ไอ้ตาลเดินกลับมาบอกผมว่า ไอ้เบสต์จะเอาของที่ผมทิ้งไว้ที่โรงเรียนมาให้ผม ตอนนี้มันกำลังเดินขึ้นมาที่ห้อง ผมพยักหน้ารับแล้วหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน จนเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู ผมก็ยังไม่ลืมตามองเอก
เป็นไงมั่งวะ พี่ขอโทษเราจริงๆว่ะ เสียงไอ้เบสต์ดังขึ้น ผมเลยลืมตามองอย่างอ่อนแรง มันจับมือผมบีบเบาๆเหมือนจะส่งกำลังใจมาให้
ไม่เป็นไรพี่ ผมรู้ว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจ ผมพยายามเค้นเสียงบอกออกไป
ผมไม่โทษมันจริงๆครับ ทุกอย่างเป็นความผิดของผมเองทั้งนั้น
สิ่งที่ผมสามารถทำได้มากที่สุดในตอนนั้น คงแค่เพียงพิมพ์ข้อความอธิบายเรื่องราวทั้งหมดส่งไปให้ไอ้นัย ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะเปิดอ่าน และถ้ามันได้อ่านแล้ว มันจะเชื่อผมมั้ย
..ซึ่งผมก็ภาวนาขอให้มันเชื่อด้วยเถอะ
คืนนั้นทั้งไอ้ตาลและไอ้เบสต์เลยอยู่นอนเป็นเพื่อนผม ผมรู้สึกดีขึ้นมาบ้างเมื่อมีเพื่อนมาชวนคุย ชวนดูทีวี และมาเถียงกันอยู่ในห้อง บางทีพวกมันก็เล่นตลกให้ผมดู ซึ่งก็ทำให้ผมลืมเรื่องเครียดๆ ไปได้ชั่วขณะ
สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกดีไปกว่านั้นก็คือ ไอ้ตาลกับไอ้เบสต์ท่าทางจะคุยกันอย่างถูกคอทั้งๆที่เพิ่งได้คุยกันเป็นวันแรก นั่นหมายถึงมิตรภาพที่ดีกำลังเริ่มขึ้นกับเพื่อนของผมทั้งสองคน เพราะมันเริ่มสนิทถึงขั้นตบกระโหลกกันเลยละครับ
.เฮ้อ
.ท่ามกลางสถานการณ์ที่ย่ำแย่สำหรับผมแบบนี้ กลับมีบางอย่างที่ช่วยผมให้ยิ้มออกมาได้บ้าง ขอบใจว่ะ
ไอ้ตาล
ไอ้เบสต์
.
ผมสะโหลสะเหลไปโรงเรียนในตอนเช้า เพราะเมื่อคืนกว่าจะข่มตาหลับลงไปได้ก็ปาไปตีอะไรไม่รู้ ไอ้เบสต์ยังอยู่ข้างผมไม่ห่างเหมือนกำลังจะแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น มันพยายามบังคับให้ผมกินข้าวให้ได้เยอะๆ เพราะผมกินไปได้แค่สามสี่คำ ผมก็กลืนไม่ลงแล้วครับ
เรายังต้องมีงานที่ต้องรับผิดชอบอีกเยอะนะเอก ถ้าไม่กินข้าวแล้วจะเอาแรงที่ไหนไปเรียน ไปร้องเพลงล่ะวะ ไอ้เบสต์มองผมด้วยสายตาเป็นห่วงพร้อมเอามือยีหัวผมเบาๆ เลยทำให้ผมพยายามฝืนกินเข้าไปได้อีกนิดหน่อย
วันนั้นผมนั่งเรียนอย่างหมดอาลัยตายอยาก ไม่มีความรู้อะไรเข้าหัวผมเลยสักนิด เพราะในหัวผมมีแต่เรื่องของตัวเอง จนไอ้โป้งกับไอ้เก็ตก็คงสงสัยว่าทำไมผมถึงได้ซึมไปแบบนี้ แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรให้มันฟังหรอกนะครับ ผมว่าไอ้สองตัวนี่มันคงมีเซ้นส์ว่าผมกำลังมีเรื่องทุกข์ใจ เลยพยายามทำให้ผมหัวเราะออกมาได้บ้าง
ขอบใจว่ะเพื่อน
เย็นนั้นผมยังคงไปซ้อมที่ห้องชมรมการแสดงเหมือนเดิมครับ จริงๆคงต้องบอกว่าพยายามลากสังขารไปซ้อมมากกว่า เพราะผมไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรเลย แต่ผมก็ต้องมีความรับผิดชอบและไม่อยากเอาเรื่องส่วนตัวมาทำให้งานเสีย
เสียงอินโทรเพลงรักคุณยิ่งกว่าใครดังขึ้น ผมเจ็บแปล๊บเข้าไปถึงขั้วหัวใจ เพราะสำหรับผม เพลงๆนี้ มันเหมือนเป็นเพลงที่ผมร้องให้ไอ้นัยเท่านั้น
.ใช่
เพลงนี้เป็นเพลงของไอ้นัย เพียงคนเดียว
เหตุการณ์ที่ผมร้องง้อไอ้นัยที่บ้านพี่กรไหลเข้ามาในหัวผมอย่างช่วยไม่ได้ ผมยังจำอารมณ์นั้นได้ดีว่าผมรู้สึกอินกับเพลงครั้งแรก เพราะผมกำลังร้องให้ไอ้นัย
คนสำคัญของผม
แต่วันนี้ต่างจากวันนั้น ขณะที่ผมกัดฟันเปล่งเสียงร้องออกไป หน้าไอ้นัยก็ลอยเข้ามาเต็มๆ
ใช่สิ
.มันเคยนั่งดูผมอยู่ตรงนั้นแล้วยิ้มส่งกำลังใจมาให้ผมทุกครั้ง
.แต่วันนี้ ไม่มีแม้แต่เงาของไอ้นัย และผมก็ไม่รู้ว่าจะมีมันมานั่งดูผมแบบนั้นอีกมั้ย
.ผมรู้สึกเหมือนใจจะขาด
.นัย
..จนป่านนี้มึงยังไม่ติดต่อกลับมาเลย มึงไม่แคร์กูบ้างเลยเหรอวะ
ก้อนอะไรมาจุกที่คอผมอีกแล้วครับ ผมร้องเพลงต่อไม่ออกจริงๆ ผมยืนหลับตาเอามือกุมหัวตัวเองนิ่ง จนน้องแองจี้กับน้องๆคนอื่นต้องพาผมไปนั่งพัก
ไหวมั้ยคะพี่เอก น้องแองจี้ถาม ถ้าไม่ไหวก็กลับไปพักเถอะนะคะ
ไหวคับ พี่ขอพักแป๊บนะ ผมพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหล ฝืนยิ้มและพูดออกไปอย่างยากเย็น
น้องแองจี้นั่งลงตรงหน้าแล้วเอามือผมไปกุม ก่อนจะมองด้วยสายตาที่ห่วงใย น้องๆคนอื่นก็พากันมาจับมือจับแขนผมบีบเบาๆ
ไม่ว่าพี่จะมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ แต่หนูอยากให้พี่เอกรู้ไว้นะคะ ว่าพวกหนูเป็นห่วงพี่กันทุกคน น้องแองจี้พูดเหมือนรู้อะไร
..ก็คงใช่สินะ เมื่อวานนี้ถ้าใครอยู่ในห้องตอนเกิดเรื่อง ก็คงเดาเรื่องราวได้ไม่ยากหรอก
ขอบใจนะน้องๆ
ขอบใจมาก
.. ผมยิ้มออกไปด้วยความปลื้มใจที่น้องๆเป็นห่วงผมขนาดนี้
น้ำตามันรื้นขึ้นมาอีกแล้วครับ และในที่สุดมันก็ไหลออกมาจนได้
โทรศัพท์สั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงขณะที่ผมกำลังซ้อมที่ชมรมดนตรี ทำเอาผมตกใจรีบหยิบขึ้นมาดูเพราะคิดแต่ว่าจะเป็นสายของไอ้นัย
.แต่มันก็ไม่ใช่ครับ
น้องเอก วันนี้ไปนอนบ้านพี่นะครับ น้องโน น้องตาลก็จะไปนอนด้วย เสียงพี่กรพูดมาตามสาย ทำเอาผมรู้สึกอุ่นใจยังไงบอกไม่ถูกครับ ตอนนี้พวกเรารออยู่หน้าตึกนะ ถ้าซ้อมเสร็จก็ลงมาได้เลยครับ อย่าลืมชวนน้องเบสต์มาด้วยนะ
พรุ่งนี้วันเสาร์พี่จะพาไปเที่ยวต่างจังหวัด พี่กรพูดขึ้นเมื่อผมกับไอ้เบสต์เดินมาถึง ไปค้างกันซักคืน วันอาทิตย์ค่อยกลับ พี่ยกเลิกสอนร้องเพลงหมดแล้วล่ะ
ไปไหนคับพี่ ผมอดสงสัยไม่ได้ แต่ก็รู้สึกดีใจไม่น้อยเลยครับ เพราะผมจะได้ไปพักผ่อนสมองที่เครียดๆด้วย
เอาน่า แล้วจะชอบ พี่กรบอก
เอ
..ทำไมไม่บอกเลยละวะ แต่ช่างเหอะ ไปไหนผมก็ไปทั้งนั้น แค่รู้ว่าจะได้ไปเที่ยว ผมก็ดีใจแล้ว
ผมมารู้เอาทีหลังว่าไอ้ตาลกับไอ้เบสต์เป็นโต้โผคิดที่จะโทรชวนพี่กร ผมอดที่จะขอบคุณพวกมันในใจไม่ได้
.เพื่อนรักของกูทั้งสองคน ขอบใจว่ะ
เย็นนั้นเราช่วยกันทำอาหารกันอีกครั้งครับ แต่คราวนี้อยู่กันหลายคนก็เกิดเรื่องสนุกๆ ตามมา ทั้งการเตรียมอาหารแบบเงอะๆงะๆ เลอะๆเทอะๆ ของพวกเรา การแซวกันระหว่างไอ้โนกับไอ้ตาล และการเถียงกันระหว่างไอ้ตาลกับไอ้เบสต์ เลยทำให้ผมได้หัวเราะและเพลินกับการทำอาหาร จนลืมเรื่องเศร้าไปได้บ้าง
เราทั้งหมดเข้าไปนอนอยู่ในห้องพี่กรครับ โดยมีผม ไอ้ตาล ไอ้เบสต์ นอนกับพื้นห้อง ส่วนพี่กรกับไอ้โนนอนบนเตียงกันสองคน
พวกเราต่างหาเรื่องสนุกๆมาเล่าให้กันฟัง แต่อะไรก็คงไม่มันส์เท่า Dirty Jokes หรอกนะครับ เราเลยได้หัวเราะกันจนท้องคัดท้องแข็ง ก่อนจะที่ผมจะหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย