เตรียมฟังข่าวดี หลังบริษัท อัครา คัมแบ็ก เปิดเหมืองทองคำชาตรี ก.พ.นี้ ขุดทองที่เหลืออีก 30 ตัน เทงบลงทุนเดินเครื่อง 600 ล้านบาท เปิดรับงานตำแหน่งใหม่ 170 อัตรา คนในพื้นที่แห่สมัครเกือบ 1,700 คนรองรับเงินหมุนเวียน 3,000 ล้านบาทต่อปี ด้านวงในคาดการณ์ Kingsgate พร้อมยุติข้อพิพาทในอนุญาโตตุลาการก่อนเส้นตายสิ้นปี 2566ข้อพิพาทระหว่าง บริษัท Kingsgate Consolidate Limited กับรัฐบาลไทย กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติในขณะนั้น ลงนามในคำสั่งที่ 72/2559 ให้ยุติการอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำและประทานบัตรทำเหมืองแร่ทองคำ รวมไปถึง คำขอต่ออายุประทานบัตร บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เจ้าของเหมืองแร่ทองคำชาตรี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 โดยบริษัท Kingsgate ในฐานะบริษัทแม่ของบริษัท อัคราฯ เห็นว่า เป็นคำสั่งปิดเหมืองโดยมิชอบด้วยกฎหมายของรัฐบาลไทย และคำสั่งนี้ยัง ละเมิด ข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (FTA)
นำไปสู่การที่บริษัท Kingsgate ได้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของ อนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ในเดือนพฤษภาคม 2560 คู่ขนาน ไปกับการเปิดเจรจากับรัฐบาลไทยเพื่อยุติข้อพิพาท และนำไปสู่การต่ออายุประทานบัตรเพื่อให้บริษัท อัคราฯ กลับมาทำเหมืองได้อีกครั้งในปี 2563 ล่าสุดบริษัท อัคราฯ ได้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบความพร้อมในการเปิดเหมืองแล้ว และกำหนดการที่จะเปิดเหมืองภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะส่งผลต่อการพิจารณาข้อพิพาทในคณะอนุญาโตตุลาการ จนมีสัญญาณบวกจาก บริษัท Kingsgate พร้อมที่จะยุติข้อพิพาทกับรัฐบาลไทย ก่อนที่จะถึงเส้นตายในเดือนธันวาคม 2566
นับถอยหลังเปิดเหมืองทอง
นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายประสานงานกิจการภายนอก บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา บริษัท อัคราฯ ได้ยื่นหนังสือไปยัง สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตร เพื่อขออนุญาตในการเปิดดำเนินการเหมืองแร่ทองคำชาตรีที่ จ.พิจิตร หลังจากที่บริษัทได้ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมทั้งในส่วนของโรงงานแห่งที่ 2 และเครื่องจักรไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยเงินกว่า 500-600 ล้านบาท โดยขั้นตอนต่อจากนี้ไป กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเมืองแร่ (กพร.) ก็จะส่งทีมเจ้าหน้าที่ (ตรวจเปิด) เพื่อตรวจสอบความพร้อมทั้งในส่วนของตัวโรงงาน เครื่องจักร คน รถบรรทุก สารเคมีที่ต้องใช้ในการทำเหมือง
จากนั้นทีมเจ้าหน้าที่ก็จะส่งรายงานผลการตรวจเปิดและรอการเซ็นอนุมัติจากทาง กพร. ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณ 15-20 วัน ดังนั้นเหมืองทองคำชาตรีจะสามารถเปิดดำเนินการได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ระหว่างนี้ควบคู่ไปกับการเปิดเหมือง บริษัท อัคราฯ ได้เปิดรับสมัครพนักงานจำนวน 170 อัตรา ในตำแหน่งงานทั่วไป ปรากฏมีชาวบ้านรอบ ๆ พื้นที่ทำเหมืองให้ความสนใจสมัครเข้ามากว่า 1,700 คน หรือ เกินกว่าอัตราที่เราจะรับไว้มาก แสดงให้เห็นถึงการที่บริษัทให้ความสำคัญกับชุมชนรอบเหมืองเป็นอันดับแรก ด้วยสัดส่วนการจ้างงานคนในพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 90% จากเดิมอยู่ที่ 80% เพื่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวก
อย่างไรก็ตาม การกลับมาเปิดดำเนินกิจการเหมืองทองคำชาตรี หลังจากที่เหมืองถูกปิดไปเป็นเวลาถึง 6 ปี บริษัท อัคราฯ ได้ดำเนินการตามเงื่อนไขและข้อปฏิบัติภายใต้ พ.ร.บ.แร่ฉบับใหม่ (2560) ที่ เปิดช่อง ให้บริษัทสามารถยื่นดำเนินการต่ออายุประทานบัตรและต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรม แม้บริษัทจะยังอยู่ในขั้นตอนอนุญาโตตุลาการเพื่อยุติข้อพิพาทกับทางรัฐบาลไทยก็ตาม จน กพร.ได้พิจารณาต่ออายุประทานบัตรและต่ออายุใบอนุญาตโรงโลหกรรมให้ช่วงปลายปี 2564
การเปิดดำเนินการเหมืองแร่ทองคำครั้งนี้จึงเป็นการต่อใบอนุญาตจากประทานบัตรเดิม เนื่องจากอัคราฯได้สิทธิในการทำเหมืองแร่ทองคำอยู่ก่อนแล้ว และถูกสั่งระงับไม่ต่อใบอนุญาตทำเหมืองให้ ดังนั้นนี่จึงไม่ใช่การเปิดเหมืองในส่วนที่เป็นประทานบัตรใหม่ หรือได้รับการอนุญาตใหม่ จากนั้นก็เริ่มซ่อมโรงงานที่ 2 ซึ่งมีประสิทธิภาพในการถลุงแร่ดีกว่าโรงที่ 1 ทำให้ตอนนี้เรามีแค่โรงเดียวทำการถลุงรอบใหม่ได้เพียง 1 ตันทองคำ/ปี จากเดิมที่เคยถลุงแร่ทองสุูงสุด 2 โรง รวมกันได้ประมาณ 5 ตันทองคำ/ปี นายเชิดศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ เหมืองแร่ทองคำชาตรีประมาณการสำรวจปริมาณแร่ทองคำในเหมืองทั้งหมด 80 ตันทองคำ ปัจจุบันมีการทำเหมืองได้ทองคำไปแล้ว 50 ตันทองคำ คงเหลือทองที่จะต้องทำเหมืองต่อไปได้อีก 30 ตัน และเป็นที่มาของการจัดลำดับความต้องการอันดับแรกภายใต้กระบวนการพิจารณาคู่ขนานเพื่อยุติข้อพิพาทกับรัฐบาลไทยของ บริษัท Kingsgate ก็คือ การกลับมาเปิดดำเนินการทำเหมืองต่อเพื่อนำทองคำที่เหลืออยู่ในพื้นที่อีก 30 ตันทองคำขึ้นมา ซึ่งคงจะต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่า 15 ปีขึ้นไป
อ่านเพิ่มเติมที่
v
v
https://www.prachachat.net/economy/news-1195000?fbclid=IwAR1x9qbNGOcvleA9aYdvFJ0iywCq2YbkM6liuw_wKwMy_sS-y0nYMQCRm0E