จอมกระบี่เหินบุรุษ ตอน จักจั่นบนหอน้อย 6 หนิงเหมิงและหนานเฟยสิงเร่งรุดขึ้นไปบนชั้นสองของหอหมื่นอาชาพันลี้ที่ตอนนี้ดูชุลมุนวุ่นวายไปด้วยเสียงอึกทึกคล้ายคนต่อสู้กันดังก้องมาจากห้องของหงฉานอย่างไม่หยุดหย่อน
เสียงของหงฉานดังเคล้าเสียงร้องไห้ดังก้องผ่านประตูที่บุกระดาษสาสีชมพูหน้าห้องมัน ท่านจี้หงฉานมิอาจทำผิดกฎ นี่ย่อมไม่ใช่เรื่องราวที่หงฉานรับผิดชอบได้ โปรดท่านจี้ละเว้นด้วย อภัยด้วย อภัยด้วย...
กฎบ้าบออันใดตอนนี้ข้าล้วนไม่สนใจ วันนี้เจ้าต้องเป็นของข้า นี่ข้าเสียเงินมาฟังดนตรีบ้าบอของเจ้ามาหลายคราแล้ว วันนี้ข้าต้องได้ตัวเจ้าเด็กร้ายกาจ
เสียงห้าวหยาบของชายอีกคนในห้องตะโกนดังก้องออกมา มันคือจี้ปู้ต่งเจ้าของสำนักคุ้มภัยที่เป็นคู่แข่งกันกับบ้านสกุลหม่าที่เพิ่งเกิดเหตุฆาตกรรมไป คนทั่วไปรู้จักมันดีในนิสัยหยาบคายของมันแต่ก็ไม่กล้าทำอะไรด้วยวิชาฝีมือของมันอยู่ในขั้นไม่ธรรมดา แถมด้วยอิทธิพลที่มีจากการเปิดสำนักคุ้มภัยมานานปี
หนานเฟยสิงสะกิดเท้าเหินลอยข้ามหัวของหนิงเหมิงที่ตัวใหญ่เทอะทะขึ้นสู่ทางเดินชั้นสอง มันต้องยอมรับว่าร้อนใจมากเมื่อได้ยินเสียงของหงฉานตะโกนร้องขอความช่วยเหลือมาจากชั้นบน มันเร่งผลักประตูที่บุกระดาษสาสีชมพูของห้องต้นเสียงเข้าไปภาพที่เห็นเป็นภาพสุดทานทนภาพหนึ่ง
หยุดเดี๋ยวนี้ จี้ปู้ต่ง ท่านเป็นชนชั้นใดจึงลดตัวกระทำหยาบช้าเยี่ยงนี้!!!
หนานเฟยสิงตวาดเสียงดังเมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาและเห็นภาพของจี้ปู้ต่งอยู่ในสภาพเกือบเปลือยสวมใส่เพียงผ้าเตี่ยวชิ้นเดียวห่อหุ้มองคาพยพอันตั้งชันของมัน มันใช้ร่างอันใหญ่โตของมันทาบทับอยู่กับหลังขาวเนียนของหงฉานที่เหลือเพียงเศษกางเกงแพรสีแดงที่หลุดลุ่ยจากแรงฉีกทึ้ง มือหยาบหนาของมันทั้งคู่จับแขนของเด็กน้อยจักจั่นแดงขึงขึ้นกับเตียงไว้
หงฉานหน้าตาเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาพยายามดิ้นอย่างสุดแรงเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการ แต่จี้ปู้ต่งกลับจับมันถ่างขาคุกเข่าคุดคู้ โดยใช้ร่างของมันกดทับให้ลำตัวช่วงบนของเด็กหนุ่มแนบอยู่กับขอบของเตียงนอน
หงฉานเมื่อเห็นผู้เปิดประตูเข้ามาเป็นหนานเฟยสิงรีบร่ำร้องขอความช่วยเหลือ ช่วยข้าน้อยด้วยไต้เท้า ข้าน้อยจะขัดขืนมันไม่ไหวแล้ว
หนานเฟยสิงเห็นดังนั้นบันดาลให้โทสะพวยพุ่งมันกู้ร้องดังยาวนานพร้อมใช้ฝักกระบี่พุ่งตรงหมายกระทุ้งเข้าที่ชายโครงของจี้ปู้ต่งเพื่อเป็นการสั่งสอน
จี้ปู้ต่งเมื่อสังเกตเห็นหนานเฟยสิงเข้ามาในห้อง มันหามีท่าทีเกรงกลัวไม่ ยิ่งมันเห็นหนานเฟยสิงบันดาลโทสะยิ่งทำให้มันรู้สึกสะใจเหมือนได้ครอบครองของรักของศัตรู
หมูจะหามดันเอาคานเข้ามาสอด จี้ปู้ต่งกล่าวพร้อมกับพลิ้วกายกลิ้งหลบออกทางด้านข้าง มันใช้ขาอันแข็งแกร่งของมันดีดร่างขึ้นยืนพร้อมกับใช้แขนล่ำหนาทั้งคู่กอดรัดหงฉานไว้ หงฉานบิดตัวงองุ้มร้องไห้ไม่หยุดหย่อนปากร่ำร้องเพียงคำช่วยด้วยเหมือนแทบจะสิ้นสติไป
เมื่อมันยืนมั่นอยู่ตรงหน้าระเบียงห้องของเด็กหนุ่มผู้ตกเป็นเหยื่อสวาทของมันแล้ว มันจึงตัวของหงฉานมาแนบชิดไว้กับแผงอกที่หนาไปด้วยขนของมันจากนั้นแสยะยิ้มอย่างร้ายกาจผ่านทางซอกคอของหงฉาน
เป็นท่านชมชอบเด็กนี่ด้วยใช่หรือไม่ หนานไต้เฮียบ จี้ปู้ต่งกล่าวพร้อมแลบลิ้นเลียที่ซอกคอของหงฉานคราหนึ่ง ดวงตาของมันเต็มไปด้วยแววเยาะเย้ยเหมือนผู้มีชัย
ร่องตรงบั้นท้ายของเด็กนี่อุ่นนัก นี่ขนาดยังไม่ได้ล่วงล้ำเข้าไปข้างใน มันกล่าวพลางใช้องคาพยพอันชูชันของมันถูไถบั้นท้ายของหงฉานต่อหน้าหนานเฟยสิง
หนานเฟยสิงร้องเพ้ยคำหนึ่งในมือกำกระบี่แน่นหนา เหงื่อเม็ดโป้งผุดพรายบนใบหน้า บ้านมีกฎบ้านเมืองมีกฎเมือง ท่านจงรีบปล่อยตัวเด็กหนุ่มนั่นไม่เช่นนั้นข้าจักเอาเรื่องท่านให้ถึงที่สุด
จี้ปู้ต่งรับฟังหัวร่อยาวนาน ข้าก็มีกฎของข้า ท่านจะเอาผิดข้าในเรื่องอันใดท่านมือปราบใหญ่ ข้อหาขืนใจเด็กหนุ่มที่ขายตัวให้ข้าในหอคณิกาแห่งนี้น่ะหรือ นี่นับเป็นเรื่องตลกขับขันของผู้คนแล้ว
หนานเฟยสิงรับฟังกลับกลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี่นับว่าเป็นจริงดั่งคำจี้ปู้ต่ง หากหนานเฟยสิงเร่งรัดเอาความมันด้วยกฎบ้านเมืองชาวบ้านรับฟังคงต้องหัวร่อตัวมันเองเป็นการใหญ่ นี่นับว่าเจ้าบ้านจี้ผู้มีร่างใหญ่โตดุจหมีใหญ่คนนี้สติปัญญาไม่ได้ด้อยกว่าวรยุทธ์ที่ล่ำลือเลย
จี้ปู้ต่งเมื่อเห็นหนานเฟยสิงนิ่งอึ้งไปจากคำกล่าวยอกย้อนของตนมันถอนในหายฟอดใหญ่พลางกล่าว นี่นับว่าเสียเวลาความสุขของข้ากับเด็กน้อยนี่แล้ว แม่เล้าเงินทั้งหมดบนโต๊ะนี่ล้วนให้ท่าน
จี้ปู้ต่งพยักเพยิดพูดกับหนิงเหมิงที่เพิ่งตามขึ้นมาถึงและทำทีตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า พูดจบมันใช้มือข้างหนึ่งชักผ้าม่านแพรสีชมพูตรงระเบียงของห้องพันห่อช่วงล่างของตนกับหงฉานที่ตอนนี้สลบไปด้วยความเหนื่อยอ่อน จากนั้นค่อยพุ่งตัวออกจากระเบียงชั้นสองของหอหมื่นอาชาพันลี้ มันสะกิดเท้ากับระเบียงคาหนึ่งพาให้ร่างของมันกับเด็กหนุ่มลอยคว้างกลางอากาศ ก่อนจะตกลงบนหลังคาของอาคารหลังหนึ่งที่อยู่ติดกัน
ด้วยวิชาตัวเบาอันสูงส่งของจี้ปู้ต่งทำให้มันลงมาหยุดยืนบนหลังคาของโรงเตี๊ยมอีกแห่งที่อยู่ติดกัน มันพลิกร่างที่สลบไสลของหงฉานมาเป็นพาดไว้บนบ่าอันแข็งแกร่งของตนเองจากนั้นออกวิ่งพลางกระโดดพลางกลับสู่สำนักคุ้มภัยจี้ซึ่งเป็นรังของตนทันที
ช่วยหงฉานด้วยเถิดไต้เท้า สงสารเด็กหนุ่มนั่นไม่รู้จะโดนปู้ยี่ปู้ยำอันใดบ้างจากเจ้าหมีใหญ่กักขฬะนั่น หนิงเหมิงปั้นหน้าร้อนรนขึ้นทันทีที่จี้ปู้ต่งหลุดพ้นลับสายตาไปได้สักพัก
ล้วนเป็นหน้าที่ข้า หนิงเหมิงไม่ต้องเป็นห่วงหากกฎบ้านเมืองใช้ไม่ได้ ข้าก็จะใช้กฎของยุทธภพเฉกเช่นเดียวกับมัน ตาต่อตาฟันต่อฟัน!!! หนานเฟยสิงกล่าวพลางกัดฟันกรอดกำกระบี่ในมือแน่นกระชับจากนั้นมันพลิ้วกายทีหนึ่งสะกิดขากับระเบียงของห้องแล้วพุ่งตัวลงติดตามจี้ปู้ต่งและหงฉานไป
หนิงเหมิงทำยืดคอดูร่างของหนานเฟยสิงลอยห่างออกไปยิ้มลี้ลับวูบหนึ่งที่มุมปาก ก่อนจะเดินชดช้อยด้วยท่าทีไม่ร้อนรนกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับรื้อถุงเงินจากเสื้อผ้าของจี้ปู้ต่งที่วางอยู่บนโต๊ะ
น้ำใจจากแขก ไม่รับก็หาได้ไม่ กล่าวจบนางกวาดตามองพวกที่มามุงดูซึ่งส่วนใหญ่เป็นพนักงานของร้านและแขกบางส่วน
ไม่มีอะไรแล้วค่ะนายท่านทั้งหลาย เชิญกลับไปหาความสุขได้ตามสบาย ส่วนพวกเจ้ามามัวมุงดูอันใดกัน นี่หาได้มีเรื่องราวอันใดไม่เพียงแค่ชายหนุ่มหยอกล้อเล่นกัน ไปๆ รีบกลับไปทำงานกัน นางกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มที่เต็มไปด้วยเครื่องประทินโฉมเหมือนเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่ได้เคยเกิดขึ้น
ป่ายฉานและลวี่ฉานเดินติดตามขึ้นมาอยู่นานแล้วพบเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ลวี่ฉานยิ้มอย่างสะใจที่มุมปากพลางหันไปมองหน้าของป่ายฉาน
ผู้ที่ไม่คิดอยากได้กลับได้ถึงสอง ผู้ที่คิดอยากได้กลับไม่ได้สักแม้หนึ่ง เฮอะ นี่นับว่าสวรรค์มีตาแล้ว
ป่ายฉานรับฟังปั้นหน้าบึ้งตึงใส่ลวี่ฉานเหมือนไม่พอใจอย่างมาก หากข้าอยากได้จริงเพียงปรายตามอง แม้แต่องค์ชายหรือฮ่องเต้ก็ล้วนได้ กล่าวเสร็จป่ายฉานค่อยถอนตัวออกจะเดินหนีไปให้ไกล
ลวี่ฉานเบ้ปากจ้องตาป่ายฉานเขม็งพลันใช้แขนอันยาวของตนเองกักป่ายฉานไว้ตรงกำแพงด้านหนึ่งของชั้นสองนั่น พร้อมกับก้มหน้าลงจนใกล้ใบหูของป่ายฉานจากนั้นกระซิบกล่าว อย่าคิดว่าข้าไม่รู้เรื่องราวอันใด จบภารกิจของเจ้าสำนักเมื่อใดข้าจะไล่คิดบัญชีจากผู้ที่เสพสุขกับเจ้าทีละคนๆ จำไว้ผู้ใดเสพสุขจากกายเจ้า ข้าจะเสพสุขจากกายมัน แถมด้วยฆ่ามันทิ้งให้ตกตายไปด้วย ทางที่ดีเจ้าอย่าทำตนเป็นพวกไม่รู้จักพอไม่อย่างนั้นบาปเจ้าคงเพิ่มพูน
ป่ายฉานวูบหนึ่งเหมือนรู้สึกกลัวอารมณ์อันร้ายกาจของลวี่ฉาน มันได้แต่พยักหน้าตอบโต้อย่างเหนื่อยหน่ายค่อยสะบัดกายลอดจากวงแขนที่กักร่างของมันหลุดออกไป....
---------------------------------------
ฝากอ่านและช่วยวิจารณ์ติชม เป็นกำลังใจด้วยขอรับนายท่าน ขอบพระคุณมากครับ