อนาถมาก
จขกท.ถามถึงน้ำหอมniche
แต่กลับไม่ได้คำตอบเลยอย่างแรกก่อนเลยคือเมืองไทยอากาศร้อนมาก หนาวอยู่สามวัน เพราะฉะนั้นไลน์oud ตัดออกเลย
ถ้ามีตัวอื่นเยอะแล้ว จะออกงานกลางคืนก็ค่อยกลับมาoud
อย่างที่สอง หาแนวกลิ่นที่ชอบก่อนเลย citrus floral woody spicy orientalก็ว่ากันไป ส่วนตัวแล้วไหวแค่citrus กับ light floral
อ้อ ลืมแนวaquatic ที่น่าจะใช้ได้กับบ้านเรา
อย่างที่สาม อย่าได้แคร์BA SA ลองมันกับผิวจริงก่อนซื้อ อันนี้ย้ำเลย ให้ดูการกระจายกลิ่น/sillage กับการคงทน/longevity กับผิวของเรา
อย่างที่สี่ ศึกษาtop note, middle note, base note ให้ดี เพราะมันจะบอกแนวทางเราได้ว่าควรจะลองกลิ่นไหนบ้าง
อย่างที่ห้า paragon, icon, emquatier มีโซนน้ำหอมที่niche พอสมควร ถ้ามีโอกาสก็อ่านข้อมูลก่อนไปลองกับtester
อย่างที่หก ส่วนตัวแล้วไม่ชอบน้ำหอมที่แบรนด์ที่ดังอย่างอื่นแล้วแตกไลน์น้ำหอม อันนั้นมันตัวทำยอดSA อยากให้เปิดใจกับแบรนด์น้ำหอมจริง โดยเฉพาะกับทางฝรั่งเศสและอิตาลี
อย่างที่เจ็ด แม้น้ำหอมจะแปะว่าunisex แต่ตัวน้ำหอมเองจะมีความโอนเอียงไปทางmasculine feminine ด้วยตัวของน้ำหอมเองอยู่แล้ว ถ้าunisex จริงๆ มักพวกแนวสดชื่นๆ ไม่ได้เสริมเสน่ห์อะไร
อย่างที่แปด น้ำหอมniche ที่สำคัญคือกลิ่นจะเป็นธรรมชาติมากกว่าเพราะมาจากส่วนผสมที่เข้มข้นจากวัตถุดิบมากกว่า ทำให้กลิ่นลุ่มลึกกว่า
อย่างที่เก้า อย่าซื้อขวดใหญ่ขวดเดียว ควรมีสักสองถึงสามกลิ่น เพราะถ้ามีกลิ่นเดียวจะเกิด olfactory fatique ฉีดไปตัวเองไม่ได้กลิ่น ทีนี้ก็จะใช้ปริมาณมากขึ้น แล้วคนอื่นจะฉุนเอาได้
อย่างที่สิบ ขอให้มีความสุนทรีนะครับ
แนะนำให้ลอง
MCD : lucky, eden roc, cachemire, boi dargent
MFK : a la rose homme, bacarat rogue
Frederic Malle : rose tonnerre
Bvlgari : Le gemme garanat, tygar
Killian : Vodka on the rock, Bamboo harmony
Creed : Aventus, Silver mountain, Millesime imperial