มหาวิทยาสุโขทัยธรรมมาธิราช ไม่มีจิตวิญญาณของการมีที่ตั้งและเป็นความภูมิใจของคนสุโขทัยค่ะ

เหมือนที่ครอบครัวป้าโดนคนสุโขทัยแบนและไม่เป็นที่ภูมิใจของจังหวัดใช่ไหมคะ

จะเปิดทำไมเยอะแยะ มีแต่กากขี้ทั้งนั้น

ใช้ชื่อ​ : มหาลัย​พ่อขุนศรีอินทราทิตย์
(ไม่รู้มีคนใช้ชื่อนี้หรือยัง)​ น่าจะใช้ได้
เพราะชื่อบ่งชี้​ อัตลักษณ์ทางภูมิศาสตร์

ความคิดเธอถูกต้อง แต่คิดว่าถ้าตั้งสถานที่อยู่ในเขตรอยต่อกึ่งกลางทางระหว่างตัวเมืองสุโขทัย กับอำเภอศรีสัชนาลัย น่าจะชื่อ มหาลัยวิทยาลัยสุโขทัย-ศรีสัชนาลัย น่าจะสะท้อนความสัมพันธ์อัตลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ได้ดีในฐานะ เมืองสุโขทัย ศรีสัชนาลัย ที่เป็นเมืองคู่กันมาในยุคนั้น

เจรจาเอาพื้นที่วิทยาเขต ม.ราม สุโขทัยนั่นเลยแหล่ะมาตั้งได้เป็นมหาลัยเอกเทศ ถ้าพร้อม เพราะลักษรธแบบนี้ก็เคยมีมาก่อน เช่น มหาวิทยาลัยนเรศวร วิทยาเขตพะเยา ท้ายสุดก็ประกาศจัดตั้งเป็นมหาวิทยาเอกเทศ คือมหาวิทยาลัยพะเยา

นามมหาวิทยาลัยมาจากนี้นะคะ ไม่ใช่ชื่อจังหวัดแต่แรก

"มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช" ตามพระนามเดิมของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) เมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศ เป็น "กรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา"

โดยปกติชั้นไม่ค่อยชอบใช้คำว่าขอม แต่ถ้าพูดถึงสุโขทัย ใช้คำว่าขอมได้ไม่เขินอาย

ค่ะอิแก่บ้า dna เปลี่ยนชื่อไปก็ไม่หายคลั่งวิทยาศาสตร์หรอกอิแก่

โปรดอย่าถามว่าชั้น คือใครรรร เมื่นในอ่ะดูดด

สุโขทัยศึกษามีเรื่องให้ศึกษาเยอะแยะ มีหลายมหาลัยมีวิชาหรือศูนย์สุโขทัยศึกษาอยู่ เช่นที่ราม มีวิชา สุโขทัยศึกษาเพื่อการท่องเที่ยว และจริงๆ ได้ไปมา เมืองเก่าสุโขทัยมีคนต่างชาติไปเยี่ยมชมไปเที่ยวไม่น้อย
ทั้ง ประวัติศาสตร์ โบราณคดี จารึก อักขรวิทยา กำเนิดตัวอักษรไทยที่ปฏิวัติเปลี่ยนแปลงมาจากระบบที่มีตัวซ้อนตัวเชิงของขอม
อิทธิพลของวัฒนธรรมสุโขทัยแผ่ไปถึงพิษณุโลก, กำแพงเพชร
โบราณสถานมีความสมบูรณ์และครอบคลุมพื้นที่กว้าง มีอะไรให้น่าศึกษามากจริง สถาปัตยกรรมที่พัฒนาจนเป็นรูปแบบเอกลักษณ์ของตัวเองก็คือ เจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ นอกจากนี้สุโขทัยยังมีการติดต่อสัมพันธ์ถ่ายเทแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับล้านนาอยู่ไม่น้อย

แหวะราชภัฏ

เมืองที่ 2 ทุ่มเงียบเป็นป่าช้า ใครจะมาคะ

แถม มหาวิทยาลัยทุกวันนี้ แทบจะแย้งเด็กกันเรียนแล้ว ยังไม่มีคนมาเลย

ขนาด มน มช มอ มข ม.ภูมิภาค ยังง้อเด็กแล้ว ง้อเด็กอีก ที่นั่งไม่เคยเต็ม

อ. สัญญาจ้าง ใจเต้นตุ๊บๆต๊อมๆ แทบทุกปี ว่าเด็กจะมาเรียนหรือเปล่า จะโดนยุบสาขา หลักสูตรหรือเปล่า จะโดนยกเลิกสัญญาจ้างไหม แทบทุกที่

ยิ่ง ราชภัฏ ยิ่งแล้ว มึงเอาอะไรคิด จะสร้าง ม.ใหม่

การศึกษาไทยมันเดินมาผิดทาง เน้นให้คนต่อปริญญาตรี โดยที่ยังไม่สามารถค้นหาตัวเองเจอ สุดท้าย เสียเวลาเรียน 4 ปี ไม่ได้ทำงานตรงสายเยอะมาก มันเสียเวลา แทนที่จะไปเรียนสายอาชีพกันก่อน หรือคอร์สทำอาชีพเบื้องต้น 6-12 เดือน ไม่ชอบก็เปลี่ยนใหม่ ตามความถนัดตัวเอง นี่อะไร เรียนเตรียมอุดมกันตั้งแต่ ม ปลาย คนจะไปสายอาชีพ ต้องรู้ตัวตั้งแต่ 15 เหรอ มันไม่ใช่ป่ะ ทำให้เด็กเรียนไม่เก่ง ไม่อยากเรียนมหาลัย ไม่ไปต่อ ม ปลาย เพราะการเรียนมันเป็นระดับเตรียมอุดม ทุก รร

จริงๆ รร มัธยมปลาย มันลอกหลักสูตร Prep School จากเมืองนอกมาทั้งดุ้น จริงๆ มันคือ รร สำหรับเด็กหัวกะทิ ที่พร้อมไปมหาลัย (ซึ่งไทยมี รร เตรียมอุดมอยู่แล้ว) โดยไม่อยากเรียนสายอาชีพ และมี รร มัธยมธรรมดา ที่ให้นักเรียนเรียน เพื่อค้นหาตัวเอง จะไปต่อมหาลัยหรือ ไปต่อคอลเลจสายอาชีพก็ค่อยว่ากันอีก รร บาง รร มันถึงไม่เอา แคลคูลัส ฟิสิก เคมี ชีวะ มาไว้ในหลักสูตร แต่นี่กลายเป็นว่า ทุก รร มัธยมในไทย ลอกสูตรเตรียมอุดมกันหมด การศึกษาไทยถึงได้ชิบหายแบบนี้ไง เพราะทุกคนไม่ได้มีหัวพอจะเรียน ระดับ เตรียมอุดม และควรใช้เวลาเริ่มชีวิตวัยรุ่นในการค้นหาตัวเอง แต่ ตัวเลือก รร มันไม่มีไง ถ้าไม่อยากเข้ามหาลัย ต้องไปต่อ สายอาชีวะทันที อ้าว ก็กูยังไม่รู้ว่า ชอบอะไร จนกว่าจะ 18 ทีนี้ เวาที่ควรจะได้เรียนรู้ทักษะชีวิต อย่างวิทยาศาสตร์เบื้องต้น คณิตศาสตร์พื้นฐานที่น่าจะแน่นกว่านี้ การคิดแบบ critical thinking หรือ การเรียนภาษาอังกฤษ รวมถึงวิชาศิลปะที่ควรจะเป็นวิชาเลือกตามความถนัด (ใครไปทางดนตรีก็ไปเลย ใครไปทางจิตรกรรมก็ไปอีกทาง ใครอยากเรียนภาษาที่ 3 ก็ไปทางนั้น) วิชาเบื้องต้นที่น่าจะได้ใช้เวลากับมันมากกว่านี้ เสือกต้องไปแชร์กับวิชายากๆ ที่หลายๆ คนไม่พร้อมเรียน คือมันมีคนที่เรียนได้แหละ แต่การศึกษา มันควรจะสร้างให้ทึกคน ค้นพบตัวเอง ไม่ใช่สร้างมา เพื่อเป็นเครื่องมือวัดระดับสมอง เพื่อหาคนที่เรียนเก่งตามลำดับ

เพราะสุดท้าย เวลามึงไปโลกกว้าง ไปเผชิญโลกข้างนอก คนที่ไม่มีความรู้ความสามารถตรงสาย ก็แข่งกับคนอื่นไม่ได้ เพราะไม่มีเวลาในการเรียนรู้สิ่งที่ตัวเองถนัดจริงๆ มัวแต่ไปเรียนวิชาห่าไรไม่รู้ไม่เข้าหัว ไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร

ยิ่งมาบอกว่า ควรมหาลัยทุกจังหวัด เอาหีไรคิด มันควรจะมี วิทยาลัยชุมชน ที่สร้างอาชีพ เอาแค่ รร ประจำเมืองสอนวิชาพื้นฐานให้มันเข้มข้น เด็กต้องคิดวิเคราะห์เองได้ พูดภาษาอังกฤษคล่อง การอ่าน การเขียนภาษาไทยแตกฉาน และเก่งในสิ่งที่ตัวเองถนัดก่อน เรื่องไปหาความรู้ด้านอุดมศึกษา เป็นเรื่องของอนาคตหลังเริ่มทำงานไปแล้วค่ะ แล้วพวกองค์กรก็เลิกบ้าจี้ รับพนักงานสกิลโพลีเทคนิค แต่บอกจะเอาปริญญาตรีค่ะ จริงๆ งานหลายงาน มันไม่ได้ใช้ความรู้ระดับ ปริญญาเลยสักนิด หลักๆ ต้อใช้หลักคิดวิเคราะห์ ไม่ก้ทักษะภาษา แล้วที่เหลือก็เป็น On the job training เกือบทั้งนั้น ไม่งั้นรุ่นพ่อรุ่นแม่ ที่ไม่ได้เรียนหนังสือ สูงๆ เค้าใช้ชีวิตกันมาได้ไงล่ะ

ตาก พิษณุโลก มีราชมงคลล้านนา

กำแพงเพชร อุตรดิตย์ พิษณุโลก มีราชภัฏ

แล้วจังหวัดมันคือ ไกล้จังหวัดพวกนี้ แค่ 50 กิโลเอง อำเภอรอบนอกยิ่งไกล้

อีกหน่อยแม่บ้านล้างห้องน้ำก็รับขั้นต่ำปริญญาเอกแล้วค่ะ อีพวกจบแค่มัธยมเตรียมตัวแบหีขายได้เลย

พล่ามอะไรมันยืดยาว หลักสูตรในบ้านเราเขาวางแผน คิด วิเคราะห์กันมาดีแล้ว เด็กไทยมันไม่จำเป็นต้องเรียนเก่งหรือฉลาดมากหรอก เขามองไว้แล้วว่าเด็กยิ่งฉลาดมันจะยิ่งควบคุมยากแบบทถกวันนี้
เด็กถ้าไม่ฉลาดมากจะได้ไม่ไปอยู่เมืองนอกจะได้รักบ้านเกิด รักชาติ รักสถาบันฯ ไงล่ะ

แต่ยุคนี้ ป.ตรี คือวุฒิต่ำสุดที่คนจะยอมรับนะ ต่ำกว่า ป.ตรี มึงจะมีคงามก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน ฐานะทางสังคมแค่ไหน

มหาวิทยาลัยควรมีทุกภูมิภาค อันนี้จริง
แต่ถ้าจะต้องมีทุกจังหวัด คือ พักค่ะ ประเทศเหี้ยนี้ซอยจังหวัดเยอะแยะเกินมีเนินเขาหน่อยมีแม่น้ำหน่อยก็ซอยจังหวัดแล้ว

เปิดสาขาวิชาสุโขทัยคดีศึกษา
สาขาจารึกและอักขรวิทยาศึกษา
เป็นวิชาเอกแนวเอกคู่ควบกับวิชาเอกภาษาต่างประเทศเพื่อการท่องเที่ยว
เป็นจุดเด่น ไม่ค่อยมีที่ไหนเปิด

เป็นไกด์ก็ได้นี่คะ อาชีพนี้สร้างรายได้ไม่น้อย
หรือสร้างบุคคลากรสายภาษา ปวศ วัฒนธรรม ครู อาจารย์
นักวิจัย นักวิชาการ นักวิชาการอิสระ Cultural management
รวมมั้งสามารถประยุกต์องค์ความรู้ในการทำงานสายอื่นๆ ได้