ยามค่ำคืน ณ สีลมซอยสอง ถนนย่านโลกีย์ที่ขึ้นชื่อของเหล่าชาวสีม่วงหญิงสาวประเภทสองร่างท้วมแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดนั่งอยู่ตรงบริเวณหน้า
ผับที่เปิดไฟสว่างไสว
หล่อนชูคอสอดส่ายสายตาชะเง้อชะแงหาใครบางคนอยู่ด้วยความกระวนกระวาย
โว๊ย ! เจ้าเด็กพวกนี้นี่ นัดแล้วก็ไม่เป็นนัด ประเดี๋ยวมีหวังกูได้โดนอาเสี่ยแม่งบ่นกูจนหูชาอีกแน่ๆ
นี่กูดูเวลาเป็นครั้งที่ร้อยแล้วนะ อ้อ มาโน่นแล้ว
ชะแว๊บ.....ใบหน้าที่บูดบึ้งเมื่อกี้แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้างทันทีเมื่อคนที่เฝ้ารอมายืนไหว้อยู่ตรงหน้า ช่างตอแหลได้สมกับเป็นเพศที่สามจริงๆ
หวัดดีครับ พี่โบว์
อุ้ย ไหว้พระเถอะจ๊ะ เดินทางมาตั้งไกล เหนื่อยมั้ยจ๊ะ มะ...มานั่งก่อน ดื่มอะไรก่อนมั้ย
เด็กหนุ่มสองคนที่ดูแล้วยังอยู่ในวัยที่เรียกว่าผู้เยาว์ตามกฏหมาย.....ตอบปฏิเสธด้วยเสียงสุภาพพร้อมกัน
ไม่เป็นไรครับ พี่โบว์ ถ้ายังไง.......
อืมม์ แบบนี้ก็ดีนะ จะได้ไม่เสียเวลา นี่ก็สายแล้ว เข้าเรื่องเลยดีกว่า........
จ้า งั้นก้อตามที่พี่บอกนะจ๊ะ เสี่ยพจน์เค้าเอาน้องขึ้นคู่พร้อมกัน โอเคใช่มั้ยจ๊ะ
ลองตอบปฏิเสธสิพวกมึง กูจะถลกหนังหัวให้..........
หนุ่มน้อยทั้งคู่พยักหน้าแทนคำตอบ
ดีจ๊ะ งั้นก็ตามพี่มา....
ยัยโบว์ลุกขึ้นแล้วเดินนำเด็กทั้งคู่ลัดเลาะมาตามซอกซอยบนถนนสีลมแล้วร่าง ทั้งสามก็หายลับเข้าไปในบูติกโฮเต็ลสามชั้นเก๋ไก๋แห่งหนึ่ง
หน้าห้อง 309
เอ้านี่ ส่วนแบ่งคนละห้าพันตามที่ตกลงกันไว้ เธอได้เพิ่มแน่ๆ จ๊ะ ถ้าทำให้เสี่ยเค้าพอใจ อ้อ นี่พี่แถมคนละห้าร้อยสำหรับค่ารถมาจากต่างจังหวัด
ขอบคุณมากครับ พี่โบว์
ทั้งคู่ยกมือไหว้ขอบคุณอย่างนอบน้อมแล้วรับเงินมายัดใส่กระเป๋าสะพาย
เสียงเคาะห้องสองสามครั้ง.....ชายสูงวัยร่างอ้วนใหญ่ก็โผล่ออกมาต้อนรับ
สวัสดีค่ะเสี่ย โบว์เอาเด็กมาส่งเจ้าค่ะ ต้องกราบขอประทานโทษนะเจ้าค่ะที่ทำให้รอนาน
เอ้า ม่ายเป็งร่ายๆ มารอลื้อนิดๆหน่อยๆ เอง
ดวงตารีที่ยิ้มทีจะเห็นแต่รอยย่นที่ขอบตามองหนุ่มน้อยทั้งคู่ที่ยืนอยู่ข้างหลังยัยโบว์อย่างพึงพอใจ
แล้วน้องๆ นี่ชื่อว่าร่ายนะ
อ้อ คนขาวๆ หน้าตาลูกครึ่งนี่ชื่อน้องอั๊ตค่ะ ส่วนคนผิวคล้ำนี่ชื่อน้องทีมค่ะ ทั้งคู่เนี่ยเป็นนักบาสของโรงเรียน......เชียวนะค่ะ