนคำพูด พร้อมกับเดินเข้ามาในห้อง ผมเดินตามบอลเข้ามาอย่างกระชั้นชิด

"ครั้งแรกที่เราเจอนาย หน้าตาท่าทางรวมทั้งความเป็นตัวของนายเองสะดุดตาและสะดุดใจเรามาก แต่สิ่งที่เป็นช่องว่าง เป็นกำแพงขวางกั้นไม่ให้เราใกล้ชิด ศึกษานิสัยใจคอและความรู้สึกนึกคิดของนายได้คือ เราหลงคิดว่า นายไม่ได้มีรสนิยมชอบไม้ป่าเดียวกันเหมือนกับเรา ดังนั้นเราเลยไม่ได้ให้ความสนใจนายมากไปเกินกว่าคำว่า เพื่อน" ผมใช้มือลูบไหล่บอลเบาๆ

บอลมองหน้าผมด้วยสายตาที่ลดความแข็งกร้าวลงอย่างสิ้นเชิง

"เราว่า.... เรากลับก่อนจะดีกว่า เผื่อว่านายอยากอยู่คนเดียว" ผมไม่รู้จะวางตัวอย่างไรและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้สถานการณ์ดีขึ้นกว่านี้

"นายนี่ช่างเป็นคนที่ใจร้ายใจดำจริงๆนะ ไม่มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นบ้างเลย" บอลตัดพ้อต่อว่าผม

"นายพูดอะไรของนาย? ตกลงนายอยากจะให้เราอยู่เป็นเพื่อนนายในห้อง หรือนายอยากจะให้เราไสหัวออกจากห้องไป? จะเอาอะไรก็เอาให้มันแน่ซักอย่างหนึ่งได้ไหม มัวแต่อ้ำอึ้งไม่พูดไม่จา ใช้สายตาแทนคำพูดแบบนี้ ใครมันจะไปเดาใจได้ถูกว่า นายต้องการอะไรกันแน่ แค่เปิดปากพูดออกมานี่มันลำบากยากเย็นมากนักใช่ไหม?" ผมเริ่มจะหัวเสียขึ้นมาอย่างลืมตัว (งอนเหมือนผู้หญิงจริงๆ บอลเอ๋ย... )

"ออกไปจากห้องเราได้แล้ว เราไม่อยากเห็นหน้านาย ไอ้บ้า" บอลชี้มือไปที่ประตูห้อง

"เราต้องขอโทษด้วยที่เผลอตัวขึ้นเสียงกับนาย เราไม่ได้มีตั้งใจจะทำแบบนั้นเลย คือมันลืมตัว ถ้านายต้องการอย่างนั้น เราก็จะออกไปจากห้องเพื่อความสบายใจของนาย"

ผมกำลังจะหมุนลูกบิดเพื่อเปิดประตูห้อง ปัง.... ปัง... เสียงตบโต๊ะดังขึ้นมาทันทีทันใด

บอลตบโต๊ะด้วยฝ่ามืออย่างสุดแรงเกิด ผมรีบเดินเข้าไปห้าม

"หยุดได้แล้ว! เกิดบ้าอะไรขึ้นมาอีก" ผมใช้มือทั้งสองข้างจับตัวบอลไว้อย่างแน่น

สายตาของผมกับบอลจ้องประสานกันอย่างลึกซึ้ง เวลานี้คงมีแค่ภาษากายกับภาษาใจเท่านั้นที่สามารถสื่อสารถึงกันได้มากกว่า

ผมคว้าตัวของบอลเข้ามาโอบกอด ซึ่งตัวของบอลเองนั้นก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด

เราทั้งสองกอดกันได้ซักพัก จากนั้นผมค่อยๆขยับปลายจมูกมาหอมที่แก้มของบอล และลากยาวมาไซร้ตรงซอกคอของบอล

บอลหลับตาเคลิ้มอย่างสบายตัว ผมใช้ริมฝีปากจูบประกบลงบนริมฝีปากของบอล เราทั้งสองจูบแลกลิ้นกันด้วยความเสน่หา
ผมจัดการถอดเสื้อผ้าของบอลออกจนเหลือแต่ตัวล่อนจ้อน ผิวของบอลขาวใสมาก หัวนมทั้งสองข้างก็อมชมพูน่าดูดเลียซะเหลือเกิน บริเวณใต้สะดือก็น่ากินใช่ย่อย ตรงหัวหน่าวมีสาหร่ายเส้นดำยาวขึ้นหลอมแหลมพลอมแพลม ดูไม่รกเกะกะจนเกินไป ส่วนอวัยวะเพศนั้นเหยียบตรงเป็นลำสวยงามไม่อวบอ้วนจนเกินไปและก็ไม่ยาวมากจนน่าเกลียด ตรงหัวกระดอเปิดเป็นสีชมพูเข้มนิดๆ

ผมใช้ปากดูดเลียและขบกัดหัวนมของบอลเล่นอย่างเบาๆ โดยที่มือทั้งสองข้างนั้น จับคลำเครื่องเพศของบอลเล่นสนุกมือ มือขวาของผมสาวว่าวให้บอล และมือซ้ายก็ลูบกะโปก เล่นกับลูกชิ้นเอ็นทั้งสองลูก ยิ่งจับเครื่องเพศของบอลก็ยิ่งแข็งตัวเป็นจนลำเต็มไม้เต็มมือผม

"บอล... เราขอเอาตูดนายได้ไหม?" ผมกระซิบถามบอล

"เออ.. เรากลัว นี่เป็นครั้งแรกของเรา เราไม่เคยให้ใครเอามาก่อน" บอลพูดอย่างลังเล

"ไม่เป็นไร ถ้างั้น.. นายอยากจะเอาตูดเราไหม?" ผมถามแบบมีทางเลือกให้กับบอล

"เออ... เราเอาไม่เป็น ไม่เคยเอาใครมาก่อน นายเป็นคนแรกที่เปิดบริสุทธิ์เรา นายช่วยสอนเราหน่อยซิว่า ต้องทำอย่างไรบ้าง?" บอลพูดอย่างตรงไปตรงมา (แจ๊คพ๊อตจริงๆเลยตรู ได้เป็นคนแรกที่เปิดซิงบอล)

"คราวหน้าเราจะสอนให้อย่างเต็มที่ รับรองอีกหน่อยนายต้องเป็นมืออาชีพแน่ คราวนี้เราขอชักว่าวให้นายและขอดูดจู๋นายให้หายอยากก่อนนะ" พอพูดจบ ผมจัดการอ้าปากครอบกระดอของบอลจนมิดลำ พร้อมกับใช้ริมฝีปากรูดกระดอของบอลขึ้นๆลงๆเป็นจังหวะจะโคน จนบอลหลับตาพริ้มด้วยความเสียว

ไม่ถึง 3 นาที บอลเริ่มครางเสียงดังขึ้น จนผมรู้สึกว่า ในปากของผมมีน้ำอุ่นๆหนืดๆคาวๆพ่นใส่เต็มปาก (แตกเร็วจริงๆพ่อคุณ แบบนี้เขาเรียกว่า "ล่มปากอ่าว" หรือเปล่า)

คราวนี้ก็มาถึงของผมบ้าง ผมไม่รอช้า รีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมด เพื่อให้บอลสามารถรีดน้ำเงี่ยนออกจากแท่งตอปิโดของผมได้อย่างเต็มที่

"โอ้โห...... จู๋นายโคตรใหญ่จัง แบบนี้เราจะดูดได้ไหม? กลัวปากฉีกจังเลย" บอลแสดงอาการตื่นเต้นเมื่อเห็นแท่งตอปิโดที่แข็งโด่ของผม

บอลใช้ลิ้นเลียรอบๆหัวแท่งตอปิโดของผมที่ถอกออกมาจากปลายหนังหุ้ม จากนั้นก็ใช้มือสาวว่าวให้ผมอย่างเมามันส์ จนผมกลั้นความเสียวเอาไว้ไม่อยู่ ฉีดน้ำอสุจิใส่หน้าของบอลอย่างเต็มสตรีม

เมื่อเสร็จกามกิจแล้ว เราทั้งสองก็นอนกอดกันบนเตียง และพูดคุยเปิดความในใจต่อกันและกัน

"ที่เราทำอาการแบบนั้นใส่นาย เพราะ เราน้อยใจที่นายไม่สนใจใยดีต่อความรู้สึกที่เรามีให้นายเลย นายน่าจะดูออกนะว่า ที่ผ่านมาเราคิดยังไงกับนาย เราเข้าใจนะว่า ตอนนั้นนายยังเป็นแฟนกับป้องอยู่ แต่หลังจากที่นายเลิกกับเขาแล้ว นายน่าจะหันมามองคนที่ห่วงใยและแคร์นายบ้าง อีกอย่างคือ เรื่องของป้อง เราไม่ชอบใจที่นายเป็นคนโลเลไม่หนักแน่น ไม่เด็ดขาด" นั่นเป็นเหตุผลจากปากของบอล ที่ผมอยากได้ยินแต่แรก

.................................................................


~ ณ สถานีรถไฟเชียงใหม่ ~

ผมยืนรอขบวนรถไฟที่กำลังเดินทางมาจากกรุงเทพฯ ท่านผู้อ่านที่ได้ติดตามอ่านทุกตอนมาตลอดคงจะพอเดาออกนะครับว่า ผมมารอรับใคร? สำหรับท่านผู้อ่านที่ไม่ได้อ่านตอนก่อนหน้านั้น คงเดาไม่ออกแน่ๆ ไม่เป็นไรครับ ถ้าเดาไม่ออก เดี๋ยวผมจะเฉลยให้

ในระหว่างที่ยืนรอรับใครบางคนที่สถานีรถไฟ ผมขอเล่าเรื่องราวอัพเดทชีวิตประจำวันของผมตลอด 4-5 วันที่ผ่านมา (หลังจากได้เปิดซิงบอลแล้ว)

เรื่องระหว่างผมกับบอล หลังจากบอลได้เปิดอกพูดถึงความในใจและความรู้สึกที่มีต่อผมแล้ว ทำให้ผมเข้าใจบอลมากขึ้น และบอลก็เข้าใจผมเช่นกัน ส่วนเรื่องสถานะภาพความสัมพันธ์ เราทั้งสองต่างก็ตกลงและยินดีที่จะคงความสัมพันธ์เป็นแค่ "เพื่อน" ที่ดีต่อกันเท่านั้น (แต่มีข้อตกลงร่วมกันว่า ถ้าใครเกิดมีอารมณ์เปลี่ยวขึ้นมา อีกฝ่ายหนึ่งจะต้องสนองให้ทันทีโดยไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น หรือเรียกง่ายตามศัพท์ภาษาฝรั่งที่กำลังฮิตอยู่ปัจจุบันนี้ว่า " friend with benefit" )
เพราะว่า ผมอยากจะพักใจซักพักหนึ่ง หลังกรำศึกหนักจากเรื่องของป้อง ผมยังไม่พร้อมที่จะผูกมัดหัวใจตัวเองไว้กับใคร สำหรับบอลนั้น ก็ยังไม่มีประสบการณ์ ยังไม่ประสีประสาในเรื่องความรักมาก่อน

สรุปแล้วคงต้องให้กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกัน


มายืนรอรับใครบางคนที่สถานีรถไฟแบบนี้ บอลไม่ว่าหรือน้อยใจ?
คำตอบคือ เมื่อคืนที่แล้ว บอลเพิ่งกลับกรุงเทพฯเพื่อไปฉลองปีใหม่กับครอบครัว (อีก 3 วันจะถึงวันปีใหม่แล้ว) จะกลับก็ต้นอาทิตย์หน้า (เวลาช่างอำนวยประจวบเหมาะซะเหลือเกิน สับรางรถไฟได้ดีมาก) และอีกอย่างผมกับบอลไม่ได้เป็นแฟนกัน ผมจะไปไหน มาไหน หรือทำอะไรกับใคร ก็ไม่ผิดใช่ไหม? (แต่ไม่บอกบอล หรือปล่อยให้บอลไม่รู้ก็ดีเหมือนกัน เพราะผมยังไม่เข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของบอลมากพอ ดูเหมือนบอลจะเป็นคนอ่อนไหวกับเรื่องแบบนี้มากๆ ถึงมากที่สุด)


เมื่อขบวนรถไฟเข้าจอดเทียบสถานีปลายทาง และบรรดาผู้โดยสารต่างทยอยเดินออกจากตู้รถไฟ

"ไอ้กันต์... ไม่ได้เจอตั้งนาน มึงสบายดีนะ ดูหล่อขึ้นเป็นกองเลย" ไอ้พัฒน์กล่าวทักทายผม

"กูสบายดี มึงก็ยังหล่อ เท่ห์และกวนตีนเหมือนเดิม" ผมช่วยไอ้พัฒน์ถือกระเป๋าเดินทาง

"ถ้าไม่กวนตีนก็ไม่ใช่กูซิวะ โอ้โห.... ตูดมึงยังแน่นเด้งดึ๋งเหมือนเดิมเลย" ไอ้พัฒน์เอามือมาตบก้นผม

"ทะลึ่งนะมึง อายคนเขาบ้างซิ คนออกจะเต็มสถานี ยังเล่นพิเรนแบบนี้อีก" ผมดุไอ้พัฒน์ด้วยสีหน้าที่ยิ้มๆ

"แค่นี้ก็ต้องดุด้วย กูอุตส่าห์เหน็ดเหนื่อยเดินทางรอนแรม เพื่อมาเย็ด โอ๊ย.... ไม่ใช่!!! เพื่อมาเยี่ยมมึงที่นี่ น่าจะพูดกับกูหวานๆหน่อย" ไอ้พัฒน์แกล้งงอนใส่ผม

"พูดหวานๆก็ได้ขอครับ คุณพัฒน์... กระผมขอเชิญคุณพัฒน์ไปขึ้นรถทางนี้นะขอรับ" ผมพูดประชดประชัน

.........................................................

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.