We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"ช่วงชีวิตสั้นๆกับนายแบบ เนทไอดอล A"
Posted by ช่วงชีวิตสั้นๆกับนายแบบ เนทไอดอล A on 09-Jun-15 at 10:47 PM
ก่อนอื่นขอออกตัวว่าผมไม่ใช่ขาประจำของบอร์ดนี้ แค่อยากแบ่งปันเรื่องราวของตัวเองกับ(อดีต)นายแบบคนนึง
ด้วยเหตุผลบางประการ ทำให้ผมได้รู้จักกับนายแบบคนนี้ (ขอเรียกว่า A) อย่างไม่ได้คาดคิด

#แจ้งก่อนว่าผมไม่ได้ใส่รายละเอียดในเรื่องมาก เพราะฉะนั้นไม่มีการพูดถึงเลิฟซีน

ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ผมเห็น A ครั้งแรกใน hi5 ยังจำความรู้สึกครั้งนั้นได้ เขาดูหล่อเหมือนเทพบุตร ขาว สูง หน้าเป๊ะ เหมือนลูกครึ่ง
มีแฟนคลับเข้าไปทักทายอย่างล้นหลาม ตอนนั้นผมได้แต่ติดตาม คอยสอดส่องดูภาพของเขา และก็แอบปลาบปลื้มอยู่ในใจ
ไม่รู้เพราะตอนนั้นตัวเองยังเด็กหรือผ่านโลกมาน้อย รู้สึกว่าเขาดูสูงส่ง ดูห่างไกลจากเรามาก ไม่มีทางที่จะเอื้อมไปถึง

2-3 ปีผ่านมา hi5 เริ่มหมดอำนาจ fb ก็ยังไม่เป็นที่นิยม ผมจึงไม่ได้รู้ข่าวคราวของเขาเลย
แต่มีวันนึงที่ผมไปดูหนังที่พารากอนรอบดึกกับเพื่อน ได้มีโอกาสเห็นเขาตัวจริง เขายังคงดูหล่อ และดูมีราคา ส่วนเราก็ได้แต่มองอยู่ห่างๆ

หลังจากนั้น 3-4 ปีผ่านมา เข้าสู่ยุค fb เขายังคงดูป๊อปฯ มีคนติดตามคอยกดไลค์มากมาย มีหลายเว็ปเพจที่เอารูปของ A ไปลง
เหมือนจะผ่านมาหลายปี ปีนั้นเป็นปีแรกที่หนังสือเกย์หัวนอกถูกตีจำหน่าย นายแบบหน้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย
นายแบบเก่าๆบางคน ถูกเอามาชุบตัวจนมีชื่อเสียง net idol หลายคนถูกจับมาถ่ายแบบ ดูเหมือนมีคนให้คอยติดตามเยอะแยะไปหมด
ผมก็ไม่ได้มีเวลามากมาย ข่าวคราวที่พอจะทราบ คือ A กำลังคั่วกับนายแบบนอกหน้าศัลยกรรม มีรูปคู่ปล่อยออกมาเป็นระยะๆ
จนวันนึง ด้วยเหตุผลบางอย่าง มีเหตุจำเป็นให้ต้องติดต่อ A ไป ยังจำความรู้สึกตื่นเต้นครั้งนั้นได้
และก็เป็นไปอย่างที่คิดไว้เป๊ะๆ A ดิวงานด้วยยากมาก ดูมั่นใจในตัวเองและไม่มีความเป็นมืออาชีพ
ทัศนคติของผมที่มีต่อ A เปลี่ยนไปในพริบตา รู้สึกว่าเขาหยิ่ง ความประทับใจที่มีต่อเค้าก็ดร๊อปลง

3 ปีผ่านมา ผมเพิ่งกลับจากเรียนต่อเมืองนอกหมาดๆ ไม่รู้ว่าดวงหรืออะไร ทำให้ผมได้มาเจอกับ A การพบกันครั้งนี้ผมรู้สึกได้ว่าตัวเองมีตัวตน
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาจเพราะตัวเองโตขึ้น เป็นคนที่มีความมั่นใจ ไม่ได้รู้สึกว่าเขาไกลเกินเอื้อมเหมือนที่เคยคิดไว้แต่ก่อน
A ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เขาดูซอฟท์ลง แต่สภาพภายนอกดูพังพอตัว และดูเหมือนจะไม่มีการงานเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ยังคงมีแฟนคลับตาม follow มากมายใน ig (จนถึงทุกวันนี้)
ก็ไม่รู้ว่าเรามีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น หรือเค้าที่คุณภาพชีวิตต่ำลง ทำให้เราสองคนเริ่มได้ทำความรู้จัก แลกเปลี่ยนมุมมองหลายๆอย่าง
สุดท้ายผมก็ไปๆมาๆบ้านของ A ชีวิตจริงๆของ A ไม่ได้สวยอย่างที่เคยคิดไว้ มันเหมือนภาพลักษณ์งามๆพวกนั้น เป็นสิ่งที่พวกเราเข้าใจไปเองมากกว่า
และอาจจะเพราะภาพลักษณ์ของเค้าเมื่อก่อน ยังคงบังตาผม อะไรก็ดูจะไม่เป็นปัญหา แม้กระทั่งการติดยางอมแงมของเขา

ความสัมพันธ์เริ่มดูยากสำหรับผม ผมต้องใช้ความพยายามในการทำความเข้าใจอย่างมากกับเขา อาจจะมากกว่าใครๆที่ผมเคยคบมาด้วยซ้ำ
เพื่อนสนิทใกล้ๆตัวมองว่า ผมกำลังดึงตัวเองให้ต่ำลง บางคนพยายามอธิบายหลักการอย่างมีเหตุผล บางคนตบท้ายแค่ว่า “แล้ววันนึงเธอจะเสียใจ”
แต่ผมเองก็ไม่ได้ละความพยายาม ทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น แต่ก็ไม่รู้เพราะฤทธิ์ยาหรือเปล่า เพียงไม่นาน ดูเหมือนว่าเขาพยายามจะผลักใสผมออกไป
ณ ตอนนั้นผมไม่มีความสุขเลย จิตตกบ่อยๆ บางครั้งนั่งร้องไห้ โชคดีจริงๆที่ช่วงนั้นมีเพื่อนสนิทคอยเป็นกำลังใจ

เขาดูอารมณ์แปรปรวน แต่ก็ไม่ได้เกรี้ยวกราดหรือลงไม้ลงมือเหมือนที่คนใกล้ตัวเตือนผมว่าเขามักจะทำแบบนี้กับแฟนเก่า
แต่วิธีเหวี่ยงที่เขาปฏิบัติกับผม คือ ทำเหมือนเราไม่มีตัวตน ไม่ตอบ ไม่รับสาย อะไรเหล่านี้ทำให้ผมเหนื่อยและเริ่มหมดพลัง
เรื่องมันยิ่งยากขึ้น เมื่อเพื่อนสนิทของเค้าเข้ามา ผิวเผินดูเป็นคนดี อัธยาศัยดี และเป็นห่วงเขาด้วยความจริงใจ
ผมได้ปรึกษาคนๆนี้ในบางเรื่อง และคิดว่าคงมีประโยชน์ในการปรับตัวให้เข้ากับ A จนวันนึงผมเริ่มมีปากเสียงกับ A เพราะเค้าเอาสิ่งที่ผมเคยพูดกับเขา ไปพูดกับ A อีกที

ผ่านมาสักพัก ผมเริ่มสนิทกับคุณป้าที่ A เชื่อฟังมาก (เป็นญาติคนเดียวที่ผมเห็นตั้งแต่ย้ายเข้ามา) ผมรู้สึกอุ่นใจที่สามารถเข้ากับคุณป้าของ Aได้ดี
คุณป้าเล่าหลายอย่างเกี่ยวกับ A ให้ผมฟัง ทั้งต้นกำเนิด การศึกษา ชีวิตในวงการนายแบบ ชีวิตรัก เรื่องราวหลายๆอย่างในหลายๆปีที่เกิดขึ้นกับ A มันไม่สวยงามเอาซะเลย
ผมก็โอเคนะ พื้นฐานไม่ใช่คนเลือกคบใครเพราะฐานะอยู่แล้ว แต่มีเรื่องนึงที่ทำผมอึดอัดมาก เมื่อญาติของ A ได้กระซิบว่า เพื่อนของ A คนนั้นที่ผมเอ่ยถึง เชาชอบ A มานาน
ซึ่ง A รู้ดี แต่ A ไม่มีใจตอบ อย่างไรก็ตาม มันก็ยังแอบทรมานอยู่ดี ที่คนนั้นอยู่ใกล้กับพวกเราขนาดนี้ ผมต้องใช้ความอดทนอย่างมากกดความระแวงในตัวเองลง

โดยปกติ A จะให้ผมอยู่ในห้องของเขา และไปเล่นยากับเพื่อนอีกห้องนึงและทุกๆครั้งจะมีเพื่อนคนนั้น คนที่ชอบ A มานาน อยู่เล่นยาด้วย
ผมเคยประชดบอกให้ A สอนเล่นยา แต่ดูเหมือน A ยังคงมีสติกับเรื่องนี้ นอกจากไม่สอนแล้ว ยังต่อว่าผมที่คิดจะมาลิลองเรื่องพวกนี้
ในใจผมเป็นห่วง A มาก พยายามขอให้เค้าเลิกหลายครั้ง ก็ได้แต่การตอบกลับมาให้ผมหยุดพูดเรื่องพวกนี้ ผมกลัว ผมไม่อยากเห็นเขาเสพย์ยาเกินขนาดจนเป็นอะไรไป
แต่สิ่งที่ผมกลัวมากกว่า คือ ตื่นขึ้นมาแล้วเจอ A เมายา หลับนอนกับเพื่อนตัวเอง ผมก็ไม่รู้ ว่ายาพวกนี้ทำให้คนมีอารมณ์ทางเพศรึเปล่า ไม่เคยลอง

ช่วงนั้นผมมีโอกาสได้คุยกับแฟนเก่า(แฟนคนแรก)อีกครั้ง เขาอยู่อเมริกา เราไม่ได้เจอกันเกือบ 10 ปีนับตั้งแต่จบมัธยม เขาชวนผมไปพักกับเขา ในกรณีที่ผมลาพักได้
และจุดเปลี่ยนก็มาถึง มีคืนนึง เป็นเวลาตี3เศษๆ ผมตื่นขึ้นมาจากห้องของเขาและเดินไปห้องที่เขาเล่นยากับเพื่อน เพื่อจะดูว่านอนหรือยัง
แต่สิ่งที่ผมเห็น ภาพมันคล้ายกับสิ่งที่ผมกลัว ในห้องนั้นมี A กับเพื่อนอีก 2 คน (รวมถึงคนที่แอบชอบ A) นอนเปลือยเปล่า แขนขาไขว่กันไปไขว่กันมา
ผมเองไม่แน่ใจว่าอะไรเกิดขึ้น แต่ตอนนั้นมันเหมือนว่า อยู่ในสภาวะที่ทำความเข้าใจไม่ได้ รู้สึกขยะแขยง รังเกียจ ผมตัดสินใจเก็บของ ขับรถกลับบ้านทันที (ลืมรองเท้าทำงานเลย)
รุ่งเช้า A ไม่ได้โทรมาหา ผมไม่แน่ใจว่าเขารู้หรือเปล่าว่าผมเปิดระตูเข้าไป ณ ตอนนั้นผมตัดสินใจว่าจะลาพักไปอเมริกา
จนกระทั่งสุดท้าย A ก็ไม่ได้โทรหาผมเลย กลับกลายเป็นคุณป้าของ A ที่โทรมา ผมจึงเล่าให้ฟังว่าผมเห็นอะไรในคืนนั้น

ดูเหมือนญาติของ A จะเข้าใจสถานการณ์มากกว่าใคร ไม่ได้แก้ตัวแทน A หรือรั้งผมไว้ แค่บอกว่าไปพักเถอะ แล้วช่วงที่อยู่อเมริกา ลืม A ได้ก็ไม่ต้องหันกลับมา
และแล้ววันรุ่งขึ้นผมก็ได้รับโทรศัพท์จาก A ผมรับด้วยความประหลาดใจ สิ่งที่เขาพูดกลับเป็นคำต่อว่าที่เราเอาเรื่องที่เกิดขึ้นไปเล่าให้คุณป้าเขาฟัง เขาไม่ได้พูดคำหยาบ
แต่คำพูดของเขามันทำให้ผมจุก จุกจนพูดอะไรไม่ออก เหมือนว่าทุกอย่างเป็นความผิดของผม เลยไม่ได้เถียงอะไรกลับไปสักคำ ได้แต่เงียบ
สุดท้ายวันที่ผมต้องขึ้นเครื่องไปอเมริกาก็มาถึง มีข้อความเข้าในไลน์มาจาก A ว่า “เดินทางปลอดภัย”
ผมพิมพ์ตอบกลับไปแค่ว่า “เรื่องของเรามันยากอยุ่แล้ว แต่พี่ทำให้มันยากกว่าเดิม” A ส่งข้อความกลับมาว่า “เที่ยวให้สนุก”

ในที่สุด ช่วงเวลาที่ผมพักอยู่อเมริกา ผมกลับลืมเค้าอยากสนิทใจ และไม่น่าเชื่อว่าตัวเองจะทิ้งคนๆนึงไว้ข้างหลังได้เร็วขนาดนี้
จบเรื่องราวทั้งหมดด้วยการ...ปิดการติดต่อทุกช่องทางและไม่หันกลับไป ขอบคุณที่ผ่านเข้ามาเป็นประสบการณ์

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.