ไอ้เอกเล่าบ้าง
พวกผมไปถึงโรงเรียนตั้งแต่เช้า ผมรู้สึกตื่นเต้นสุดๆเลยละครับ เพราะวันนี้จะต้องแสดงจริงแล้ว
มันรู้สึกเกร็งๆ หายใจไม่ทั่วท้องยังไงบอกไม่ถูก
.ผมกลัวจังครับว่าจะเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมา
เอาเหอะ
ผมต้องระวังให้มากที่สุด
พี่เอก
พี่เบสต์
กรี๊ดดดดด!!!! เสียงกรี๊ดเริ่มดังขึ้น เมื่อพวกผมก้าวเดินผ่านโต๊ะม้าหินอ่อนที่มีกลุ่มนักเรียนหญิงกำลังนั่งคุยกันอยู่ พวกเธอรีบวิ่งกรูเข้ามาหาผมกับไอ้เบสต์จนผมตั้งตัวไม่ทัน
พอน้องกลุ่มนี้กรี๊ดเสียงดัง นักเรียนหญิงคนอื่นๆก็เริ่มมีปฏิกิริยาเดียวกัน พวกเธอพากันกรี๊ดแล้ววิ่งตรงมาที่พวกเราเหมือนกันครับ
โอย
..กว่าผมจะฝ่าด่านน้องๆมาถึงห้องซ้อมของชมรมการแสดงได้ ก็ทำเอาตัวผมน่วมไปหมด เพราะพวกเธอทั้งจับมือ ทั้งดึงแขน ทั้งหอมแก้ม สารพัดที่พวกเธอจะทำได้ แต่ผมก็ปลื้มนะครับที่มีคนเครซี่ผมได้ขนาดนี้
.ฮี่ๆ นี่ขนาดงานโรงเรียนนะเนี่ย มันให้ความรู้สึกเหมือนผมกำลังจะเป็นศิลปินชื่อดังอย่างงั้นแหละ
ห้องชมรมการแสดงวุ่นวายมากครับ เพราะน้องๆแดนเซอร์มากันครบหมดแล้วกำลังทยอยแต่งหน้าและทำผมอยู่ พอเห็นผมพวกเธอก็ร้องทักทายกันใหญ่..
ผมยิ้มแล้วโบกมือให้ทุกคน พาลคิดไปถึงน้องแองจี้
.เฮ้อ
ตอนนี้เธอไปอยู่ที่ไหนกันนะ ทำไมไม่ติดต่อกลับมาบ้างเลย
ผมถูกดึงตัวไปทำผมก่อน โดยพี่คนเดิมที่เคยทำให้ตอนถ่ายโปสเตอร์นั่นแหละครับ แกชื่อพี่ดาว
ผมยาวขึ้นอีกหน่อยแล้วนะคะ คราวนี้ละ หล่อกว่าเดิมแน่นอน พี่ดาวบอกทำเอาผมยิ้มหน้าบาน
..ใช่สิครับ ก็ครั้งก่อนพี่บอกผมว่าให้สระผมทุกวัน ผมจะยาวเร็วขึ้น ผมก็เลยทำตาม
ขอบคุณนะคับพี่ดาว ผมยกมือไหว้ขอบคุณ
เมื่อวานนี้แองจี้โทรมาหาพี่ด้วยนะคะ พี่ดาวบอกทำเอาผมตาโตด้วยความตื่นเต้น
เหรอคับ
..แองจี้เป็นไงมั่งคับ อยู่ที่ไหน สบายดีมั้ยคับ ผมโพล่งออกมาอย่างดีใจ อย่างน้อยไม่ได้คุยกันแค่ได้รู้ข่าวคราวก็ยังดี
อยู่ที่ไหนแองจี้ไม่ยอมบอก แต่เธอสบายดีค่ะ โทรมากำชับพี่เรื่องชุดทั้งสองเพลงและเรื่องแต่งหน้าทำผม พี่ดาวเล่าต่อ
โธ่
..ยังอุตส่าห์ห่วงพวกเราอีก ผมรู้สึกน้ำตารื้นขึ้นมานิดหน่อยเพราะซึ้งใจน้องแองจี้มากๆ
แสดงเต็มที่เลยนะคะน้องเอกสุดหล่อ วันนี้พี่จะแต่งหน้าให้ด้วย เอาให้หล่อระเบิดไปเลย พี่ดาวบอก
..อ้าว
นี่พี่แต่งหน้าได้ด้วยเหรอเนี่ย
.
อ่ะ เสร็จแระค่ะ พี่ดาวพูดขึ้นหลังจากทำผมและแต่งหน้าให้ผมเสร็จเรียบร้อย ทุกคนคะ พระเอกสุดหล่อของเราเป็นยังไงมั่งคะ พี่ดาวพูดพร้อมดึงตัวผมลุกยืนก่อนจะจับหันไปให้ทุกคนในห้องดู
กรี๊ดดดดด หล่อจัง เสียงกรี๊ดและเสียงชมออกมาจากปากของพี่ๆช่างแต่งหน้าทำผมและน้องแดนเซอร์ ทำเอาผมเขินไปเลยครับ ไอ้นัยกับไอ้ตาลก็พากันมองมาแล้วยกนิ้วโป้งให้ ผมเลยรีบเดินไปส่องกระจกบานใหญ่
โหยยย
นี่ตัวกูเหรอวะเนี่ย ทำไมถึงได้หล่อขนาดนี้
..ฮี่ๆ
ผมที่ยาวขึ้นถูกเซ็ทจนตั้งแข็งเป็นหนามๆแบบที่เค้ากำลังฮิตกัน ส่วนใบหน้าของผมก็ดูเข้มขึ้นมากเลยครับ พี่ดาวบอกว่าแต่งเพื่อแสดงบนเวทีต้องเข้มกว่าแต่งถ่ายรูป เพราะเวทีอยู่ไกลและมีแสงไฟสาดเข้าไปอีก ถ้าไม่แต่งให้เข้มจะทำให้หน้าดูจืดเกินไป
ไม่นานนักไอ้โนกับพี่กรก็มาถึงพร้อมกล้องดิจิตอล ผมเลยได้เต๊ะท่าถ่ายรูปไปหลายรูปเลยล่ะครับ ทั้งเดี่ยว
ทั้งคู่
.ทั้งกลุ่มกับไอ้นัย ไอ้ตาล พี่กรและไอ้โน ฮี่ๆ
ไม่ค่อยเห่อเลยนะเรา
ช่วงนั้นก็มีคนมาเคาะประตูครับ ผมเลยตะโกนถามออกไปว่าเป็นใคร
กันคับ ผมมาหาเอกคับ เสียงไอ้กันตะโกนเข้ามาทำให้ผมยิ้มอย่างดีใจ
พวกกูด้วย โป้งกับเก็ต เฮ้ย! ไอ้โป้งไอเก็ตก็มาเหรอวะ ผมเลยรีบเปิดประตูรับไอ้สามคนนั่น
โห
..หล่อจังเอก ไอ้กันหน้าตาสดใสยิ้มให้ผม แถมชมผมซะจนตัวแทบลอย
เพื่อนกูแม่งหล่อสุดๆเลยว่ะ ไอ้โป้งกับไอ้เก็ตบอกแล้วเดินเข้ามากอดผม
แน่นอนอยู่แล้ว หึหึ ผมยิ้มอย่างภูมิใจแล้วพาพวกมันเข้ามาในห้องก่อนจะล็อคประตู
ผมพาไอ้กัน ไอ้โป้งและไอ้เก็ตเข้าไปไหว้พี่กร หวัดดีไอ้นัย ไอ้โนและไอ้ตาล ก่อนจะหันมาหาผม ผมแอบเห็นไอ้นัยกระซิบกระซาบอะไรให้ไอ้ตาลฟังก็ไม่รู้
สงสัยจะบอกไอ้ตาลว่าไอ้กันเป็นแฟนเก่าไอ้เบสต์แน่เลย
เมื่อวานกูมีแข่งว่ะ เลยไม่ได้ดูมึงซ้อมใหญ่ ไอ้กันบอกทำหน้าเสียดาย
ส่วนกูไม่รู้ว่ามีซ้อมใหญ่ ไอ้ห่าเก็ตแม่งลืมบอกกู ไอ้โป้งบอกแล้วหันไปตบหัวไอ้เก็ต
ฮี่ๆ กูมีนัดกับสาวทางเน็ทว่ะ ไอ้เก็ตสารภาพพลางลูบหัวตัวเอง
เฮ้ย! ไม่เป็นไร ดูวันจริงดีกว่า ชุดพร้อม
สุดอลังการ ฮ่าๆ ผมไม่วายอวดแล้วผายมือไปยังชุดแดนเซอร์ที่แขวนอยู่บนราว
กูทำป้ายมาเชียร์มึงด้วยนะ ไอ้กันบอกพร้อมโชว์ป้ายขนาดกำลังดี เขียนชื่อผมด้วยสีสะท้อนแสงเด่นมากๆ
ของพวกกูก็มี๊ ไอ้เก็ตบอกพร้อมโชว์ป้ายเชียร์ผมเหมือนกัน
ขอบใจว่ะพวกมึง ผมบอกขอบคุณ แล้วหันไปมองไอ้นัยก่อนจะชี้ไปที่ป้ายเหมือนจะบอกว่า
เนี่ยๆ
เห็นมั้ย ไอ้พวกเนี๊ยะมันทำป้ายมาเชียร์กูด้วยนะ
ไอ้นัยยักไหล่แล้วหันไปยิ้มกับไอ้ตาลอย่างมีเลศนัย พี่กรกับไอ้โนก็มองหน้ากันแล้วยิ้มแปลกๆ
..
เสียงประกาศเชิญชวนให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมดังมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นซุ้มกิจกรรมต่างๆภายนอกอาคาร และการจัดแสดงทางวิชาการในห้องเรียน ซึ่งห้องเรียนบางห้องถูกเปลี่ยนเป็นห้องวิถีชีวิตแบบไทยทั้งสี่ภาค มีการขายอาหารประจำภาคอีกด้วยครับ ผมเองที่นั่งฟังอยู่ในห้องแต่งตัว ยังรู้สึกอยากเข้าไปดูให้ทั่วๆเลยครับ
ไม่นานนักก็มีเสียงประกาศยินดีต้อนรับนักเรียนจากโรงเรียน
ว่าได้เดินทางมาถึงเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียนผมแล้ว
..โอยย
..ตื่นเต้นจังเลย เพราะพวกผมจะต้องแสดงให้นักเรียนทั้งสองโรงเรียนดู ขออย่าให้มีอะไรผิดพลาดเลยครับ
หลังจากนั้นก็มีเสียงประกาศว่า การแสดงในหอประชุมกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว น้องๆแดนเซอร์บางคนถึงกับกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น เพราะการแสดงของพวกเราจะเป็นการแสดงปิดท้ายของช่วงเช้า
น้องๆแดนเซอร์ที่แต่งหน้าทำผมเสร็จแล้วก็ทยอยเปลี่ยนชุดกันใหญ่ ใครแต่งเสร็จก่อนผมก็จะดึงมาถ่ายรูปคู่กับผม ทำให้บรรยากาศคึกคักเข้าไปอีก
ตอนนี้พวกเราทุกคนแต่งตัวกันเรียบร้อยแล้วครับ
..โหย
.มันอลังการจริงๆเลยละครับ ผมก็เลยให้ไอ้โนถ่ายรูปแบบครบทีมหลายๆรูปเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก น้องๆแดนเซอร์ก็โพสท่ากันเต็มที่ แถมยังสลับตำแหน่งเปลี่ยนท่าโพสไปเรื่อย เรียกว่าไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียว
ตอนนั้นเองไอ้นัยที่ยืนดูอยู่ด้านหน้าก็กวักมือเรียกผมพร้อมยกโทรศัพท์ของผมขึ้นโชว์
แองจี้ส่งข้อความมา ไอ้นัยตะโกนลั่น ทำเอาน้องๆแดนเซอร์และผมพากันวิ่งไปหามัน ผมรีบคว้ามือถือเอามาเปิดดูข้อความด้วยความตื่นเต้น
..หนูสบายดีค่ะพี่เอก ฝากบอกน้องๆด้วยว่า เต้นกันให้เต็มที่ สู้ๆแทนหนูด้วยนะคะ หนูเชื่อมั่นว่าทุกคนต้องทำได้
.
น้ำตาผมรื้นขึ้นมาอีกแล้วครับ หันไปมองน้องๆคยอื่นก็เห็นพวกเธออยู่ในสภาพเดียวกันกับผม ผมเลยยื่นมือไปตรงกลาง น้องๆคนอื่นก็พากันยื่นมือมาประสานกันเอาไว้
พวกเราจะไม่ทำให้แองจี้ผิดหวัง ผมร้องบอกเสียงดัง
สู้ๆ!!!!!! พวกเราส่งเสียงพร้อมกันจนดังลั่นไปทั้งห้อง ต่างมองตากันด้วยความมุ่งมั่น
.เราจะไม่ยอมแพ้ เราจะสู้เพื่อเธอนะแองจี้
ไอ้นัย ไอ้ตาล พี่กรและไอ้โนพากันขอตัวออกไปจองพื้นที่ในหอประชุมก่อน เพราะกลัวจะไม่มีที่ยืนดู ส่วนไอ้กัน ไอ้โป้งและไอ้เก็ตก็ทยอยกันขอตัวออกไปหลังจากนั้น
ไม่นานนัก อ.สุชาติมารับพวกเราเพื่อออกไปสแตนบายที่ด้านหลังเวที แค่เพียงพวกเราก้าวเดินออกจากห้องแต่งตัว ก็เกิดเสียงกรี๊ดสนั่นไปทั้งโรงเรียน เพราะคราวนี้นักเรียนยิ่งมากกว่าตอนถ่ายโปสเตอร์อีกไม่รู้เท่าไหร่ มีทั้งนักเรียนโรงเรียนผมที่ไม่มีการเรียนการสอนแถมยังมีมาจากโรงเรียนอื่นอีก เลยยิ่งทำให้ขบวนของการแสดงชุดนี้ ถูกรุมล้อมจับไม้จับมือ และส่งเสียงกรี๊ดต้อนรับกันอย่างเกรียวกราว
พวกเราไปรออยู่นานพอสมควรครับ แต่ยิ่งใกล้เวลาเข้าไปเท่าไหร่ ผมก็ตื่นเต้นมากขึ้นทุกที พี่คนคุมคิวเดินมาบอกพวกผมว่าทั้งหอประชุมมีคนเข้ามารอดูจนแทบจะล้นออกไปด้านนอก ยิ่งทำให้พวกผมและน้องๆแดนเซอร์พากันจับมือต่อๆกัน เพื่อส่งกำลังใจไปให้กัน
สำหรับการแสดงชุดต่อไปนะคะ จะเป็นการแสดงเต้นกำรำเคียว โดยนักเรียนชั้น ม.3 และจากนั้นจะเป็นการแสดงเซิ้งกะลา โดยนักเรียนชั้น ม.4 ค่ะ
แต่ยังไม่หมดนะครับ เรายังมีการแสดงชุดสุดท้ายที่รับประกันความอลังการดาวล้านดวงรออยู่อีก พิธีกรชายพูดต่อทำให้มีเสียงกรี๊ดดังสนั่น แต่ตอนนี้ขอเชิญพบกับการแสดงเต้นกำรำเคียวได้เลยครับ
พวกผมยิ่งบีบมือกันอย่างตื่นเต้น เพราะจบจากเต้นกำรำเคียวก็เหลือการแสดงอีกเพียงชุดเดียวเท่านั้น
โอยย
หายใจไม่ทั่วท้องเลยจริงๆครับ
พี่ที่คุมคิวเดินมาบอกให้พวกผมไปสแตนบายที่ทางขึ้นอีกด้าน เพื่อเตรียมพร้อมขึ้นแสดงต่อจากเซิ้งกะลาซึ่งไปยืนรอแสดงอยู่คนละฝั่งเรียบร้อยแล้ว
พวกเราจับมือกันแน่นด้วยความตื่นเต้น เพราะมีนักเรียนทั้งหอประชุมกำลังรอดูพวกเราอยู่ สถานการณ์แบบนี้มันเพิ่มความกดดันให้พวกเราอย่างมากมาย พวกเราต้องทำมันออกมาให้ดี สมกับที่เค้าตั้งความหวังเอาไว้
คิดถึงพี่แองจี้นะคะ น้องเบลพูดขึ้นทำเอาพวกเรามองหน้ากัน
อยากให้พี่แองจี้มาอยู่ด้วยจังเลยค่ะ น้องนิกกี้พูดเสริมทำเอาพวกเราน้ำตาคลอเบ้าด้วยความคิดถึงเธอ
ใช่สิครับ เธอเหนื่อยกับพวกเรามาตลอด จะว่าเหนื่อยกว่าทุกๆคนก็ได้ เธอมุ่งมั่นและเอาจริงเอาจังกับงานนี้อย่างมากมาย แต่ในวันนี้กลับไม่มีเธอ วันที่ผลงานที่เธอทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ กำลังจะปรากฏแก่สายตาของทุกคน
จบไปแล้วนะคะ การแสดงเต้นกำรำเคียว การแสดงต่อไปก็ไม่ธรรมดานะคะ เป็นการแสดงพื้นบ้านของชาวอีสาน
..
เสียงพิธีกรประกาศยิ่งทำให้พวกเราตื่นเต้นขึ้นไปอีก เพราะเหลือแค่การแสดงชุดนี้เพียงชุดเดียว พวกเราก็ต้องขึ้นเวทีแสดงจริงกันแล้ว
หายใจลึกๆนะครับน้องๆ ผมร้องบอกทุกคนทั้งๆที่ตัวเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยไปกว่าพวกเธอ แต่ผมต้องเป็นหลักให้กับน้องๆแทนน้องแองจี้
เสียงกลองอันเร้าใจทำนองอีสานดังกระหึ่ม ยิ่งทำให้ใจของผมเต้นเร็วกว่ากลองที่รัวอยู่
..โอยย
ตื่นเต้นชิบหายเลย ผมเสือกรู้สึกปวดเยี่ยวขึ้นมาอย่างกะทันหัน
อูยยย
ผมคำนวณดูแล้วครับว่า ถ้าผมไม่ไปเยี่ยวตอนนี้ อาจมีเยี่ยวแตกกลางเวทีได้ ผมเลยรีบบอกคนคุมคิวแล้ววิ่งออกไปห้องน้ำ
เร็วๆนะน้อง มาให้ทันเวลานะ พี่คุมคิวตะโกนบอกไล่หลัง
ผมรีบวิ่งปรู๊ดออกไป เพราะห้องน้ำตั้งอยู่ไม่ไกลนัก มีนักเรียนหลายคนอยู่บริเวณนั้น พากันเป่าปากวี๊ดวิ่ว ผมเลยหันไปยิ้มให้ก่อนเข้าไปในห้องน้ำ
ผมรีบเบ่งเยี่ยวอย่างรวดเร็ว
โอยยย
.ค่อยยังชั่วหน่อยกู
..เฮ้อ
.
ผมเยี่ยวเสร็จก็รีบรูดซิปกางเกง แต่ด้วยความรีบ ผมเลยรูดแรงไปหน่อย ซิปเลยติดกับผ้าด้านใน ผมเลยออกแรงรูดมากขึ้น แต่สุดท้ายซิปก็แตกเข้าจนได้
ชิบหายแล้วกู!!!! ผมหน้าเสียเพราะไม่รู้จะทำยังไงได้ พยายามยัดซี่ซิปลงไปในที่รูด แต่มันก็ไม่ได้
..ตายละหว่า
ทำไงดีเนี่ย
ผมวิ่งกุมเป้าออกมาจากห้องน้ำแล้วรีบเข้าไปด้านหลังเวที ตรงไปยังพวกน้องๆแดนเซอร์ที่กำลังยืนรออยู่
ใครมีเข็มกลัดบ้างมั้ย ซิปกางเกงพี่แตก ผมบอกออกไปอย่างซีเรียส
หา ซิปแตก!!! น้องๆร้องออกมาพร้อมกัน ก่อนจะทำหน้าเครียดตามผมไปด้วย
โอ๊ย ตายแล้ว หนูลืมไปเลยค่ะ น้องเบลพูดขึ้น พี่แองจี้เคยบอกหนูว่าให้หยิบเข็มกลัดติดตัวมาด้วย เพราะอาจเกิดเรื่องฉุกละหุกแบบนี้ เธอพูดพลางเอามือกุมหัวเหมือนจะตำหนิตัวเอง
ตกลงว่าไงครับ หาเข็มกลัดได้รึยัง พี่คุมคิวร้องถามผม การแสดงใกล้จบแล้วด้วยสิ
เวรแระกู
ผมหน้าเสียเพราะไม่รู้จะทำยังไง เสียงเพลงอีสานจบลงพร้อมเสียงปรบมือดังเข้ามา
.เชี่ย
.เซิ้งกะลาจบแล้ว
งั้นเดี๋ยวพี่ไปบอกพิธีกร ให้พูดถ่วงเวลาไปก่อน พี่คุมคิวร้องบอก หาทางแก้เฉพาะหน้าไปก่อนนะ ถ้าพร้อมแล้วตะโกนบอกพี่ด้วย
พี่คุมคิววิ่งขึ้นไปบนเวที แต่ผมก็ยังว้าวุ่นใจเพราะยังหาเข็มกลัดไม่ได้
โอยย
..เอาไงดีวะ
นักแสดงเซิ้งกะลา มีเข็มกลัดบ้างมั้ยคับ ผมรีบตะโกนถามเพราะคิดว่าอาจจะมีใครมีติดมาบ้าง
อ๋อ มีค่ะ เสียงนักแสดงคนนึงตอบมาเหมือนเสียงจากสวรรค์
น้องๆแดนเซอร์กรี๊ดเบาๆด้วยความดีใจ และก็พาผมวิ่งเข้าไปหานักแสดงเซิ้งกะลาคนนั้น
อยู่ด้านหลังค่ะ แกะออกได้เลย เธอหันหลังมาให้ น้องเบลเลยจัดการแกะออกอย่างรีบร้อน
เสียงพิธีกรกำลังพูดถ่วงเวลาด้วยเรื่องอื่นดังเข้ามาให้ได้ยิน ทำเอาพวกเรายิ่งรนกันเข้าไปใหญ่
ได้แล้วค่ะ น้องเบลตะโกนบอกพร้อมนั่งลงด้านหน้าผม ก่อนจะเอาเข็มกลัดซ่อนปลายกลัดช่องซิปที่แตกให้เข้าหากันอย่างสนิท
อร๊ายยยย ได้แล้วค่ะ น้องเบลร้องลั่น พร้อมน้องๆคนอื่นๆก็พากันดีใจ
ขอบคุณนะครับ ผมรีบของคุณนักแสดงคนนั้นแล้วพากันวิ่งไปที่บันไดทางขึ้นเวทีพร้อมตะโกนบอกพี่คุมคิวว่าพร้อมแล้ว
โอเค เรียบร้อยแล้วนะ พี่คุมคิวขานรับพร้อมยกมือทำท่าโอเค แต่แทนที่แกจะขึ้นไปบอกพิธีกรว่าพร้อมแล้ว พี่แกกลับจ้องมองไปทางด้านหลังพร้อมทำตาโต ก่อนจะชี้มือไปตรงประตูทางเข้า
นั่นใช่นักแสดงเพลงน้องรึเปล่า พี่คนนั้นร้องบอกเลยทำให้พวกผมต้องหันกลับไปมองตามที่แกชี้
ผมขนลุกซู่เมื่อมองไปที่ประตู ด้วยแสงที่ย้อนเข้ามาในห้องเลยทำให้ผมเห็นเพียงรูปร่างของนักแสดงคนนึง ที่ใส่ชุดเหมือนแดนเซอร์ในเพลงของผมอย่างไม่มีผิดเพี้ยน เธอกำลังเดินอย่างรวดเร็วเข้ามาหาพวกเราด้วยความมั่นใจ ใจผมเต้นอย่างแรงเมื่อเห็นหน้าของเธอชัดเจนขึ้น เธอยิ้มออกมาด้วยใบหน้าที่มีความสุข
พี่แองจี้
.กรี๊ดดดดดดด น้องๆแดนเซอร์ทุกคนรวมทั้งผมต่างวิ่งเข้าไปหาเธอด้วยความดีใจ ขนในตัวผมทุกเส้นลุกตั้งด้วยความปลื้มปิติที่ได้เห็นน้องแองจี้ในตอนนี้
พวกเราต่างกอดเธอร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ น้องแองจี้เองก็ร้องไห้กอดพวกผมด้วยเช่นกัน
..เธอกลับมาแล้ว เธอกลับมารับเอาความภาคภูมิใจที่เธอได้ทุ่มเทให้ มีคำถามมากมายที่เราเคยอยากถามเธอ แต่เมื่อเห็นเธอมาอยู่ด้วยตรงนี้ เลยทำให้พวกเราไม่จะเป็นต้องถามอะไรอีกแล้ว
ต้องแสดงแล้วนะครับ พี่ที่คุมคิวร้องบอก โอเครึยังครับ
ขอเวลาหนึ่งนาทีค่ะ หยุดร้องไห้ก่อนเดี๋ยวหมดสวยนะน้องๆ น้องแองจี้บอกทั้งน้ำตา ก่อนจะเอาที่ทาแป้งมาซับน้ำตาของพวกเราทุกคนให้กลับมาสวยหล่อกันเหมือนเดิม
พวกเราพากันกุมมือน้องแองจี้แล้วไปยืนรอตรงบันไดทางขึ้นเวที ด้วยความตื่นเต้นที่จะได้แสดงจริงและด้วยความปลาบปลื้มใจที่น้องแองจี้กลับมาเต้นกับพวกเราอีกครั้ง
..นี่คืออีกหนึ่งความดีใจที่สุดในชีวิตชองผมก็ว่าได้ ที่ผมได้เจอน้องที่ผมรักอีกครั้ง เพราะเธอเหมือนเป็นน้องแท้ๆของผมเลยก็ว่าได้
และก็ได้เวลาของการแสดงชุดสุดท้ายของช่วงเช้าแล้วนะคะขอเชิญทุกๆท่านพบกับ น้องเอกพัฒน์ จากห้อง ม.5/1 และน้องๆแดนเซอร์สาวสวยครบทีม ในเพลง
..รักคุณยิ่งกว่าใคร เชิญรับชมได้แล้วค่า
เสียงกรี๊ดดังสนั่นลั่นไปทั้งหอประชุม มันดังมากๆครับจนขนแขนผมลุกตั้งด้วยความตื่นเต้น ผมมั่นใจเหลือเกินว่าการแสดงคราวนี้มันต้องออกมาดีอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้พวกเราพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม ก็น้องแองจี้ได้กลับเข้ามาเติมให้มันเต็มร้อยแล้วนี่ครับ จะมีอะไรสมบูรณ์ไปมากกว่านี้
เสียงอินโทรเร้าใจดังกระหึ่มไปทั้งหอประชุม น้องๆแดนเซอร์ทยอยวิ่งออกไปด้านหน้าเวทีแล้วเต้นกันอย่างเต็มที่ แม้ผมจะยืนอยู่ทางด้านหลังก็ยังมองเห็นถึงความสุขของพวกเธอที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก พวกเธอยิ้มออกมาจากใจ ส่งความสุขไปถึงคนดูทุกคน ผมภูมิใจในตัวพวกเธอจริงๆ
โดยเฉพาะน้องแองจี้ เธอร่าเริงเหลือเกินครับ เพราะนี่คือตัวตนจริงๆของเธอ ที่เธออยากให้ทุกๆคนยอมรับในตัวเธอ รวมถึงครอบครัวของเธอด้วย
รักคุณเสียยิ่งกว่าใคร มอบกล่องดวงใจเอาไว้ที่คุณ เสียงกรี๊ดดังสนั่นอีกรอบเมื่อผมเดินร้องเพลงออกไปกลางเวที เวลานั้นผมไม่มีความประหม่าหลงเหลืออยู่สักนิด ตรงข้ามผมกลับมีความสุขที่ได้ร้องเพลงออกไปให้ทุกคนได้ฟัง บวกกับความสุขที่ผมได้น้องแองจี้กลับคืนมา
.แม้ใจคุณมีประตู จะเข้าไปอยู่เฝ้าดูหัวใจ
ใส่ลูกบิดแล้วเริ่มปิดกลอนแถมไม่เปิดต้อนรับใคร
อยากจะเป็นคนเดียวอยู่ใน ห้องหัวใจของคุณ
แสงแฟล็ชจากล้องถ่ายรูปแว๊บไปแว๊บมาจนนับไม่ถูก ผมเริ่มมองเห็นป้ายชื่อของผมถูกยกขึ้นมาด้านบน
..ไอ้กันอยู่ตรงนั้น
ไอ้โป้งไอ้เก็ตอยู่ตรงนู้น
.แล้วไอ้นัยละ อยู่ตรงไหนวะ
..ปิดปากคุณได้ก็จะปิดปาก เดี๋ยวคุณรับฝากความรักจากใคร
ปิดจมูกไม่ให้ได้กลิ่น ปิดหูไม่ให้ได้ยินเสียงใคร
ถ้าปิดประตูห้องได้ดังใจ จะอยู่ข้างในสองคนกับคุณ
..ตอนนั้นเองครับ ผมก็มองเห็นป้ายไฟที่ค่อยๆถูกชูขึ้นมา หลอดไฟเล็กๆถูกจัดเรียงเป็นชื่อของผม
AKE สู้ๆ
ผมยิ้มออกมาอย่างดีใจเพราะผมรู้โดยทันทีว่านั่นต้องเป็นป้ายที่ไอ้นัยแอบทำเอาไว้เชียร์ผมแน่นอน
ก็
ผมมีแฟนเรียนช่างอิเล็คโทรนิกส์นี่นา แถมมีเพื่อนรักเรียนไฟฟ้าอีกด้วย เรื่องแค่นี้สบายอยู่แล้ว
ไอ้นัยโบกป้ายชื่อผมไปมา ผมเห็นมันยิ้มกว้างส่งกำลังใจมาให้ผมเต็มๆ และป้ายไฟอีกสามป้ายก็ถูกยกขึ้นมาในเวลาไล่เลี่ยกัน มีทั้งชื่อของผมเป็นภาษาไทยทั้งชื่อเล่นชื่อจริง ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นพี่กร ไอ้โน และไอ้ตาล
ผมยิ้มไปร้องเพลงไปอย่างมีความสุข และเมื่อได้รู้ว่าไอ้นัยยืนอยู่ตรงไหน ผมก็มองไปที่มัน และตั้งใจร้องเพลงเพื่อจะบอกมันว่า
..ผมรักมัน
..ยิ่งกว่าใคร".......รักคุณเสียยิ่งกว่าใคร รักคุณเสียยิ่งกว่าใคร
รักคุณ.....เสียยิ่ง......กว่าใคร.........."