We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: ลม ทะเล รัก"
Posted by แสนภู on 15-Mar-13 at 00:44 AM
บทที่ 5

หลังจากเสร็จสมด้วยความสุขเสียวจากอุ้งมือของตนเป็นรอบที่สี่ ชายหนุ่มผู้มีความต้องการทางเพศสูงถึงสามารถหลับลงได้ แต่แล้วในตอนกลางดึกสามยามกว่าเขาก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้น เมื่อได้ยินเสียงกระทืบฝาบ้านดังมาจากห้องที่มีเพียงห้องน้ำกั้น พลันก็มีเสียงหล่นลงดังตุบตามมา ร่างสูงใหญ่ผุดลุกขึ้นมานั่งอย่างงงๆ สะบัดศีรษะสองสามทีแล้วลุกพรวดยืนขึ้น ขายาวสะดุดผ้าห่มเซถลาจนเกือบล้ม ตั้งหลักได้ก็คว้าไฟฉายรีบรุดออกไปยังห้องที่ขังเชลยเอาไว้ เปิดประตูส่องไฟฉายเข้าไป เหลือแต่เพียงห้องว่างเปล่า เมื่อส่องไฟไปยังหน้าต่างหลังห้องก็เห็นโซ่ที่ใช้ล่ามเชลยห้อยลงไปด้านนอก วายุก้าวเข้าไปดึงโซ่ขึ้นมาดูก่อนจะเขวี้ยงลงกลางห้อง ชายหนุ่มวิ่งพรวดลงจากเรือนไม้หลังเก่ารวดเร็ว ส่องไฟฉายขึ้นไปก็เห็นร่างในชุดคุ้นตากำลังวิ่งอยู่ตรงเนินถนนดินแดงเบื้องหน้า หนุ่มร่างสูงเร่งฝีเท้าวิ่งขึ้นไปหาด้วยอารมณ์เกรี้ยวโกรธสุดขีด

“ช่วยด้วย ช่วยผมด้วย” ชลันธรร้องขอความช่วยเหลือเสียงลั่นเมื่อมีแสงไฟสาดมาใส่ตน ท่ามกลางป่าเขาในยามดึกเช่นนี้จะมีใครได้ยินไหม แต่วินาทีนี้หนุ่มไฮโซไม่คิดถึงอะไรไปกว่าอิสรภาพของตัวเองแล้ว ร่างโปร่งบางในชุดกางเกงบอลขาสั้นกับเสื้อยืดตัวโคร่งวิ่งขึ้นเนินไปไม่หยุด ถึงแม้ค่ำคืนนี้เขาจะเหนื่อย เขาจะหนาว และหวาดกลัวเพียงใด แต่เมื่อยังมีแสงจันทร์สลัวส่องนำหนทางให้ เขาก็จะทนพยายามก้าวไปให้ถึงจุดมุ่งหมาย(จุดมุ่งหมาย คือ การหนีให้พ้น)จนกว่าจะสิ้นไร้แรงกำลัง

ระหว่างหนุ่มตัวสูงใหญ่ที่ใช้แรงกายทำงานมาหลายปี กับหนุ่มโฮโซที่ใช้แรงสมองมากกว่าแรงกาย ไฉนเลยฝ่ายหลังจะวิ่งหนีทัน ถึงแม้ตอนนี้ร่างกายจะหลั่งสารอะดรีนาลินออกมามากมายก็ตาม เพียงแค่เสี้ยวนาทีร่างสูงใหญ่ก็วิ่งตามทัน ท่อนแขนเรียวถูกมือหนาจับกระชากจนร่างเล็กบางหงายหลังมาปะทะกับร่างสูงกำยำอย่างแรง แล้วท่อนแขนล่ำที่แข็งประดุจเหล็กกล้าก็ล็อคเข้าที่ปลายคางทันที

“ปล่อยผมนะ!” ชลันธรยังส่งเสียงร้องออกมาทั้งที่เจ็บลูกกระเดือกและปลายคางจนหน้าเหยเก

“ร้องไปก็เสียแรงเปล่า ไม่มีใครช่วยมึงได้หรอก” วายุบอกขึ้นเสียงกร้าว ปล่อยไฟฉายทิ้งลงพื้นแล้วจับร่างเชลยหันหน้ามาหาตน มือใหญ่แข็งแรงสองข้างกำบีบต้นแขนเรียวแน่นจนแทบหัก

“ปล่อยนะ ปล่อย ปล่อย” ถึงแม้จะหวาดกลัวและเจ็บแค่ไหน แต่ชลันธรก็พร้อมต่อสู้เพื่อเอาตัวรอด ชายหนุ่มยกขางอขึ้นแล้วกระแทกเข่าเข้าใส่เป้ากางเกงบอลของอีกฝ่ายเต็มแรง

“อุ๊ก โอ๊ะ อุ๊ยย” สองมือหนาปล่อยต้นแขนเรียวไปกุมอวัยวะสุดหวงแหนที่กำลังบาดเจ็บแสนสาหัสเอาไว้ ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มบิดเบี้ยวเหยเกเพราะความเจ็บจุก กายสูงใหญ่งอโค้งแล้วทรุดฮวบลงกับพื้นฝุ่นทันที

ชลันธรไม่เสียเวลามองผลงานตัวเอง คว้าไฟฉายได้ก็วิ่งขึ้นเนินถนนไปข้างหน้าทันที (ผู้เขียนนึกว่าจะส่องหาก้อนหิน แล้วเอาไปฟาดหัวไอ้วายุให้มันสลบเหมือด แต่ผิดคาด) แต่เพียงแค่วิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว เขาก็โดนกระชากแขนอย่างแรงอีกรอบ ร่างเล็กบางหงายหลังปะทะกับร่างหนาบึกบึนอีกครั้ง เมื่อวายุจับเชลยแค้นหันหน้าเข้าหาตนได้ หมัดใหญ่หนักก็ชกเข้าที่หน้าท้องของเชลยสองหมัดติดกัน ชลันทั้งเจ็บทั้งจุกจนร้องแทบไม่ออก ทิ้งร่างทรุดฮวบลงกับพื้นอย่างสิ้นเรี่ยวแรง ร่างโปร่งบางค่อยๆ เอนกายนอนลงบนดินใต้แสงจันทร์ดั่งยอมจำนนแล้วแก่โชคชะตา จากนั้นหนุ่มร่างสูงก็ฉุดร่างอ่อนปวกเปียกของเชลยตามแรงมาอย่างง่ายดาย ในที่สุดก็โยนคนร่างเล็กที่เอามือกุมท้องตัวงออยู่ลงบนพื้นไม้กลางห้องเดิม

“การที่มึงหนี ทำให้ความอดทนของกูหมดลง กูไม่สนแล้วว่ามึงจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย” วายุก้มลงไปพูดเสียงดุดันใส่ใบหน้าเชลยที่นั่งส่ายไปมาอยู่ ชลันธรยังเจ็บจุกมึนงงไม่หาย สมองจึงประมวลผลคำพูดที่ได้ยินไม่ทัน เลยไม่เข้าใจว่าที่อีกฝ่ายพูดออกมานั้นหมายความว่าอย่างไร

“กูจะทำกับมึงเหมือนที่น้องกู ถูกไอ้ชาติชั่วน้องมึงย่ำยี” กล่าวจบร่างสูงใหญ่ก็ผลุนผลันออกไปจากห้อง ชลันธรใบหน้าซีดเผือดเมื่อเข้าใจแล้วว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรตน ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองอย่างหวาดผวาเมื่อได้ยินเสียงเดินมาหน้าห้องอีกครั้ง จากด้านหลังของลำแสงไฟฉายที่ส่องมา เขาเห็นร่างสูงใหญ่ย่างสามขุมเข้ามาหา แล้วมือหนาก็เอื้อมมาบีบคางเขาเอาไว้แน่น

“คืนนี้ในเมื่อมึงไม่อยากนอนห้องนี้ กูก็จะให้มึงไปนอนที่อื่น” บอกแล้วมือหนาก็จับขาเรียวดึงกระชากออก ชลันธรรู้สึกตื่นกลัวจับใจ คนใจเหี้ยมจะพาเขาไปไหนอีก ชกเขาเจ็บขนาดนี้ยังไม่สาสมใจใช่ไหม เมื่อเอาโซ่ล่ามขาเชลยเสร็จวายุก็เดินไปไขกุญแจโซ่ตรงไม้คร่าวออก พันโซ่เส้นยาวรอบแขนข้างซ้ายของตนเอาไว้ ดึงร่างเล็กบางที่นั่งอยู่ให้ลุกขึ้น ตวัดสายโซ่ที่เหลือคล้องคอเชลยก่อนจะฉุดลากลงจากเรือนไม้ไป

“จะพาผมไปไหน ผมไม่ไป ปล่อย ปล่อยนะ” ชลันธรร้องเสียงลั่น พยายามขัดขืนสุดกำลังเท่าที่มีอยู่ในตอนนี้ แต่ร่างกายที่กำลังบอบช้ำอ่อนแอและเพิ่งฟื้นจากไข้ ไฉนเลยจะต้านทานแรงกำลังของคนตัวสูงใหญ่ได้ ร่างโปร่งบางจึงปลิวตามแรงพายุหมุนลงขั้นบันไดดินไปอย่างง่ายดาย

ระหว่างพาเชลยเดินไปตามสันเขื่อนหิน วายุต้องโอบร่างที่สั่นเทาโอนเอนไปมาเอาไว้เพื่อไม่ให้ร่วงหล่นลงไปใต้เขื่อน จากนั้นก็ฉุดลากแขนเรียวเดินตามทางขึ้นเนินเขาสูงเข้าไปในป่ารกครึ้ม ยิ่งอีกฝ่ายลากขึ้นไปในป่าลึกเท่าไหร่ ชลันก็ยิ่งหนาวสั่นจนฟันกระทบกันกึกๆ หมดสิ้นแล้วซึ่งเรี่ยวแรงขัดขืน ขาเรียวสองข้างเดินเป๋ไปเป๋มาราวกับจะล้มลงได้ทุกเมื่อ แต่คนตัวสูงใหญ่ที่กำลังดึงลากให้ตามขึ้นไปหาได้สนใจไม่ เขายังคงส่องไฟฉายลากร่างเชลยเดินไปข้างหน้าเหมือนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ชายหนุ่มหยุดลงเมื่อมาถึงต้นไม้ใหญ่ที่มีกิ่งก้านมากมาย แต่บริเวณโคนต้นกลับโล่งเตียนสะอาดสะอ้าน มีศาลเพียงตาตั้งอยู่ใกล้ๆ เพียงแค่มือหนาปล่อยแขน ร่างเล็กบางก็ทรุดฮวบลงกับพื้นดินทันที

“ต้นไม้ต้นนี้คือต้นที่ฝนผูกคอตาย ในเมื่อไม่ชอบนอนอยู่ในห้องดีๆ มึงก็นอนตรงนี้เป็นเพื่อนฝนแล้วกัน” วายุบอกขึ้นเสียงเรียบ พอเอาปลายโซ่ไปคล้องกับเสาของศาลเพียงตาเสร็จ คนร่างสูงก็หันหลังเดินลงจากเนินเขาไป ไม่หันกลับมามองร่างสั่นเทาที่นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นตรงหน้าศาลเพียงตาแม้แต่น้อย

“คุณวายุ อย่าทิ้งผมไว้แบบนี้ ผมกลัว คุณวายุ อย่าไปนะ ผมกลัว ฮือ ฮือ” ชลันธรร้องเรียกร่างดำทะมึนสูงใหญ่ที่หันหลังเดินทิ้งไปเสียงลั่นป่า แล้วก็ร้องไห้ออกมาเมื่อแสงไฟฉายหายไปในความมืดมิด ชายหนุ่มล้มตัวลงนอนตะแคงตรงโคนต้นไม้ กอดเข่าทั้งสองข้างของตนเอาไว้แน่น เขารู้สึกหวาดกลัวจับขั้วหัวใจจนลืมความเจ็บปวดของร่างกายไปเสียสิ้น

“ฮึก ริษา ฮือ ฮึก ช่วยพี่ด้วย ฮึก ฝน ฮึก ไปบอกพี่เธอด้วย ฮือ ฮึก ริษา ฮึก ฮึก พี่ไม่รู้เรื่องอะไร ฮึก ด้วยเลย” เสียงพร่ำครวญบอกคนที่ตายไปแล้วเปล่งปนเสียงสะอื้นออกมาสั่นสะท้านแผ่วเบา ไม่นานเสียงร่ำไห้นั้นก็เงียบลง เหลือเพียงเสียงเห่าหอนโหยหวนของหมาป่า เสียงร้องจุ๊บจิ๊บของนก เสียงจักจั่นเรไร และเสียงหวีดเซ็งแซ่ของเหล่าแมลงเท่านั้นที่ทำลายความเงียบสงัดของผืนป่ายามค่ำคืนลง

ชายหนุ่มตัวสูงใหญ่ที่ก้าวเดินรวดเร็วจนเกือบวิ่งลงมาจากเนินเขาอยู่ ครั้นพอลงมาถึงริมฝายขายาวคู่นั้นก็หยุดชะงักลง เขายืนนิ่งอยู่กลางแสงจันทร์สลัวชั่วครู่ก่อนจะหันหลังกลับ ก้าวขึ้นเนินเขาไปสองสามก้าวก็หยุดชะงักอีกครั้ง ยืนนิ่งอยู่พักก็หันหลังเดินลงเนินเขาอีกรอบ เขาเดินตามสันเขื่อนไปไม่ถึงสิบก้าวก็หยุดชะงักเหมือนเช่นเคย

“โว๊ยย...” เสียงห้าวร้องตะโกนขึ้นดังลั่นจนเสียงนั้นสะท้อนก้องหุบเขา แล้วเสียงดังตูมก็ตามมาเมื่อร่างสูงใหญ่กระโดดลงไปในวังน้ำ ร่างหนากำยำวาดแขนจ้ำน้ำที่แสนเยือกเย็นว่ายตรงไปยังท่าน้ำแพไม้ไผ่รวดเร็ว เมื่อโยนกระบอกไฟฉายกับพวงกุญแจลงบนพื้นแพได้เขาก็ว่ายกลับไปยังสันเขื่อนอีกครั้ง หนุ่มอารมณ์ร้อนว่ายน้ำอันเย็นยะเยือกกลับไปกลับมาอยู่อย่างนั้นราวกับไม่รู้จักหนาวเหน็บ จนว่ายกลับมายังแพท่าน้ำเป็นรอบที่สาม ร่างสูงกำยำถึงยันกายขึ้นไปล้มตัวนอนหงายลงบนพื้นแพนิ่ง หลังจากกลับมาหายใจเป็นปกติชายผู้เปียกปอนก็ลุกขึ้น เอื้อมมือคว้ากระบอกไฟฉายกับพวงกุญแจได้ก็เดินขึ้นเนินไปยังเรือนไม้หลังเก่าทันที คราวนี้ขายาวที่กำลังก้าวเดินขึ้นขั้นบันไดดินอยู่นั้นไม่หยุดชะงักระหว่างทางแต่อย่างใด

ถึงแม้วายุจะนอนซุกกายอยู่ภายใต้ผ้าห่มอุ่นเกือบชั่วโมงมาแล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถข่มตาตนให้หลับลงได้เนื่องด้วยจิตใจไม่สงบนิ่ง มันคอยแต่คิดสับสนวนเวียนถึงเชลยที่เขานำไปล่ามทิ้งไว้ในป่า ใจหนึ่งก็สะใจอีกใจก็กังวล เสียงร้องเรียกสั่นสะท้านอย่างหวาดกลัวนั่น มันก็ช่างรบกวนจิตใจของเขายิ่งนัก แต่พอนึกถึงความเจ็บปวดตรงแก่นกายตอนโดนทำร้าย และยังกล้าท้าทายเขาด้วยการหนี อารมณ์โกรธก็หวนกลับเข้าสู่ใจทุกครั้งไป แต่ในที่สุดชายหนุ่มก็หลับลงได้ในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา เนื่องด้วยเขาสูญเสียพละกำลังไปมากมายในคืนนี้ สูญกำลังจากการเสียน้ำไปสี่รอบแล้ว ยังมาเสียกำลังจากการโดนตีเข่าตรงจุดสำคัญอีก แถมยังผลาญพลังงานกายตนด้วยการว่ายน้ำ เพื่อระบายความอัดอั้นภายในใจออกมา

เมื่อแสงแรกของอรุณรุ่งเริ่มจับขอบฟ้าทิศตะวันออก หนุ่มร่างสูงที่นอนทอดกายอยู่บนฟูกนอนเก่าใต้ผ้าห่มหนาก็พลันผวาลุกขึ้น ทั้งๆที่เขาหลับไหลไปได้ไม่ถึงสองชั่วโมงเสียด้วยซ้ำ ร่างกำยำเปลือยท่อนบนคว้าเสื้อยืดมาใส่ได้ก็ผลุนผลันออกไปจากห้อง แต่พอจะก้าวเท้าวิ่งลงเนินบันไดดินเขาก็หลังกลับแล้ววิ่งขึ้นไปยังเรือนไม้อีกครั้ง มือหนาคว้าพวงกุญแจตรงข้างประตูได้ร่างสูงใหญ่ก็วิ่งลงบันไดบ้านอีกรอบ วายุเร่งสาวเท้าก้าวขึ้นเนินเขาลูกสูงไปด้วยจิตใจร้อนรน ครั้นพอไปถึงต้นไม้ใหญ่ เห็นร่างเชลยกำลังนอนสั่นสะท้านตัวงออยู่บนพื้นดินแข็ง ใจของชายหนุ่มก็พลันหล่นวูบ ขายาวก้าวพรวดเข้าไปหารวดเร็ว เอื้อมมือไปจับแขนเรียวเพื่อเขย่ำปลุก เมื่อฝ่ามือสัมผัสเข้ากับความร้อนผ่าวที่แผ่ออกมาจากผิวหนัง หนุ่มร่างสูงลุกพรวดตรงไปไขปลดโซ่ออกจากเสาศาลเพียงตาทันที แต่เพียงหันกลับมาเขาก็เห็นร่างโปร่งบางนั้นดิ้นทุรนทุรายอยู่

“อย่า...อย่า...ผม...ผมกลัว....แม่...แม่....พ่อ....พ่อช่วยธรด้วย” มือเรียวปัดป่ายไปมาสะเปะสะปะพร้อมกับละเมอออกมาเหมือนหวาดกลัวอะไรบางอย่างสุดขีด ร่างเล็กบางผวาลุกขึ้นจนคนตัวสูงต้องรีบถลาเข้าไปกอดเอาไว้

“มึง มึง ชลัน ชลันธร” เสียงทุ้มห้าวเรียกคนในอ้อมแขนออกมาอย่างร้อนรน วงแขนแข็งแรงกอดรัดร่างที่กำลังดิ้นอยู่แน่นขึ้น

“พ่อ...พ่อ...ช่วยธรด้วย...ช่วยธร...อื๊อออ” คนร่างเล็กยังละเมอออกมาไม่หยุดพลางดิ้นรนสุดกำลังที่มีอยู่ ทำให้คนร่างสูงหงายหลังล้มตึงจนศีรษะกระแทกกับพื้นดินแข็งเต็มแรง ถึงแม้จะเจ็บแต่วงแขนแข็งแรงก็ไม่ยอมปล่อยร่างในอ้อมอก ยังคงกอดรัดเอาไว้อย่างนั้น

“ชลันธรตื่น ไม่ต้องกลัวนะ ชลัน ตื่น ไม่ต้องกลัว” เสียงทุ้มกระซิบเรียกสติพลางปลุกปลอบ มือหนาลูบหลังคนในอ้อมแขนอย่างปลอบประโลมเบาๆ

เมื่อร่างอันร้อนผ่าวที่กอดรัดตนแน่นอยู่สงบลง หนุ่มร่างสูงจึงค่อยๆพลิกร่างโปร่งบางนอนลงบนพื้น ราวกับกลัวว่าร่างเล็กในอ้อมแขนจะบุบสลายอย่างนั้น ชายหนุ่มยันกายลุกขึ้นนั่งแล้วไขปลดโซ่ที่ข้อเท้าเรียวออก จากนั้นสองแขนล่ำก็ค่อยๆโอบร่างคนป่วยขึ้นไปยังบ่าแกร่ง เมื่อเอาตัวเชลยขึ้นมาพาดคว่ำหน้าไว้บนบ่าสำเร็จ วายุก็รีบเร่งก้าวลงมาจากเนินเขารวดเร็ว แต่ก็ยังไม่เร็วทันใจของเขาเพราะต้องคอยระวังไม่ให้ลื่นล้ม กว่าจะแบกคนไม่ได้สติมาจนถึงลานหน้าบ้านก็เล่นเอาเขาเหนื่อยหอบ พอวางร่างของเชลยลงนอนบนฟูกในห้องของตนได้ ชายหนุ่มก็ลงมือถอดเสื้อออกจากร่างเชลยรวดเร็ว ครั้นสังเกตเห็นรอยยุงกัดเป็นตุ่มแดงๆ กระจัดกระจายตามผิวกายขาวซีดนอกเสื้อผ้า หัวใจชายหนุ่มก็วูบไหวอีกครั้ง

หนุ่มร่างสูงลุกพรวดขึ้นก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องน้ำรวดเร็ว ชั่วอึกใจก็ออกมาพร้อมขันน้ำในมือ วางขันน้ำไว้ข้างๆคนร่างเล็กที่นอนนิ่งไม่ได้สติอยู่ ร่างสูงใหญ่ยืนหันซ้ายหันขวาเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่าง และแล้วเขาก็ก้าวไปกระชากประตูตู้เสื้อผ้าเปิดออก พอหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กได้ก็รีบเอาไปชุบน้ำในขัน จนน้ำหกกระจายลงพื้นห้องเกือบหมดขัน มือหนารีบเช็ดตามเนื้อตัวร่างขาวบาง พลางมองพิจารณาใบหน้าของคนที่นอนหายใจแผ่วเบาอยู่อย่างเผลอลืมตัว ใบหน้าเรียวเล็กที่เคยขาวเนียนตอนนี้กลับซีดเซียวเต็มไปด้วยผื่นแดง ชายหนุ่มเผลอผ่อนลมหายใจยาวออกมา สภาพร่างกายของเชลยตรงหน้า มันช่างก่อความว้าวุ่นใจและหลากหลายอารมณ์ให้แก่เขายิ่งนัก

วายุไม่ได้หลับมาเป็นเวลาสามสิบกว่าชั่วโมงแล้ว เขาคอยป้อนน้ำป้อนยาให้คนป่วยเมื่อตื่น คอยเช็ดตัวให้เมื่อมีไข้ขึ้นสูง คอยโอบกอดเมื่อเพ้อหวาดผวา ตอนคนป่วยหลับก็นั่งชันเข่าพิงข้างฝาเฝ้าอยู่อย่างนั้น ชายหนุ่มนั่งคิดย้ำกับตัวเองราวกับคนเสียสติ เขาลักพาตัวมาก็แค่ต้องการทรมานเท่านั้น ไม่ได้ต้องการทำให้ถึงตาย อีกอย่าง ต้นเหตุของการเจ็บป่วยก็มาจากการกระทำของเขา เขาจึงต้องดูแลรักษาไข้ให้ ที่ทำไปทั้งหมดไม่ใช่เพราะสงสารแต่อย่างใด เขาไม่มีวันสงสารคนที่ทำให้น้องสาวของเขาฆ่าตัวตายเป็นอันขาด

ชลันธรตื่นขึ้นมาในตอนบ่าย เมื่อรู้สึกมีเรี่ยวแรงขึ้นกว่าตอนเช้าทำให้รู้ว่าตนไข้หายแล้ว และก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงไม่เอาเขากลับไปขังไว้ในห้องเดิม กลับหอบเสื่อกับหมอนพร้อมผ้าห่มจากห้องเก่ามาให้เขาปูนอนในนี้แทน หรือเป็นเพราะกลัวเขาหนีอีก เขาจะหนีไปได้ยังไง ในเมื่อยังคงล่ามโซ่เขาเอาไว้ตลอดเวลาเหมือนเดิมเช่นนี้ เพียงแค่เขาหนีในคืนนั้น ถึงกับลากเขาไปล่ามทิ้งไว้ในป่า ทำราวกับเขาเป็นวัวเป็นควายอย่างนั้น ไม่อยากเชื่อว่าคนที่มีชีวิตแทบจะสมบูรณ์แบบอย่างเขา วันหนึ่งจะถูกลักพาตัวมา ถูกทรมานกักขังหน่วงเหนี่ยว และถูกทำร้ายเช่นนี้

เขาคิดถึงบ้าน คิดถึงน้องชาย คิดถึงทุกคนที่สนิทสนม อยากรู้ว่าตอนนี้ทุกคนเป็นยังไง คิดถึงเขาบ้างไหม อาชนะพลแจ้งความว่ายังไง บอกกับนักข่าวว่ายังไง บอกเรื่องที่เขาหายไปกับน้องชายหรือยัง ถ้าชลัชจักรรู้เรื่องจะตกใจมากแค่ไหน เขาอยากพูดคุยกับน้องชายเหลือเกิน เขาจะมีโอกาสออกไปจากที่นี่ไหม มีโอกาสได้เจอผู้คนอีกไหมนอกจากคนป่าเถื่อนคนนั้น แล้วที่เคยพูดว่ายังไงเขาก็ต้องตายอยู่ดี เป็นแค่การพูดขู่ใช่ไหม ถ้าอยากให้เขาตายจริงๆ ควรปล่อยให้เขาเป็นไข้ตายอยู่ใต้ต้นไม้นั่นเสีย พากลับมาดูแลรักษาทำไม

หลังจากนั่งครุ่นคิดถึงชะตากรรมของตนอยู่นาน ชลันธรเริ่มใช้สายตามองสำรวจห้องขังใหม่ ห้องนี้มีตู้เสื้อผ้าไม้เก่าๆ ตั้งอยู่ตรงมุมฝั่งด้านประตูห้อง ประตูห้องน้ำอยู่ตรงกลางฝาผนังกั้นห้อง และมีมุ้งลวดปิดหน้าต่างทุกบานเท่านั้นที่ต่างจากห้องโน้น ชายหนุ่มยันกายลุกขึ้นแล้วเดินลากโซ่เข้าไปดูในห้องน้ำ โอ่งมังกรตรงมุมห้องมีน้ำอยู่เกือบเต็ม เขาคงใช้ล้างหน้าแปรงฟันได้หลายวัน ถ้าเจ้าของห้องไม่ใช้มันอาบจนหมดไปเสียก่อน มีสบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟันที่ยังไม่ใช้ และมีดโกนหนวดครบครัน ถึงไม่อยากใช้มีดโกนหนวดร่วมกับคนป่าเถื่อนไร้การศึกษาคนนั้น แต่เขาก็เริ่มทนไม่ไหวกับหนวดที่ไม่ได้โกนมาหลายวันแล้ว....

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.