บทที่ 6เมื่อดูแลเชลยแค้นของตนจนหายป่วยดีแล้ว วายุก็ขับรถออกไปในตอนเช้ามืดทุกวันเหมือนเดิม แต่ที่ต่างออกไปก็คือ ประมาณบ่ายโมงกว่าๆ เขาจะกลับเข้ามาทุกวันเพื่อเอาข้าวมาให้เชลยกิน แม้นว่าตั้งแต่หายไข้อีกฝ่ายจะไม่มองหน้า ไม่พูดจาตอบโต้ด้วยก็ตาม ทำราวกับเขาไม่มีตัวตนอย่างนั้น ในเมื่ออีกฝ่ายทำกิริยาเฉยชาใส่ หนุ่มร่างสูงก็ทำเป็นไม่สนใจเช่นกัน คล้ายต่างฝ่ายต่างเล่นสงครามประสาทใส่กันอย่างนั้น ส่วนในตอนค่ำ กว่าเขาจะกลับก็ดึกดื่นค่อนคืนทุกวัน บางคืนชลันธรก็ไม่รู้ตัว แต่ถ้าคืนไหนยังไม่หลับหรือสะดุ้งตื่นเพราะเสียงรถ พอได้ยินเสียงเดินขึ้นบ้านมา ชายหนุ่มก็จะรีบนอนตะแคงหันหน้าเข้าข้างฝาแกล้งทำเป็นหลับ และแล้ว เพียงแค่บ่ายกว่าๆของวันที่ห้าหลังจากไม่พูดจากกัน ชายหนุ่มผู้อารมณ์ร้อนก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต่อสงครามเย็นในครั้งนี้ลง
ข้าวกับเสื้อผ้าของมึง วายุเปิดปากพูดขึ้นเมื่อเดินเข้าไปหาเชลยร่างเล็กที่นั่งนิ่งอยู่บนเสื่อ วางกล่องข้าวกับถุงใส่เสื้อผ้าหลายใบลงให้ตรงหน้า แต่ชลันธรก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน ไม่สนใจ ไม่รับรู้ เหมือนอีกฝ่ายไม่มีตัวตนอยู่เช่นเดิม
เสื้อผ้าของมึง กูไปซื้อมาให้ ชลันธรยังคงนั่งนิ่งเฉย หนุ่มอารมณ์ร้อนเริ่มหงุดหงิดที่คนตรงหน้าไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ ทำเหมือนเขาเป็นอากาศธาตุอย่างนั้น
กูพูดได้ยินมั๊ย มึงอยากไปนอนในป่าอีกใช่มั๊ย เสียงห้าวตะคอกขู่อย่างโมโหจัด มือหนาเอื้อมจับแขนเรียวกระชากให้ลุกขึ้นก่อนจะจับต้นแขนเขย่าไปมา
ถ้าเท่าที่ทำยังไม่สะใจ จะทำอะไรอีกก็เชิญเลย ชลันธรไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนให้ทำเหมือนคนที่กำลังบีบต้นแขนจนเจ็บอยู่ไม่มีตัวตนได้อีกต่อไป เมื่อได้ยินคำท้าทายจากปากคนตรงหน้า อารมณ์โมโหของวายุก็ยิ่งพวยพุ่ง สองมือหนากระชากร่างเล็กบางเข้ามาปะทะอกแล้วกอดรัดเอาไว้จนแน่น
จะทำอะไร...ปล่อยนะ...อ๊ะ...ปล่อย ชลันธรดิ้นสุดกำลังเมื่อคนร่างสูงใหญ่ดันตัวไปนอนลงบนฟูก ตามด้วยกายหนากำยำที่โน้มลงมาทาบทับร่างของเขาเอาไว้ ชายหนุ่มรู้สึกตื่นกลัวสุดขีดเมื่อหน้าคมเข้มนั้นก้มลงมาใกล้ จนรู้สึกถึงความร้อนผ่าวของลมหายใจที่ปะทะเข้ากับใบหน้า พยายามส่ายหน้าหนีพร้อมกับยกมือผลักดันไหล่บึกบึนให้ออกห่าง แต่แล้วมือแข็งแรงสองข้างก็จับแขนของเขาขึ้นไปเหนือศีรษะ ก่อนจะรวบกดแนบกับพื้นเอาไว้ด้วยมือหนาเพียงข้างเดียว
อย่านะ...อุ๊บ...อื๊ออ ชลันธรร้องได้แค่นั้นก็ถูกประกบปิดปากรวดเร็ว ปากแกร่งบดขยี้ริมฝีปากของเขารุนแรงจนเจ็บ วายุจูบริมฝีปากบางนุ่มนั้นอย่างหนักหน่วง ทั้งบดเบียด ทั้งดูดดุน ทั้งขบกัดริมฝีปากแดง ให้สมกับที่ทำมึนตึงใส่ตนมาหลายวัน ลืมไปเสียสนิทว่าคนที่เขากำลังจูบลงทัณฑ์อยู่นั้นคือเพศเดียวกัน
อื๊อ...อึก...อื๊อ...อื๊อ หนุ่มไฮโซร้องประท้วงอยู่ในลำคออู้อี้เมื่อเริ่มหายใจไม่ออก พอเห็นคนใต้ร่างกำลังจะขาดอากาศหายใจ วายุถอนริมฝีปากออก เปลี่ยนจุดหมายไปซุกไซ้ตรงซอกคอขาวแทน สอดมือเข้าไปทางด้านหลังขยำบีบเคล้นสะโพกกลมแน่นอย่างมันมือ แก่นกายชายตื่นตัวขึ้นรวดเร็ว ชายหนุ่มเริ่มหายใจฟึดฟัดตามอารมณ์กระสันที่พวยพุ่ง พอแก่นกายลำยาวใหญ่ของตนผงาดแข็งเต็มที่ ร่างกำยำรีบยันกายลุกขึ้นนั่งเพื่อปลดกระดุมกางเกงยีนส์คลายความอึดอัด ชลันธรเห็นโอกาสจึงคู้เข่าขึ้นแล้วยกเท้าถีบไปที่กลางแผ่นอกหนาสุดกำลัง
โอ๊ะ! อั๊ก! อุ๊ก! เสียวห้าวร้องอุทานออกมาด้วยความเจ็บเมื่อกระเด็นหงายหลังล้มตึง ศีรษะกระแทกกับพื้นห้องเต็มแรง ชลันธรลุกขึ้นได้ก็วิ่งตรงไปที่หน้าประตูห้องรวดเร็ว รีบร้อนหนีภัยจนลืมไปว่าข้อเท้าตนยังมีโซ่ล่ามอยู่ วิ่งพ้นประตูห้องไปได้สองก้าวก็ถูกสายโซ่ดึงรั้งจนเกือบหัวขมำล้ม
พอตั้งหลักได้รีบหันหลังกลับ เห็นคนร่างสูงใหญ่กำลังยันกายลุกขึ้น ชลันธรวิ่งถลาลากโซ่เข้าไปแอบในห้องน้ำด้วยความตื่นตกใจกลัว กระแทกบานประตูปิดก่อนจะลนลานล็อคกลอนประตูจนมือสั่น แต่ก็ล็อคไม่ได้เพราะติดสายโซ่ ใบหน้าเรียวหันซ้ายหันขวาหาอุปกรณ์ป้องกันตัว ไม่มีอะไรให้เขาใช้เป็นอาวุธได้เลยนอกจากขันพลาสติกใบเก่า พลันประตูห้องน้ำก็ถูกกระแทกเปิดอย่างแรง บานประตูปะทะร่างที่กำลังยืนลุกลี้ลุกลนอยู่อย่างจัง ร่างเล็กบางหงายหลังกระแทกกับผนังห้องน้ำเสียงดังอั๊ก
อ๊ะ...ปล่อยนะ ชลันธรหน้านิ่วยังไม่หายเจ็บก็ร้องขึ้นเสียงลั่นห้องน้ำเมื่อถูกวงแขนแข็งแรงตวัดกอดรัดแน่น ชายหนุ่มพยายามดิ้นหนีสุดกำลัง แต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากวงแขนของมัจจุราชอารมณ์เดือดได้ กลับถูกท่อนแขนล่ำรัดแน่นขึ้นจนซี่โครงแทบหัก
คิดว่าจะหนีกูพ้นเหรอ หา วายุตะคอกใส่หลังใบหูของคนในวงแขนเสียงกร้าวดุดัน ร่างหนากำยำกอดลากร่างเล็กบางที่กำลังดิ้นถีบขาไปมาถอยหลังจากห้องน้ำออกมายังห้องนอนด้วยอารมณ์โมโหจัด ครั้นพอคนตัวสูงหันข้างเหมือนจะเหวี่ยงตนลงไปยังฟูกนอน ชลันรวบรวมกำลังแล้วสะบัดตัวสุดแรงเกิด วายุหมุนคว้างซวนเซจนเท้าไปสะดุดกับสายโซ่เข้า ทำให้ร่างสูงใหญ่ที่มีร่างเล็กบางอยู่ในอ้อมแขนเสียหลัก เซถลาจนศีรษะกระแทกเข้ากับเหลี่ยมเสาไม้มุมห้องเต็มแรง
โอ๊ะ! โอ๊ยย! อุ๊ยย! วงแขนล่ำปล่อยร่างเชลยแล้วยกขึ้นไปกุมขมับเอาไว้ด้วยความเจ็บปวด ชลันธรรีบขยับออกห่าง มองไปก็เห็นร่างสูงใหญ่เดินโซเซกุมศีรษะออกมาจากมุมเสา ก่อนจะทรุดฮวบลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้นห้องดังโครมสนั่นห้อง
ชลันธรมองใบหน้าคมที่กำลังบิดเบี้ยวอ้าปากครางอย่างเจ็บปวดอยู่ด้วยความสะใจตน พอใบหน้านั้นเงยขึ้นแล้วมองมาด้วยดวงตาวาวโรจน์ดุดัน เขากลับไม่รู้สึกกลัวเหมือนเช่นเคย ความหวาดกลัวลอยหายไปจากใจอย่างน่าอัศจรรย์ ชายหนุ่มส่งยิ้มอย่างสะใจไปให้เมื่อเห็นอีกฝ่ายยันกายลุกขึ้น ร่างสูงใหญ่เดินย่างสามขุมเข้ามาหาแล้วยกมือขึ้นเหมือนจะฟาดลงที่ใบหน้า ชายหนุ่มยังคงยืนนิ่งจ้องมองตอบอย่างไม่เกรงกลัว แต่แล้วมือหนานั้นกลับชะงักค้างแล้วร่างสูงใหญ่ตรงหน้าก็เดินโซเซออกจากห้องไป สักพักก็ได้ยินเสียงรถกระบะสตาร์ทเครื่องก่อนจะขับออกไปอย่างเร็ว ชลันธรรู้สึกสะใจที่เห็นอีกฝ่ายเจ็บ ถึงแม้ความเจ็บนั้นจะแค่เพียงเศษเสี้ยวของความเจ็บปวดที่เขาได้รับก็ตาม
เมื่อตื่นขึ้นมาเห็นแสงแดดอ่อนที่ส่องลอดบานหน้าต่างหลังห้องเข้ามาเปลี่ยนองศาไป ทำให้ชลันธรรู้ว่าดวงอาทิตย์ใกล้จะลับเหลี่ยมเขาแล้ว จากนั้นอีกไม่นานความมืดมิดวังเวงก็จะเข้ามาแทนที่ ถึงแม้ห้องนี้จะมืดมิดลงแต่เพียงแค่สิบสองชั่วโมงก็สว่างขึ้นแล้ว ส่วนชีวิตที่กำลังมืดมนของเขา จะมีวันเจอแสงสว่างอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ วันนี้เป็นวันที่สองแล้วหลังจากวันพยายามข่มขืนเขา ที่คนป่าเถื่อนใจวิปริตคนนั้นหายไป ตอนกลางคืนก็ไม่กลับมานอนเฝ้าเขาเหมือนเคย ครั้นพอเขาตื่นมาในวันรุ่งขึ้น มองไปที่ประตูก็เห็นถุงพลาสติกใบใหญ่วางอยู่ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายนำมาวางไว้ตอนไหน เขาหลับไม่รู้ตัวเลย ลุกเดินไปดูก็เห็นอาหารกระป๋องกับขวดน้ำดื่มบรรจุอยู่เต็ม แต่คนเอามาทิ้งไว้ให้ก็ไม่โผล่หน้ามาให้เห็น และนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการอย่างยิ่ง หรือว่าคนจิตใจวิปริตนั่นล้มเลิกความคิดที่จะข่มขืนเขาไปแล้ว
หึหึหึ ชลันธรนอนหัวเราะเยาะชะตากรรมตัวเอง และการกระทำที่ขัดแย้งกันของอีกฝ่ายออกมาเบาๆ ไม่รู้ชาติก่อนเขาทำกรรมอะไรเอาไว้นักหนา ชาตินี้ถึงต้องมาเจอกับเรื่องเลวร้ายแบบนี้
หัวเราะอะไรคนเดียววะ บ้าไปแล้วเหรอมึง เสียงทุ้มดังจากด้านหลังทำให้ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้ง พลิกตัวกลับก็เห็นร่างสูงใหญ่ที่มีเพียงผ้าขาวม้าปิดกายยืนจ้องมองอยู่ตรงประตูห้อง คนบ้าจิตวิปริตคงลงไปอาบน้ำที่เขื่อนมาเพราะผ้าขาวม้าที่นุ่งอยู่เปียก ผมหยักศกที่เคยยาวระต้นคอถูกตัดสั้นจนแทบติดหนังศีรษะ มีผ้าปิดแผลผืนเล็กๆ ปิดอยู่ที่ขมับข้างซ้ายเหนือใบหู ทำให้ใบหน้าคมเข้มนั้นดูน่ากลัวเหมือนผู้ร้ายโรคจิตในหนังที่เขาเคยดู
ผมยังไม่บ้าเท่ากับคุณหรอก ชลันธรพยายามเค้นคำพูดโต้ตอบแต่ละคำออกมา เป็นเพราะความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ภายในใจ ทำให้ยากลำบากในการเปล่งเสียงให้ดังเพื่อให้อีกฝ่ายได้ยิน
ปากดีไปเถอะมึง เดี๋ยวกูจะดูสิว่าจะยังปากเก่งอยู่อีกไหม พูดจบร่างสูงใหญ่ก็ย่างสามขุมเข้ามาหา ชลันธรเตรียมใจรอรับความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น คนใจเหี้ยมโหดทรุดตัวลงตรงหน้าแล้วกระชากตัวเขาให้ลุกขึ้นนั่ง สองมือหนาบีบบ่าแน่นจนเจ็บ
คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย คุณมันไอ้หน้าตัวเมีย ดีแต่ใช้กำลังเท่านั้นแหละ ชายหนุ่มเค้นเสียงด่าต่อ มองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาชิงชัง
เดี๋ยวก็รู้ว่ากูเป็นลูกผู้ชายมากแค่ไหน เสียงเข้มย้ำกร้าว ดวงตาคมจ้องหน้าเชลยลุกวาว ชลันธรไม่หลบตา จ้องมองตอบด้วยสายตาแข็งกร้าวเช่นกัน บอกความรู้สึกผ่านสายตาให้คนตรงหน้ารู้ว่าเขาเกลียดและขยะแขยงมากแค่ไหน วายุผลักร่างเชลยแค้นให้ลงไปนอนตามเดิมอย่างแรง รวบแขนเรียวสองข้างไปไว้เหนือศีรษะด้วยมือใหญ่โตเพียงข้างเดียว กดแนบกับพื้นเอาไว้แน่น ชลันธรเหมือนเห็นขุมนรกรออยู่เบื้องหน้า แต่เขาไม่สามารถวิ่งหนีไปไหนได้
ไอ้สารเลว ชายหนุ่มกดเสียงต่ำด่าออกไป ไม่ได้ขัดขืนเมื่อร่างสูงใหญ่ตามมานั่งทับต้นขาตน ยังคงจ้องมองใบหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาที่สื่อความหมายเหมือนเดิม จนไม่เห็นมือหนาอีกข้างที่แหย่นิ้วลงไปหยิบอะไรบางอย่างจากขอบผ้าขาวม้าตรงบั้นเอวออกมา
ยัง กูยังเลวได้มากกว่าที่มึงคิด น้ำเสียงดุดันเยียบเย็นตอบกลับมา แล้วมือหนาก็เอื้อมมาบีบกระพุ้งแก้มของเขาให้ปากอ้าออก ยัดยาเม็ดเล็กๆเข้าปากเขารวดเร็ว ชายหนุ่มพยายามคายมันออกแต่ฝ่ามือข้างนั้นก็ปิดปากกับจมูกเอาไว้จนแน่น จำต้องกลืนยาลงไปในลำคอเมื่อเริ่มขาดอากาศหายใจ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเอายาอะไรให้เขากิน แต่ยังไงมันก็คงไม่เป็นผลดีกับเขาอย่างแน่นอน ชลันธรไอออกมาพร้อมกับหายใจหอบแรงเมื่ออีกฝ่ายเอามือออก แล้วร่างหนักที่นั่งทับต้นขาอยู่ก็ลุกผละออกไป พอยันตัวลุกขึ้นนั่งเขาก็เห็นอีกฝ่ายยืนแสยะยิ้มมองอยู่ที่หน้าต่างข้างห้อง
คุณ เอายาอะไร ให้ผมกิน ชายหนุ่มเค้นเสียงถามอย่างตื่นตระหนก
ยาที่จะทำให้มึงเลิกด่ากู เปลี่ยนมาเป็นครางกระเส่าแทนน่ะสิ หึหึหึ เสียงห้าวกล่าวตอบอย่างเย้ยหยันก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ชลันธรเบิกตาโพลงอย่างตกใจเมื่อคิดได้ว่าเป็นยาอะไร รีบยันกายขึ้นเตรียมลุกหนี หนุ่มร่างสูงใหญ่รีบก้าวเข้าไปผลักให้นอนหงายลงตามเดิม ทิ้งตัวลงไปนอนเคียงข้างแล้วกอดรัดเอาไว้แน่น หนุ่มร่างเล็กพยายามรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ดิ้นรนออกจากวงแขนและท่อนขาแข็งแรงที่กอดรัดและกดทับอยู่ แต่ถึงจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่เป็นผล กลับยิ่งถูกกอดทับแน่นขึ้นไปอีก....