แต่ล่าสุดแว่วว่าหนุ่มนนกุลมีความฝันที่ไปไกลจากเอเชีย
คือการก้าวเข้าสู่เส้นทางการแสดงในระดับฮอลลีวู้ด
งานนี้พอเจอนักแสดงหนุ่มจึงถามถึงเรื่องนี้

เรียนจบแล้วแพลนต่อไปจะทำอะไร

"แพลนต่อไปก็คงทำงานที่ติดต่อมาให้เต็มที่ก่อนเรื่องเรียนต่อเดี๋ยวคงค่อยว่ากันอีกที
ในส่วนของโปรเจ็คที่จีนก็ยังอยู่ในขั้นตอนเดิมยังรอเรื่องของการโปรโมท
คิดว่าน่าจะเป็นช่วงพฤศจิกายนที่จะถึงนี้แล้วก็มีงานที่ไทย
และก็มีซีรีย์จีนอีกเรื่องหนึ่งซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการคุยกันอยู่"

อย่างนี้นนก็ต้องไปเดินสายโปรโมทร่วมกับนักแสดงต่างชาติคนอื่นๆ ด้วย

"ใช่ครับ แต่ถามว่าเมื่อไหร่ถ้าตามแผนที่วางไว้ก็น่าจะประมาณพฤศจิกายน
เพราะเนื่องจากมันลงสื่อออนไลน์มันเลยสามารถที่จะปรับเปลี่ยนได้
ก็คงต้องมาดูกันอีกทีว่าเมื่อไหร่"

ถือว่าเรามีงานที่จีนต่อเนื่องไหม

"ก็ต่อเนื่องอยู่ประมาณหนึ่งแต่ด้วยความที่เราใหม่
เราเลยต้องค่อนข้างหาข้อมูลเยอะคุยเรื่องข้อตกลงอะไรต่างๆเยอะ"

แล้วแผนที่เคยวางไว้ว่าจะไปโกอินเตอร์ระดับฮอลลีวูดยังเป็นอย่างนั้นไหม

"การก้าวเข้าไปในวงการจีนถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่เราได้ไปทำตามความฝันของเรา
ก็ต้องรอดูกันว่าสิ่งที่เราไปทำที่ประเทศจีนจะเป็นการต่อยอดให้เราไปถึงที่เราหวังไว้ไหม"

มองตลาดอื่นนอกจากตลาดที่ประเทศจีนไว้ไหม

"ผมว่าตอนนี้ไปทีละตลาดก่อนแล้วกัน (หัวเราะ)
เพราะเรารู้สึกว่าถ้าเกิดเราทำตรงนี้ให้ดีก่อนตลาดอื่นๆ
เราอาจจะได้รับโอกาสเข้ามา พอถึงตอนนั้นเราค่อยรับโอกาส
แต่ถ้ามาตอนนี้เราทำพร้อมๆ กันหมดเราก็กลัวว่าเราจะทำได้ไม่เต็มที่
คือใจเรามีความคิดว่าอยากไปให้ถึงฮอลลีวู้ด"

การก้าวจะไปฮอลลีวู้ดตอนนี้ถึงขั้นไหนแล้ว

"ถ้าเต็มร้อยผมให้ 5 คือ 5 ก็ยังมีเปอร์เซ็นต์
เพราะเรารู้สึกว่าการที่เราได้มาทำงานนอกจากประเทศไทย
มันถือเป็นก้าวครั้งสำคัญมาก เพราะอีก 95 เปอร์เซ็นต์มันเป็นเรื่องของภาษา
เพราะภาษาถ้าเรามีสำเนียงที่ไม่ดี เราก็ไม่มีทางได้บทที่ดีๆ ได้เลย
เรื่องของสำเนียงภาษาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน"

ตอนนี้เรื่องของภาษาเรียนไปถึงไหนแล้ว

"ถ้าภาษาอังกฤษผมค่อนข้างโอเคในระดับหนึ่ง
แต่ภาษาจีนผมเองค่อนข้างใหม่มากๆ ถ้าจะไปโกอินเตอร์ในระดับฮอลลีวู้ด
ภาษาอังกฤษจะต้องดีกว่านี้มากๆ สำเนียงจะต้องเท่ากับเจ้าของภาษา100 เปอร์เซ็นต์
เพราะมันไม่ใช่แค่อเมริกันยังมีอังกฤษและออสซี่ ซึ่งสำหรับผมตอนนี้
แค่อเมริกันก็ลำบากพอสมควรแล้วก็คงต้องเอาให้เป๊ะก่อน
ขอถ้าให้พูดตามทฤษฎีแล้วเราต้องใช้ภาษาให้เป๊ะในทุกภาษา
แต่ของแบบนี้เราต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป"

นอกจากเรื่องของภาษายังมีความกังวลเรื่องอะไรอีกไหม

"เรื่องของการบริหารจัดการ เพราะเวลามีคิวงานเข้ามาเราก็รับ
และเรายังต้องหาเวลาไปเรียนภาษา ด้วยทำให้การแบ่งเวลาของเรา
มันเป็นเรื่องลำบาก ตอนแรกเรายังมีงานที่ยังไม่เยอะมาก
มีคิวงานที่ค่อนข้างเสถียรว่าวันนี้เราตื่น 6 โมงไปฟิตเนสและไปเรียนภาษาต่อ
แต่พอมีงานเยอะขึ้นและยิ่งงานประเภทนักแสดงเวลามันไม่ได้สม่ำเสมอ"

อย่างนี้ความฝันที่เราตั้งเป้าว่าเราจะไปฮอลลีวู้ดมันก็ต้องช้าลงใช่ไหม

"ก็อาจจะช้าลงหน่อย แต่ก็คิดว่าอยากทำให้ได้ก่อนอายุ 30 ปี
ตอนนี้ผมอายุ 22 ปีก็เหลือประมาณอีก 8 ปี ซึ่งอายุ 22 ปี
สำหรับวงการฮอลลีวู้ดถือว่าน้อยแต่สำหรับวงการจีนผมว่าก็ไม่ต่างจากวงการไทย"

แล้วถ้าเราไปฮอลลีวูดตอนอายุ 30 ปีมันไม่ช้าไปหรอ

30 ปีสำหรับฮอลลีวู้ด ผมสังเกตสำหรับคนส่วนใหญ่บางคนอาจเพิ่งเริ่มต้นด้วยซ้ำ
แต่ก็อย่างที่บอกว่าถ้าเราทำได้ตอนอายุ 30 ปี เรื่องสำเนียงเราต้องเป๊ะมากๆ ก่อน
เพราะถ้ามีงานเข้ามาปุ๊บเราก็สามารถทำได้เลยและขอตอบตรงๆว่าส่วนตัวเรา
ยังไม่ได้มีช่องทางที่จะไปในทางนั้นเลยตอนนี้เราก็ต้องตั้งใจทำงานของเรา
ให้ดีที่สุดโดยหวังว่าผู้ใหญ่ที่ได้ร่วมทำงานกับเราหรือให้โอกาสเรา
ก็จะได้เห็นความตั้งใจของเรา"

อย่างที่ประเทศจีนต้องมีลุคส์ที่ชัดเจนไหม

"อันนี้ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะผมเองก็เพิ่งเริ่ม
แต่ถ้าให้ผมเดาก็น่าจะเป็นลุคส์เอเชียนะถามว่าลุคส์ของผมเข้ากับที่เขาต้องการไหม
ผมก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นเพราะผมเองก็ไม่มั่นใจเพราะเราเพิ่งไปทำงานที่นั่นก็ยังไม่มีความรู้อะไร"

https://pantip.com/topic/38113894